บทที่ 1014 เกิดอะไรขึ้นหรือ + ตอนที่ 1015 ผลงานแรก

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1014 เกิดอะไรขึ้นหรือ + ตอนที่ 1015 ผลงานแรก โดย Ink Stone_Romance

 

ตอนที่ 1014 เกิดอะไรขึ้นหรือ

โอหยางซานซานใช้เวลาอยู่พักใหญ่ถึงจะพอปรับตัวได้ ใบหน้าของเธอตอนนี้ทั้งขาวซีดและมีเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก เธอได้อู่เยวี่ยช่วยพยุงตัวค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน

“จ้าวเหมย เธออย่าได้ใจไป สักวันเธอจะต้องคุกเข่าร้องขอชีวิตต่อหน้าฉัน!”

โอหยางซานซานมองด้วยสายตาเยือกเย็นดุดันและพูดเสียงเล็ดลอดไรฟัน

แม้หวงอวี้เหลียนจะไม่ได้บอกให้เธอชัดเจนแต่เท่าที่ฟังจากน้ำเสียง ใครจะไปรู้ใจแม่เท่าลูกสาว แค่พิจารณาจากคำพูดของหวงอวี้เหลียนรวมถึงสีหน้าที่ได้ใจนั่น โอหยางซานซานก็พอจะคาดเดาถึงจุดจบแสนพินาศที่ใกล้มาถึงของตระกูลจ้าวได้

โอหยางซานซานไม่ได้มีความอดทนเท่าหวงอวี้เหลียน พอถูกเหมยเหมยกระตุ้นเลยพูดขู่ไว้ก่อนอย่างห้ามไม่ได้

เหมยเหมยใจกระตุกวูบ โอหยางซานซานพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?

หรือว่าที่เมืองหลวงเกิดอะไรขึ้น?

แต่เธอก็ไม่ได้คิดมาก สามปีมานี้แม้เธอจะไปเมืองหลวงค่อนข้างบ่อยแต่กับตระกูลจ้าวเธอไปน้อยครั้งมาก ส่วนใหญ่จะไปทานข้าวเป็นเพื่อนตาแก่โรคจิตเฮ่อเหลียนชิง

หรือไม่ก็เฮ่อเหลียนชิงคิดถึงฉิวฉิวแล้วจะให้คนมารับฉิวฉิวไปอยู่เมืองหลวงสักช่วงหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะฉิวฉิวจงรักภักดีต่อเธอคงถูกตาแก่โรคจิตนั่นล่อลวงไปแล้ว

สิ่งดี ๆ ที่เฮ่อเหลียนชิงทำให้ฉิวฉิว ชิ แม้แต่เธอเห็นแล้วยังอิจฉาเลย!

เหมยเหมยคร้านจะคิดต่อไป เธอไม่ได้สนใจต่อความรุ่งโรจน์ของตระกูลจ้าวเลยสักนิด อย่างไรเสียเธอก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรจากตระกูลจ้าวอยู่แล้ว อีกอย่างหากเป็นอะไรไปเธอคงไม่คาดหวังกับตระกูลจ้าว!

นอกจากนั้นเธอก็ไม่ได้ผูกพันกับตระกูลจ้าวมากขนาดนั้น จะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่เธอไม่สนใจจริง ๆ ขอแค่เหยียนหมิงซุ่นกับครอบครัวของเธอปลอดภัยดีก็โชคดีมากแล้ว!

ส่วนคนอื่น หัวใจเธอเล็กเกินไป ใส่ไม่พอแล้วล่ะ!

“งั้นก็รอถึงวันนั้นจริง ๆ โอหยางซานซานค่อยมาอวดเก่งต่อหน้าฉันแล้วกัน ส่วนตอนนี้เหรอ…”

เหมยเหมยจุดยิ้มร้ายเรียกให้โอหยางซานซานใจหล่นวูบและเตรียมจะก้าวถอยหลังอัตโนมัติ แต่จะไปทันความเร็วของเหมยเหมยได้เสียที่ไหน ยังไม่ทันให้เธอร้องตะโกน เท้าของเหมยเหมยก็ตรงมาที่เป้าหมาย ซึ่งเป้าหมายในครั้งนี้คือกลางศีรษะของโอหยางซานซาน

นางแพศยาโอหยางหน้าไม่อาย แค่เห็นก็อยากเตะ!

“พลั่ก”

โอหยางซานซานล้มลงกับพื้นตามเสียง โดยมีรอยรองเท้าแปะติดบนใบหน้า

เหมยเหมยปัดมืออย่างสบายใจ เดินไปตรงหน้าโอหยางซานซานที่กำลังครางด้วยความเจ็บปวดแล้วยกนิ้วกลางให้เธอไปที กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “ยังคิดจะให้ฉันคุกเข่าขอร้องเธอ? ฝันกลางวันไปเถอะ ฉันจะซ้อมเธอให้สภาพไม่ต่างกับหมาเลย เหอะ!”

เธอปรายตามองอู่เยวี่ยอย่างดูถูกอีกแวบหนึ่ง “คนประเภทเดียวกันก็มักอยู่กับคนประเภทเดียวกัน มิน่าพวกเธอถึงอยู่ด้วยกันได้เพราะนิสัยเหมือนกัน!”

หานป๋อหย่วนคิดจะพูดกู้สถานการณ์ แต่เหมยเหมยไม่ได้เปิดโอกาสให้เขาได้เอ่ยปาก ไม่แม้แต่ปรายตามองเขาสักนิดเดียว แบกกระเป๋าเป้เดินจากไปทันที

เด็กผู้หญิงหลายคนมองจนตาค้าง ผ่านไปพักหนึ่งถึงหุบกรามได้แล้วพูดด้วยความทึ่ง “เท่จังเลย!”

โอหยางซานซานที่อับอายขายหน้าจะมีอารมณ์มาซื้อเสื้อผ้าได้อย่างไรอีกจึงขอตัวกลับบ้านก่อนทิ้งให้อู่เยวี่ยอยู่กับหานป๋อหย่วนสองคน

อู่เยวี่ยลอบดีใจ หานป๋อหย่วนเป็นเพื่อนของโอหยางซานซาน เท่าที่เธอไปสืบมาในที่สุดก็รู้เรื่องแทบทั้งหมดของหานป๋อหย่วนได้สักที

ไม่ว่าจะเรื่องภูมิหลังครอบครัว หน้าตา หรือกระทั่งการศึกษาล้วนเติมเต็มเงื่อนไขของสามีในอนาคตของเธอทุกประการ!

หากได้แต่งงานกับหานป๋อหย่วน ต่อหน้าจ้าวเหมยเธอก็ไม่ต้องก้มหัวให้อีก!

อู่เยวี่ยยังอายุน้อยไม่รู้ว่าสังคมนั่นก็แบ่งชนชั้นเหมือนกัน คิดเพียงว่าหานป๋อหย่วนเป็นคนที่อยู่สูงจนเอื้อมไม่ถึง แต่หารู้ไม่ว่าภูมิหลังอย่างครอบครัวของหานป๋อหย่วนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้ก้าวข้ามขอบประตูสังคมนั่นหรือยัง!

“ฉันเลี้ยงไอติมเธอแล้วกัน ได้ยินมาว่าไอติมร้านนี้ไม่เลว”

หานป๋อหย่วนเป็นคนทำลายความเงียบก่อนและเผยยิ้มสุภาพบุรุษอย่างที่ชอบทำ อู่เยวี่ยก้มหน้าด้วยความเขินอายเลยเผยให้เห็นลำคอขาวผ่องของเธอพอดี

“ได้สิ!”

……………………………….

ตอนที่ 1015 ผลงานแรก

หลังซ้อมโอหยางซานซานอย่างหนัก ไปยกหนึ่งเหมยเหมยที่กำลังอารมณ์ดีเตรียมไปทานอะไรเป็นการฉลองให้จุใจ

เสียง ‘ติ๊ดติ๊ด’ ดังจากกระเป๋าเสื้อซึ่งเป็นเพจเจอร์กำลังส่งเสียงดัง ตอนนี้มีโทรศัพท์เคลื่อนที่แล้วแต่ยังไม่มีการวางขายตามท้องตลาดแต่เหยียนหมิงซุ่นก็สามารถหามันมาได้ ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ชอบเลยขอใช้แค่เพจเจอร์

โทรศัพท์เคลื่อนที่ในตอนนี้เสมือนก้อนอิฐแข็ง ๆ แล้วมันยังหนักเกินไปที่จะใส่ไว้ในกระเป๋า เลยไม่ถูกใจจริง ๆ สู้ใช้เพจเจอร์ยังดีกว่า อย่างไรเสียตอนนี้ก็มีตู้โทรศัพท์สาธารณะอยู่ทั่วทั้งเมืองค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว

“อีกสามวันจะกลับเมืองจิน เป็นเด็กดีรอฉันที่บ้าน!”

เป็นข้อความที่ถูกส่งมาจากเหยียนหมิงซุ่น เรียกให้เหมยเหมยยิ้มแก้มปริ จุ๊บใส่เครื่องเพจเจอร์ไปทีหนึ่ง

เสียงสัญญาณดังขึ้นอีกครั้ง ยังคงเป็นข้อความจากเหยียนหมิงซุ่น “คิดถึงเธอจัง ที่รัก!”

สาวน้อยแก้มแดงฉับพลันรีบหันมองซ้ายขวาเพราะกลัวใครจะเห็นเข้า เธอก้มเอามือปิดหน้าแล้วอดหัวเราะไม่ได้ และส่งข้อความกลับ ‘ฉันก็คิดถึงพี่นะ โอปป้า!’

ต่อหน้าเหยียนหมิงซุ่นเธอไม่มีทางใจกล้าขนาดนี้อยู่แล้ว แต่ข้อความล่ะก็อย่าว่าแต่โอปป้าเลย ต่อให้เป็นฮันนี่ก็ไม่มีปัญหา!

ที่แถบหมู่บ้านชายแดนทางใต้ เหยียนหมิงซุ่นในชุดลำลองเผยยิ้มได้ใจจนเพื่อนร่วมทีมหลายคนข้าง ๆ ต่างทำหน้าอิจฉา

หัวหน้าทีมชอบโชว์หวานใส่เป็นพัก ๆ เจ็บใจจริง!

บอกประโยครักร้อนแรงให้เหยียนหมิงซุ่นอีกไม่กี่ประโยคเหมยเหมยก็เก็บเพจเจอร์อย่างพึงพอใจ แม้แต่หางตายังดูอิ่มเอมมีความสุขรวมถึงพวงแก้มที่แดงอมชมพูยิ่งกว่าดอกท้อ เปิดเผยให้เห็นเหมยเหมยที่กำลังตกอยู่ในห้วงความรักอย่างหมดเปลือก

อีกสามวันก็ได้เจอพี่หมิงซุ่นแล้ว ดีใจจัง!

เหมยเหมยยิ้มกว้างพลางเก็บเพจเจอร์ใส่กระเป๋าแต่ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นอีก เป็นข้อความจากคุณป้าถู

คุณป้าถูเป็นบรรณาธิการจากสำนักพิมพ์ชื่อดังแห่งหนึ่งและเป็นเพื่อนสนิทกับเหยียนซินหย่า สามปีมานี้ไม่ได้มีเพียงเจ้าอ้วนน้อยที่ตีพิมพ์หนังสือ เหมยเหมยเองก็เช่นกันเพียงแค่ว่าของเธอเป็นหนังสือการ์ตูน

เป็นผลงานเล่มแรกของเธอซึ่งวาดเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเธอกับฉิวฉิวแล้วก็ฉาฉา

นางเอกอ้างอิงจากตัวเธอที่โดนผู้อื่นล้อว่าเป็นลูกเป็ดขี้เหร่แสนโง่เขลามาตั้งแต่เด็ก ภายใต้ความช่วยเหลือจากพระเอกก็ค่อย ๆ ลอกคราบกลายเป็นหงส์ขาวแสนงดงาม แล้วก็เซียวเซ่อ สยงมู่มู่ เจ้าอ้วนน้อย…

ล้วนถูกเธอวาดใส่ในหนังสือ แน่นอนว่าจะต้องขออนุญาตจากพวกเขาแล้ว

ส่วนตระกูลอู่นั้นก็ถูกเหมยเหมยสร้างเป็นตัวละครฝ่ายอธรรม

เหมยเหมยมีความตั้งใจกับผลงานชิ้นแรกของตัวเองเป็นอย่างมาก นับว่าดีที่มีเหยียนซินหย่าคอยช่วยเหลือเลยไม่ต้องลำบากเหมือนคนอื่น ๆ ที่ตัวเองสร้างผลงานออกมาเป็นชิ้นเป็นอันแล้วแต่กลับไม่มีพื้นที่ให้ประชาสัมพันธ์

ในเวลานี้มีการ์ตูนจากประเทศญี่ปุ่นไหลทะลักเข้ามาในประเทศจีนเป็นจำนวนมาก เริ่มแรกเป็น ‘เทพธิดาน้อย’ ‘ชีร่า’ ‘อิคคิวซัง’ …แล้วก็การ์ตูนที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดีอย่าง ‘อุลตร้าแมน’ รวมไปถึง ‘KOSEIDON’ แทบจะเป็นการ์ตูนในยุคนี้ทั้งนั้น ภายหลังยังมี ‘โปเกม่อน’ ‘เซนต์ เซย่า’ เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการ์ตูนทางวัฒนธรรมที่ทางประเทศญี่ปุ่นเผยแพร่สู่ประเทศจีน นอกจากนี้ยังมีสินค้าประเภทเกมจำนวนมาก รวมไปถึงของเล่นเสื้อผ้าต่าง ๆ พอที่จะกอบโกยกำไรจากประเทศจีนได้มากโข

คุณป้าถูอายุยังไม่มากอาจจะมากกว่าเหยียนซินหย่าเพียงไม่กี่ปีและยังไม่ได้แต่งงาน เธอเป็นคนนิสัยตรงไปตรงมารูปร่างอ้วนเตี้ย หน้าตาดูมีอายุหน่อย หากใช้คำอธิบายตามประสาคุณป้าถูล่ะก็

เธอในวัยสิบแปดเดินตามท้องถนนก็มีเด็กน้อยเรียกเธอว่าคุณป้า สามสิบปีผ่านไปเด็กน้อยก็ยังคงเรียกเธอว่าคุณป้า คาดว่าสามสิบปีให้หลังก็ยังคงเป็นเช่นเดิม

นี่เป็นถ้อยคำที่คุณป้าถูพูดหยอกตัวเองแต่เหมยเหมยกลับฟังออกถึงความระอาปนน้อยใจของเธอ

เอาเข้าจริงไม่มีผู้หญิงคนไหนในวัยสิบแปดอยากจะถูกเรียกว่าคุณป้า!

ดังนั้นเหมยเหมยเลยเผลอตอบกลับทันควัน “ป้าถู แปลว่าป้ายังสาวเสมอต้นเสมอปลาย!”

เพียงประโยคนี้ประโยคเดียวเหมยเหมยเลยเป็นที่ชื่นชอบของคุณป้าถู ได้รับความชื่นชอบมากกว่าเหยียนซินหย่าด้วยซ้ำ

“รีบมาที่สำนักงาน มีเรื่องด่วน”

เหมยเหมยเลยต้องเลี้ยวกลับเพื่อปั่นไปยังสำนักงาน ไม่รู้ว่าคุณป้าถูมีธุระด่วนอะไรกับเธอกันแน่

“ป้าถู วันที่อากาศร้อนแบบนี้มีเรื่องด่วนอะไรหรือคะ?”

เหมยเหมยที่หายใจหอบเปิดประตูห้องทำงานบรรณาธิการซึ่งคุณป้าถูรูปร่างอุดมสมบูรณ์กำลังยิ้มต้อนรับแขกซึ่งแขกคนนี้เป็นชายวัยกลางคนอายุราวสามสิบปี วันที่อากาศร้อนตับแทบแตกแบบนี้ยังใส่ชุดสูท แค่เห็นก็รู้สึกร้อนแทนแล้ว

ผู้ชายเห็นสาวน้อยหน้าตาสะสวยตรงหน้าประตูกตาก็บ่งบอกว่ากำลังอึ้งไปชั่วครู่แต่ไม่ปริเสียงใด ๆ

คุณป้าถูยิ้มตอบ “นี่เป็นคุณหลินจากสำนักพิมพ์ซิงซิงที่ฮ่องกง เขาอยากซื้อลิขสิทธิ์เรื่อง ‘บันทึกพลิกชีวิตเจ้าหญิงขี้เหร่’ ที่จะเปิดตัวในฮ่องกงของเธอ”

เหมยเหมยเลิกคิ้ว ‘บันทึกพลิกชีวิตเจ้าหญิงขี้เหร่’ เป็นผลงานชิ้นแรกของเธอนั่นเอง ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงกำลังลงตอนใหม่ไปเรื่อย ๆ แต่เธอแต่งมันจบไปแล้ว คาดว่าสิ้นปีน่าจะลงจนครบได้

หนังสือเล่มนี้แค่วางขายในประเทศก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ถึงขั้นต้องตีพิมพ์อีกสองครั้ง นั่นก็อยู่เหนือความคาดหมายของเหมยเหมย

แต่ทางฮ่องกงมาขอซื้อลิขสิทธิ์เองเธอกลับไม่รู้สึกเกินคาดเลยสักนิด

……………………..