คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1752

’เวร’

จูปาเจี๋ยพูดไม่ออกเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาจ้องหยางเจียนนิ่งอยู่นาน

เรื่องเป็นแบบนี้นี่เอง

แต่ว่าเขาไม่ได้เจอกับฉางเอ๋อ แล้วพวกเขาจะไปนัดพบกันได้ยังไง?

“อะไร?” หยางเจียนเอ่ยหยัน “ความสัมพันธ์ของเจ้ากับพระมเหสีฉางเอ๋อโดนเปิดโปงแล้ว เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก?”

เฮ้อ

จูปาเจี๋ยเกาหัวและยิ้มอย่างขมขื่น “ก็ได้ ข้ายอมรับว่าข้ามีสัมพันธ์กับพระมเหสีฉางเอ๋อ แต่จะจับข้าก็คงไม่ง่ายหรอก”

เขายิ้มกว้าง ตอนนี้เขาตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก

จูปาเจี๋ยหลงเสน่ห์ฉางเอ๋อมานานแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเย้าแหย่เธอเมื่อพันปีก่อนและทำให้จักรพรรดิโฮ่วอี้ขังเขาไว้

แต่เขาก็จะยอมรับถ้าหากว่ามันทำให้เขาได้เกี่ยวข้องกับฉางเอ๋อไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

ดังนั้นเมื่อหยางเจียนบอกว่าเขาแอบนัดพบกับฉางเอ๋อ จูปาเจี๋ยจึงไม่โกรธ แต่กลับตื่นเต้นดีใจแทน

จูปาเจี๋ยตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไรเขาจะยอมลงเรือลำเดียวกับฉางเอ๋อ หากว่าเขายืนกรานว่านัดพบกับเธอ ก็คงจะยิ่งทำให้เข้าใกล้เธอได้ง่ายขึ้น

จูปาเจี๋ยยกยิ้มเมื่อเขาคิดเรื่องนี้ ในใจเขาตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก

ขวับ

สายตาของหยางเจียนเฉียบคมราวสายฟ้า เขาต้องจูปาเจี๋ยเขม็ง “งั้นก็เป็นเจ้าจริง ๆ สินะ”

จากนั้นหยางเจียนก็กำกระบี่สองคมสามแฉกแน่น และเสียงเย็นชาของเขาก็ได้ยินดังไปทั่วทั้งปราสาท “จูปาเจี๋ย เจ้าสวะ! เจ้าล่อหลอกเทพธิดาฉางเอ๋อและสังหารจักรพรรดิโฮ่วอี้ เจ้าคนทรยศ เจ้าสมควรต้องโดนลงโทษ ในฐานะจักรพรรดิคนที่สามของทวีปโมอาน่าเหนือ ข้าขอสาบานต่อสวรรค์ว่าข้าจะสังหารจูปาเจี๋ยด้วยตัวเองเพื่อปลอบประโลมวิญญาณของจักรพรรดิองค์กรบนสวรรค์”

ขวับ

หยางเจียนยกกระบี่สองคมสามแฉกขึ้นมาช้า ๆ เพราะมันปล่อยรังสีที่รุนแรงออกมา เมฆฝนมารวมตัวกันกะทันหันบนท้องฟ้าเหนือเมืองหลวง ราวกับว่าจะเป็นวันสิ้นโลก

พลังของสุดยอดปรมาจารย์เอ้อหลางนั้นไม่มีใครเทียบเทียมได้

เมื่อเขาโกรธ ท้องฟ้าก็พลันเปลี่ยนสี

เฮือก

ทหารและบรรดาคนทั่วไปต่างก็พากันตื่นตระหนก พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

เอื๊อก

จูปาเจี๋ยแอบกลืนน้ำลายเมื่อรู้สึกได้ถึงเจตนาสังหารของหยางเจียน

‘เวร ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหยางเจียนถึงได้โผล่มาที่นี่ เหมือนว่าเขาจะกลายเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่แล้วก็หาทางแก้แค้นแทนโฮ่วอี้นี่เอง’

จูปาเจี๋ยไม่ได้ตื่นตระหนก เขาหัวเราะและมองหยางเจียน “แหม แหม หยางเจียน ข้าก็สงสัยว่าทำไมเจ้าถึงร้อนรนอยากจับข้านัก ที่แท้เจ้าก็เป็นจักรพรรดิ

และอยากสร้างผลงานนี่เอง”

จากนั้นจูปาเจี๋ยก็พูดอย่างรอบคอบ “แม้ว่าเจ้าจะกลายเป็นจักรพรรดิแล้ว แต่ก็ยังต้องดูแลฉางเอ๋อแทนข้าด้วยนะ หากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับนาง ข้าก็ไม่ให้อภัยเจ้าแน่ อ้อแล้วก็แดร์ริลน้องชายของข้าด้วย”

เป็นธรรมชาติที่จูปาเจี๋ยจะเจ้าชู้ แม้ว่าฟ้าจะถล่มลงมาสิ่งแรกที่เขาคิดถึงก็คือเรื่องความปลอดภัยของหญิงงามของเขา

“จองหองนัก”

หยางเจียนจ้องจูปาเจี๋ยอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็ขยับพร้อมกระบี่สองคมสามแฉกในมือ เขาเหาะทะยานมาข้างหน้า

พลังภายในพวยพุ่งออกมาจากร่างเขา ท้องฟ้าราวกับจะแยกเป็นเสี่ยง

“คมมีดซูส”

ตอนที่เขาอยู่ห่างจากจูปาเจี๋ยประมาณร้อยเมตร หยางเจียนก็ยกมือขึ้น พลังรุนแรงพุ่งออกมาจากกระบี่สองคมสามแฉกกลายเป็นเงาดาบที่น่าสะพรึง และโจมตีจูปาเจี๋ยอย่างรุนแรง

เงาดาบนั้นยาวประมาณร้อยเมตร ซึ่งสร้างขึ้นจากพลังต่อสู้ของหยางเจียน

เมื่อเงาดาบหายไป อุณหภูมิรอบด้านก็ลดลงหลายองศา ทุกคนต่างก็รู้สึกหนาว ดวงตาพวกเขาเบิกกว้างโตและต่างกังวลแทนจูปาเจี๋ย

“คมมีดซูสเหรอ?”

“จักรพรรดิเริ่มต้นก็โจมตีด้วยท่าไม้ตายเลยเหรอ?”

“จูปาเจี๋ยคงหลบกระบวนท่านี้ได้ยากแล้ว”

ทหารหลายคนต่างก็พากันอ้าปากค้าง

หยางเจียนนั้นโด่งดังด้วยกระบวนท่าคมมีดซูสของเขา เขาใช้กระบวนนี้มาหลายพันปีเพื่อทำลายสำนักต่าง ๆ ที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์แก่จักรพรรดิโฮ่วอี้ มันทำให้ทั้งโลกต้องตะลึง