ใครจะไปคาดคิดว่าหลิงฮันสามารถรับการโจมตีของเซียนได้จริงๆ!
ต่อให้พวกเขาจะเห็นด้วยตาตัวเองพวกเขาก็ไม่เชื่อ
ฮูอิงมู่ดวงตาเปิดกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อในสายตาของตัวเอง
นี่มันบ้าอะไรกัน!
ข้าประมาทเกินไปเลยเผลอลดพลังตัวเองมากเกินไปงั้นรึ? ไม่เช่นนั้นแล้วมดปลวกระดับวารีนิรันดร์จะต้านทานการโจมตีของเขาได้อย่างไร? นี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี!
หลังจากนั้นบรรยายนิ่งเงียบชั่วครู่ก็กลายเป็นเสียงโห่ร้องดังลั่น
“ศิษย์พี่หลิง!”
“ศิษย์พี่หลิง!”
“ศิษย์พี่หลิง!”
เสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังกึกก้อง แม้กระทั่งเหล่าศิษย์เก่าก็ยังเรียกหลิงฮันว่าศิษย์พี่ ล้อเล่นรึเปล่า? หลิงฮันสามารถต้านทานได้แม้กระทั่งการโจมตีของเซียน จะเรียกเขาว่าศิษย์พี่ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัปยศแม้แต่น้อย หากไม่เรียกตอนนี้ในอนาคตพวกเขาคงไม่มีโอกาสเรียกอีกแล้ว!
ไม่มีใครเชื่อว่าอัจฉริยะราวกับสัตว์ประหลาดเช่นนี้จะไม่สามารถเป็นเซียนได้
หลงเซียงเยว่ดวงตาส่องประกายเบิกบานราวกับบุปผา หากบุรุษผู้นี้เอ่ยขอเขามังกรจากนางอีกครั้งนางจะตอบรับในทันที!
เทียนเซี่ยตี้เอ้อยิ้มเจื่อน กายหยาบของเขาทรงพลังมากก็จริง แต่เมื่อเทียบกับหลิงฮันแล้วกายหยาบของเขาไม่นับว่าพิเศษเลยแม้แต่น้อย
ซื่อเฉินเฟิง หงหม่าและสุดยอดอัจฉริยะคนอื่นส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ ความต่างของพวกเขากับหลิงฮันดูเหมือนว่าจะค่อยๆห่างออกไปเกินกว่าที่จะยอมรับได้เสียแล้ว
มีเพียงตัวของหลิงฮัน จักรพรรดินีและสหายสนิทไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าหลิงฮันไม่ได้มีพลังป้องกันแข็งแกร่งขนาดต้านทานการโจมตีของเซียนได้ แต่เป็นอำนาจของคัมภีร์สวรรค์นนิรันดร์ที่สามารถทำให้เขาป้องกันการโจมตีของเซียนได้ในจำนวนครั้งที่จำกัด
ในระดับดาราเขาสามารถต้านทานการโจมตีเต็มกำลังของเซียนได้หนึ่งครั้ง ตอนนี้เมื่อระดับพลังบ่มเพาะสูงขึ้นแล้ว แน่นอนว่าจำนวนครั้งที่ต้านทานได้ย่อมเพิ่มขึ้น เพราะงั้นก่อนหน้านี้เขาจึงเสนอว่าจะรับการโจมตีของฮูอิงมู่สามกระบวนท่า
สามกระบวนท่าเป็นจำนวนที่หลิงฮันมั่นใจว่าไม่เกินขีดจำกัดในตอนนี้แน่นอน
“กล่าวขอโทษซะ!”
“ไสหัวกลับไป!”
ทันใดนั้นเหล่าศิษย์กล่าวตะโกนดังลั่นด้วยความตื่นเต้นจนแทบจะเป็นบ้า
จะเซียนหรืออะไรก็ช่าง!
ไสหัวไป!
ใบหน้าของฮูอิงมู่เปลี่ยนเป็นมืดมน ผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมายนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าดังเพี๊ยะ
ต้องการให้เขากล่าวขอโทษต่อหน้าสาธารณะชน?
คิดว่าเรื่องแบบนั้นจะเป็นไปได้รึ?
เขาเป็นจอมยุทธจากดินแดนต้องห้าม หากผู้คนของดินแดนต้องห้ามอื่นเกิดรู้ว่าเขากล่าวขอโทษต่อพวกมดปลวกล่ะก็ เขาจะมีหน้าไปพบใครได้อีก?
“ยังเหลืออีกสองกระบวนท่า” เขากล่าว
เมื่อคำพูดนั้นถูกกล่าวออกมา ทุกคนรอบด้านก็อ้าปากค้างด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
นี่เจ้าเป็นเซียนจริงรึเปล่า? จะยังมีใครหน้าด้านได้เหนือเกินกว่าเจ้าอีกไหม?
“เซียนบ้าบออะไรกัน!”
“ขยะ!”
ทุกคนโห่ร้องและอยากจะเอานิ้วกลางไปทาบหน้าฮูอิงมู่
ฮูอิงมู่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเนื่องจากเขาไม่ต้องการกล่าวขอโทษกับเหล่ามดปลวกที่ตนเองดูหมิ่น เพราะอย่างไรหลิงฮันก็เป็นคนพูดเองอยู่แล้วว่าให้โจมตีได้สามกระบวนท่า
เขาไม่รีรอถามความเห็นของหลิงฮันและจู่โจมทันที ครั้งนี้เอาจริง แววตาของเขาส่องประกายพร้อมกับปลดปล่อยวิถีดาราจักรที่อัดแน่นไปด้วยดวงดาวจำนวนมหาศาลนับไม่ถ้วน
หลิงฮันเองก็ปลดปล่อยวิถีดาราจักรของตนเองออกมาเพื่อจงใจเปรียบเทียบ
แต่ของเขามีดวงดาวเพียงเก้าสิบเก้าดวงเท่านั้น!
ตูม!
ฮูอิงมู่จู่โจม ฝ่ามือขนาดใหญ่ตกกระทบลงมา ดวงดาวนับไม่ถ้วนส่องสว่างพร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันอันไร้ขีดจำกัด
หลิงฮันไม่มีทางหลบได้แน่นอน การโจมตีของเซียนนั้นรวดเร็วเกินไป ‘ครืนน’ อำนาจอันน่าสะพรึงร่วงหล่นลงใส่ร่างของหลิงฮัน ทั่วบริเวณถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นควันอีกครั้ง
ทุกคนกังวลเป็นอย่างมาก จากการที่หลิงฮันป้องกันการโจมตีครั้งก่อนได้ คราวนี้ฮูอิงมู่จะต้องเอาจริงแน่นอน
ฝุ่นควันค่อยๆสลายไปโดยยังมีร่างหนึ่งยืนอยู่อย่างองอาจ
หลิงฮัน!
“ศิษย์พี่หลิง!”
หลิงฮัน!
หลังจากชะงักแน่นิ่งชั่วครู่เสียงโห่ร้องก็ดังลั่นอีกครั้ง คราวนี้เสียงโห้ร้องได้ดังขึ้นกว่าเดิมหลายร้อยเท่า
น่าทึ่งยิ่งนัก!
หากก่อนหน้านี้ฮูอิงมู่จะแก้ตัวว่าเขาไม่ได้เอาจริง ครั้งนี้เขาก็ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆอีกต่อไป
เซียนซิงฉาและเซียนคนอื่นเองก็ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาดูอ่อนอย่างชัดเจนว่าการป้องกันสองการโจมตีที่ผ่านมานี้หลิงฮันใช้เพียงพลังอำนาจของตนเองไม่ได้พึ่งพาสมบัติหรืออำนาจนอกกายแต่อย่างใด
รุ่นเยาว์ผู้นี้ช่างน่าอัศจรรย์!
ใบหน้าของฮูอิงมู่แสดงออกถึงความมึนงง
ทำไมกัน ทำไมเขาจึงยังสังหารหลิงฮันไม่ได้อีก?
แค่มดปลวกระดับวารีนิรันดร์ เหตุใดถึงได้ฆ่ายากฆ่าเย็นเพียงนี้?
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ยังเหลืออีกหนึ่งกระบวนท่า เจ้าจะต่อรึไม่? หากเขาไม่สู้แล้วก็ถอนคำพูดพร้อมกับกล่าวขอโทษและไสหัวไป!”
ฮูอิงมู่เกรี้ยวกราด เขาไม่เชื่อเป็นอันขาดว่าจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์จะมีความสามารถมากพอที่จะต่อต้านเขาได้ ต้องเป็นเพราะทักษะบ่มเพาะของอีกฝ่ายแน่นอนที่ทำให้มีความสามารถสำหรับต้านทานเขาในช่วงสั้นๆ
เป็นทักษะบ่มเพาะอะไรกันแน่… เหตุใดถึงได้ฝืนสวรรค์ขนาดนี้!
เขาแอบพยักหน้าในใจ ทักษะบ่มเพาะเช่นนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ต้องแย่งชิงมาให้ได้ ต่อให้เป็นในดินแดนแห่งเซียนทักษะที่ว่าก็สมควรถูกจัดอยู่ในทักษะระดับสูง บางทีอาจจะเป็นทักษะระดับราชานิรันดร์ก็เป็นได้!
เขาต้องกลับไปบอกให้ผู้นำของเขามากำราบเซียนระดับสูงคนนี้และบังคับแย่งชิงทักษะบ่มเพาะของหลิงฮันมา!
“ข้ายอมแล้ว!” เขากล่าวพร้อมกับหันหลัง
“กล่าวขอโทษก่อน!” เหล่าศิษย์ตะโกนอย่างไม่ยินยอม ก่อนหน้านี้เจ้าทำตัวหยิ่งยโสดีนัก ตอนนี้ล่ะรู้สึกอย่างไรบ้าง?
ฮูอิงมู่สะบัดมือ มดปลวกเหล่านี้กล้าออกคำสั่งเขารึ?
“ฮึ่ม!” เซียนซิงฉาเค้นเสียง “สำหรับบุรุษ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องทำตามที่ตนเองให้สัตย์ไว้! หากเจ้าไม่รักษาคำพูดข้าจะเป็นคนทำให้เจ้าเป็นศพอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล!”
สีหน้าของฮูอิงมู่เปลี่ยนไป เขาสามารถรับมือกับการโจมตีของเซียนระดับสูงได้ในระยะหนึ่งก็จริง แต่อย่างมากแค่ราวๆหนึ่งร้อยกระบวนท่าของรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์บนเสื้อคลุมก็คงหมดอำนาจ พลังต่อสู้ของเขาเองก็แข็งแกร่งกว่าเซียนระดับต้นทั่วไปเพียบเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีทางเลยที่จะเอาชนะเซียนระดับสูงได้
จากท่าทางของเซียนซิงฉา อีกฝ่ายคงไม่ได้ล้อเล่นแน่นอน
ฮูอิงมู่ลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกล่าว “ข้าขอถอนคำพูดที่เหยียดหยามพวกเจ้าและข้าขอโทษ!”
ศิษย์ทุกคนโห่ร้องดีใจ ฮูอิงมู่ที่หยิ่งยโสโอหังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ทำได้เพียงยอมกัดฟันกล่าวขอโทษพวกเขา!
ฮูอิงมู่หันหลังอีกครั้งและกำลังจะจากไปด้วยความแค้น
“ช้าก่อน!” หลิงฮันเอ่ยห้าม แววตาของเขาส่องประกายอย่างโหดเหี้ยม “คำขอโทษเมื่อครู่ของเจ้าเป็นเพราะบทลงโทษที่เจ้าทำตัวหยิ่งยโส ตอนนี้ข้าจะขอคิดบัญชีอีกเรื่องกับเจ้า… บังอาจมีความคิดชั่วร้ายกับภรรยาของข้า คนที่เช่นนั้นข้าต้องสังหารทิ้งอย่างไม่มีวันอภัยโทษ!”
พรวด!
พริบตาเดียวนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นคนในที่นี้ล้วนแต่ตกตะลึงนิ่งอึ้ง บางคนถึงขนาดสำลักออกมา
หะ หะ หูข้าเพี้ยนฟังผิดไปรึเปล่า?