เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1548
ลู่ฝานก้าวออกมากลางอากาศหนึ่งก้าว ใช้สายตาเย่อหยิ่งมองหั่วเทียนหรุ่ยแล้วส่งกระแสจิตพูดว่า “ฉันไม่ได้อยากฆ่าลูกหลานตระกูลหั่ว แต่เพราะหั่วเยี่ยนจะฆ่าฉัน ไม่งั้นฉันจะฆ่าคนพวกนั้นในป่าไปทำไม เธอไปสืบหาความจริงเอาเองก็ได้ ฉันไม่หลอกเธอหรอก และไม่มีเหตุผลที่ต้องหลอกเธอด้วย ส่วนเธอจะเชื่อหรือไม่ก็เรื่องของเธอ”
หั่วเทียนหรุ่ยส่งกระแสจิตพูดว่า “นายทำให้ฉันโดนไล่ออกจากตระกูลหั่ว”
ลู่ฝานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ที่แท้เธอเกลียดฉันเพราะเรื่องนี้นี่เอง หั่วเทียนหรุ่ย ฉันบอกได้เพียงว่าตอนนั้นถ้าฉันอยากหนี ฉันมีวิธีเป็นร้อยที่จะฆ่าพวกเธอในเมืองแล้วหนีไป แต่ฉันไม่ได้ทำแบบนั้น เพราะฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่ใช้ได้ ส่วนฆ่าพวกหั่วเยี่ยน ฉันไม่ได้กลัวอะไรเลย แต่ถ้าให้ฆ่าเธอ ฉันพูดตามตรงว่าฉันลังเล ดังนั้นฉันจึงตามเธอมาที่ประตูเขาตระกูลหั่ว เธอเลยส่งฉันให้พวกหั่วเยี่ยนได้อย่างราบรื่น”
หั่วเทียนหรุ่ยแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “พูดแบบนี้ ฉันต้องขอบคุณนายแล้วใช่ไหม”
ลู่ฝานส่ายหน้าส่งกระแสจิตพูดว่า “เธอและฉันต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่ความซาบซึ้งหรือบุญคุณความแค้นอะไร พูดตามตรง ถ้าตอนนั้นฉันไม่ใช่คนที่ต้องการเข้ามาในประเทศตันเซิ่ง และเธอไม่ใช่หัวหน้าผู้ดูแลภายนอกของตระกูลหั่ว ไม่แน่ตอนนี้เราอาจเป็นเพื่อนกันได้ เหมือนฉันกับหั่วตันซู ฉันเห็นใจกับสิ่งที่เธอเจอ ถ้าเป็นไปได้ฉันยอมชดใช้เป็นสิ่งของให้เธอ ตอนนี้ฉันดูแลสวนยาวิเศษอยู่ บางทีฉันอาจชดใช้ให้เธอเป็นสมุนไพรนิดหน่อย ไม่ว่าเรื่องอะไรเธอต้องคิดไปในทางที่เป็นประโยชน์ ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วหั่วเยี่ยนยังอยู่ในตระกูล เธอคิดว่าเรื่องนี้ดีหรือไม่ดี”
เมื่อได้ยินชื่อหั่วเยี่ยน สีหน้าหั่วเทียนหรุ่ยเปลี่ยนไปทันที
จู่ๆ หั่วเทียนหรุ่ยเงียบไป เธอยอมรับว่าลู่ฝานพูดแทงใจเธอแล้ว
ลู่ฝานมองหั่วเทียนหรุ่ยอย่างเฉยเมย “คิดดีๆ ถ้าเธอต้องการสมุนไพรก็มาหาฉัน!”
เมื่อพูดจบ ลู่ฝานเตรียมตัวออกไป
ทว่าหั่วเทียนหรุ่ยพูดเสียงดังว่า “สาบาน ลู่ฝาน นายสาบานต่อหน้าฟ้าดิน ห้ามทำเรื่องที่ทำร้ายตระกูลหั่วของฉันเด็ดขาด!”
ลู่ฝานมองหั่วเทียนหรุ่ยด้วยรอยยิ้ม “ทำไมฉันต้องสาบานด้วย”
หั่วเทียนหรุ่ยส่งกระแสจิตพูดว่า “ถ้านายสาบาน ฉันจะเชื่อนาย ตั้งแต่นี้ไปฉันจะไม่พูดเรื่องที่นายเป็นนักโทษตระกูลหั่วอีก”
ลู่ฝานมองใบหน้าดื้อรั้นของหั่วเทียนหรุ่ยแล้วยิ้มกว้าง
ลู่ฝานปาดฝ่ามือตัวเอง เลือดไหลออกมา
ลู่ฝานพูดว่า “ฉันลู่ฝาน ขอสาบานต่อหน้าฟ้าดินว่าฉันไม่มีเจตนาร้ายกับตระกูลหั่ว”
จู่ๆ เลือดหายไปกลางอากาศ ลู่ฝานมองหั่วเทียนหรุ่ยแล้วพูดว่า “พอใจหรือยัง”
สีหน้าหั่วเทียนหรุ่ยดูใจเย็นลง “นายไปเถอะ”
ลู่ฝานมองเธอแล้วหัวเราะเบาๆ “ไม่ต้องให้ฉันชดใช้ด้วยสมุนไพรเหรอ”
หั่วเทียนหรุ่ยเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดเสียงดัง “ฉันไม่ต้องการสมุนไพรของนาย ลู่ฝาน นายจำไว้ว่าฉันจะจับตามองนาย จับตามองนายทุกฝีก้าว”
ลู่ฝานยิ้มแล้วส่ายหน้า จากนั้นจึงเหาะออกไป
หั่วเทียนหรุ่ยมองด้านหลังลู่ฝาน แล้วกระอักเลือดออกมา
การโจมตีของลู่ฝานเมื่อกี้ ทำให้เธอบาดเจ็บสาหัส
แม้แต่ลู่ฝานก็ยังไม่รู้ว่าผู้ฝึกชี่พรสวรรค์ธรรมดา อาศัยยายกระดับขึ้นมาแบบเธอ แท้จริงแล้วจิตญาณวิญญาณอ่อนแอมาก เธอจึงอยู่ได้แค่ข้างนอก ไม่สามารถเข้าไปภายในตระกูลได้
หั่วเทียนหรุ่ยเช็ดเลือดตรงมุมปากแล้วเอามุกออกมาหนึ่งเม็ด
ภาพกะพริบอยู่ข้างใน เป็นคำพูดของเธอกับลู่ฝานเมื่อครู่ แม้แต่การส่งกระแสจิตคุยกันของทั้งสองคนก็ถูกบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจน
หั่วเทียนหรุ่ยมองมุกเม็ดนี้ด้วยสีหน้าสับสน ถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า “ไม่รู้จริงๆ ว่าควรเชื่อเขาดีไหม แต่ฉันไม่สามารถสละผลประโยชน์ของตระกูลเพื่อนายหรอกนะลู่ฝาน ให้ผู้อาวุโสเป็นคนตัดสินเรื่องทุกอย่างเถอะ!”
พูดจบ หั่วเทียนหรุ่ยมองไปทางบ้านของหั่วหลงชิ่ง สีหน้ามีความเกลียดชัง หั่วเทียนหรุ่ยเหาะไปทางเขาเทียนนู่โดยไม่หันกลับมามอง
ตัวกลายเป็นลำแสงมาถึงหน้าประตูเขา หั่วเทียนหรุ่ยคุกเข่าลงบนพื้นแล้วตะโกนหน้าประตูเขา “หั่วเทียนหรุ่ยลูกหลานนอกตระกูลขอพบผู้อาวุโส!”
เสียงลอยตามลมออกไปไกล จู่ๆ ประตูแร่หินที่อยู่ข้างหน้าสั่นสะเทือน
ทันใดนั้นแสงหนึ่งปรากฏหน้าประตูเขา ผู้อาวุโสห้าปรากฏอยู่ในสายตา
“หั่วเทียนหรุ่ย ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าห้ามเข้ามาในตระกูลตลอดชีวิต! เธออยากโดนกฎของตระกูลใช่ไหม”
หั่วเทียนหรุ่ยไม่พูดอะไรสักคำ แค่เอามุกในมือมอบให้ผู้อาวุโสห้า
ผู้อาวุโสห้ารับมุกมา จากนั้นกำไว้ในมือแน่น ทันใดนั้นภาพเมื่อครู่ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพียงพริบตาเดียว ผู้อาวุโสห้าดูจนจบ จากนั้นเขาพูดด้วยใบหน้ามีรอยยิ้ม “ดี ดีมาก ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง เธอทำเรื่องนี้ได้ดีมากหั่วเทียนหรุ่ย”
หั่วเทียนหรุ่ยพูดเสียงเบาว่า “เทียนหรุ่ยรับปากลู่ฝานว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก ดังนั้นจึงต้องเคารพมุกและให้ผู้อาวุโสตัดสิน”
แววตาผู้อาวุโสห้าฉายประกายประหลาด “ห้ามพูดเรื่องนี้กับใครอีก หั่วเทียนหรุ่ย เธอพักในตระกูลสักระยะ ฉันจะหางานใหม่ให้เธอ ไปเถอะ”
หั่วเทียนหรุ่ยตื่นเต้นจนหน้าแดงทันที ลุกขึ้นอย่างนอบน้อมแล้วออกไป
จู่ๆ ผู้อาวุโสห้าหัวเราะร่า
เสียงหัวเราะดังสนั่นไปทั่วท้องฟ้า