บทที่ 659
เวลานี้คุณท่านของตระกูลอู๋ กำลังนอนอยู่ในห้องผู้ป่วยหนักในบ้านสุดหรูของเขา
มีเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องออกซิเจนในเลือดและอื่น ๆที่สำคัญ มีการเฝ้าระวังและบ่งชี้ตลอดเวลา และเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายของคุณท่านแย่ลงไปกว่านี้ ยังได้ให้สารอาหารกับออกซิเจนด้วย
คลิปวิดีโอบนติ๊กต็อก กระทบจิตใจทำให้คุณท่านอู๋โกรธเป็นอย่างมาก บวกกับอายุมากแล้ว ความสามารถในการรับแรงกดดันได้ไม่มาก ดังนั้นชั่วพริบตาเดียวก็ทำให้ท่านหมดสติ และเกือบจะหมดลมหายใจเพราะเส้นเลือดหัวใจอุดตัน
เมื่ออู๋ตงไห่ อู๋ซิน อู๋ฉี และอู๋ตงเจียงน้องชาย กับลูกหลานตระกูลอู๋ ไปถึงห้องพักผู้ป่วย คุณท่านที่นอนอยู่บนเตียงก็ด่าขึ้นมาด้วยความโกรธ
“ไอ้หมาสองตัวที่ไร้อิทธิพล กล้าที่จะเหยียดหยามตระกูลอู๋ของฉันอย่างเปิดเผย มันสมควรตาย! ถ้าไม่ฆ่าไอ้หมาสองตัวนี้เสีย จะทำให้ตระกูลอู๋ในเมืองเจียงหนานถูกเยาะเย้ยตลอดไป! ความองอาจห้าวหาญของตระกูลอู๋เป็นหนึ่งในเจียงหนานก็จะอันตรธานหายไป!”
เมื่ออู๋ตงไห่เห็นอัตราการเต้นของหัวใจของพ่อเต้นเร็วมาก เขาก็รีบเดินกะเผลกไปข้างหน้าและกล่าวว่า “พ่อ! พ่อเป็นหนักขนาดนี้แล้ว ระงับความโกรธด้วย!”
“ไอ้ขยะ”! เมื่อคุณท่านเห็นอู๋ตงไห่เขาก็ด่าทันที “ให้แกไปที่เมืองจินหลิง เพื่อตรวจสอบว่าใครทำร้ายเสี่ยวฉี แกมันไม่ได้เรื่อง ยังทำให้ตระกูลอู๋ของฉันต้องอับอายขายหน้า!”
อู๋ตงไห่กล่าวอย่างหดหู่ว่า “พ่อ ไปจินหลิงคราวนี้ มันแตกต่างจากที่คาดเดาไว้อย่างสิ้นเชิง ผมไม่คาดคิดว่าจะมีใครในเมืองจินหลิงจะสามารถทำให้พวกจางจื่อโจวทั้งห้าพิการได้ ข้อสองไม่คาดคิดว่าจะล่วงเกินตระกูลเย่โดยไม่ได้ตั้งใจ ถูกตระกูลเย่ทำร้ายทุบตี จนผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย…….”
ขณะพูด เขาชี้ไปที่ขาขวาของตนเอง และชี้ไปที่ขาขวาของอู๋ซินลูกชาย และกล่าวอย่างโศกเศร้าว่า “พ่อ ขาของผมกับขาของเสี่ยวซินพิการแล้ว แล้วมืออีกข้างของเสี่ยวซินก็พิการเช่นกัน พ่อคิดว่าพวกเราอยากให้เป็นเช่นนี้หรือ? เพียงแต่พวกเราไม่สามารถล่วงเกินตระกูลเย่แห่งเมืองเย่นจิงได้ ถึงแม้ว่าตระกูลเย่ต้องการชีวิตของเราสองคนพ่อลูก เราก็ไม่อาจต้านทานได้!”
คุณท่านอู๋ส่งเสียงฮึ่มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ถ้าพ่อไม่เห็นว่าแกได้รับบาดเจ็บ พ่อจะลุกขึ้นมาและทุบตีแกเองกับมือ!”
อู๋ตงไห่ได้แต่คุกเข่าลงกับพื้นและกล่าวอย่างละอายใจว่า “พ่อ! ตงไห่ไร้ความสามารถ ทำให้ตระกูลอู๋อับอายขายหน้า โปรดลงโทษลูกด้วยเถอะ!”
คุณท่านอู๋หน้าดำคร่ำเครียดแล้วกล่าวว่า “พ่อถามแกว่า ไอ้หมาสองตัวนั้น ถูกฆ่าตายหรือยัง?”
“ยังครับ” อู๋ตงไห่กล่าวอย่างรีบร้อน “ผมได้จัดคนไปแล้ว น่าจะได้เบาะแสของพวกเขาในไม่ช้า แล้วก็จะจัดการฆ่าพวกมันเสีย!”
คุณท่านอู๋กล่าวว่า “หลังจากฆ่าพวกเขาแล้ว จะต้องให้สื่อรายงานการเสียชีวิตของสองคนนั้น เพื่อให้คนทั้งเจียงหนานรับรู้ว่า หากล่วงเกินตระกูลอู๋จะมีจุดจบเช่นนี้!”
อู่ตงไห่รีบพยักหน้า “พ่อวางใจได้ ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้ดีที่สุด!”
คุณท่านอู๋ก็ถามอีกว่า “คลิปวิดีโอบนติ๊กต็อก ลบออกไปแล้วหรือยัง?”
“ลบแล้ว ลบแล้วครับ…….” อู๋ตงไห่ไม่กล้าบอกว่าติ๊กต็อกถูกตระกูลเย่ซื้อไปแล้ว เพราะกลัวว่าคุณท่านจะโมโห
คุณท่านอู๋ฮึ่มคำหนึ่ง แล้วกล่าวกว่า “จำคำพูดของพ่อไว้ พ่อต้องการให้ไอ้เชี้ยหมาสองตัวนั้นตาย! ภายใน 24 ชั่วโมง! ”
อู๋ตงไห่รีบกล่าวว่า “พ่อวางใจได้ ผมจะทำตามคำสั่งของพ่อ!”
ท่าทางของคุณท่านอู๋รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขามองไปที่อู๋ซิน และพูดอย่างสงสารว่า “เสี่ยวซิน ไปจินหลิงคราวนี้ หลานได้รับทุกข์ทรมาน”
คนที่คุณท่านอู๋รักและเอ็นดูที่สุดไม่ใช่อู๋ตงไห่ แล้วก็ไม่ใช่น้องชายเขาอู๋ตงเจียง แต่เป็นอู๋ซินหลานชายคนโต
เมื่อเห็นสภาพที่น่าเศร้าของอู๋ซินตอนนี้ ใจในเขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก