ตอนที่ 2300

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,300 : ชำระล้างวังเซียนสัญจร!

 

เสียงตะโกนของจ้าววังวิญญาณอสุรา ฉีหนานฟง เมื่อครู่ มันแฝงเร้นไว้ด้วยพลังเซียนต้นกำเนิด ทำให้ดังสนั่นปานฟ้าร้อง กึกก้องไปทั่วอาณาบริเวณ!

 

“จ้าววังอวี่เหวิน ฆ่ามันเสีย! หรือเจ้าคิดส่งเสริมให้พวกมนุษย์บรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะ!?”

 

นี่เป็นคำตะโกนก่อนหน้าของมัน

 

แน่นอนว่าทุกคนในที่นี้ย่อมสัมผัสได้ชัดเจน ว่าในเสียงตะโกนเยียบเย็นของฉีหนานฟงเมื่อครู่ มันสุมไว้ด้วยโทสะแค้นรวมถึงความอับจน!

 

สาเหตุที่ไฉนเสียงฉีหนานฟงถึงเต็มไปด้วยความแค้นและอับจนนั้นก็เดาได้ไม่ยาก…

 

“จ้าววังวิญญาณอสุราคงมิคิดว่าพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนจะสูงถึงระดับนี้…หาไม่แล้วตอนแรกมันคงไม่กล่าวทำนองจะฆ่าต้วนหลิงเทียนหากออกนอกเขตวังเซียนสัญจรหรอก…”

 

“ทว่าพอมาเห็นพลังของต้วนหลิงเทียนที่เหนือกว่ามัน ไม่เพียงมันจะไม่ยินดี…มันสำนึกว่าตัวเองไม่อาจทำอะไรต้วนหลิงเทียนได้อีกต่อไป”

 

“พอมันรู้ตัวว่ามันทำเองไม่ได้ เช่นนั้นก็มีแต่ต้องยืมมีดฆ่าคน อาศัยจ้าววังเซียนสัญจรให้ลงมือแทน…”

 

 

เรียกว่าทุกคนไม่เว้นคนของวังวิญญาณอสุราเอง ก็พอจะคาดเดาความคิดของฉีหนานฟงได้

 

เพราะพวกมันเองก็เห็นได้ชัด

 

พลังฝีมือที่ต้วนหลิงเทียนเผยออกเมื่อครู่ เกรงว่าในที่นี้คงมีแต่จ้าววังเซียนสัญจรเท่านั้น…ที่รับมือได้!

 

แทบจะทันทีที่สิ้นคำตะโกนของฉีหนานฟง

 

ทุกสายตาหันไปจับจ้องยังร่างอวี่เหวินฮ่าวเฉินทันที ด้วยอยากรู้ว่าฉวี่เหวินฮ่าวเฉินจะตอบบสนองอย่างไรหลังได้ยินคำของฉีหนานฟง

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะได้ยินคำตะโกนของฉีหนานฟงแล้ว แต่อวี่เหวินฮ่าวเฉินยังคงนิ่งเฉย ไม่เผยทีท่าอะไร

 

“ข้าปกปิดไว้มิดชิดหรือ?”

 

ต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่ได้สนใจอะไรคำตะโกนเสียงเย็นของฉีหนานฟง เขาเลือกจะตอบคำถามอวี่เหวินฮ่าวเฉินก่อนหน้าด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ขออภัยแต่ข้าไม่รู้จริงๆว่าจ้าววังอวี่เหวินหมายความว่าอะไร?”

 

ได้ยินคำย้อนถามของต้วนหลิงเทียน สีหน้าอวี่เหวินฮ่าวเฉินเปลี่ยนเป็นถมึงทึงทันใด “เจ้าเป็นนายน้อยตำหนักเมฆาคราม ขุมพลังของพวกมนุษย์! แต่เจ้ากลับเสแสร้งทำเป็นคนของเผ่าปีศาจมนุษย์มาเข้าร่วมวังเซียนสัญจรของข้า ทั้งรับตำแหน่งรองจ้าววังได้หน้าตาเฉย! นี่ยังมิเรียกว่าปกปิดไว้มิดชิด?”

 

“เมื่อ 3 ปีก่อนตอนข้าลงมือทดสอบเจ้า เจ้าก็เสแสร้งว่ามิใช่คู่มือของข้าแม้แต่น้อย…หรือนี่ก็ยังไม่นับว่าปกปิดมิดชิด!”

 

เสียงอวี่เหวินฮ่าวเฉินยิ่งมายิ่งตะคอกดังจนแทบจะเป็นการคำรามอยู่รอมร่อ

 

“อ้อ ฟังจากที่จ้าววังอวี่เหวินพูด…ถ้างั้นดูเหมือนข้าจะปกปิดไว้มิดชิดจริงๆ”

 

ต้วนลิงเทียนกล่าววตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ

 

ระหว่างกล่าวคำ ไม่ว่าจะสีหน้าหรือน้ำเสียงสบายๆนั่น คล้ายไม่ได้สนใจสักนิดว่าอวี่เหวินฮ่าวเฉินจะพูดอะไร!

 

แน่นอนวว่าเขารู้ตัวดี ว่าเรื่องแรกเป็นความจริง…หากแต่เรื่องหลังนั้น อวี่เหวินฮ่าวเฉินมโนไปเองทั้งสิ้น!

 

อย่างไรก็ตาม ต้วนหลิงเทียนคร้านจะอธิบาย…

 

ทำไม?

 

หรืออวี่เหวินฮ่าวเฉินมีคุณสมบัติพอให้เขาต้องมัวมานั่งอธิบายให้ฟังด้วย?

 

เมื่อ 3 ปีที่แล้วเขาไม่ใช่คู่มืออวี่เหวินฮ่าวเฉิน เพราะเขาไม่แม้แต่จะบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน จึงไร้ซึ่งสำนึกรู้ฟ้าดินอะไร

 

ทว่าวันนี้เขาไม่เพียงเป็นเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนแล้ว กระทั่งสำนึกรู้ฟ้าดินยังมาถึงขีดจำกัดเท่าที่จะทำได้!

 

ตอนนี้ถึงแม้จะเป็นอวี่เหวินฮ่าวเฉินที่คว้าโอกาสในการชักนำหายนะทัณฑ์สวรรค์มา แต่ตัวเขาเองก็เป็นผู้ที่ทำให้หายนะทัณฑ์สวรรค์เลือกจะฟาดผ่าลงมาเช่นกัน!

 

กล่าวได้ว่าสำนึกรู้ฟ้าดินของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าอวี่เหวินฮ่าวเฉินแม้แต่น้อย!

 

ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ไหนเลยเขายังต้องกลัวที่จะปะทะกับอวี่เหวินฮ่าวเฉินด้วย?

 

“เจ้าแลดูใจเย็นนักนะ!”

 

ได้ยินวาจาทั้งแลเห็นสีหน้าท่าทีสงบของต้วนหลิงเทียน อวี่เหวินฮ่าวเฉินย่อมสัมผัสได้ชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่ได้ยึดถือมันเป็นตัวอะไร!

 

ในฐานะจ้าววังเซียนสัญจร มันจะยอมทนกับการดูหมิ่นอย่างทำเป็นมองไม่เห็นหัวแบบนี้ได้อย่างไร?

 

เช่นนั้นพอกล่าวออกอีกครั้ง น้ำเสียงก็เย็นยะเยือกนัก!

 

เสียงเย็นยะเยือกของอววี่เหวินฮ่าวเฉิน ทำให้ผู้ที่ได้ยินถึงกับบังเกิดความรู้สึกหนาวสะท้านปานฤดูหนาวมาเยือน!

 

และเมื่ออวี่เหวินฮ่าวเฉินกล่าวจบคำ พลังเซียนต้นกำเนิดที่ราวกับมีอานุภาพสะท้านแดนดินพลันคุกรุ่นขึ้นมา!

 

มองไปคล้ายพลังเซียนต้นกำเนิดทั่วร่างนั่นประหนึ่งมังกรที่ถูกกล่ามโซ่เอาไว้ พร้อมทลายพันธนาการออกมาอาละวาดได้ทุกเวลา!

 

“ท่านจ้าววังคิดลงมือแล้ว!”

 

ความคิดดังกล่าววผุดขึ้นในหัวเหล่าคนวังเซียนสัญจรอย่างพร้อมเพรียง!

 

สองตาจ้าววังวิญญาณอสุรา ฉีหนานฟง ก็ทอประกายสว่างวาบขึ้นมาทันที

 

อวี่เหวินฮ่าวเฉินลงมือกับต้วนหลิงเทียนนับว่าเป็นอะไรที่มันอยากจะเห็นมากที่สุด! ถ้าให้ดีก็ขอให้อวี่เหวินฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตายๆไปเสีย!!

 

เพราะสุดท้ายแล้วหากวันนี้ต้วนหลิงเทียนไม่ตาย มันกับวังวิญญาณอสุราไม่มีทางรอดพ้นหายนะแน่นอน!!

 

“หากต้วนหลิงเทียนนั่นมันตกตายไปสักคน…ขอเพียงข้าจ่ายราคางามๆ จ้าววังอวี่เหวินต้องยินดีส่งเจ้าพวกนั้นให้ข้าแน่!”

 

สายตาฉีหนานฟง หันกลับมาจับจ้องมองร่างพวกเค่อเอ๋อทั้ง 3 อีกครั้ง

 

คนอื่นๆในวังวิญญาณอสุราเอง ก็หวังว่าอวี่เหวินฮ่าวเฉินจะฆ่าต้วนหลิงเทียนได้เช่นกัน

 

เพราะในสายตาของพวกมัน

 

ต้วนหลิงเทียนนั้น เป็นมนุษย์ที่กำลังจะบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะ!

 

หากปล่อยให้อีกฝ่ายบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะได้ ไม่เพียงแต่วังวิญญาณอสุราของพวกมันจะฉิบหาย กระทั่งทั้งเผ่าพันธุ์ปีศาจอาจต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่!

 

เผชิญหน้ากับอวี่เหวินฮ่าวเฉินที่ทั่วร่างระอุไปด้วยพลังเซียนต้นกำเนิดอันเกรี้ยวกราดราวมังกรพิโรธ สีหน้าต้วนหลิงเทียนที่ลอยล่องอยู่ยังคงสงบไม่แปรเปลี่ยน ประหนึ่งต่อให้ไท่ซานถล่มลงตรงหน้าก็ไม่ไหวติง!

 

ด้านหนึ่งเป็นจ้าววังเซียนสัญจร อวี่เหวินฮ่าวเฉิน ที่เร่งเร้าพลังออกมาทั่วร่าง รัศมีพลังของมันยามนี้แผ่พุ่งออกมาด้วยสภาวะอันน่าเกรงขาม! อีกด้านหนึ่งเป็นนายน้อยตำหนักเมฆาคราม ต้วนหลิงเทียน ที่ยังสงบไร้ท่าที ราวกับไม่เห็นอวี่เหวินฮ่าวเฉินอยู่ในสายตา!!

 

เรียกว่าบรรยากาศเปลี่ยนเป็นตึงเครียดถึงขีดสุด!

 

กลิ่นดินปืนคลุ้งไปทั่ว!

 

สงครามกำลัจะอุบัติ!

 

“เรื่องแบบนี้…มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?!”

 

ห่างลงมายังผืนดินเบื้องล่าง รองจ้าววังเซียนสัญจร อวิ๋นฟู่เหย่ ศิษย์เอกของอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ได้แต่มองแผ่นหลังต้วนหลิงเทียนที่ลอยบนฟ้าไกลตา ด้วยความตกใจทั้งเหลือเชื่อ

 

เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนนั้นสามารถชักนำหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้แล้ว เป็นอะไรที่มันยังยากจะยอมรับได้!

 

เพราะเท่าที่มันทราบ

 

นายน้อยตำหนักเมฆาครามผู้นี้ เมื่อ 10 ปีก่อนยังเป็นเพียงตัวอ่อนแอไม่ต่างมดปลวกที่ไม่แม้จะบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ด้วยซ้ำ!

 

ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายกลับมีพลังฝีมือทัดเทียมกับอาจารย์ของมัน!

 

“มัน…”

 

ถัดไปจากอวิ๋นฟู่เหย่ ก็เป็นร่างหวงเหวินจิ้งที่กำลังมองร่างชายหนุ่มุชดม่วงไกลๆอย่างไม่วางตา ใบหน้างามแสนเย็นชาปานธิดาน้ำแข็งเผยความสั่นไหวอันหาได้ยาก

 

นางไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลย

 

ว่าบุรุษผู้นี้กลับทรงพลังถึงขนาดนี้!

 

“เมื่อ 3 ปีที่แล้ว…มันปกปิดพลังฝีมือเอาไว้จริงๆ…”

 

3 ปีก่อนหวงเหวินจิ้งเองก็ได้เห็นฉากอาจารย์ของนางประมือกับต้วนหลิงเทียนมากับตา เช่นนั้นนางจึงรู้ว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คู่มืออาจารย์ของนางเลย

 

ด้วยเหตุนี้ทำให้นางเองก็เชื่อเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนปกปิดพลังฝีมือเอาไว้เมื่อ 3 ปีก่อน!

 

“เจ้าบ้านั่น…ที่แท้ตอนนี้มันร้ายกาจถึงขนาดนี้เลยหรือ!?”

 

ก่านหรูเยี่ยนเองก็หน้าเหวอไปแล้ว

 

สำหรับเค่อเอ๋อกับต้วนซือหลิงไม่ได้เผยทีท่าแปลกใจอะไร ราวกับเรื่องราวสมควรเป็นแบบนี้อยู่แล้ว

 

“พลังของนายท่าน…”

 

เผิงไหลที่ตอนแรกในใจแทบไม่เหลือความหวัง พอได้เห็นพลังฝีมือต้วนหลิงเทียน ทั้งสำนึกรู้ที่สูงพอจะชักนำหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้ ตอนนี้มันก็ยินดีจนเนื้อเต้น!

 

นายท่านของมันมิใช่ธรรมดาจริงๆ!!

 

ปาฏิหาริย์ที่ใจมันร่ำร้องเรียกหา ในที่สุดก็ปรากฏขึ้นแล้ว!!

 

“ต้วนหลิงเทียน!”

 

ในที่สุดอวี่เหวินฮ่าวเฉินก็เป็นฝ่ายทำลายบรรยากาศเงียบสงัดจนตึงเครียด ด้วยการกล่าวออกเสียงเย็นว่า “เมื่อ 3 ปีที่แล้วเป็นข้าที่เลือกจะยอมรับเจ้าเข้าร่วมกับวังเซียนสัญจร กระทั่งแต่งตั้งเจ้าให้เป็นรองจ้าววังด้วยตัวเอง…แต่วันนี้ข้า อวี่เหวินฮ่าวเฉิน จะฆ่าเจ้า ชำระล้างวังเซียนสัญจรของข้าให้สะอาด!!”

 

พออวี่เหวินฮ่าวเฉินกล่าวจบคำ พลังเซียนต้นกำเนิดของมันที่คุกรุ่นไปทั่วร่างก็ระเบิดทะลักออกมาปานมังกรพิโรธที่ทำลายพันธนาการได้สำเร็จ! พร้อมจะโบยบินท่องทะยานไปทั่วฟ้าเผยพลังอำนาจอันเกรี้ยวกราด!!

 

อีกทั้งยามพลังเซียนต้นกำเนิดระเบิดออกมา ยังบังเกิดเสียงครืนๆ จากการสั่นพ้องของพลังกับฟ้าดิน ประหนึ่งเสียงคำรามของมังกรพิโรธ!!

 

ฟุ่บบบ!!

 

ดั่งสายลมกรรโชแรงหอบหนึ่ง ในสายตาของผู้ที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อย ร่างอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ปานจะสลายหายไปในอากาศธาตุ!

 

ในสายตาของผู้ที่มีพลังฝึกปรือสูงถึงขั้น ยังพอเห็นเงาร่างของอวี่เหวินได้อยู่!

 

แน่นอนว่าเห็นเป็นภาพเงาเลือนราง ไม่อาจแลเห็นได้ชัด!

 

ในสถานที่แห่งนี้ผู้ที่สามารถแลเห็นอวี่เหวินฮ่าวเฉินได้ชัดเจน นอกจากจ้าววังวิญญาณอสุราฉีหนานฟงแล้ว ก็มีเพียงต้วนหลิงเทียนเท่านั้น

 

แน่นอนว่าหมายถึงทุกคนที่อยู่ในที่นี้เท่านั้น

 

ไม่ได้รวม 2 ร่างที่ซ่อนตัวเหนือแพเมฆหายนะสู่สวรรค์! ประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์แน่นอนว่าย่อมเห็นท่าร่างของอวี่เหวินฮ่าวเฉินได้ชัด ยังชัดเจนยิ่งกว่าต้วนหลิงเทียนเสียอีก!

 

“มนุษย์?”

 

แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่อวี้เหวินฮ่าวเฉินลงมือ ชายชราในชุดสีเทา อาจารย์ของประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์พลันขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

ใต้แพเมฆหายนะสู่สวรรค์

 

ในสายตาต้วนหลิงเทียน ร่างอวี่เหวินฮ่าวเฉินกำลังพุ่งทะยานเข้าใส่เขาราวกระสุนปืนใหญ่!

 

ขณะทะยานเข้ามา พลังเซียนต้นกำเนิดทั่วร่างอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ยังแลคล้ายมังกรพิโรธที่เวียนวนรอบกายทั้งสั่นพ้องกับพลังฟ้าดิน ประหนึ่งมีพลังอำนาจแห่งฟ้าดินหนุนเสริมก็ไม่ปาน สภาวะเหี้ยมหาญดุร้ายนัก!

 

“ความเร็วนี่มัน…”

 

เมื่อเห็นว่าอวี่เหวินฮ่าวเฉินทะยานตัดระยะจรบรรลุห่างจากร่างเขาไม่ไกล สองตาต้วนหลิงเทียนก็หดหยีลงทันที

 

ซู่มมม!!

 

ขณะเดียวกันพลังเซียนต้นกำเนิดที่โคจรพร้อมพรั่งในร่างเขาแต่แรก ก็พลันปะทุระเบิดออกมา!

 

ทันทีที่พลังเซียนต้นกำเนิดปะทุออกมาท่วมร่าง มันก็สั่นพ้องกับฟ้าดินอย่างแรง อานุภาพประหนึ่งจะสะท้านไปทั่วฟ้าดินโดยรอบ!

 

“ปีกอีกาทองคำ!”

 

เมื่อจ่ายพลังใช้ออกด้วยเวทย์พลังเสริมเคลื่อนไหว กลางหลังต้วนหลิงเทียนพลันปรากฏปีกเขื่องที่ราวกับจะมีเปลวเพลิงลุกโชนโหมกระหน่ำงอกเงยออกมา!

 

หลังจากนั้นร่างต้วนหลิงเทียนก็กระพริบไหว อันตรธานหายไปจากสายตาของผู้ชมส่วนใหญ่!

 

ต้วนหลิงเทียนพร้อมปีกเพลิงมหึมาที่ลุกโชนเร่าๆกลางหลัง คนคล้ายกลับกลายเป็นอีกาทองคำ 3ขา! ทะยานเข้าใส่อวี่เหวินฮ่าวเฉินอย่างดุดัน!!