อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1171 บาดเจ็บไม่เบา
ทันทีที่เสียงขลุ่ยของกู้ชูหน่วนเปลี่ยนไป เสียงขลุ่ยอันนุ่มนวลกลายเป็นชุดใบมีดจริงอันคมกริบทันที ฟันไปที่หัวกะโหลกขนาดใหญ่มหึมา หวังจะผ่าฟันให้หัวกะโหลกล้มไป
“ปังปังปัง….”
ใบมีดอันแหลมคมอันแล้วอันเล่า รวดเร็วแม่นยำไร้ความปรานี เล่มหนึ่งมีพลานุภาพมากกว่าอีกเล่มหนึ่ง น่าเสียดายที่ชี่พิฆาตของหัวกะโหลกนั้นแข็งแกร่งกว่า
มีดอันแหลมคมเหล่านั้นยังไม่สามารถเข้าใกล้หัวกะโหลกได้ ก็ถูกชี่พิฆาตที่พ่นออกมาจากหัวกะโหลกสะเทือนจนกระจัดกระจายไปหมดแล้ว
จากมีดอันแหลมคมเล่มสุดท้ายที่ถูกสะเทือนกระจายไป ชี่พิฆาตที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่พลังหนึ่งก็พรั่งพรูไปทางกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนต้านทานด้วยพละกำลังทั้งหมด ก็ยังไม่สามารถต้านทานได้ ขลุ่ยหยกมรกตถูกชี่พิฆาตโจมตีหลุดออกจากมือ นางทั้งคนก็ถูกสะเทือนกระเด็นไปอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน
หากไม่ใช่เพราะการปกป้องของขลุ่ยหยกมรกต เกรงว่าร่างของนางก็คงจะแหลกสลายด้วยการโจมตีครั้งนี้ไปนานแล้ว
“ฟู่ว….”
นางกระอักเลือดออกมาเต็มปาก สีหน้าซีดขาวลงทันใด เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดไม่น้อย
“พี่สาว…”
จอมมารวิ่งพุ่งเข้าไป ประคองกู้ชูหน่วนขึ้นมาด้วยความร้อนใจ
ชี่พิฆาตอันแข็งแกร่งพลังหนึ่งถาโถมเข้าไปด้วยความรวดเร็วและดุดันอีกครั้ง
สีหน้าของจอมมารเปลี่ยนไปทันที
ชี่พิฆาตรอบนี้เข้าไป ไม่ตายก็พิการ
ภายใต้ความร้อนใจของเขา พุ่งเข้าไปและระเบิดเสียงคำรามเสียงหนึ่งใส่หัวกะโหลกขนาดมหึมานั่น ขวางกั้นไว้เบื้องหน้าของกู้ชูหน่วน
“อ้า……”
เขาไม่มีวิทยายุทธ ดังนั้นการคำรามนี้จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่ที่เหนือความคาดหมายคือ หัวกะโหลกเหล่านั้นกลับถูกสะเทือนถูกโจมตีจนสะดุ้งโหยง ถอยกลับไปด้วยความกลัว
ไป๋หลี่หมิงเยียนมองไปทางจอมมารที่ดูเซ่อซ่าด้วยความตกตะลึง
“เจ้าสามารถออกคำสั่งกับโครงกระดูกของข้าได้ ทั้งยังสามารถควบคุมชี่พิฆาตได้อีก เจ้าเป็นใครกันแน่”
จอมมารรู้สึกตกใจ ผ่านไปนานกว่าจะพ่นออกมาคำหนึ่ง “เจ้ากล้าทำร้ายพี่สาวของข้า ข้า…ข้าก็จะโมโห”
ฝ่ามือขวาของไป๋หลี่หมิงเยียนดูดจอมมารเข้าไปโดยตรงทันที มือใหญ่ๆค้ำอยู่บนกระหม่อมของเขา
กู้ชูหน่วนลุกขึ้นยืนด้วยความโซเซ เห็นฉากนั้นก็ตะโกนขึ้นด้วยความโกรธอย่างอดไม่ได้ “ปล่อยเขาไปซะ”
รูม่านตาของไป๋หลี่หมิงเยียนหดลง “ขั้นสูงสุดระดับหก คิดไม่ถึงว่าศักยภาพของเจ้าจะถึงขั้นสูงสุดระดับหกแล้วจริงๆ เหลืออีกเพียงนิดเดียวก็ระดับเจ็ดแล้ว”
เขายังหนุ่มขนาดนั้น คาดไม่ถึงว่าจะสามารถอยู่ถึงขั้นสูงสุดระดับหกได้
เพราะเขาเข้าฌานนานเกินไปหรือ?
ฉะนั้นหลังจากที่ออกจากฌานถึงได้รู้ว่า ตอนนี้มียอดฝีมืออายุน้อยมากมายขนาดนี้อยู่ในยุทธภพ
แค่เวินเส้าหยีกับเย่จิ่งหานก็พอแล้ว ตอนนี้แม้แต่คนโง่ผู้หนึ่งก็เคยอยู่ถึงขั้นสูงสุดระดับหกได้
“พูด เจ้าอยู่สูงส่งถึงขั้นสูงสุดระดับหก ไปทำอะไรมาถึงได้สูญสิ้นวิทยายุทธไปหมด ผมขาวขณะยังหนุ่ม แล้วยังจะดวงตาของเจ้าอีกเกิดอะไรขึ้น”
ไป๋หลี่หมิงเยียนสำรวจตรงกระหม่อมของเขา สำรวจอยู่นานก็สามารถสำรวจความทรงจำที่ผ่านมาของเขาได้แม้แต่น้อย จอมมารพยายามจะสลัดให้หลุดออกไปแต่ก็สลัดไม่ได้ เขากล่าวด้วยความโกรธ “ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดอะไร เจ้าปล่อยข้า”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…สวรรค์ทรงโปรด หากว่าข้าไม่ได้เลื่อนขั้น ชีวิตก็กำลังจะจบลง แต่สวรรค์กลับส่งพวกเจ้าสองคนมาข้างกายข้า นี้แม้แต่สวรรค์ก็ไม่อยากให้ข้าตาย”
“แม้ว่าตอนนี้วิทยายุทธของเจ้าจะสิ้นสูญ แต่วิญญาณในร่างกายของเจ้ายังคงอยู่ วันนี้ข้าจะกินเจ้าก่อน และค่อยจัดการกับนังหนูนั่น”
ไป๋หลี่หมิงเยียนพูดพลาง มือขวาก็ออกแรงอย่างฉับพลัน หวังจะสะเทือนกระหม่อมของจอมมารให้แหลก ดึงวิญญาณของเขาออกมา เพื่อหลอมเป็นพลังชั่วร้าย ช่วยให้เขาบรรลุถึงระดับเจ็ด
หัวใจของกู้ชูหน่วนเต้นเร็วขึ้น
แม้ว่านางพยายามจะสู้ตายด้วยชีวิต ก็ไม่สามารถปล่อยให้ไป๋หลี่หมิงเยียนกินซือโม่เฟยไปได้
กู้ชูหน่วนหยิบธงอันใหญ่ออกมาจากแหวนมิติแปดอัน โยนออกไป
ธงใหญ่แปดอันปรากฏออกมาเป็นรูปวงกลม ล้อมรอบไป๋หลี่หมิงเยียนไว้
นางเผาไหม้พลังยุทธของตัวเอง ขับเคลื่อนพลังวิเศษของทั้งหมดของขลุ่ยหยกมรกตและแหวนมิติ เพิ่มความแข็งแกร่งให้ค่ายกล
“ครืน….”
แสงเหนือธรรมชาติปรากฏขึ้นทันใด
แสงสีเขียวมรกตและสีแดงเพลิงพุ่งตรงไปยังขอบฟ้า