ตอนที่ 995 แข็งแกร่งและไร้เทียมทาน
ณ เมืองของเผ่ากิ้งก่าวายุ
ผู้อาวุโสใหญ่จินอู๋ซูยืนอยู่บนกำแพงเมือง ดวงตาของมันจ้องมองไปยังทิวเขาที่อยู่ไกลตา ความรู้สึกเป็นอันตรายปรากฏขึ้นในจิตใจชัดเจนมากกว่าเดิม
เมื่อวานนี้ พวกมันยังคงถูกฝูงสัตว์อสูรบุกมาโจมตี
หลายวันที่ผ่านมา จำนวนประชากรของเผ่ากิ้งก่าวายุลดน้อยลงไปถึงครึ่งหนึ่ง
“ได้ข่าวว่าพวกคนแคระเขียวก็เจอสถานการณ์เช่นเดียวกับพวกเรา”
ผู้อาวุโสลำดับสองจินปู้โต๋มีสีหน้าเคร่งเครียด “มีเพียงเผ่าจันทราขาวเท่านั้นที่ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย บางทีนี่อาจเป็นแผนการของพวกมันก็เป็นได้”
“ไม่มีทางเด็ดขาด”
ผู้อาวุโสใหญ่ปฏิเสธเสียงแข็ง “บัดนี้ เผ่าจันทราขาวลดความน่ากลัวลงไปมากแล้ว แหล่งอาหารที่เป็นผลไม้สีเขียวของพวกมันกำลังขาดแคลน เพียงอยู่เฉย ๆ ก็ยังอดตาย แล้วจะเอาอะไรมาวางแผนการเล่นงานพวกเราได้อีก?”
“ดูนั่นสิ นั่นมันอะไร?”
บนกำแพง นักรบกิ้งก่าตัวหนึ่งชี้มือไปข้างหน้า
บนเส้นขอบฟ้าห่างไกล กลุ่มมนุษย์ 400 คนกำลังขี่ม้าและสัตว์อสูรบางจำพวกตรงมาทางเมืองของพวกมัน
“นั่นมันพวกเผ่าจันทราขาว”
ผู้อาวุโสลำดับที่สองอุทานด้วยความตกตะลึง “พวกมันกล้าออกมาที่นี่ด้วยหรือ? พวกมันบ้าไปแล้วหรืออย่างไร? เหตุไฉนมนุษย์กลุ่มนี้ถึงไม่หวาดกลัวสัตว์อสูรอีกแล้ว?”
ผู้อาวุโสประจำเผ่ากิ้งก่าวายุหลายตัวมีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปทันที “สถานการณ์ไม่ชอบมาพากล รีบสั่นระฆังแจ้งเตือนให้พวกเราเตรียมสู้รบ”
แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง!
เสียงระฆังดังกังวานไปทั่วเมืองของมนุษย์กิ้งก่า
นักรบกิ้งก่ามารวมตัวกันบนกำแพงเมืองอีกครั้ง ภายใต้การนำของหัวหน้านักรบที่มีหน้าตาดุร้ายยิ่ง
เพียงพริบตาเดียว ชาวเผ่าจันทราขาวทั้ง 400 คนนั้นก็มายืนอยู่ห่างจากกำแพงเมืองไม่ไกลแล้ว
ผู้อาวุโสใหญ่จินอู๋ซูยืนอยู่บนกำแพงเมืองด้วยท่วงท่าสง่าผ่าเผย ดวงตาของมันเป็นประกายระยิบระยับ มันกวาดสายตามองกลุ่มมนุษย์ ก่อนที่ดวงตาจะหยุดจับจ้องชายชราร่างสูงผู้ยืนอยู่ด้านหน้าสุด “ไป๋ไห่เฉา เจ้ายังไม่ตายอีกหรือ? อย่าได้โผล่หัวออกมานอกกำแพงเมืองของพวกเจ้าเลย เจ้าคิดอะไรอยู่ถึงกล้ามาบุกรุกอาณาเขตของเผ่ากิ้งก่าวายุเช่นนี้?”
ฟืด
ไป๋ไห่เฉาสูดหายใจลึก
“จินอู๋ซู เจ้าไม่มีค่าคู่ควรที่จะพูดกับข้า ไปตามจินจงเจ๋อออกมารอรับความตายเดี๋ยวนี้”
เขาโคจรวิชาประจำเผ่าจันทราขาว แล้วร่างกายก็โป่งพองขึ้นมาด้วยกล้ามเนื้อบึกบึน เพียงพริบตาเดียว มนุษย์ตัวเล็ก ๆ กลับขยายร่างขึ้นกลายเป็นมนุษย์ยักษ์สูงมากกว่าเดิมถึงสองเท่า
นี่คือเคล็ดวิชาประจำเผ่าจันทราขาวที่มีชื่อเรียกว่าวิชาขยายจันทร์
“หึหึ ไป๋ไห่เฉา เจ้าคงเสียสติไปแล้วจริง ๆ”
จินอู๋ซูผู้อาวุโสใหญ่ประจำเผ่ากิ้งก่าวายุหัวเราะเยาะ “อย่าคิดว่าเผ่าของพวกข้าได้รับความเสียหายจากการถูกสัตว์อสูรโจมตีเพียงไม่กี่วัน แล้วจะปล่อยให้พวกเจ้าบุกเข้ามาฉวยโอกาสได้สำเร็จ เจ้าไม่รู้เสียแล้วว่ากำลังรนหาที่ตาย พวกเรา…ฆ่าให้หมด”
มันสะบัดมือส่งสัญญาณ
ฟ้าว!
แล้วเสียงหอกเงินก็พุ่งแหวกอากาศ
หอกแหลมจำนวนมากถูกขว้างปาเข้าหาเผ่าจันทราขาว
ไป๋ไห่เฉาเงยหน้ามองท้องฟ้าและระเบิดเสียงหัวเราะ
เขากระแทกหมัดต่อยออกไปข้างหน้า
คลื่นพลังจากกำปั้นที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าพลันพุ่งออกไป
ชายชราหัวหน้าเผ่าที่มีรูปร่างคล้ายกับชาวนาแก่ ๆ ผู้หนึ่ง กลับมีพลังการโจมตีรุนแรงถึงเพียงนี้ และนั่นมาทำให้หลินเป่ยเฉินตื่นตกใจขึ้นมาแล้วจริง ๆ
ไม่แปลกใจเลยที่ตาคนนี้ได้เป็นหัวหน้าเผ่า
เปรี้ยง!
หอกเงินจำนวนมากแตกสลายไปกลางอากาศด้วยพลังหมัดของชายชรา
“เพื่อบรรพชนของพวกเรา”
ไป๋ไห่เฉาส่งเสียงตะโกนกึกก้อง “วันนี้พวกเราจะต้องแก้แค้นให้สำเร็จ”
“ฆ่ามัน”
“แก้แค้น”
“เพื่อบรรพชนของพวกเรา”
ณ ขณะนี้ เหล่านักรบประจำเผ่าจันทราขาวจำนวนมากได้โคจรพลังลมปราณรอมานานแล้ว นี่คือเวลาที่พวกเขาจะได้แสดงเขี้ยวเล็บออกมาอย่างแท้จริง ทุกคนวิ่งตรงเข้าไปที่กำแพงเมืองของพวกมนุษย์กิ้งก่าด้วยความรวดเร็วและว่องไว
“รนหาที่ตายนัก”
จินอู๋ซูพลันกระโดดลงมาจากกำแพงเมือง
ตัวมันลอยอยู่ในอากาศ ในมือถือหอกเขี้ยวมังกร
“ตายซะ”
มันขว้างหอกออกมารวดเร็วปานสายฟ้าฟาด เป้าหมายแห่งการทำลายล้างอยู่ที่กลุ่มมนุษย์ชาวเผ่าจันทราขาว
“นับว่าเป็นหอกที่ประเสริฐ”
ไป๋ไห่เฉายิ้มมุมปากอย่างผู้ที่เหนือกว่า
เปรี้ยง!
ยอดฝีมือขั้นเซียนทั้งสองต่อสู้กันด้วยความดุเดือด คลื่นแรงสั่นสะเทือนทำให้เกิดเหตุการณ์คล้ายกับแผ่นดินไหว แผ่นดินยุบตัว ต้นไม้ใบหญ้าล้มระเนระนาด ฝุ่นผงตลบในอากาศ
เช่นเดียวกับสภาพการต่อสู้หน้ากำแพงเมือง
แต่ไม่นานต่อมา เสียงกรีดร้องโหยหวนจากเหล่านักรบกิ้งก่า ก็ทำให้หัวใจของจินอู๋ซูแทบจะคุ้มคลั่งตายแล้ว
มันหันหน้ามองกลับไปและพบว่าผู้อาวุโสลำดับสองจินปู้โต๋กำลังตกอยู่กลางวงล้อมของผู้อาวุโสจากเผ่าจันทราขาว และหากมนุษย์กิ้งก่าอาวุโสผู้นั้นตัดสินใจผิดพลาดเพียงนิดเดียว มันก็จะถูกไม้เท้ากระดูกขาวในมือของชายชราเหล่านั้นทุบตีจนร่างกายแหลกสลายทันที!
“รองผู้อาวุโส…”
ดวงตาของจินอู๋ซูแทบถลนออกมานอกเบ้า
เสียงกรีดร้องยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้อาวุโสขั้นเซียนของเผ่ากิ้งก่าวายุค่อย ๆ พ่ายแพ้ไปทีละตัวสองตัว
สถานการณ์ย่ำแย่ถึงขีดสุด
“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ไปได้?”
ผู้อาวุโสใหญ่เริ่มตื่นกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
ตัวมันเองก็ถูกโจมตีจนอยู่ในสภาพคับขัน ได้แต่ซวนเซถอยหลังและร้องตะโกนด้วยความเหลือเชื่อ “พวกเจ้าเผ่าจันทราขาวมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่สิ ไป๋ไห่เฉา ไป๋ซานเยว่ พวกเจ้าขึ้นสู่ขั้นเซียนระดับ 5 ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
สถานการณ์ขณะนี้ แตกต่างไปจากการคาดเดาของผู้อาวุโสใหญ่จินอู๋ซูอย่างสิ้นเชิง
“พวกเราถอย รีบถอย…”
“ตามท่านหัวหน้าเผ่าออกมาเถอะ!”
เสียงร่ำร้องโกลาหลดังออกมาจากกลุ่มนักรบกิ้งก่าผู้พ่ายแพ้
พวกมันไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน
และชาวเผ่าจันทราขาวที่จิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความเคียดแค้น ก็ยิ่งต่อสู้ด้วยความดุเดือดอำมหิตยิ่งนัก
“พวกเราถอย ถอยทัพ”
จินอู๋ซูถือหอกเขี้ยวมังกรอยู่ในมือและก้าวถอยหลังอย่างต่อเนื่อง
มันประมาทมากเกินไป
หากรู้เช่นนี้ตั้งแต่แรก มันไม่มีทางออกมานอกกำแพงเมืองเด็ดขาด
แต่บัดนี้ อยากจะเข้าไปหลบอยู่หลังกำแพงเมืองก็ทำไม่ได้เสียแล้ว
ชาวเผ่าจันทราขาวบุกโจมตีต่อเนื่องไม่ให้พวกมันหยุดพักหายใจ
การสังหารเกิดขึ้นไม่หยุดยั้ง
ซากศพของมนุษย์กิ้งก่ากองทับถมกันเป็นภูเขาเลากา พวกมันไม่สามารถต้านทานชาวเผ่าจันทราขาวได้อีกแล้ว
แม้จำนวนนักรบของพวกมันจะไม่ได้น้อยไปกว่าฝ่ายมนุษย์ แต่คุณภาพของนักรบนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ความตายของมนุษย์กิ้งก่าขั้นเซียนระดับ 5 ยิ่งทำให้สถานการณ์ของพวกมันคับขันมากขึ้นทวีคูณ
“ฆ่าพวกมัน แก้แค้นให้บรรพชน”
“แม้แต่เป็ดไก่สักตัวก็อย่าให้เหลือรอด”
บรรดาผู้อาวุโสของเผ่าจันทราขาวร้องตะโกนด้วยใบหน้านองน้ำตา
พวกเขาเคยร้องขอความเมตตาจากมนุษย์กิ้งก่าเหล่านี้ พวกเขาเคยหยิบยื่นให้ความช่วยเหลือมนุษย์กิ้งก่าเป็นอย่างดี แต่พวกมันกลับตอบแทนด้วยการทรยศหักหลัง ความแค้นในอดีต ทำให้ขณะนี้มีผู้อาวุโสจำนวนมากถึงกับร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว
และครั้งนี้จะไม่มีคำว่าปราณีอีกแล้ว
ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!!
เลือดต้องล้างด้วยเลือด
เสียงร้องโหยหวนดังมาจากทุกหนทุกแห่ง
มนุษย์กิ้งก่าล้มตาย
หลินเป่ยเฉินพาไป๋เสี่ยวเซียวขึ้นไปยืนอยู่บนกระบี่และบินสำรวจสนามรบผ่านทางอากาศ
ในมือเขาถือธนูคันหนึ่งและจะยิงลูกศรออกไปเป็นระยะ
ลูกธนูพุ่งแหวกอากาศ
มนุษย์กิ้งก่าจำนวนมากต้องตายด้วยฝีมือการยิงธนูของหลินเป่ยเฉิน
นี่เป็นคันธนูที่เขายึดมาได้จากหัวหน้าองครักษ์ในสถานทูตจักรวรรดิจี้กวง
ทุกครั้งที่เขาเห็นว่านักรบจากเผ่าจันทราขาวกำลังตกอยู่ในอันตราย หลินเป่ยเฉินก็จะยิงลูกศรออกไปช่วยเหลือ
เพียงครึ่งชั่วยามเท่านั้น พวกมนุษย์กิ้งก่าก็ถูกไล่ต้อนกลับเข้าไปด้านในตัวเมือง
ในที่สุด กำแพงเมืองของพวกมันก็ถูกทะลวง
มนุษย์กิ้งก่ากลุ่มสุดท้ายเหลือสมาชิกอยู่เพียงไม่กี่ร้อยตัวเท่านั้น พวกมันไปรวมตัวกันอยู่หน้าวิหารหลังใหญ่ และภายใต้การนำของผู้อาวุโสใหญ่จินอู๋ซู พวกมันก็กัดฟันสู้อย่างผู้ที่เลือดเข้าตา!
“ท่านหัวหน้าเผ่า ทำไมถึงยังไม่ออกมาอีก?”
“ท่านหัวหน้าเผ่า ช่วยพวกเราด้วยขอรับ”
“ท่านหัวหน้าเผ่า พวกเราย่ำแย่แล้ว ได้โปรดรีบออกมาช่วยพวกเราด้วย”
ยอดฝีมือขั้นเซียนของเผ่ากิ้งก่าวายุร้องตะโกนด้วยความหมดหวัง
หัวหน้าเผ่าคือนักรบกิ้งก่าที่มีระดับพลังแข็งแกร่งมากที่สุด มีนามว่าจินจงเจ๋อ มีพลังอยู่ในขั้นเซียนระดับ 6 ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาเอาแต่เก็บตัวฝึกวิชาอยู่ในวิหาร ไม่เคยปรากฏตัวออกมาให้ผู้ใดพบเห็นทั้งสิ้น
นี่คือความหวังสุดท้ายของชาวเผ่ากิ้งก่าวายุ
“ท่านหัวหน้าเผ่า ได้โปรดออกมาช่วยเหลือพวกเราด้วย”
ผู้อาวุโสใหญ่จินอู๋ซูร้องตะโกนอย่างน่าเศร้า
แต่ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง
ในที่สุด ไม้เท้ากระดูกในมือของไป๋ไห่เฉาก็ฟาดใส่จินอู๋ซูจนร่างกายแหลกสลาย
นักรบขั้นเซียนของเผ่ากิ้งก่าวายุถูกล่าสังหารหมดสิ้น
เผ่ากิ้งก่าวายุล่มสลายแล้ว
“เปิดวิหารทำลายรูปปั้น”
ไป๋ไห่เฉาตัวสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น เมื่อเขาออกคำสั่ง รูปปั้นกิ้งก่าในวิหารทุกตัวก็ถูกทุบทำลายไม่เหลือชิ้นดี
ครั้งหนึ่ง พวกมันก็เคยทำลายรูปปั้นเทพเจ้าแห่งแดนรกร้างของพวกเขาเช่นนี้เหมือนกัน
“ทุกคนระวังตัวด้วย หัวหน้าเผ่าจินจงเจ๋อยังคงเก็บตัวอยู่ด้านใน…”
ผู้อาวุโสท่านหนึ่งส่งเสียงเตือนดังกังวาน
ในที่สุด วิหารก็ถูกทำลายหมดสิ้น
พวกเขาค้นพบห้องเก็บตัวใต้ดินห้องหนึ่ง
“เปิดประตู”
ไป๋ไห่เฉาและเหล่าผู้อาวุโสหยิบจับอาวุธเตรียมพร้อมต่อสู้
ครืด!
ประตูหินถูกเลื่อนเปิดออกอย่างช้า ๆ
ทุกคนจ้องมองเข้าไปในห้องลับแห่งนั้น
แล้วพวกเขาก็ต้องเบิกตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ
เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?