ตอนที่ 1044: กับดักสังหารเซียนราชา (4)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1044: กับดักสังหารเซียนราชา (4)

พลังเซียนที่อยู่ในเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 1 รั่วออกไปอย่างรวดเร็วและลอยเข้าไปในม่านพลังแสงจันทร์ มันเปลี่ยนไปเป็นพลังแสงจันทร์อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ม่านพลังแข็งแกร่งขึ้น

“เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ยิ่งเจ้าปล่อยพลังเซียนออกมามากเท่าไร ม่านพลังก็จะแข็งแกร่งขึ้นมาเท่านั้น เจ้าต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด” ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลผู้พิทักษ์ตะโกนออกมา

“ถ้าพลังเซียนทั้งหมดของเจ้าถูกดูดกลืนไป เจ้าจะไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้แม้ว่าเจ้าจะเป็นเซียนราชาก็ตาม เจ้าควรจะรีบออกไปจากที่นี่ในตอนที่ยังเหลือพลังงาน” บางคนในกลุ่มคนพยายามที่จะโน้มน้าว ถ้าพลังเซียนยังเปลี่ยนไปเป็นพลังแสงจันทร์อยู่ต่อไป มันคงเป็นอันตรายมากกับทุกคน

เซียนราชาหน้าซีดมากเหมือนสีของแสงจันทร์ ภายใต้การรบเร้าของทุกคน เขาก็ลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะยืนขึ้นมาด้วยขาที่สั่นเทา เขาเดินไปที่ม่านพลังด้วยใบหน้าที่ไม่เต็มใจและเสียดาย ในขณะที่เขาทุ่มพลังทั้งหมดของเขาเพื่อกดพลังในตัวของเขาเอาไว้ เพื่อพยายามที่จะลดความเร็วของพลังเซียนของเขาที่ถูกกลืนกินไป

เขาไปที่ม่านพลังอย่างรวดเร็ว แต่ในตอนที่เขากำลังจะออกไป ม่านพลังก็กันเขาเอาไว้

“ฮ่าห์ ! ” เซียนราชาคำรามออกมาทันที ในขณะที่เขาโจมตีออกไปด้วยดาบโค้งที่อยู่ในมือของเขาอย่างแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตาม ม่านพลังก็ไม่แม้แต่จะสั่นไหว

พลังแสงจันทร์ในท้องฟ้าเริ่มควบแน่นกลายไปเป็นปราณดาบจำนวนมากอีกครั้ง มันเปล่งประกายด้วยแรงกดดันมหาศาลซึ่งกระจายไปทั่งโถง ในเวลาเดียวกัน จิตสังหารที่แปลก ๆ ก็รุกเข้าไปในร่างของพวกเขาอีกครั้ง และมันก็ยังรวมกับปราณดาบทีละสายทีละสาย มันเพิ่มพลังให้กับปราณดาบ

“ชั้นสวรรค์ที่ 2 การโจมตีนี้เทียบเท่ากับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 2” เซียนราชาเตือนกลุ่มคน

ทันทีที่เขาพูดจบ ปราณดาบก็เริ่มตกลงมาปกคลุมทุกคน

เจี้ยนเฉินยืนอยู่ตรงที่เดิมและไม่ขยับเหมือนภูเขา เขาปล่อยให้ปราณดาบโจมตีไปที่ร่างของเขา ซึ่งทำให้เสื้อของเขาขาดกระจาย ร่างของเขาเต็มไปด้วยรอยสีขาวจากปราณดาบ

เสียงร้องโหยหวนดังออกมาอีกหลายเสียง ปราณดาบนี้หนาแน่นเกินไป ดังนั้นมันจึงทำให้เซียนราชาที่อ่อนแอบางคนได้รับบาดเจ็บ พลังแสงจันทร์ที่แปลก ๆ ได้เข้าไปในร่างของพวกเขา ในขณะที่มันเริ่มกลืนกินพลังเซียนของพวกเขา

จากไกลไกล กลุ่มของเซียนผู้คุมกฎและเซียนสวรรค์ก็จ้องมองด้วยความประหลาดใจ ในสายตาของพวกเขา เซียนราชาเป็นการมีอยู่ที่สุดยอด เป็นคนที่ยืนอยู่จุดสูงสุด พวกเขามีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชมของทกุคน หลายคนพบว่ามันยากที่จะเชื่อที่ในตอนนี้เซียนราชาหลายคนตกอยู่ในสภาพย่ำแย่

เพราะว่า นี่เป็นครั้งแรกของเซียนสวรรค์หลายคนและเซียนผู้คุมกฏบางคนที่เข้ามาที่โถงศักดิ์สิทธิ์เพื่อที่จะมาดูเซียนราชา

“ปราณดาบแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป มันต้องแข็งแกร่งจนถึงจุดที่พวกเราไม่สามารถต่อต้านได้ในไม่ช้า พวกเราจะมารอให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ พวกเราต้องทำลายม่านพลังให้เร็วสุดเท่าที่จะทำได้” เซียนราชาตะโกนออกมา

ทันใดนั้นเอง เซียนราชาประมาณ 10 คนก็เอาอาวุธเซียนของพวกเขาออกมา พลังเซียนมหาศาลได้พุ่งพวยอยู่ในม่านพลัง ก่อนที่จะโจมตีไปที่ม่านพลังพร้อม ๆ กัน

บู้ม ! คลื่นพลังงานที่น่ากลัวได้ดันให้เซียนสวรรค์และเซียนผู้คุมกฎกระเด็นถอยไป ในขณะที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ที่อ่อนแอก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตาม โหยวเยว่และคารา ลี่เว่ยนั้นไม่ได้รับอันตรายเนื่องจากมีวัตถุเซียนคอยป้องกันอยู่

หลังจากที่ม่านพลังรับการโจมตีรวมกันของเซียนราชามากกว่าสิบคน มันก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้กระจายหายไป

“ช่างเป็นม่านพลังที่ทรงพลังอะไรแบบนี้” เซียนราชาอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา เขาเคร่งเครียดกว่าเดิม

เซียนผู้คุมกฎและคนที่ระดับต่ำกว่าถอยไปมากกว่าเดิมจนเกือบจะติดกับม่านพลัง เซียนสวรรค์ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดนั่งขัดสมาธิอยู่ ในขณะที่พวกเขากำลังรักษาบาดแผลของตัวเอง ในขณะเดียวกัน แสงสีขาวนวลก็ปรากฎขึ้นรอบ ๆ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 พวกเขากำลังใช้พลังเซียนธาตุแสงเพื่อรักษาบาดแผลของพวกเขา

พลังแสงจันทร์ในม่านพลังเริ่มที่จะปั่นป่วนหลังจากที่ด้านการโจมตีรวมกันของเซียนราชา มันควบแน่นกลายเป็นกลุ่มปราณดาบที่หนาแน่นในท้องฟ้าอีกครั้ง แต่มันน้อยกว่าก่อนหน้านี้มาก อย่างไรก็ตาม พลังของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย

ควับ ! ควับ ! ควับ…

เสียงบาดหูดังขึ้นหลายเสียง ปราณดาบตกลงมาที่พวกเขาด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ แม้ว่าจำนวนจะน้อยลง แต่มันก็ยังเหมือนผ้าห่มอยู่ดี ไม่มีใครสามารถหลบมันได้ ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่ต้านมันตรง ๆ

หลังจากคลื่นโจมตีผ่านไป ปราณดาบก็ทำให้เซียนราชา 3 คนบาดเจ็บ แม้ว่าบาดแผลของพวกเขาจะไม่ถึงตาย แต่พลังแสงจันทร์ก็แปลกมาก พลังแสงจันทร์ที่เหลืออยู่ในร่างของพวกเขาได้เริ่มกลืนกินพลังเซียน ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามขนาดไหน พวกเขาก็ข่มมันเอาไว้ไม่ได้ ซึ่งพวกเขาให้พลังของพวกเขาทั้งหมดในการต่อต้านมันและทำให้พลังเซียนของพวกเขาลดลงไปช้า ๆ

“คลื่นปราณดาบนี้ถึงชั้นสวรรค์ที่ 3 แล้ว ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไป คลื่นการโจมตีครั้งต่อไปคงจะเป็นชั้นสวรรค์ที่ 4 และจากนั้นก็ 5, 6 เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนพวกเราทั้งหมดตายที่นี่”

“ถ้าพวกเราปล่อยให้มันเกิดขึ้น พวกเราทั้งหมดจะตาย ไม่มีใครที่จะสามารถรอดไปได้ ทุกคน อย่าออมแรง โจมตีไปที่ม่านพลังด้วยพลังทั้งหมดของพวกเจ้า”

คนพูดเป็นหัวหน้าตระกูล 2 คนของตระกูลโบราณ ในครั้งนี้ ทุกคนดัดสินใจที่จะร่วมมือกัน พวกเขารวบรวมพลังของพวกเขาทั้งหมดเพื่อโจมตีไปที่ม่านพลังพร้อมกัน และส่งการโจมตีที่สั่นสะเทือนไปที่ม่านพลัง

เจี้ยนเฉินก็เอายุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกมาและโจมตีไปที่ม่านพลังทันทีที่เขาทำได้ การต้านคลื่นโจมตีนี้นั้นถึงขีดจำกัดของร่างบรรพกาลของเขาแล้ว ถ้าเขาไม่ทำลายม่านพลัง คลื่นการโจมตีต่อไปคงผ่านร่างของเขาได้ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่า พลังแสงจันทร์สามารถดูดกลืนพลังบรรพกาลของเขาได้ไหม แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่เขาต้องการจะเสี่ยง

บู้ม ! การโจมตีรวมกันของเซียนราชาทุกคนได้ทะลุผ่านม่านพลังที่แข็งแกร่ง และลดปริมาณสายพลังแสงจันทร์ที่หนาแน่นที่ลอยอยู่รอบรอบโถงศักดิ์สิทธิ์ลงไปได้

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความโล่งใจที่พวกเขาทำลายม่านพลังได้ อย่างไรก็ตาม เสียงเย็นชาก็ดังระเบิดขึ้นมาจากที่ที่ว่างเปล่า

“คนที่ไม่สนใจคำเตือน ก็รับผิดชอบกับการกระทำของพวกเจ้าซะ ! “

หลังจากนั้น แสงสว่างจ้าและแสงจันทร์บริสุทธิ์ก็ปรากฏขึ้น มันส่องแสงแสบตาเหมือนพระอาทิตย์ ในขณะที่บอลแสง 9 ลูกได้ลอยอยู่เหนือรูปปั้นของนางฟ้าเฮายู่ที่กึ่งกลาง แต่ละบอลแสงเปล่งประกายไปด้วยแสงจันทร์จ้า จากไกลไกล มันเหมือนพระจันทร์ดวงเล็ก ๆ 9 ดวง

ครืน…

โถงศักดิ์สิทธิ์เริ่มสั่นอย่างรุนแรง หนึ่งในพระจันทร์ลอยขึ้นไปเหนือรูปปั้นและเริ่มขยายใหญ่และเปล่งแสงจ้าออกมาทันที ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหลับตา

ในตอนที่พวกเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ภาพตรงหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง โถงศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้นเคยหายไปและดินแดนแห่งใหม่ก็ปรากฎขึ้นมาแทน ไม่มีอะไรอยู่ในระยะสายตาของพวกเขาเลยนอกจากพื้นดินแห้ง ๆ

เซียนราชาทั้งหมดมีท่าทางเปลี่ยนไปเมื่อเห็นแบบนี้ พวกเขารู้ว่าพวกเขาตกอยู่ในอีกกับดักหนึ่งแล้ว ทุกคนตกอยู่ในกับดัก รวมถึงเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 1 ซึ่งได้รับบาดเจ็บในตอนแรกด้วย

เซียนราชาที่เข้ามาในโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ตกอยู่ในกับดักอีกครั้ง

“นี่เป็นพื้นผิวของดวงจันทร์อย่างนั้นหรือ ? ” ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเจียงหยางมองไปรอบ ๆ ด้วยความสนใจ ในขณะที่เขาพูดออกมาอย่างประหลาดใจและสงสัย

“มันไม่สำคัญว่านี่เป็นพื้นผิวของดวงจันทร์หรือไม่ พวกเราต้องทำลายออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะมันต้องไม่ปลอดภัยแน่ และเสียงที่จู่ ๆ ก็ดังขึ้นมาตอนนั้น ใช่เสียงของนางฟ้าเฮายู่หรือไม่ ? ” ผู้อาวุโสสูงสุดจากนิกายยิหยวนพูดออกมาด้วยใบหน้าที่หมองหม่น ตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ

หลายคนอดไม่ได้ที่จะมีท่าทางเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาได้ยินแบบนั้น แต่บางคนก็ด่าทอออกมาอย่างรวดเร็ว “นางฟ้าเฮายู่ตายไปในการทำสมาธิเมื่อหลายหมื่นปีมาแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่นางจะยังมีชีวิตอยู่ นางต้องทิ้งแค่เสียงไว้แน่”

ในตอนนี้เอง แรงดูดลึกลับก็ปรากฏขึ้นมาเงียบเงียบ มันรวมอยู่รอบ ๆ ผู้คนและดึงเอาพลังเซียนของพวกเขาไป

ทุกคนมีท่าทางเปลี่ยนไปทางที พวกเขานั่งลงอย่างรวดเร็วและทุ่มพลังของพวเขาทั้งหมดเพื่อต่อต้านแรงดูดนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็หยุดมันไม่ได้ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม

เจี้ยนเฉินก็รู้สึกแปลกด้วย พลังลึกลับรวมอยู่รอบ ๆ เขา ในขณะที่มันดึงพลังบรรพกาลในเขาออกไป พลังบรรพกาลของเขาเริ่มแสดงท่าทีเคลื่อนไหวช้า ๆ ในขณะที่มันหลุดออกจากการควบคุมของเขา อย่างไรก็ตาม พลังบรรพกาลนั้นเทียบไม่ได้กับพลังเซียนอยู่ดี ภายใต้การควบคุมของเจี้ยนเฉิน พลังบรรพกาลก็สงบลงและไม่ขยายออกไปข้างหน้าเหมือนพลังเซียนของเซียนราชา

“เป็นกับดักและพลังที่แปลกอะไรอย่างนี้ มันไม่สามารถป้องกันไม่ให้พลังของข้าขยายออกได้ หืม ถ้าเป็นแบบนั้น ให้ข้าทำลายกับดักนี้ดูเถอะ ข้าอยากจะรู้ว่ามันจะต้านการโจมตีจากข้าได้ไหม” เฮยยู่เงยหน้าขึ้นและสายตาของเขาก็แหลมคม มีดพร้าสีขาวเงินปรากฏขึ้นมาที่มือขวาของเขา และเปล่งรัศมีไปด้วยแรงกดันที่เยือกเย็น

มันเป็นอาวุธที่มีพลังงานดั้งเดิม ด้วยอาวุธนี้ เฮยยู่สามารถโจมตีได้แข็งแกร่งเท่าเซียนจักรพรรดิ และสามารถต่อสู้อย่างสูสีกับพวกเขาได้

บนยอดสุดของโถงศักดิ์สิทธิ์ มีร่างลวงตาของหญิงที่น่ารักมากกำลังนั่งอยู่บนชิ้นหยกขาวบริสุทธิ์ภายในห้องที่ปิดผนึกสนิทอยู่ ตาของนางหลับอยู่แต่ทันใดนั้นเอง นางก็ตกใจขึ้นมา ตาของนางลืมเปิดขึ้น และนางก็ร้องออกมาอย่างไม่รู้ตัว “พลังงานดั้งเดิม ! นี่คือพลังงานดั้งเดิม ! เป็นไปได้อย่างไรกัน ? ไม่ใช่ว่าพลังงานดั้งเดิมทั้งหมดถูกผนึกไว้ในมิติว่างเปล่าที่ไกลออกไปอย่างนั้นหรือ ? พลังงานดั้งเดิมมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ? “

หญิงลวงตายืนขึ้นจากชิ้นหยก และอารมณ์ของนางก็ปั่นป่วน นางไม่ได้สงบและแววแห่งตื่นเต้นมาก็ปรากฎบนใบหน้าที่ลวงตาของนาง