ตอนที่ 1046: การต่อสู้เพื่อโถงศักดิ์สิทธิ์ (1)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1046: การต่อสู้เพื่อโถงศักดิ์สิทธิ์ (1)

“เสี่ยวไป๋ต้องการที่จะเอาวัตถุเซียนเข้าไป ถ้าเป็นไปได้ มันจะสามารถเก็บเอาเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ไว้ในวัตถุเซียน จากนั้นมันก็จะนำออกมาได้ น่าเสียดายที่เอาวัตถุเซียนเข้าไปในนั้นไม่ได้” โหยวเยว่พึมพำเบา ๆ นางเข้าใจความต้องการของเสือขาวอย่างรวดเร็ว

วัตถุเซียนหมุน ในขณะที่มันส่องสว่างไปด้วยแสงสีทองอยู่ข้าง ๆ กับดัก ก่อนที่จะกลับไปที่เหนือหัวของโหยวเยว่ มันจำเป็นต้องช่วยให้โหยวเยว่ปลอดภัย

ในมิติของกับดัก เสือขาวอ้าปากออก มันรู้ว่าวัตถุเซียนไม่สามารถเข้ามาในกับดักได้ และมันก็คำรามไปที่กับดักทันที มันดูเหมือนเต็มไปด้วยความฉุนเฉียว

เจี้ยนเฉินเข้าใจในความตั้งใจของเสือขาวตั้งแต่แรกเมื่อเขาเห็นพฤติกรรมของมัน เขาพูด “เสี่ยวไป๋ กับดักที่ขังพวกเราไว้นั้นทรงพลังมาก พวกเราไม่สามารถทำลายมันได้แม้ว่าพวกเราจะร่วมมือกัน ทั้งหมดที่พวกเราจะทำได้คือรอให้ใครสักคนที่ด้านนอกควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ พาโหยวเยว่และคารา ลี่เว่ยเข้าไปในส่วนลึกของโถงทันทีเพื่อที่จะไปยังศูนย์กลางควบคุม”

เสือขาวมองไปที่เจี้ยนเฉิน ในขณะที่เขากำลังพยายามอย่างมากเพื่อที่จะควบคุมพลังบรรพกาลและความกังวลก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของเขา หลังจากนั้น มันก็คำรามเสียงทุ้มออกมา เหมือนว่ามันตกลงกับคำของเจี้ยนเฉิน

“เสี่ยวไป๋ บอกวัตถุจิตวิญญาณหลังที่เจ้าออกไปแล้วว่าไม่ให้เอาผู้อาวุโสรุยจินออกมาไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ทิ้งเขาเอาไว้ในมิติวัตถุเซียน จนกว่าจะได้ออกจากโถงศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งซี่หวังที่ตามข้ามาจากอาณาจักรทะเลก็กำลังฝึกฝนอยู่ในมิติวัตถุเซียน ให้วัตถุจิตวิญญาณติดต่อเขาเพื่อที่จะให้เขาออกมาปกป้องพวกเจ้าทั้งหมดในตอนที่เดินทางลึกเข้าไป…” เจี้ยนเฉินสั่งยาวเหยียดกับเสือขาว คนที่ติดอยู่ในกับดักจะออกไปได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคนด้านนอกเท่านั้น ถ้าพวกเขาพลาด เซียนราชาทุกคนจะต้องตาย

เสือขาวออกจากมิติของกับดักไปพร้รอมกับคำของเจี้ยนเฉิน มันมาถึงด้านนอกและบอกทุกคำที่เจี้ยนเฉินพูดกับวัตถุจิตวิญญาณ

แม้ว่าเสือขาวจะไม่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ แต่วัตถุจิตวิญญาณก็สามารถเข้าใจได้เพราะเขาเป็นวิญญาณ เขาบอกโหยวเยว่และคารา ลี่เว่ยเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของเจี้ยนเฉินทันที

โหยวเยว่หน้าซีดทันทีเมื่อนางรู้ว่าเจี้ยนเฉินกำลังอยู่ในอันตราย ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความกังวลและความเครียด ในขณะที่นางกระวนกระวาย

คารา ลี่เว่ยก็เคร่งเครียด แต่นางก็พยายามมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะควบคุมอารมณ์ นางปลอบโหยวเยว่ “น้องโหยวเยว่ อย่ากังวลไปเลย พวกเรายังมีทางที่จะช่วยเจี้ยนเฉินไม่ใช่หรือ ? ตราบใดที่พวกเราหาศูนย์กลางควบคุมของโถงศักดิ์สิทธิ์พบ พวกเราก็จะสามารถช่วยเจี้ยนเฉินโดยที่เขาไม่ได้รับอันตรายเลยได้”

โหยวเยว่กำมือที่ซีดเหมือนหยกของนางแน่น มือของนางเปียกชื้น แม้ว่ามันจะยังมีทางที่จะช่วยเจี้ยนเฉินได้ แต่พวกเขาจะผ่านอุปสรรค์ต่าง ๆ ของโถงศักดิ์สิทธิ์และไปถึงที่ศูนย์ควบคุมพร้อมกับเซียนผู้คุมกฎพวกนี้ไปได้อย่างไร

เสือขาวได้เข้าไปในวัตถุเซียนและบอกรุยจินเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้านใน รุยจินกำลังเติมพลังงานให้กับหินหยกเพลิงทั้งสามอยู่ ทันใดนั้นเอง เขาก็หยุดสิ่งที่เขากำลังทำเมื่อเขาได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก และเขาก็ขมวดคิ้ว

“รุยจิน มีทางเดียวที่จะช่วยนายท่านได้ และนั่นคือการให้นายหญิงควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์และปิดกับดักซะ นายท่านวางแผนให้เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 จากอาณาจักรทะเลไปด้านนอกเพื่อช่วยนายหญิงในการควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ แต่ข้าไม่เชื่อใจคนคนนี้ เมื่อเขาออกจากมิติวัตถุเซียนไป ข้าก็จะไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้ ข้ามาบอกท่านเป็นพิเศษในครั้งนี้เพื่อที่จะบอกเรื่องคนผู้นี้เผื่อเอาไว้” วัตถุจิตวิญญาณพูดกับรุยจิน

รุยจินตกลงโดยที่ไม่ได้คิดอะไรเพิ่ม “มีวิชาลับมากมายของตระกูลมังกร และมีบางวิชาที่ใช้ควบคุมคนได้ พาคนของตระกูลพันธุ์ทะเลมาที่นี่”

ซี่หวังกำลังทำสมาธิอยู่ ในขณะที่เขากำลังฝึกฝนตามวิธีการฝึกฝนของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปด วัตถุจิตวิญญาณก็ไปเรียกเขาและส่งเขามาที่ข้าง ๆ รุยจิน

“ซี่หวัง นายท่านสั่งให้เจ้าออกไปจากมิตินี้และไปช่วยนายหญิงในการยึดโถงศักดิ์สิทธิ์ทันที อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าทำอะไรบุ่มบ่ามเกินไป พวกเราจำเป็นต้องใส่อะไรบางอย่างลงไปในตัวเจ้า ตราบใดที่เจ้าสนใจแต่ในการช่วยนายหญิง จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้า…” วัตถุจิตวิญญาณอธิบาย เขาอธิบายเรื่องที่ต้องทำและสถานการณ์ด้านนอกให้กับซี่หวัง เพื่อที่เขาจะได้เข้าใจ

ตาของซี่หวังเบิกขึ้นทันทีเมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม เขาเข้าใจพลังของโถงศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างดี และเขารู้ว่าถ้าใครควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ คนผู้นั้นก็จะสามารถต่อกรกับจอมยุทธ 16 ดาวได้ ไม่มีใครที่สามารถจะข่มเหงเจ้าของโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ ถ้าเจ้าของโถงไม่ไปเจอกับเซียนจักรพรรดิเข้า

แม้ว่าโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มจะเย้ายวนต่อซี่หวังมาก แต่เขาก็เลิกคิดและสงบลงอย่างรวดเร็ว เขายังจำสถานการณ์ของเขาในปัจจุบันได้ ดังนั้นเขาจึงต้องข่มความต้องการของเขาเอาไว้ เขาพูด “อย่ากังวลไป ข้าซี่หวัง ไม่ใช่คนที่จะตอบแทนน้ำใจด้วยความเป็นอริ เมื่อเจี้ยนเฉินให้วิธีการฝึกฝนที่ประเมินค่าไม่ได้ของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดแก่ข้าอย่างไม่ลังเล ข้าจะไม่ทำอะไรที่เป็นการทรยศเจี้ยนเฉินในชีวิตของข้า ! ถ้าข้าทำแบบนั้น ข้ายอมที่จะได้รับการลงโทษจนสลายหายไป” ซี่หวังพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา น้ำเสียงของเขานั้นแน่วแน่มาก

“เผื่อเอาไว้ ข้าจะใส่ตราประทับลงไปในตัวเจ้า ถ้าเจ้าทำบางอย่างที่ไม่ควร ข้าจะกำจัดวิญญาณของเจ้าทันที ข้าจะเอามันออกด้วยตัวเองถ้าเจ้าทำงานสำเร็จแล้ว” รุยจินจ้องไปที่ซี่หวังด้วยตาที่สดใส

แม้ว่าซี่หวังจะไม่เคยเห็นรุยจินมาก่อน แต่รุยจินก็ต้องอยู่ข้างเจี้ยนเฉินแน่เมื่อเขามาอยู่ที่นี่ เขายังรู้สึกลาง ๆ ได้ถึงแรงกดดันที่ทำให้เขาสั่น ซึ่งทำให้เขารู้ว่าชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นต้องเป็นจอมยุทธที่ทรงพลังและน่ากลัวแน่

ซี่หวังไม่ได้แสดงการขัดขืนต่อความตั้งใจของรุยจินในการที่จะใส่ตราประทับลงไปในเขา เขารับมันอย่างสงบ เพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่น

หลังจากนั้น รุยจินก็ฝังตราประทับไว้ในวิญญาณของซี่หวังผ่านทักษะลับของตระกูลมังกร ชีวิตของซี่หวังอยู่ในมือของรุยจินด้วยตราประทับนี้ รุยจินแค่คิดก็สามารถทำลายวิญญาณของซี่หวังได้ถ้าเขาทำอะไรเกินเลย

ซี่หวังและเสือขาวออกจากมิติวัตถุเซียนไปและปรากฏขึ้นที่ข้าง ๆ โหยวเยว่ โหยวเยว่รู้จักตัวตนของซี่หวังอย่างละเอียดแล้วจากวัตถุจิตวิญญาณ ดังนั้นนางจึงไม่ตกใจเมื่อเห็นเขา นางแค่สังเกตเขาอย่างสงสัย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่นางพบคนของเผ่าพันธุ์ทะเล

“นี่เป็นผู้หญิงของเจี้ยนเฉินงั้นหรือ ? ข้าไม่คิดเลยว่าความแข็งแกร่งของนางจะแย่ขนาดนี้” ซี่หวังสำรวจโหยวเยว่อย่างสงสัยเช่นกัน แลเขาก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อรู้ถึงความแข็งแกร่งของนาง

“โหยวเยว่ขอคารวะผู้อาวุโสซี่หวัง ขอฝากตัวด้วย” โหยวเยว่คารวะซี่หวังอย่างสุภาพพร้อมทั้งคำนับและไม่ได้เรียกเขาอย่างปกติเหมือนที่เจี้ยนเฉินเรียก

ซี่หวังประทับใจในพฤติกรรมของโหยวเยว่ เขาหัวเราะออกมาดังแล้วพูด “เจ้าคือผู้หญิงของเจี้ยนเฉิน เจ้าไม่ใช่คนอื่นคนไกลซะหน่อย ไม่จำเป็นที่พวกเราต้องสุภาพขนาดนั้น เก็บคำว่าผู้อาวุโสไปเถอะ เรียกข้าว่าซี่หวังก็พอ”

ซี่หวังและโหยวเยว่พูดคุยกันสักพัก ก่อนที่จะพูดถึงปัญหาหลัก หลังจากนั้น พวกเขาก็เข้าไปในส่วนลึกของโถงศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับเสือขาวและคารา ลี่เว่ย

เซียนผู้คุมกฎและเซียนสวรรค์บางคนได้เข้าไปที่ส่วนลึกก่อนที่กลุ่มของพวกโหยวเยว่ออกมา มีเซียนสวรรค์และเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 หลายคนยอมแพ้และออกจากโถงศักดิ์สิทธิ์ไป พวกเขากระจายข่าวเรื่องกับดักทั้งหมดที่ขังเซียนราชาเอาไว้ออกไปด้วย

ยังมีอีกหลายคนที่ลอยอยู่ในคืนที่หนาวเหน็บนอกโถงศักดิ์สิทธิ์ นี่รวมถึงคนจากสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงด้วย ซึ่งนี่ก็รวมถึงท่านประธานและผู้อาวุโสสูงสุด ในขณะที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 ก็ไม่ได้เข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 มีสถานะที่น่ายกย่องในทวีปเทียนหยวน ซึ่งไม่ได้ด้อยไปกว่าเซียนราชาเลย ดังนั้น พวกเขาจึงไม่เคยเข้าร่วมการสังหารหรือต่อสู้ในทวีปเลย ดังนั้นโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มจึงไม่ได้มีประโยชน์กับพวกเขา พวกเขาไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตของพวกเขาเพื่อแย่งชิงโถงศักดิ์สิทธิ์

“อะไรนะ ? เซียนราชาทั้งหมดที่เข้าไปติดกับดัก ? ” คนจากสมาคมและคนอื่น ๆ ในกลุ่มมีท่าทางเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาได้ยินข่าวนี้ พวกเขาทั้งหมดค่อนข้างตกใจ ในขณะที่สายตาของพวกเขาที่มองไปที่โถงศักดิ์สิทธ็เต็มไปด้วยความกลัวมากขึ้น

“กับดักของโถงศักดิ์สิทธิ์มีเป้าหมายเฉพาะเซียนราชาและผู้ที่เหนือกว่าเท่านั้น เซียนสวรรค์และเซียนผู้คุมกฎไม่โดนโจมตีจากโถงศักดิ์สิทธิ์” เซียนสวรรค์ที่เพิ่งออกมาพูดเสียงดัง

หลังจากนั้นเซียนราชาที่รีบเดินทางผ่านประตูมิติมาที่กำลังจะเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ก็หยุดทันที พวกเขาทั้งประหลาดใจและสงสัย

ทันใดนั้นเอง ตาของพวกเขาก็แข็งทื่อและเขาก็จ้องเขม็งไปที่หลังคาของโถงศักดิ์สิทธิ์

ชายวัยกลางคนที่อยู่ในชุดสีขาวกำลังยืนอยู่อย่างภูมิใจที่ยอดโถงศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครรู้ว่าเขาปรากฎขึ้นมาเมื่อไร

ชายคนนี้ดูเหมือนจะหลอมรวมกับรอบ ๆ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน ไม่มีใครเห็นเขา ในขณะที่เขายืนอยู่อย่างอาจหาญบนยอดของโถงศักดิ์สิทธิ์นอกเหนือไปจากเซียนราชา ซึ่งทำให้คนทั่วไปไม่ทันสังเกตเห็นเขาเลย

“มารราคะ ! ” เซียนราชาจำชายคนนี้ได้เพียงแค่มองปราดเดียว และตาของเขาก็หรี่เล็กลงทันที

ในตอนนี้เอง ใบหน้าที่ดูชั่วร้ายของมารราคะกูค่อนข้างซีด เขายืนอยู่ค่อนข้างซีดเซียวบนยอดของโถงศักดิ์สิทธิ์ ในขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง “นางฟ้าเฮายู่นั้นสิ้นเปลืองจริง ๆ ที่ไปเอาวัตถุดิบจากดวงจันทร์มาสร้างโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังแบบนี้ พลังแสงจันทร์ในโถงศักดิ์สิทธิ์นี้ทั้งแปลกและทรงพลัง อีกทั้งความแข็งแกร่งของมันก็เทียบไม่ได้กับโถงศักดิ์สิทธิ์ธรรมดา แม้ว่าข้าต้องการจะทำลายมัน มันก็คงจะยากมาก”

“น่าเสียดายที่พลังงานดั้งเดิมนั่นทำให้ข้าบาดเจ็บครั้งก่อน พลังงานดั้งเดิมนี้ทรงพลังเกินไป ข้าไม่สามารถฟื้นตัวได้ในเวลาอันสั้นและความแข็งแกร่งของข้าก็ลดลงอย่างมาก ไม่เช่นนั้น ข้าก็อยากจะเห็นว่านางฟ้าเฮายู่ได้เตรียมอะไรไว้ตั้งหลายปีในโถงศักดิ์สิทธิ์” มารราคะพูดด้วยความเสียดาย หลังจากนั้นเขาก็หายไป