ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 959 นี่มันเป็นไปไม่ได้!!
บังเอิญจัง?
ทางนี้แสงดาวเพิ่งจะบอกกับเธอ เรื่องที่เธอขึ้นเตียงกับม็อกโก และทันใดนั้นม็อกโกก็ถูกท่านไชยันต์ตามหาจนเจอแล้ว เรื่องนี้ทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนั้น?
เส้นหมี่รู้สึกได้ว่าความผิดปกติเล็กน้อย เมื่อเธอจัดการแต่งตัวอยู่สักครู่ จากนั้นก็ออกมาจากเดอะวิวซี
“ตู๊ด……ตู๊ดตู๊ด……….”
“ฮัลโหล?”
ไม่นานก็มีคนกดรับสายโทรศัพท์ เสียงแหบแห้งของผู้ชายที่แสนคุ้นเคยดังผ่านมาทางโทรศัพท์ เมื่อได้ยินแก้มอมชมพูของเส้นหมี่ก็ร้อนผ่าวขึ้นมา
เธอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนี้
แต่ไม่นาน เธอก็ดึงสติกลับมาได้ : “ที่รัก พวกคุณอยู่ที่ไหนกันคะ? ฉันได้ยินว่าพวกคุณหาตัวม็อกโกเจอแล้ว?”
“อืม อยู่ที่ซีจาร์ คุณจะมาเหรอ?”
ผู้ชายคนนี้เพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงสอบถามของเธอผ่านทางโทรศัพท์แต่นั้น ก็สามารถรู้ได้แล้วว่าเธอคิดจะทำอะไร
เส้นหมี่รู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย : “ไปได้ไหมคะ? คือ……..พี่สาวถามอยู่ตลอดเลย ฉันจึงอยากช่วยไปดูสถานการณ์แทนเธอหน่อยค่ะ”
เส้นหมี่ยกแสงดาวมาอ้าง
แต่ก็ไม่ได้บอกความจริงกับเขา เธอกลัวว่าหากเธอพูดไปแล้ว ผู้ชายคนนี้คงจะมีความคิดที่จะกระโดดบีบคอผู้หญิงคนนั้นเป็นแน่
แสนรักตกลงจริงๆ ด้วย ไม่นานนัก เขาก็ส่งตำแหน่งที่อยู่มาให้
เส้นหมี่ได้รับแล้วก็ตั้งค่า GPS นำทางเรียบร้อย เธอส่งข้อความหนึ่งหาแสงดาว บอกเธอว่าตัวเองไปซีจาร์ จากนั้นก็ออกเดินทาง
สำหรับผู้หญิงคนนี้ อันที่จริงเธอรู้จักดี เธออาจจะดูเย่อหยิ่งทะนง แต่ความเป็นจริงแล้วในใจของเธอกลับไม่ได้เข้มแข็งมากขนาดนั้น อีกทั้งเธอก็ยังซื่อบื้อด้วย
ซื่อบื้อพอที่จะชอบคนคนหนึ่งเป็นอย่างมาก แต่เธอจะไม่มีทางตามตอแยแบบไม่มีข้อจำกัด
สิ่งที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เธอยังเด็ดเดี่ยวมาก กล่าวคือเป็นคนประเภทที่รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่มีความหวังแล้ว คนแรกที่เกลี้ยกล่อมให้ตัวเองยอมวางมือก็คือตัวเธอเอง
ตัวอย่างเช่นประโยคนั้นของเธอเมื่อเช้า : “อย่างไรเสียฉันเองก็ไม่ใช่ครั้งแรก!”
ดังนั้น เธอก็จำเป็นต้องไปช่วยเธอดูให้ชัดเจน ตอนนี้สถานการณ์ทางนั้นเป็นอย่างไรกันแน่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอจะไม่ยอมให้ถูกใครรังแกได้
คันเร่งใต้เท้าของเส้นหมี่ยิ่งเพิ่มความเร็วมากขึ้น
“วิ๊ง……….วิ๊ง………”
ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือที่เพิ่งจะถูกโยนไว้ด้านข้างก็สั่นขึ้นมา
เส้นหมี่เหลืองมองดู จึงทำได้เพียงแค่รับสาย : “ฮัลโหล? ใครคะ?”
“หมี่ ป้าเอง” ในสายโทรศัพท์มีเสียงของพิมเจ้าลอยมา ฟังดูแล้วเหมือนร้อนใจเล็กน้อย
“ค่ะ ป้า เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ?”
“ใช่ คุณท่านตระกูลโชคศักดาคนนั้นมาที่เรด พาวิเลี่ยนแล้ว หมี่ เธอรู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น? เขาพาคนมาตั้งแต่เช้าตรู่ นั่งไม่ยอมไปไหนอยู่ในห้องรับแขก!!”
ใครก็คาดคิดไม่ถึงเลยว่า ในเวลาคับขันแบบนี้ ในสายโทรศัพท์พิมเจ้าจะบอกเรื่องยุ่งยากอย่างนี้กับเธอ
ผู้เฒ่าตระกูลโชคศักดาไปเรด พาวิเลี่ยน?
เขาไปที่นั่นทำไม? พอคู่สามีภรรยาไชกุเสียชีวิต พวกเขาไม่ได้ผลประโยชน์อะไรจากงานศพ ไม่ใช่ว่าประกาศตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเทวเทพไปแล้วเหรอ?
ทำไมตอนนี้ยังมาอีกล่ะ?
เส้นหมี่ไม่เข้าใจนิดหน่อย : “แล้วป้าถามเขาหรือยัง? เขามาทำอะไร?”
พิมเจ้าส่ายหน้า : “ถามแล้ว เขาไม่สนใจฉันเลยแม้แต่น้อย หมี่ ป้าว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? จะเข้ามาดูหน่อยไหม?”
เส้นหมี่ : “……..”
เธอกำลังจะขึ้นทางด่วนแล้ว ยังต้องกลับไป? เธอกำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า?
“ฉันไม่……….”
“หมี่ ป้าได้ยินว่าคุณท่านกับรักพวกเขาไปรับคุณชายม็อกโกแล้ว คุณท่านตระกูลโชคศักดายังเฝ้าอยู่ที่นี่ตลอด คิดจะยุ่งกับเรื่องนี้อีกใช่หรือไม่? “ ได้ยินมาว่าเมื่อสองวันก่อน แท้จริงแล้วคือหลังจากที่คุณชายม็อกโกไปที่บ้านตระกูลโชคศักดาแล้ว ถึงจะไปจากเมืองหลวง งั้นวันนี้คุณท่านทำไมมาที่นี่อีกล่ะ?”
“พอแล้ว ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวฉันกลับไป”
เส้นหมี่โมโห แต่สุดท้ายก็ยูเทิร์นรถกลับไป
แน่นอนว่า ในเวลานี้เรด พาวิเลี่ยนจะเกิดความวุ่นวายไม่ได้ หากถูกคนกลุ่มนี้ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีก ม็อกโกกลับมาก็ยิ่งไม่พอใจอีก แล้วจะทำอย่างไร?
ในที่สุดเส้นหมี่จึงยอมแพ้เรื่องที่จะไปซีจาร์
แต่เธอไม่รู้ว่า เธอไม่ได้ไปที่ซีจาร์ ทางนั้น เธอกลับพลาดดูละครน่าตื่นเต้นร้าวใจมากฉากหนึ่ง
“คุณปู่ไชคะ คุณปู่ต้องเป็นคนตัดสินให้หนูนะคะ เมื่อคืนหนูมาหาเขาเป็นเพื่อนขวัญ แต่หนูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่ขวัญไปหาที่เขาอยู่ เธอก็ไม่กลับมา จากนั้นหนูก็เจอเขาที่ในโรงแรม เขา……..เขาก็……..”
ภายในห้องพักโรงแรมที่รกเพ่นพ่าน นิษาที่ใช้สองมือกอดเสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาด บนใบหน้ายังมีรอยฟกช้ำยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้าของไชยันต์ ร้องไห้ราวกับเป็นมนุษย์น้ำตา
ไชยันต์สีหน้าเคร่งขรึม
เขารีบเหลือบมองไปดูบนเตียงนั้นทันที
กลับพบว่า ผู้ชายคนนั้นที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง เขากุมศีรษะของตัวเองอยู่ ยังคงเป็นสีหน้าท่าทางที่ปวดศีรษะมาก
เขาขมวดคิ้ว ดูเหมือนอยากจะนึกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่กลับกลายเป็นว่า ความทรงจำในสมองของเขายิ่งสับสนมากขึ้น
“ม็อกโก! แกมันไอ้เหลือเดน แกยังจะพูดอะไรอีกไหม?”
ไชยันต์เห็นลักษณะท่าทางแบบนี้ของเขาแล้ว ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น อ้าปากดุตวาดขึ้นมา
ม็อกโกชะงักไป ในที่สุด เขาก็มองมาทางนี้ : “ผมจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แต่ที่โรงแรมมีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกที สามารถไปเอามาย้อนดูได้”
“……”
“อีกอย่าง ที่ ไนท์คลับนั่นก็มีปัญหาด้วย เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะเมาแบบนี้!”
ไม่เสียแรงที่เป็นนายทหารที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์การต่อสู้