ตอนที่ 1042: กับดักสังหารเซียนราชา (2)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1042: กับดักสังหารเซียนราชา (2)

“เจ้าพูดถูก ถ้ามีคนมากมายขนาดนี้แล้วยังจะไปกลัวประโยคที่สลักไว้บนศิลาอีก พวกเราจะไปเหลือศักดิ์ศรีอะไรที่จะอยู่ในทวีปนี้อีก ? ข้า จี้หยวนป้า จะเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มไม่ว่าจะยังไงก็ตามในวันนี้ ข้าอยากจะเห็นความสามารถของเซียนจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุด นางฟ้าเฮายู่ นางจะสามารถใช้โถงศักดิ์สิทธิ์ธรรมดานี้สังหารเซียนราชาได้อย่างนั้นหรือ ? ” ชายวัยกลางคนร่างกำยำที่มีแผลเป็นที่ใบหน้าพูดขึ้นมา

เซียนราชามีปฏิกิริยาต่อคำพูดเหล่านั้น ความกลัวในดวงตาของพวกเขาได้หายไป และมันก็เปลี่ยนเป็นความแน่วแน่แทน พวกเขาไม่ได้ประมาท เมื่อพวกเขาสามารถเป็นเซียนราชาได้ สถานการณ์เป็นตายก็เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขา พวกเขาได้ก้าวผ่านศพนับไม่ถ้วนและขึ้นมาอยู่ในจุดสูงสุด พวกเขาจะไปกลัวตายได้อย่างไร ? อีกทั้งเซียนราชาเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่าคนส่วนมากของทวีป ดังนั้นพวกเขาจึงมีศักดิ์ศรี พวกเขาจะไปกลัวประโยคที่ข่มขู่ได้อย่างไร ?

“ดูเหมือนกำลังจะมีเรื่องสนุกที่นี่นะ” ในตอนนี้เอง เสียงหัวเราะก็ดังชัดมาจากด้านหลัง เซียนราชาที่ดูโดดเด่นอีกคนก็ได้เข้ามาในโถงศักดิ์สิทธิ์ ดูคร่าวคร่าวน่าจะอายุยี่สิบ และเขาหล่อเหลามาก เขามีความงดงามแบบนักปราชญ์ ทุกทุกย่างก้าวของเขานั้นช่างงดงาม ด้านหลังของเขามีคนที่สวยงามมากที่อยู่ในชุดขาวอยู่ด้วย

“คารา ลี่เว่ย ! ” เจี้ยนเฉินอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นนาง เขาไม่คิดว่าคารา ลี่เว่ยจะกลับมาและเข้ามาในโถงศักดิ์สิทธิ์

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็มองไปที่ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างข้างนาง สายตาของเขาแข็งทื่อทันที เขาจำชายคนนี้ได้เช่นกัน เขาคือหัวหน้าตระกูลคาราที่เขาเคยพบที่พระราชวังของอาณาจักรฉินหวงในตอนนั้น

“คารา ลอท ข้าไม่คิดว่าเจ้าก็มา ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะพาสมบัติของตระกูลเจ้ามาด้วยเช่นกัน” เสียงหนักแน่นดังออกมาจากฝูงชน ชายวัยกลางคนที่ดูธรรมดาในชุดพอดีตัวพูดกับหัวหน้าตระกูลคารา

คารา ลอทหัวเราะออกมาแล้วพูด “โถงศักดิ์สิทธิ์ได้ปรากฏขึ้นมา นี่เป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่ของทวีปที่เพียงพอที่จะทำให้เซียนราชาจอมสู้ตายเพื่อมัน ถ้าข้าโชคดีพอ ข้าจะเอาโถงศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของข้าได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตระกูลอย่างมาก คาซด้า เจียนฉง”

ชายวัยกลางคนเป็นหัวหน้าตระกูลคาซด้า ซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์

จากนั้นคารา ลอทก็มองไปที่เจี้ยนเฉินแล้วยิ้ม “ข้าไม่คิดว่าน้องเจี้ยนเฉินก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน เยี่ยมไปเลย ถ้าน้องเจี้ยนเฉินไม่รังเกียจ ข้าก็อยากจะร่วมเดินทางไปกับน้องเจี้ยนเฉินด้วย พร้อมทั้งเป็นการเปิดหูเปิดตาให้กับลี่เว่ยอีกด้วยในเวลาเดียวกัน น้องเจี้ยนเฉินว่าอย่างไร ? “

คารา ลี่เว่ยก็เห็นเจี้ยนเฉินในฝูงชน นางอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบนเรือ ซึ่งทำให้หน้าของนางแดงเล็กน้อย ในตอนที่นางออกไปจากเรือก่อนหน้านี้ นางก็ได้ออกมาจากเมืองแห่งเทพเจ้าพร้อมกับหัวหน้าตระกูล แต่นางก็ไม่คิดว่าโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มจะปรากฏออกมาทันทีที่นางกลับไปถึงบ้าน มันทำให้คารา ลอทรู้ตัวและบังคับให้นางมาที่นี่กับเขาด้วย

อาณาจักรฉินหวงเป็นสาขาของตระกูลคารา ในขณะที่เจี้ยนเฉินเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวง ดังนั้น เขาจึงอยู่ข้างตระกูลคารา พูดอีกอย่างก็คือ เจี้ยนเฉินไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธคำขอร้องของคารา ลอท เขาตกลงทันทีก่อนที่จะเริ่มคุยกับคารา ลอท

คารา ลี่เว่ยกลับไปเป็นแบบเดิม นางมาถึงที่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉินด้วยรอยยิ้ม จากนั้นนางก็พูดคุยกับโหยวเยว่พร้อมกับจับมือของนาง พวกเขาเข้ากันได้เป็นอย่างดีและหัวเราะคิกคักออกมาเป็นครั้งคราว

“เซียงเทียน ข้าไม่คิดว่าเจ้าก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน นี่มันเยี่ยมมาก พวกเราสามารถเดินทางไปด้วยกันในฐานะเหลนกับทวดได้ และข้าจะใช้เวลานี้บอกกล่าวเจ้าเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลผู้พิทักษ์ด้วย เจ้าจะได้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น” ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเจียงหยางก็มาถึงที่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน แม้ว่าเขาจะสุภาพ แต่เขาก็เน้นย้ำคำว่า ‘เหลนกับทวด’ มากในตอนที่เขาพูดถึงมัน

เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้ยินดีสักเท่าไรที่เขาได้เห็นทวดที่เขายังไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ ทั้งหมดที่เขาทำคือตอบตกลงอย่างเฉยเมย ก่อนที่จะสนใจไปที่อื่นแทน เจี้ยนเฉินไม่มีความประทับใจกับคนของตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางสักเท่าไร นอกจากเจียงหยาง ซู หยวนเซียวกับภรรยาของเขา ลึก ๆ ในใจ เขาไม่แม้แต่จะยอมรับว่าเขาเป็นคนของตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยาง

ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลผู้พิทักษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นท่าทีที่เฉยเมยของเจี้ยนเฉิน เขาเผยท่าทางไม่พอใจออกมา แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

คนที่รวมกันอยู่ภายในโถงศักดิ์สิทธิ์เดินเข้าไปลึกเรื่อย ๆ ช้า ๆ อย่างไรก็ตาม บางคนได้กระจายคำเตือนที่อยู่บนศิลาออกไป ซึ่งทำให้เซียนผู้คุมกฎและเซียนสวรรค์ที่ตัดสินใจไม่เข้าร่วมในตอนแรก ได้กรูเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ คนภายในนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ในเวลาเดียวกัน ข่าวเรื่องโถงศักดิ์สิทธิ์และคำเตือนที่อยู่บนศิลาก็กระจายไปทั่วทวีปเหมือนไฟลามทุ่ง มันทำให้จอมยุทธจำนวนมากเกิดความโลภ ในขณะที่เซียนผู้คุมกฎและเซียนสวรรค์ก็ใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อที่จะมาที่เมืองแห่งเทพเจ้าจากทุกสารทิศ

กลุ่มคนจำนวนมากกำลังเข้าไปในส่วนลึกของโถงศักดิ์สิทธิ์ด้วยท่าทางกล้าหาญ เซียนสวรรค์จำนวนมากและเซียนผู้คุมกฎบางคนเข้าไปในทุก ๆ ห้องที่พวกเขาผ่าน

กลุ่มคนค่อย ๆ กระจายออกไปเรื่อย ๆ เซียนสวรรค์และเซียนผู้คุมกฎบางคนวิ่งออกไปเพื่อหาโชคของตัวเอง ในขณะที่เซียนราชายังรวมกลุ่มกันอยู่ พวกเขาเข้าไปในส่วนลึกเรื่อย ๆ อย่างระมัดระวัง พวกเขาไม่สนใจห้องที่อยู่รอบ ๆ

“น้องเจี้ยนเฉิน สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในนี้คือวิธีการฝึกฝนที่นางฟ้าเฮายู่ทิ้งเอาไว้ แต่สมบัตินั่นต้องอยู่ลึกเข้าไปในโถงแน่ มันไม่อยู่ด้านนอกอย่างแน่นอน” หัวหน้าตระกูลคาราอธิบายกับเจี้ยนเฉิน เขาบอกประสบการณ์และความรู้ที่เขาสะสมมาหลายพันปีให้แก่เจี้ยนเฉิน ในขณะที่ คาซด้า เจียนฉงก็เพิ่มเติมบางอย่างเข้าไปเป็นครั้งเป็นคราวเช่นเดียวกัน พวกเขาตั้งใจที่จะเป็นมิตร

กลุ่มมาถึงที่จัตุรัสใหญ่ที่ที่มีเพดานสูงร้อยเมตรเหนือขึ้นไป รูปปั้นใหญ่ตั้งอยู่กลางสถานที่นั้น มันเป็นรูปปั้นของหญิงที่อายุยี่สิบกว่ากว่า เสื้อสีขาวของนางทำให้นางดูศักดิ์สิทธิ์ ในขณะที่ผมยาวประไหล่ของนาง นางน่ารักมากเหมือนเทพเจ้าที่อยู่เหนือสวรรค์ นางไม่ดูเหมือนไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในโลกมนุษย์

“นี่เป็นรูปปั้นของนางฟ้าเฮายู่อย่างไม่ต้องสงสัย…”

“นางฟ้าเฮายู่เป็นหญิงที่คู่ควรกับที่เป็นที่รู้จักว่านางฟ้าจริง ๆ นางดูเหมือนนางฟ้าที่มาจากโลกอื่น”

“พรสวรรค์ของนางฟ้าเอายู่นั้นหาไม่ได้จากที่ไหน นางสำเร็จถึงขั้นสูงสุดของเซียนจักรพรรดิด้วยอายุยังน้อย และนางกลายเป็นเซียนจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุด แต่น่าเสียดายที่นางไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคสุดท้ายในการตัดผ่านได้ นางตายไปแบบนั้น น่าเสียดาย น่าเสียดาย…”

เซียนราชาหลายคนจ้องไปที่รูปปั้นด้วยอารมณ์ต่าง ๆ ในขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน เสียงและการถอนหายใจด้วยอารมณ์ต่าง ๆ ปะปนกันจากเสียงพูดคุย

“นางฟ้าเฮายู่ช่างงดงามอย่างหาใดเปรียบจริง ๆ ” เจี้ยนเฉินจ้องไปที่รูปปั้นด้วยความฉงนเช่นกันในขณะที่เขาพึมพำออกมา ความงดงามของนางฟ้าเฮายู่เหมือนเกินกว่าระดับที่เขาจะชื่นชมว่าสุดยอด มีเพียงหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เท่านั้นที่สามารถเทียบกับนางได้ในทุกคนที่เขาเคยพบมา

ในตอนนี้เอง จู่ ๆ บางอย่างก็เกิดขึ้น จิตสังหารที่หนาแน่นได้ปรากฏขึ้นมาซึ่งเติมเต็มไปทั่วทั้งโถง มันหนาวไปถึงกระดูกทันทีที่มันปรากฎขึ้นมา มันเข้าไปในร่างของเซียนราชาลึกเข้าไปถึงในกระดูก มันดูเหมือนแช่แข็งข้างในของกระดูกของพวกเขา และแม้แต่เจี้ยนเฉินก็หลีกเลี่ยงไม่ได้

เซียนราชาทั้งหมดแสดงท่าทางกลัวออกมา หลังจากนั้น พลังเซียนก็พุ่งออกมาจากร่างของพวกเขาเพื่อพยายามที่จะต่อต้านการรุกรานของจิตสังหารที่เยือกเย็นนี้