ทันทีที่คำนับลงไป ร่างของเว่ยยางจื่อก็สั่นสะเทือนรุนแรง แล้วพ่นเลือดคำใหญ่ออกมาทันที
ภาพนี้ หวังเป่าเล่อดูไม่ค่อยเข้าใจอยู่สักหน่อย แต่กลับไม่ได้ส่งผลต่อการรับรู้ของเขา หลังจากจักรพรรดิแห่งความมืดคำนับครั้งที่สาม ก็คล้ายจะมีพลังที่อยู่เหนือการรับรู้ของเขาส่งผลต่อทุกสิ่งทุกอย่างโดยรอบ และก็เพราะพลังสายนี้เองที่ทำให้เว่ยยางจื่อบาดเจ็บสาหัสในพริบตา
และเมื่อเว่ยยางจื่อบาดเจ็บสาหัส การสลายของปราณมืดในอวกาศผืนนี้จึงล่าช้า ขณะเดียวกัน แหล่งที่มาของปราณมืดที่รุนแรงยิ่งกว่าก็ระเบิดออกมา และแหล่งที่มานี้…ไม่ได้อยู่รอบๆ แต่อยู่ที่…ภายในร่างของเว่ยยางจื่อ!
“คำนับครั้งที่สามของจักรพรรดิแห่งความมืดช่างดีนัก!” สีหน้าของเว่ยยางจื่อไม่น่ามอง ร่างกายถอยหลังเร็วรี่ แต่กลับกระอักเลือดออกมาไม่หยุดอย่างไม่อาจควบคุม ยิ่งกว่านั้นคือไม่อาจสะกดกลั้นปราณมืดมหาศาลที่พวยพุ่งออกมาจากภายในร่างของเขาตอนนี้ได้ด้วย
ถ้าหากกล่าวว่าคำนับครั้งแรกคือเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นความมืด คำนับครั้งที่สองบุปผาดำเบ่งบาน เช่นนั้นคำนับครั้งที่สาม…ก็คือพลิกผันเป็นตาย ปลูกฝังแหล่งกำเนิดความมืด บังคับให้ร่างที่ถูกปลูกฝังเปลี่ยนเป็นร่างแห่งความมืด
ตอนนั้นจักรพรรดิแห่งความมืดก็เคยใช้วิชานี้ เพียงขาดไปนิดเดียวก็จะสำเร็จแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังพ่ายแพ้ มาวันนี้เขาใช้ออกมาอีกครั้ง ทำให้ปราณมืดภายในร่างของเว่ยยางจื่อพลิกตลบรุนแรง ถึงขั้นที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าร่างกายของเขากำลังแห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็ว
ความตายกำลังอยู่บนร่างของเขา ครอบงำพลังชีวิตของเขา ราวกับการกลายเป็นความมืดนี้ไม่อาจย้อนกลับได้
แค่ใช้การคำนับครั้งที่สามออกมาก็เห็นได้ชัดว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนสูงมาก เพราะเดิมทีร่างกายของจักรพรรดิแห่งความมืดเป็นเถ้าเพียงส่วนเดียว แต่ตอนนี้ร่างกายส่วนใหญ่ของเขากลับกลายเป็นเถ้าอย่างช้าๆ แล้วกระจายออกไปข้างนอก
แม้ว่าพอมองจากไกลๆ ยังพอจะเห็นเป็นรูปร่างอยู่ แต่ก็จินตนาการได้เลยว่าคงอยู่ได้อีกไม่นาน ทว่าในดวงตาของเขากลับไม่มีคลื่นความรู้สึกผันผวนเลยสักนิด เพียงจ้องมองไปยังเว่ยยางจื่อราวกับจะหยิบยืมโอกาสการฟื้นคืนชีพครั้งนี้มาลากเว่ยยางจื่อให้ลงหลุมไปพร้อมกับตนให้ได้ และสำหรับเขา มันก็เพียงพอแล้ว
“จักรพรรดิแห่งความมืด ถ้าหากเจ้ายังสามารถใช้ได้แค่ของพวกนี้ล่ะก็ เช่นนั้น…เจ้าก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าอยู่ดี” เว่ยยางจื่อสัมผัสได้ถึงความเดือดพล่านของแหล่งกำเนิดความมืดภายในร่างของเขา สัมผัสได้ถึงพลังชีวิตกำลังถูกสับเปลี่ยนเป็นปราณมืดที่มีอยู่กว่าครึ่งในร่างของเขาอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขาเอ่ยพูดช้าๆ อาภรณ์เหลืองบนร่างของเขาก็ขาดกระจายทันที
เมื่อมันกลายเป็นเศษซากกระจายไปทั่ว มงกุฏจักรพรรดิบนศีรษะเขาก็พังทลายไปเอง ไม่มีมงกุฏจักรพรรดิและอาภรณ์เหลืองแล้ว ชั่วขณะนี้ จิตจักรพรรดิของเว่ยยางจื่อที่ทั้งร่างสวมเพียงชุดขาวกลับไม่เพียงไม่ลดลงเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงได้เข้มข้นยิ่งกว่าเดิมขึ้นมาได้
“ข้าคือจักรพรรดิ เป็นนิรันดร์ไม่แหลกสลาย!” ชั่วพริบตาที่คำพูดสงบนิ่งดังออกมาจากปากเขา เต๋าสวรรค์แห่งตระกูลไม่รู้สิ้น ด้วงเกราะทองที่กำลังต่อสู้อยู่กับปลาดำก็กรีดร้องคำรามเสียงแหลมไปทั่วอวกาศ ชั่วอึดใจร่างกายของมันก็กลายเป็นลำแสงนับไม่ถ้วน กลายเป็นทะเลแสง ส่งเสียงร้องหวีดหวิวพุ่งไปยังเว่ยยางจื่อ
ภายในทะเลแสงแห่งนั้นมีลำแสงมากมายนับไม่ถ้วน และลำแสงทุกสาย…ล้วนเป็นวิชาเต๋า!
มันคือกฎพลังและกฎเกณฑ์ทั้งหมดที่อยู่ภายในจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้น ตอนนี้ต่างพากันผสานเข้าไปในร่างของเว่ยยางจื่อ ทำให้จิตจักรพรรดิบนร่างของเว่ยยางจื่อปะทุออกมาจนถึงขีดสุดในชั่วพริบตา
จักรพรรดิ ควรเป็นผู้เฝ้ามองฟ้าดิน!
จักรพรรดิ ควรปกครองสายธารดวงดาว!
จักรพรรดิ ควรสยบสรรพสิ่ง!
ไม่ว่าจะเป็นเต๋า หรือวิชา หรือว่ากฎ ทุกอย่างล้วนสมควรจะอยู่ภายใต้สายตาของเขา ตอนนี้มันเข้ามารวมกันคล้ายกับความสมบูรณ์แบบ ทำให้บนร่างของเว่ยยางจื่อมีประกายแสงเจิดจ้าแรงกล้าสาดส่องออกมาเช่นเดียวกัน
นี่ไม่ใช่เต๋าแห่งแสง แต่เป็นหมื่นเต๋ารวมกาย หมื่นเต๋ารวมจิต พลานุภาพและพลังของเขาก็พลันระเบิดออกมาในชั่วขณะนี้เอง ปราณมืดภายในร่างถูกสยบลงไปโดยพลัน ส่วนแหล่งกำเนิดความมืดที่ถูกการคำนับครั้งที่สามปลูกฝังลงไปก็ราวกับเหี่ยวเฉา มันกระจัดกระจายอย่างรวดเร็วแล้วถูกชะล้างจนสะอาดถึงที่สุด
แต่ในชั่วขณะนี้เอง จักรพรรดิแห่งความมืดที่ร่างกายเกินครึ่งกลายเป็นเถ้าถ่าน ถึงขั้นที่ไม่อาจคงรูปลักษณ์ให้สมบูรณ์ได้ เขากลับหันหน้าไปมองเฉินชิงจื่อที่ก้มหน้าอยู่อย่างล้ำลึก จากนั้นราวกับสูดลมหายใจเข้าลึก แววตาเผยความเด็ดเดี่ยว แล้วคำนับลงไปหาเว่ยยางจื่อ!
นี่ก็คือ…การคำนับครั้งที่สี่!
ไม่เคยมีมาก่อน ปีนั้นก็ไม่ได้ใช้ออกมา…การคำนับครั้งที่สี่!
การคำนับครั้งนี้เพียงเกิดขึ้นได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ร่างกายของจักรพรรดิแห่งความมืดก็เกิดเสียงดังสนั่น คล้ายกับการพลังทลายจากข้างใน เขากลายเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างของเขาสลายจนสมบูรณ์ แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้…เถ้าถ่านที่มองรูปร่างไม่ออกกลับคล้ายจะก้มคำนับครั้งที่สี่…ได้สำเร็จ!
ทั้งยังมีเสียงของความโชกโชนผันผวนดังออกมาจากความว่างเปล่าแล้วสะท้อนก้องอยู่ในอวกาศรางๆ
“ผนึกจักรพรรดิ!”
การผนึกนี้ไม่ได้มีเจตนายึดบัลลังก์ แต่เป็นผนึกของตราผนึก!
พริบตาที่เอ่ยออกมา ร่างกายของเว่ยยางจื่อสั่นสะท้าน เมื่อเขาพลันเงยหน้าขึ้น กองขี้เถ้าที่รวมกันเป็นมัดยาวก็ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าอยู่ข้างตัวเขา แล้วเข้ามาพันรัดเว่ยยางจื่อทันใดโดยอาศัยดวงจิตที่ไม่มีทางขวางได้เป็นพื้นฐาน
ไม่ว่าเว่ยยางจื่อจะล่าถอยเช่นไร หมื่นเต๋าหมื่นวิชาภายในร่างจะระเบิดออกมาอย่างไร ก็ไม่อาจขัดขวางมัดยาวสายนี้ได้เลยสักนิด ในชั่วอึดใจ เขาก็ถูกมัดยาวที่เกิดมาจากเถ้าถ่านนี้พันมัดร่างกายไว้ทันทีแล้วกลายเป็นอักขระโบราณขนาดมหึมา
อักขระโบราณนี้ ใครก็ตามที่มองเห็น สมองก็จะมีตัวอักษรหนึ่งลอยขึ้นมาพร้อมกับเสียงสะเทือนลั่นในวิญญาณเทพ
ผนึก!
“น่าขัน!” สีหน้าของเว่ยยางจื่อไม่น่ามอง ประกายแสงในดวงตาส่องวาบ กำลังจะใช้วิชาจักรพรรดิของตนออกมา แต่ขณะนั้นเอง แม่น้ำแห่งความมืดก็ปรากฏขึ้นในอวกาศคล้ายถูกชักพา มันซัดกระหน่ำราวกับผลักภูเขาพลิกทะเล ขณะที่เว่ยยางจื่อหน้าเปลี่ยนสีรุนแรง พวกมันก็บรรจบกันอยู่ข้างตัวเขาทันทีแล้วไหลเข้าไปในอักขระโบราณที่เป็นตัวแทนผนึกแห่งนั้น!
จึงทำให้อักขระโบราณสว่างไสว ระเบิดประกายแสงน่าสะพรึงออกมาทันใด คล้ายกับมีชีวิตขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น!
หลังจากผนึกที่ใช้การสิ้นชีพของจักรพรรดิแห่งความมืดเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนนี้หลอมรวมเข้าไปในแม่น้ำแห่งความมืดแล้ว ความยิ่งใหญ่ของอานุภาพกดดันที่เกิดขึ้นมาก็เหนือยิ่งกว่าจินตนาการ และทำให้ความรู้สึกของเว่ยยางจื่อเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรกในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
สิ่งที่ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปไม่ใช่แค่ผนึกกับแม่น้ำแห่งความมืดเท่านั้น แต่ยังมี…เฉินชิงจื่อที่เอาแต่ก้มหน้ายืนอยู่กลางอวกาศ และชั่วขณะนี้กำลังเงยหน้าขึ้นช้าๆ พร้อมยกมือขึ้นมา
ในมือของเขาไม่มีกระบี่ไม้ แต่ในสายตาของเว่ยยางจื่อราวกับมองเห็น…เงากระบี่ไม้ ควบแน่นขึ้นออกมาจากภายในร่างกายของเฉินชิงจื่อ
“มันจบแล้ว” เฉินชิงจื่อพึมพำ มือขวาที่ยกขึ้นมาปล่อยลงไปตามใจ และพริบตาที่มันตกลงไป เว่ยยางจื่อก็คำรามเสียงต่ำ ดิ้นรนสุดพลัง ส่วนลึกในดวงตายิ่งเผยให้เห็นความไม่เชื่อและไม่ยินยอมออกมา
แต่กลับไร้ประโยชน์ ต่อจากนั้น…ปราณกระบี่สะเทือนฟ้าราวกับจะฉีกกระชากอวกาศให้ได้ มันฟาดฟันจักรพิภพแล้วเคลื่อนเข้ามา ก่อนวาบผ่านหว่างคิ้วของเว่ยยางจื่อในพริบตา
ร่างกายของเว่ยยางจื่อสั่นสะท้าย ที่หว่างคิ้วมีรอยแยกหนึ่งเส้น เขานิ่งงันไป ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น มองไปยังเฉินชิงอย่างล้ำลึก ทันใดนั้นมุมปากก็เผยรอยยิ้มออกมา
รอยยิ้มนี้หายไป…ในพริบตา
เพราะชั่วขณะนี้ร่างกายของเขา…ระเบิดออกมาตรงๆ แล้วกลายเป็นเถ้าถ่าน กระจัดกระจายไปทั้งแปดทิศ และเมื่อมันสลายไป เส้นสายที่เกิดจากกฎเกณฑ์พลังเต๋าทั้งหลายก็หลุดออกมาจากจุดที่ร่างกายของเขาพังทลาย จากนั้นเมื่อเกิดเสียงร้องคำรามของปลาดำจากสำนักแห่งความมืดกลางอวกาศ เส้นสายเหล่านี้ก็พุ่งทะยานไปหาปลาดำ
เว่ยยางจื่อตาย เต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นแตกสลาย อวกาศในตอนนี้มีเพียงเต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืดเท่านั้น ดังนั้นในตอนนี้ กฎเกณฑ์พลังไร้เจ้าของเหล่านี้จึงรวมเข้าด้วยกัน กำลังจะเข้าไปใกล้ปลาดำและกำลังจะถูกดูดซับไปแล้ว
“รอเดี๋ยว!” เมื่อหวังเป่าเล่อเห็นภาพนี้ ในใจก็สั่นสะท้าน เขามองเห็นรอยยิ้มก่อนตายของเว่ยยางจื่อ ความจริงต่อให้ไม่มีรอยยิ้มนี้ ที่ส่วนลึกภายในใจของเขาก็ยังมีข้อสงสัยอย่างหนึ่งผุดขึ้นมาอยู่ดี
นั่นก็คือ…ตั้งแต่ต้นจนจบ เว่ยยางจื่อคล้ายจะตายไปง่ายเกินไปแล้ว!!
ดูเหมือนจะยากลำบาก แต่ความจริงแล้ว…ราวกับอีกฝ่ายให้ความร่วมมือด้วย ตอนนี้เมื่อเห็นเส้นสายของกฎเกณฑ์พลังวิชาเหล่านั้นแล้ว ความรู้สึกแบบนี้ในใจของเขาก็ยิ่งแรงกล้ามากขึ้น
“ไม่เป็นไร ข้าเดาแผนการของเขาได้ นี่คืออุบายของเขา และเป็น…เรื่องที่ข้ารอคอยมานานแล้ว ข้าอยากจะรู้ว่า เต๋าของข้า…ที่แท้มันคืออะไรกันแน่ เป่าเล่อ ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย” เฉินชิงจื่อเอ่ยเสียงเบา จ้องมองหวังเป่าเล่อคราหนึ่ง รอยยิ้มอ่อนโยน ยกมือขวาขึ้นโบก ทันใดนั้นปลาดำเต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืดก็อ้าปากกว้าง กลืนเข้าไปพร้อมเสียงคำรามลั่น…
เส้นสายของกฎเกณฑ์กฎพลังทั้งหมดเข้าไปในปากของมันทันที!
……………