บทที่ 833 สั่งสอนซุนจื้อเจียว

The king of War

แม้แต่ตระกูลเฉาที่อยู่เบื้องหลังตระกูลซุน หยางเฉินก็ยังไม่กลัว นับประสาอะไรแค่รุ่นหลานของตระกูลซุน?

“ไอ้หนุ่ม นายช่างจองหองนัก ในอาณาเขตของฉัน นายเป็นคนแรกที่กล้าพูดกับฉันแบบนี้”

ซุนจื้อเจียวไม่ได้กังวลว่าแม้แต่น้อยว่าหยางเฉินจะทำอะไรเธอ นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งของโซฟา จุดซิการ์คิวบาให้ตัวเองหนึ่งม้วน

ไขว้ขาสองข้าง เผยร่างออกมา เธอก็ไม่สนใจ

แต่ตาที่มองหยางเฉินเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างแรงกล้า

หยางเฉินไม่สนใจ แต่พูดกับเซี่ยเหอว่า “คุณใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อน”

เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน เซี่ยเหอถึงได้สติว่า ตอนนี้ตัวเองเปลือยกายอยู่

เมื่อกี้อารมณ์รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ตอนที่ ลุกขึ้นนั่งพูด ผ้าห่มก็หลุดออกมา เผยให้เห็นสิ่งที่ไม่สามารถบรรยายได้ของร่างกายส่วนบน

เซี่ยเหอรีบเข้าไปในผ้าห่ม หยางเฉินหันหลังให้กับเธอ

ไม่นาน เซี่ยเหอก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย แก้มของเธอยังมีสีแดงเล็กน้อย

แม้ว่าจะถูกซุนจื้อเจียวมองจนทั่วร่าง แต่ก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เธอก็ไม่ได้อายมาก

แต่เมื่อกี้หยางเฉินเห็นร่างกายส่วนบนของเธอจนหมด แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกเขินอาย หัวใจเต้นแรง

ในเวลานี้ เธอก็ตื่นตัวมากขึ้นแล้ว และอาการวิงเวียนศีรษะก็ลดลงด้วย

“ฉันพร้อมแล้ว!”

ทันใดนั้นเซี่ยเหอก็พูดขึ้น

จากนั้นหยางเฉินถึงหันหลังกลับ เทน้ำร้อนหนึ่งถ้วยแล้วนำไปให้เซี่ยเหอ “คุณดื่มน้ำร้อนสักถ้วยก่อน”

เซี่ยเหอเหมือนสะใภ้ตัวน้อยที่เชื่อฟัง หยิบถ้วยขึ้นมาดื่มอย่างว่าง่าย ดื่มไปครึ่งหนึ่ง

ซุนจื้อเจียวกำลังจะเป็นบ้า หยางเฉินเมินเขาไปเลย เขาแทบไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลย

“ไอ้สารเลว! ฉันกำลังพูดกับนายอยู่ นายไม่ได้ยินเหรอ?”

ซุนจื้อเจียวตะโกนด้วยความโกรธ

ตามด้วยสายตาเธอก็มองไปที่เซี่ยเหออีกครั้ง กัดฟันพูดว่า “เซี่ยเหอคุณคิดว่าผู้ชายของคุณมาที่นี่จริงๆแล้ว ก็สามารถทำอะไรกับฉันได้เหรอ?”

“ฉันจะบอกคุณให้ ถ้าวันนี้เขาไม่คุกเข่าขอโทษ ฉันไม่เพียงไม่ปล่อยเขาไปเท่านั้น แม้แต่คุณ ก็จะไม่มีวันปล่อยไป”

“เมื่อฉันเล่นจนเบื่อ ก็จะให้คุณอยู่ในร้านอาหารหนานเซียงหยวนตลอดไป และปล่อยให้ผู้ชายนับไม่ถ้วนมาย่ำยีเธอ ของต่ำ”

ใบหน้าของเซี่ยเหอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ยังไม่ทันพูด ก็ได้ยินหยางเฉินพูดว่า “ถ้าคุณกล้าพูดเรื่องไร้สาระอีกประโยค ตอนนี้ผมก็จะให้คุณเห็นฤทธิ์เดชบ้าง”

“ไอ้สาระเลว นี่นายขู่ฉันเหรอ?”

ซุนจื้อเจียวตระโกนพูด

“เพี้ยะ!”

ทันทีที่เธอพูดจบ หยางเฉินก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธอเหมือนวิญญาณ ตบฝ่ามือลงบนหน้าของเธอ

“ซุนซวี่ สั่งสอนคุณแบบนี้เหรอ ไอ้สารเลวชิงหมาเกิด?”

สีหน้าของหยางเฉินดุร้าย และเขาก็ตบหน้าซุนจื้อเจียวอีกครั้ง และพูดอย่างโมโหโกรธ ผมไม่ได้ต่อต้านรักร่วมเพศ แต่คุณกล้าบังคับเพื่อนของผมให้เป็นผู้หญิงของคุณ นี่มันไม่ได้!”

“เพี้ยะ!”

หยางเฉินตบเธออีกครั้ง “ยังกล้าที่จะข่มขู่เพื่อนของผม ยังจะให้เธออยู่ในร้านอาหารหนานเซียงหยวนตลอดไป และปล่อยให้ผู้ชายนับไม่ถ้วนมาย่ำยีเธอด้วย?”

“เพี้ยะ!”

มือของหยางเฉินยังคงโบกไม่หยุด ตบหนึ่งทีก็ตามด้วยคำถามหนึ่งประโยด

ตบติดต่อกันหกเจ็ดฝ่ามือใบหน้าที่สวยงามแต่เดิมของซุนจื้อเจียว ขณะนี้แก้มบวมสูงขึ้นทั้งสองข้าง

เซี่ยเหอที่อยู่ด้านข้างตกตะลึง

ยังไงก็คิดไม่ถึงว่า หยางเฉินจะตบซุนจื้อเจียวจริงๆ และยังตบหลายครั้งด้วย

ซุนจื้อเจียวก็ถูกตบจนมึนงงเช่นกัน เธอมีตระกูลซุนอยู่เบื้องหลังและมีอำนาจอันยิ่งใหญ่ในตระกูลซุน เธอเคยถูกตบหน้าเมื่อไหร่กัน

วันนี้ไม่เพียงโดนตบ แต่ยังโดนตบติดต่อกันหลายครั้งด้วย

“อ้า…ฉันจะฆ่านาย!”

ซุนจื้อเจียวจู่ๆก็ตะโกนออกมา และกัดฟันเปิดกรงเล็บพุ่งเข้าหาหยางเฉิน

“ปัง!”

หยางเฉินไม่ได้ตามใจเธอแม้แต่น้อย เตะทีเดียวจนเธอกระเด็นออกไป

ผ้าขนหนูบนตัวของซุนจื้อเจียวก็ลื่นหลุดลงมา และร่างกายที่บอบบางของเธอก็ถูกเปิดเผยต่อสายตาของหยางเฉิน

เธอเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ รูปร่างก็ดีมาก

หยางเฉินมองดูสองสามรอบโดยไม่รู้ตัว

“หยางเฉิน!”

ทันใดนั้น เซี่ยเหอก็ส่งเสียง หยางเฉินถึงได้สติ รีบถอนสายตากลับ และพูดอย่างอึดอัดเล็กน้อย “ผู้หญิงคนนี้ต้องได้รับการสั่งสอน”

พูดจบ เขาก็หยิบโยนเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นไปให้ และพูดอย่างเย็นชาว่า “รูปร่างของคุณน่าเกลียดเกินไป สวมเสื้อผ้าของคุณเร็วๆ จะได้ไม่อายคนอื่น”

ถูกหยางเฉินตบไปหลายครั้ง และถูกหยางเฉินเตะกระเด็นออกไป

ตอนนี้ หยางเฉินก็บอกว่าร่างกายเธอน่าเกลียดมาก ซึ่งเป็นการดูถูกเหยียดหยามตัวเองที่สุด

แต่ตอนนี้เธอไม่มีทางจัดการกับหยางเฉินได้ เธอทำได้แค่สวมเสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อยก่อน

ไม่นาน ซุนจื้อเจียวก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย

“ไอ้หนุ่ม นายกล้าตบฉัน ฉันจะไม่ปล่อยนายไปแน่!”

ซุนจื้อเจียวพูดอย่างโกรธจัด

ต้องยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้ ดื้อรั้นมาก เธอถูกหยางเฉินตบหลายครั้ง และยังถูกเตะ ไปหนึ่งที ถึงกลับยังกล้าข่มขู่อีก

ดวงตาของหยางเฉินหรี่ลงเล็กน้อย ผู้หญิงประเภทนี้ บางครั้งยังอันตรายกว่าผู้ชายพวกนั้นเสียอีก

“คุณอยากตายขนาดนี้เลยเหรอ?”

ทันใดนั้นหยางเฉินก็มีเจตนาฆ่าเกิดขึ้น

เมื่อถูกหยางเฉินจ้องมองด้วยสายตาอาฆาต ซุนจื้อเจียวก็ร่างสั่นสะท้าน ในที่สุดก็รู้สึกถึงความหวาดกลัว

“ฉันเป็นคนของตระกูลซุน และเจ้าบ้านของตระกูลซุนซุนซวี่เป็นลุงของฉัน ถ้าคุณกล้าแตะต้องตัวฉัน ลุงของฉันจะไม่ปล่อยคุณไว้แน่”

ซุนจื้อเจียวรู้สึกผิดเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงทำได้แต่เอ่ยถึงซุนซวี่ที่มีอำนาจที่สุดเพื่อทำให้ หยางเฉินตกใจ

เพียงแต่ สิ่งที่ทำให้เธอผิดหวังคือ ตัวเองอุตส่าห์เอ่ยชื่อซุนซวี่ออกมาแล้ว หยางเฉินถึงกลับไม่กลัวเลยสักนิด

ตรงกันข้าม ในสายตาของหยางเฉินมีความสนุกเล็กน้อย

“คุณไม่ต้องรีบร้อน ผมแจ้งซุนซวี่ให้มาที่นี่แล้ว คาดว่าเขาคงใกล้จะถึงแล้วล่ะ”

หยางเฉินหัวเราะเย็นชา “คุณควรจะหาคนที่มีพื้นหลังใหญ่กว่าซุนซวี่ออกมา ไม่งั้นคนที่ต้องคุกเข่าขอความเมตตาจะเป็นคุณเท่านั้น”

ซุนจื้อเจียวขมวดคิ้วอย่างกะทันหัน ซุนซวี่ก็เป็นที่พึ่งที่ใหญ่ที่สุดของเธอ แต่ตอนนี้กลับถูกหยางเฉินดูหมิ่นอย่างมาก

“ฮึ!”

ซุนจื้อเจียวไม่เชื่อคำพูดของหยางเฉินเลยสักนิด และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุยโม้โอ้อวดจริงนะ อาศัยนาย ก็สามารถเรียกลุงของฉันมาได้เหรอ?”

“แม้ว่านายจะโทรเรียกมาได้ แต่ถ้าเขารู้ว่านายตบฉัน เขาจะไม่มีวันปล่อยนายไปเด็ดขาด”

หยางเฉินหัวเราะเย็นชา“จริงเหรอ?”

ทันทีที่เขาพูดจบ นอกประตูก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นอย่างตื่นตระหนก

ในวินาทีต่อมา ชายวัยกลางคนก็เข้ามาอย่างเร่งรีบ

“คุณหยาง ขอโทษ ผมมาช้าไป!”

คนที่มาคือซุนซวี่จริงๆ พอเห็นหยางเฉิน เขารีบคุกเข่าและอ้อนวอนอย่างขมขื่น “คุณหยาง ขอร้องท่านใจกว้างเมตตา ปล่อยหลานสาวของผมไปสักครั้งเถอะ!”

เมื่อเห็นซุนซวี่คุกเข่าลงทันทีที่เห็นหยางเฉิน สีหน้าของซุนจื้อเจียวก็หยุดนิ่งโดยสิ้นเชิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

เซี่ยเหอก็ตกตะลึง แม้ว่าเธอจะไม่ทราบตัวตนของซุนซวี่ แต่จากคำพูดของซุนซวี่ เธอก็เดาได้ว่าฐานะของอีกฝ่ายไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

หยางเฉินมองไปที่ซุนซวี่อย่างเย็นชาและพูดว่า “ผมโทรหาคุณเป็นอันดับแรกโดยหวังว่าคุณจะสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้ แต่ตอนนี้ผมได้จัดการแล้ว คุณมาทำอะไรที่นี่อีก?”

ซุนซวี่ยกมือขึ้นตบตัวเอง กัดฟันแล้วพูดว่า “คุณหยาง ผมสมควรตาย มันเป็นความผิดของผมเอง ที่ไม่ได้มาที่นี่ ก่อนที่ท่านจะจัดการเรื่องต่างๆ เป็นความผิดของผม”

ซุนจื้อเจียวยิ่งหวาดกลัวขึ้นไปอีก หัวหน้าตระกูลซุน ผู้ซึ่งอยู่สูงส่งในสายตาของเธอ คุกเข่าลงต่อหน้าหยางเฉิน และร้องขอความเมตตา ในเวลานี้ถึงกลับตบหน้าตัวเอง

แค่ตบหน้า ก็อยากจะแก้ปัญหานี้เหรอ?”

หยางเฉินถามด้วยเสียงเย็นชา

“เพี้ยะ! เพี้ยะ! เพี้ยะ!”

ซุนซวี่ไม่พูดอะไร ยกมือขึ้นและตบตัวเองอีกสามครั้ง