“อีกอย่าง เธอต้องคิดให้ดี ถ้าหากว่า วันนี้ผมจัดการตระกูลซุนไม่ได้ ผมมาช่วยคุณ มันจะเกิดอะไรขึ้นอีก?”
คำพูดประโยคนี้ของหยางเฉิน ทำให้ในใจของเซี่ยเหอเต็มไปด้วยความรู้สึกละอายใจ
เพียงแต่ เพราะเธอ แล้วทำให้ซุนจื้อเจียวตาย เธอก็ทำไม่ได้
“หยางเฉิน ขอโทษ!”
เวลาผ่านครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเซี่ยปากก็เปิดปากขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยคำขอโทษ
หยางเฉินคาดเดาไว้นานแล้ว ว่าเซี่ยเหอจะต้องทำอย่างนี้
เขาไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าซุนจื้อเจียวให้ตายต่อหน้าเซี่ยเหอ เพียงแค่อยากให้อาศัยเรื่องนี้ ทำให้เซี่ยเหอรู้แจ้ง
“ดี งั้นก็เห็นแก่หน้าคุณ ผมไว้ชีวิตเขา”
หยางเฉินเปิดปากทันที ตามด้วยสายตาที่มองไปบนร่างของซุนจื้อเจียว พูดด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “โทษตายเว้นได้ แต่โทษเป็นยังอยู่!”
สิ้นเสียงหยางเฉิน พลังมหาศาลก็แผ่ขยายออกมาจากร่างกาย
ที่ซุนจื้อเจียวรู้สึกได้ชัดเจนที่สุดคือ จู่ๆเธอก็รู้สึกเหมือนทะเลเลือดม้วนมาจนมืดฟ้ามัวดิน ทับจนเธอหายใจไม่ออก
ทันใดนั้นซุนซวี่ก็ตื่นตระหนกขึ้นมา “คุณหยาง ท่านจะทำยังไง?”
“ผมจะเอาแขนหนึ่งข้าง ขาหนึ่งข้าง ไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
หยางเฉินมองไปทางซุนซวี่แล้วถาม
ซุนซวี่รีบพยักหน้า “ไม่มีปัญหา! ไม่มีปัญหา! ขอบคุณคุณหยาง!”
พูดจบ เขาก็หันไปเร่งซุนจื้อเจียว “ยังไม่รีบขอบคุณคุณหยางอีก?”
ในใจซุนจื้อเจียวเต็มไปด้วยความอัปยศอดสู หยางเฉินจะเอาแขนเธอข้างหนึ่งขาเธอข้างหนึ่ง ตัวเองยังต้องขอบคุณหยางเฉิน มันน่าเยาะเย้ยแค่ไหนอะ?
แต่ว่า เธอแทบไม่กล้าคัดค้าน รีบพูดว่า “ขอบคุณคุณหยาง!”
“เธอลงมือเอง!”
หยางเฉินมองซุนซวี่แล้วพูด
“ปัง!”
“ปัง!”
ซุนซวี่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย หยิบปืนที่อยู่ในเสื้อสูทออกมาหนึ่งกระบอก ยิงซุนจื้อเจียว สองนัด
ใบหน้าซุนจื้อเจียวบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทนไม่ไหวปล่อยเสียงร้องออกมา
แขนและขาเจ็บปวด ทำให้เธอแทบจะเป็นลม
แต่ว่า เธอไม่ได้ดีใจหรือขอบคุณที่หยางเฉินไว้ชีวิตเธอ แต่กลับเอาความแค้นที่เสียแขนเสียขา มาคิดที่ตัวหยางเฉิน
หยางเฉินรู้สึกได้ชัดเจน นัยน์ตาของซุนจื้อเจียวเต็มด้วยเจตนาอาฆาตแค้น
เซี่ยเหอเห็นกับตาตัวเองซุนจื้อเจียวถูกซุนซวี่ยิงติดกันสองนัด สีหน้าขาวซีดสุดขีด สองมือจับเสื้อของหยางเฉินไว้แน่น
“คุณหยาง ไม่ทราบว่าผมทำอย่างนี้ ท่านพอใจไหม?”
ซุนซวี่เปิดปากถาม
หยางเฉินพูดนิ่งๆ “ซุนซวี่ ผมหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าครั้งต่อไปมีคนของตระกูลซุนลงมือกับคนข้างกายผม ถ้างั้นตระกูลซุน ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะดำลงอยู่ต่อไป”
“อย่าคิดว่าอาศัยตระกูลเฉา ก็จะสามารถเหยียบผมให้อยู่ใต้ฝ่าเท้านะ”
“ถ้าเป็นแบบนั้นได้จริงๆ ท่านคิดว่าแค่อาศัยบุญคุณความแค้นระหว่างผมกับตระกูลเฉา ผมยังสามารถอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ไหม?”
สีหน้าซุนซวี่ดูไม่ได้เลย เขารู้ว่าหยางเฉินพูดนั้นไม่ผิด
แม้แต่เฉาจื้อ อยู่ในมือหยางเฉินก็ยังเสียเปรียบ นับประสาอะไรกับเขา
“คุณหยางพูดไปถึงไหน? ผมจะกล้าเหยียบท่านไว้ใต้เท้าได้ไง?”
“ซุนซี่รีบหัวเราะและพูดว่า “ท่านวางใจ นี่เป็นครั้งสุดท้าย ผมรับประกัน จากนี้จะไม่มีคนของตระกูลซุนลงมือกับคนข้างกายท่านอีก”
“ใช่แล้ว มีเรื่องหนึ่ง ผมรู้สึกว่ามีเรื่องที่คุณจำเป็นต้องรู้”
หยางเฉินเปิดปากพูดกะทันหัน ชิดหูของซุนซวี่แล้วพูดว่า “รู้ไหมว่าตระกูลเซวแห่งตระกูลเดอะคิงเพราะอะไรถึงจากไป?”
ซุนซวี่สั่นไปทั้งตัวทันที และมองไปที่หยางเฉินด้วยท่าทางที่เหลือเชื่อ และการคาดเดาอย่างกล้าหาญก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
ครั้งก่อน เซวหยวนป้าเชิญแต่ละตระกูลทั้งหมดเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองที่โรงแรมเยี่ยนตู
แต่ในท้ายที่สุด เซวหยวนป้ากลับไม่ปรากฏตัวเลย แต่กลับเป็นหยางเฉินปรากฏตัวขึ้นแทน
ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่มาจากตระกูลเฉาที่มาเยี่ยนตูทันเวลา เกรงว่าตอนนี้ทั้งเยี่ยนตู คงถือคำพูดหยางเฉินเป็นหลัก
หรือว่า เซวหยวนป้าจากไป ไม่ใช่เพราะตระกูลเซวมีธุระกะทันหัน แต่เป็นเพราะหยางเฉิน?
ยิ่งคิด ในใจของซุนซวี่ยิ่งกลัวมากขึ้น
ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ งั้นก็เท่ากับว่า เขามองข้ามหยางเฉินไปแล้วจริงๆ ผู้นำมหาเศรษฐีแห่งตระกูลเยี่ยนตูทั้งหมด ล้วนประมาทมองข้ามหยางเฉิน
คนที่สามารถทำให้ผู้สืบทอดของตระกูลเดอะคิงจากไป หรือว่าปัญหายังไม่ชัดเจนอีกเหรอ?
แม้ว่าซุนซวี่จะขี้ขลาดตาขาว เป็นหญ้าบนยอดกำแพง(นกสองหัว) แต่สามารถเป็นผู้นำตระกูลซุน ก็ถือว่าไม่ใช่ไอ้โง่
เรื่องมากมาย ผ่านการพูดจากหยางเฉิน เขาก็คิดได้แล้ว
“พวกเราไป!”
หยางเฉินไม่ได้พูดคำพูดที่เหลือต่อ เพียงแต่ถามกลับประโยคเดียว ก็ทำให้ซุนซวี่คาดเดาไม่หยุด
นี่ก็บรรลุเป้าหมายของหยางเฉินแล้ว
“หยางเฉิน ขอโทษ ฉันทำให้คุณผิดหวังแล้ว!”
มาถึงข้างนอกร้านอาหารหนานเซียงหยวน เซี่ยเหอพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำขอโทษ
ลมหนาวพัด ความมึนเมาของเซี่ยเหอก็หายไป กลับมาคิดถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เธอรู้สึกเหมือนกำลังฝัน
หยางเฉินส่ายศีรษะ “ไม่มีอะไรทำให้ผมผิดหวัง คุณสามารถรักษาความเมตตาที่บริสุทธิ์ได้ ดีมากเลย”
“วันนี้ผมแค่อยากเตือนสติคุณ ไม่ใช่ว่าทุกคน จะใช้จิตใจที่เมตตาของคุณมาปฏิบัติต่อทุกคนได้”
“น้ำในวงการบันเทิงลึกมาก หลายครั้ง เป็นไปได้ว่าเพราะมุมมอง ก็สามารถทำให้คนมีเจตนาแค้นคุณได้”
“และก็เป็นไปได้ว่าเพราะคำพูดบางคำ หรือเพราะข่าวการเคลื่อนไหวในที่สาธารณะ ก็เป็นไปได้ที่จะนำความยุ่งยากมาให้คุณ”
“ผมหวังว่า จากนี้ตอนที่คุณต้องไปมาหาสู่กับคนอื่น จะสามารถรักษาระยะห่าง ไม่ได้ให้คุณค่อยคิดวางแผน แค่หวังว่าคุณจะระมัดระวังมากกว่านี้หน่อย”
ได้ยินคำพูดของหยางเฉิน เซี่ยเหอก็คิดพิจารณา
เป็นเวลานาน เธอถึงจะหันมามองหยางเฉิน พยักหน้าอย่างจริงจัง “คุณวางใจเถอะนะ ต่อไปนี้ตอนที่ฉันต้องไปมาหาสู่กับคนอื่น จะแต่งตัวให้เรียบร้อยและระมัดระวังกว่านี้นะ”
หยางเฉินยิ้มเล็กน้อย “ไปเถอะ ผมส่งคุณกลับโรงแรม”
ในขณะที่หยางเฉินพาเซี่ยเหอไปจาก ชั้นบนของร้านอาหารหนานเซียงหยวน
บนใบหน้าที่เจ็บปวดของซุนจื้อเจียวค่อยๆบิดเบี้ยว เต็มไปด้วยความโหดร้าย
เธอกัดฟันแล้วพูดว่า “หยางเฉิน ฉันไม่สนว่าคุณเป็นใคร ฉันจะทำให้คุณต้องชดใช้! ฉันสาบาน!”
“หุบปาก!”
ซุนซวี่โกรธและพูดว่า “แม้แต่ฉัน ก็ไม่กล้าพูดประโยคนี้ เมื่อกี้เธอเพิ่งหนีจากความตาย ก็คิดจะแก้แค้น?”
“ฉันขอเตือนเธอ จากนี้ไปถ้าหากเธอยังกล้าไปล่วงเกินหยางเฉิน ก็อย่าโทษที่ฉันไม่เกรงใจ”
“เธออยากหาที่ตาย ก็ไสหัวไปไกลหน่อย อย่าเดือดร้อนให้ตระกูลซุนฝังไปพร้อมกับเธอเลย”
ตอนนี้ ซุนซวี่ทั้งแค้นทั้งกลัวหยางเฉิน
ตั้งแต่หลังจากที่เจอหยางเฉิน ศักดิ์ศรีของเขาในฐานะหัวหน้าตระกูลซุนแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูถูกเหยียบย่ำมานานแล้ว
แม้แต่เขาก็ลืมไปแล้วว่า ตัวเองคุกเข่าให้หยางเฉินไปเท่าไหร่ ยิ่งไปอยู่ในมือหยางเฉิน เสียเปรียบไปตั้งเท่าไหร่
พูดได้ว่า ทุกครั้งที่ต้องประมือกัน มีแต่เขาเป็นฝ่ายแพ้
ถึงแม้เบื้องหลังจะมีตระกูลเฉาแห่งตระกูลเดอะคิงสนับสนุน เขาก็ยังคงพ่ายแพ้
“คุณลุง เขาเป็นใครกันแน่? ทำไมท่านกลัวเขาขนาดนี้?”
ซุนจื้อเจียวถามด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ “อาศัยพละกำลังและตำแหน่งของพวกเราตระกูลซุน เชิญนักฆ่าระดับประเทศสักคนสองคน ก็สามารถฆ่าไอ้หนุ่มนี่ได้โดยไม่มีใครรู้ได้?”