ตอนที่ 1018 พี่ชายหน้าหื่นที่เป็นลูกคนรวย + ตอนที่ 1019 คุณตูดเป็ด โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1018 พี่ชายหน้าหื่นที่เป็นลูกคนรวย
เงื่อนไขเรื่องส่วนแบ่งครึ่งครึ่งที่เหมยเหมยเสนอใช่ว่าจะพูดไปอย่างนั้น ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ของทางสำนักพิมพ์ซิงซิงที่กำลังอยู่ในช่วงลำบาก จากอดีตที่เคยปักหลักมั่นคงตอนนี้กลายเป็นขนมสอดไส้ สำนักพิมพ์ซิงซิงก็คือไส้ที่ถูกบีบอัดอยู่ตรงกลาง
เหตุผลที่เธอเลือกร่วมงานกับซิงซิงก็เพราะคำชมที่มีต่อสำนักพิมพ์นี้ อีกอย่างก็เพื่อช่วยเหลือชาวจีนแผ่นดินใหญ่
เนื่องจากเจ้าของสำนักพิมพ์ซิงซิงหลินเจิ้นกั๋วเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่อพยพหนีไปเมื่อครั้งที่เกิดเหตุจลาจล มีวัยรุ่นเลือดร้อนมากมายหนีไปยังฮ่องกง หลินเจิ้นกั๋วคือผู้อพยพกลุ่มแรก
ตลอดหลายปีมานี้หลินเจิ้นกั๋วเริ่มก่อร่างสร้างตัวและก่อตั้งสำนักพิมพ์ซิงซิงเองกับมือ อีกทั้งหลินเจิ้นกั๋วยังเรียนจบจากคณะภาษาจีนของมหาวิทยาลัยจิน แม้ว่าเขาต้องการหาผลประโยชน์แต่ก็ให้ความสำคัญกับเนื้อหาในหนังสือที่ตีพิมพ์จากสำนักพิมพ์เป็นอย่างมาก หนังสือประเภทที่เขียนเพื่อเอาใจนักอ่าน สำนักพิมพ์ซิงซิงไม่มีทางตีพิมพ์หนังสือประเภทนั้นอย่างแน่นอน
และด้วยเหตุนี้สำนักพิมพ์ซิงซิงจึงถูกสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่สองแห่งของฮ่องกงข่มเหง สองสำนักพิมพ์นี้มีทุนทรัพย์ที่มั่นคง อดีตเคยเป็นคู่อริกันแต่ตอนนี้เพื่อต่อกรกับหลินเจิ้นกั๋วเลยต้องตัดความแค้นในอดีตมาผูกมิตรแทน
ชีวิตของหลินเจิ้นกั๋วเลยลำบากลงเรื่อย ๆ เหมยเหมยถึงได้มั่นใจขนาดนี้
แน่นอนว่าเธอไม่ได้กำลังจะฉวยโอกาส เธอแค่ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมแก่นักเขียนชาวจีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น!
ไม่ว่าเรื่องใดก็ยากที่จุดเริ่มต้น ขอแค่วันนี้เธอเจรจาขอแบ่งสัดส่วนครึ่งครึ่งได้สำเร็จ แบบนั้นถึงจะทำให้นักเขียนคนอื่นไม่ถูกหลอกลวงอีก ในเมื่อมีตัวอย่างให้เห็นแล้ว
ความจริงคุณหลินที่มาเจรจากับเหมยเหมยเป็นหลานของหลินเจิ้นกั๋ว หลังเขากลับโรงแรมก็โทรหาคุณลุง ลุงหลานสองคนปรึกษากันทั้งคืน
วันรุ่งขึ้นคุณหลินไม่ได้มาหาเหมยเหมยแต่กลับเป็นคนที่มาจากฮ่องกงแทน จุดประสงค์เช่นเดียวกับคุณหลิน มาเพื่อหนังสือของเธอ
ครั้งนี้คนที่มาเป็นคนจากสำนักพิมพ์อีเจีย ความจริงน่าจะเป็นตัวแทนจากอีเจียกับโฉวฉินสองสำนักพิมพ์นี้เพราะคนที่มาคือลูกคนรวยจากอีเจีย เพิ่งแต่งงานกับคุณหนูตระกูลเศรษฐีไม่นานมานี้
เหมยเหมยลอบยิ้มขำ ให้ค่าเธอมากเสียจริง!
ที่ให้เจ้านายคนเล็กออกโรงเอง แต่แล้วอย่างไร ถึงเชิญหลิวเต๋อหัวมาเธอก็ไม่ยอมตกลงเช่นกัน!
นึกถึงหลิวเต๋อหัวเหมยเหมยก็อดลูบจมูกไม่ได้ นี่เพิ่งปี 1991 ฮ่องกงมีอลัน ทัม กับเลสลี่ จาง แล้วก็เหมยเยี่ยนฟาง ที่แก่งแย่งตำแหน่งกัน ส่วนหลิวเต๋อหัวอีกหลายปีให้หลังถึงจะโด่งดัง!
อีเจียลูกคนรวยหน้าตาธรรมดารูปร่างเล็กดูกระฉับกระเฉง สายตาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และฉลาดแกมโกง แค่ดูก็รู้ว่าเป็นนักธุรกิจที่ถนัดเอาเปรียบ
เหมยเหมยมุ่นคิ้วน้อย ๆ ไม่ได้รู้สึกประทับใจต่อลูกคนรวยท่านนี้เท่าไรนัก มิน่าตลอดหลายปีมานี้ทั้งสองสำนักพิมพ์ถึงออกแต่หนังสือที่ไม่ค่อยมีเนื้อหาอะไร เพื่อต้องการสร้างกำไรในระยะสั้นแต่กลับลดระดับของสำนักพิมพ์ให้ต่ำลง ความเสียหายที่ไร้รูปธรรมแบบนี้จะต้องให้พวกเขาเสียใจในอนาคต
ชายหนุ่มเห็นเหมยเหมยก็ตาลุกวาว เผลอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
โอ้โห นักเขียนคนนี้สวยยิ่งกว่าดาราเสียอีก!
ที่สำคัญยังดูสะอาดสะอ้านอีกต่างหาก!
แค่ดูก็รู้ว่าเป็นสาวพรหมจรรย์ จิ๊จิ๊จิ๊!
ชายหนุ่มถูกใบหน้าที่งดงามของเหมยเหมยเกี่ยวเอาวิญญาณออกจากร่างทันที สองตาเพ่งมองทำหน้าหื่นใส่
เหมยเหมยขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม แต่ด้วยมารยาทเธอเลยทักทายด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มรีบแนะนำตัวเองอย่างไม่เอาหน้า “ผมชื่อจูเหว่ย คุณจ้าวเรียกผมว่าเอเลนได้ เป็นชื่ออังกฤษของผม”
ขณะที่พูดถึงชื่อภาษาอังกฤษจูเหว่ยออกจะทำหน้าได้ใจเล็กน้อย
สามวันก่อนเขาเคยมาที่นี่แล้วและเขามั่นใจกับการเจรจาในครั้งนี้เลยไม่รีบร้อนใจที่จะคุยกับเหมยเหมย แต่ไปเที่ยวสนุกตามคลับบาร์ทางฝั่งใต้ภายใต้การนำเที่ยวของเพื่อนถึงสามวันจนลืมวันเวลา
เขาพบว่าหญิงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่มีแต่คนล้าสมัย ทั้งสะอาดหน้าตาสวยและชื่นชอบชาวฮ่องกงกันเป็นพิเศษ
อีกทั้งพอเขาพูดภาษาอังกฤษในระดับที่ไม่สูงมากก็ทำเอาหญิงสาวข้างกายชื่นชมกันไม่ขาดสาย ฟังไม่ออกว่าดีหรือไม่ดี เลยเติมเต็มใจที่หลงตัวเองตามประสาผู้ชายของเขา
………………………..
ตอนที่ 1019 คุณตูดเป็ด
จูเหว่ยกำลังคิดที่จะแสดงความสามารถต่อหน้าเหมยเหมยเหมือนอย่างเคย เลยบอกชื่อภาษาอังกฤษของเขาออกมาด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง พลางมองเหมยเหมยด้วยสายตาคาดหวัง หวังว่าจะเห็นสายตาชื่นชมจากตัวเธอเหมือนกับผู้หญิงคนอื่น
พอเหมยเหมยได้ยินสำเนียงภาษาอังกฤษที่ไม่ค่อยดีนักของคุณคนนี้ก็เกือบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
เอเลนถูกเขาอ่านเป็น ‘ตูดเป็ด’ ภาษาอังกฤษนี้ได้เจ้าของร้านขายเป็ดสอนมาหรือ?
“ภาษาอังกฤษของคุณจูช่างพิเศษดีจัง!” เหมยเหมยพูดประชดไปประโยคหนึ่ง
สายตาของหมอนี่สร้างความไม่พอใจแก่เธออย่างมาก เวลาพูดเลยแฝงด้วยสายตาดุดันไปด้วยบาง
จูเหว่ยชะงักกึกไม่เข้าใจความหมายของเหมยเหมย แถมยังคิดว่าเธอกำลังชมว่าภาษาอังกฤษของเขาดีเลยอดหัวเราะไม่ได้ เขารู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงชาวจีนแผ่นดินใหญ่มันบ้านนอกคอกนา หลอกง่ายเสียจริง
“ผมเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์จากอังกฤษเชียว สำเนียงอังกฤษโดยแท้ ถ้าคุณจ้าวอยากฝึกผมสอนคุณได้นะ!” จูเหว่ยมองเหมยเหมยด้วยสายตาหลงใหล
“อะแฮ่ม…”
เหมยเหมยรีบยกมือปิดปากแล้วกลั้นเสียงหัวเราะที่เกือบหลุดจากปากไว้ อย่างไรก็เป็นแขกของคุณป้าถู เธอต้องไว้หน้าคุณป้าถูด้วยสิ!
เซียวเซ่อกำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์พอดี ระดับนักเรียนดีเด่นอัจฉริยะอย่างเธอเข้าไปในเคมบริดจ์ยังไม่กล้าซน ได้แต่ตั้งใจเขียนวิทยานิพนธ์อย่างเชื่อฟัง ไม่อย่างนั้นก็เรียนไม่จบ
พี่หน้าหื่นคนนี้คิดว่าชาวจีนแผ่นดินใหญ่ไม่มีการศึกษากันทุกคนเลยหรือ?
“ไม่จำเป็นหรอก กลับมาเข้าเรื่องกันดีกว่า คุณจูมาเพื่ออะไรคะ?” เหมยเหมยปรับสีหน้าให้จริงจัง
จูเหว่ยออกจะผิดหวังหน่อย ๆ ที่สาวน้อยไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคาดไว้!
บางทีคงไม่เคยได้ยินชื่อมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์สินะ ไม่เป็นไร เขามีวิธีถมเถไป รอบนี้เขาไม่เพียงต้องได้เซ็นสัญญาแต่ยังจะต้องได้คนงามกลับไปด้วย!
พี่หน้าหื่นแม้จะชวนให้รังเกียจแต่กลับเก่งเรื่องเจรจาธุรกิจ เขาเสนอเองว่าจะซื้อลิขสิทธิ์ในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากเหมยเหมยสิบห้าปีโดยแบ่งสัดส่วนเป็นหกต่อสี่ เหมยเหมยสี่ สำนักพิมพ์หก
ความจริงต่อให้จูเหว่ยแบ่งสี่ต่อหกเหมยเหมยก็ไม่ตกลง
เพียงแต่พี่หน้าหื่นคนนี้ก็ใช้ประโยชน์ได้บ้างนะเพื่อสร้างความกดดันแก่หลินเจิ้นกั๋ว อีกอย่างเธอมีแผนที่ใหญ่กว่านี้และหลินเจิ้นกั๋วน่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี
เหมยเหมยบอกเงื่อนไขสามข้อของเธอไปตามเดิมเหมือนอย่างที่เคยคุยกับคุณหลินเมื่อวานไม่มีผิดเพี้ยน
จูเหว่ยหน้าเรียบตึง สาวงามคนนี้กล้าเอ่ยปากเสียจริงนะ!
ครึ่งครึ่ง?
และเซ็นแค่สามปี?
ไหนจะสำนักพิมพ์ไม่มีสิทธิ์ที่จะก้าวก่ายผลงาน?
แม้แต่นักเขียนชาวฮ่องกงเองยังไม่กล้าเหิมเกริมขนาดนี้นอกเสียจากเป็นนักเขียนชื่อดัง แต่จ้าวเหมยคนนี้เป็นเพียงนักเขียนมือใหม่เท่านั้นและยังเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เธอได้ความมั่นใจมาจากไหนกัน?
หางตาจูเหว่ยเหลือบเห็นโฉมหน้าที่งดงามหาที่เปรียบไม่ได้ของเหมยเหมยก็เปลี่ยนใจแล้วหัวเราะเสียงแห้งกล่าว “เงื่อนไขของคุณจ้าวออกจะมากไปจริง ๆ ไม่เคยมีมาก่อนเลย ระยะเวลาผมสามารถเปลี่ยนเป็นสิบปี แต่ข้อที่สามไม่มีทางเป็นไปได้ ต่อให้เป็นนักเขียนชื่อดังอย่างคุณกู่หลงก็ต้องยอมรับฟังความคิดเห็นของสำนักพิมพ์ แต่ส่วนแบ่งครึ่งครึ่งนี้ยังพอเจรจากันได้ ขอแค่คุณจ้าว…”
เอ่ยถึงตรงนี้จูเหว่ยก็หยุดชะงักพลางมองเหมยเหมยด้วยสายตามีนัยยะ
“เจรจายังไง?”
เหมยเหมยดูออกถึงนัยยะจากแววตาของจูเหว่ย แทนที่จะโกรธกลับหัวเราะ ใบหน้างดงามดั่งดอกไม้เรียกให้พี่หน้าหื่นใจสั่นไหว ไม่รู้ว่าวิญญาณลอยไปอยู่หนใดแล้ว
“เรื่องนี้เราต้องเจรจากันอย่างละเอียด เอางี้ผมเชิญคุณจ้าวไปทานอาหารฝรั่งดีกว่า”
จูเหว่ยลอบดีใจ ดูเหมือนสาวงามตัวน้อยจะแอบมีใจแล้วล่ะสิ!
“ได้สิ ฉันไม่เคยทานอาหารฝรั่งมาก่อน วันนี้ต้องพึ่งใบบุญของคุณตูดเป็ด ให้ฉันได้เห็นเนื้อสเต็กที่สุกแค่สามส่วนว่ามันมีรสชาติยังไงกันแน่!” เหมยเหมยยิ้มมีความสุขมากกว่าเดิม
…………………………