เมื่อผู้คนของอาณาจักรผู้กล้าออกมาจากโลกที่เผ่าอสูรสร้างขึ้น และได้เห็นถึงความอลังการของกองทัพพันธมิตรรวมไปถึงได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้วโลกภายนอกนั้นเป็นอย่างไร พวกเขาต่างร้องไห้อย่างขมขื่น

นับจากนี้พวกเขาไม่ต้องรอความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ที่หวังว่าจะมีเทพจากสวรรค์สักองค์ลงมาช่วยปลดปล่อยพวกเขาจากพวกอสูรอีกแล้ว

ไม่นานต่อมา หลิงยี่เทียนจัดการส่งผู้คนของอาณาจักรผู้กล้าทั้งหมดให้เดินทางไปที่อาณาเขตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอี้ซางผ่านทางประตูเคลื่อนย้าย ซึ่งมันทำให้ผู้คนจากกองกำลังอื่น ๆ ต่างได้เห็นว่าอาณาจักรจันทรานั้นร่ำรวยขนาดไหน

ต้องรู้ว่าการเดินทางผ่านประตูเคลื่อนย้ายนั้นจำเป็นต้องใช้ผลึกวิญญาณไม่น้อยต่อหนึ่งคน แต่ขณะนี้อาณาจักรจันทราสามารถส่งผู้คนจำนวนหลักพันล้านเดินทางไปที่ภูมิภาคอี้ซางได้อย่างหน้าตาเฉย ซึ่งไม่มีกองกำลังไหนที่ร่ำรวยพอจะทำแบบนี้ได้แน่นอน

แต่แล้วในระหว่างที่การถ่ายเทผู้คนของอาณาจักรผู้กล้าไปยังภูมิภาคอี้ซางกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น จู่ ๆ ชายผู้หนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในผู้คนของอาณาจักรผู้กล้ากลับรีบวิ่งเข้ามาหาหลิงยี่เทียนด้วยสีหน้าเป็นกังวล และตะโกนขึ้นว่า “ฝ่าบาท คู่หมั้นของข้ายังไม่ออกมาจากโลกของพวกอสูรเลย!”

หลิงยี่เทียนขมวดคิ้วทันที “หืม? เจ้าชื่ออะไร? ทำไมเจ้าถึงบอกว่าคู่หมั้นของเจ้ายังไม่ออกมา?”

“นามของข้าคือ ชี่หยิง!” ชายหนุ่มรีบคุกเข่าและตอบกลับ “กลุ่มของข้าคือกลุ่มสุดท้ายที่ออกมาจากโลกของอสูร ก่อนที่จะออกมาข้าจับตาดูครอบครัวคู่หมั้นข้าอยู่ตลอด ซึ่งพวกเขาเดินตามหลังครอบครัวของข้ามาไม่ห่าง แต่แล้วเมื่อครอบครัวของข้าก้าวพ้นโลกของอสูร จู่ ๆ ทางออกกลับปิดตัวลงทันทีโดยที่ครอบครัวของคู่หมั้นข้าและยังมีกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ทันได้ออกมา! ฝ่าบาทข้าเชื่อว่าเรื่องนี้พวกอสูรจะต้องจงใจทำอย่างแน่นอน พวกมันคงต้องการจับตัวคนบางส่วนเอาไว้กินแน่ ๆ โปรดเมตตาข้าด้วยฝ่าบาท โปรดช่วยเหลือครอบครัวคู่หมั้นของข้าและคนอื่น ๆ ที่ยังคงติดอยู่ข้างในด้วย!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของหลิงยี่เทียนเปลี่ยนเป็นมืดหม่นทันที แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร หลิงตู้ฉิงเตะหมาสีทองและส่งสัญญาณให้มันกลายร่างเป็นง้าวเทวะพินาศทันที

หลิงตู้ฉิงบอกได้เลยว่าสิ่งที่ชี่หยิงพูดนั้นเป็นเรื่องจริง พวกอสูรคงวางแผนเก็บตัวมนุษย์บางส่วนเอาไว้เลี้ยงต่อแน่นอน

หลิงตู้ฉิงหันไปมองที่ทางออก ซึ่งปิดลงไปแล้ว จากนั้นเขาพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิด “ข้าอุตส่าห์ให้โอกาสกับพวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับไม่ใส่ใจ ถ้างั้นพวกเจ้าก็อย่าหาว่าโหดร้าย! ทำลายเขตแดน!”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงฟันง้าวส่งพลังทำลายเขตแดนไปยังทางออกของโลกอาณาจักรผู้กล้าที่พึ่งปิดตัวลง ส่งผลให้ทางออกเปิดขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้มันไม่เปิดแค่เพียงเป็นลักษณะรูโหว่เหมือนในตอนแรก ตอนนี้มันถูกเปิดออกเหมือนลูกมะพร้าวที่ถูกตัดด้านบนหายออกไป

เมื่อเปิดโลกของอาณาจักรผู้กล้าออก หลิงตู้ฉิงพุ่งตัวเข้าไปด้านในทันที จากนั้นเขาส่งเจตจำนงของตนเองตรวจสอบโลกอาณาจักรผู้กล้าเพื่อควานหาเหล่าผู้คนที่ถูกกักตัวเอาไว้

แต่แล้วแค่เพียงอึดใจเดียวเท่านั้นหลังจากที่เจตจำนงของเขาถูกส่งออกไป เจตจำนงเขากลับถูกสกัดเอาไว้โดยพลังอันกล้าแกร่งสายหนึ่งและพร้อมกันนั้นร่างที่ดูคล้ายมนุษย์แต่ทั้งร่างถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสดก็ปรากฏขึ้น

อมนุษย์โลหิตเอ่ยขึ้นพร้อมแสดงสายตาเกลียดชัง “เจ้ากำลังจะทำอะไร?”

หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าเย็นชา “จงส่งคนกลุ่มสุดท้ายออกมาเดี๋ยวนี้ และถ้าหากรอบนี้เจ้ายังเล่นตุกติกอีก ข้าจะฆ่าพวกอสูรที่เหลือทั้งหมดและทำลายโลกของเจ้ารวมไปถึงอีก 3 โลกที่พวกเจ้าซ่อนเอาไว้อยู่ในขณะนี้ด้วย!”

อมนุษย์โลหิตเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “อย่าได้มาขู่ข้า! ข้าไม่ได้อ่อนแอเหมือนกับลูกหลานของข้าที่เจ้าสังหารไป! ข้าได้ส่งพวกมนุษย์ของเจ้าออกไปหมดแล้วจงออกไปจากที่นี่ซะ และอย่าได้กลับมาวุ่นวายที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง!”

หลิงตู้ฉิงยิ้มอย่างเย็นชา “เจ้ารนหาที่เองนะ! ในเมื่อเจ้าเล่นตุกติกกับข้า งั้นเจ้าก็ต้องเจ็บตัว! ทัณฑ์ฟ้าดิน!”

เมื่อโลกที่มันสร้างขึ้นเสียหายอย่างหนัก อมนุษย์โลหิตหรือก็คือผู้ปกครองโลกนี้จึงไม่สามารถปกปิดกลิ่นอายของมันได้อย่างสมบูรณ์เหมือนเดิม และเมื่อมันปกปิดกลิ่นอายของตัวเองไม่ได้ มันก็หมายความว่าตัวตนของมันถูกหลิงตู้ฉิงสัมผัสเห็นได้อย่างชัดเจน และนั่นทำให้ทัณฑ์ฟ้าดินทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เร็วกว่าพริบตา ง้าวเทวะพินาศสับไปที่เอวของอมนุษย์โลหิตจนแยกเป็นสองท่อน

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ผู้ปกครองโลกจำลองอีก 3 ใบต่างก็ปรากฏกายขึ้นอย่างพร้อมเพรียงด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

ต้องเข้าใจว่าผู้ปกครองโลกทั้งสี่นี้ไม่เชิงว่าเป็นสิ่งมีชีวิต เพราะชีวิตของพวกเขานั้นถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับโลกไปนานแล้ว หรือถ้าจะให้พูดอีกอย่างก็คือพวกเขาเป็นตัวตนที่ไม่ได้ต่างอะไรกับหยิงหยิง ซึ่งถ้าหากโลกไม่ดับสลาย พวกเขาก็ไม่มีวันบาดเจ็บหรือตาย

อย่างไรก็ตามเมื่อครู่พวกเขาทุกคนต่างสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าการโจมตีของหลิงตู้ฉิงสามารถทำให้พลังของโลกที่เชื่อมต่ออยู่กับพวกเขาถูกยกเลิกได้ช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้การโจมตีที่ไม่สมควรสร้างความเสียหายอะไรได้ต่ออมนุษย์โลหิตกลับได้ผลอย่างน่าตื่นตะลึง

อมนุษย์โลหิตมองไปที่ร่างกายส่วนที่ถูกฟันหลุดกระเด็นไปด้วยสีหน้าโง่งม และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมันพยายามที่จะสมานร่างกายทั้งสองส่วนให้เชื่อมติดกันเหมือนเดิม มันกลับทำไม่ได้ มันสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามีพลังบางอย่างที่ผนึกพลังการสมานแผลของมันเอาไว้ไม่ให้ฟื้นตัว

“โปรดยั้งมือก่อน! ให้โอกาสเทพโลหิตสหายข้าได้แก้ไขความผิดพลาดของเขาอีกสักครั้งเถอะ!” มนุษย์นกปีกขาวตนเดิมกับที่หลิงตู้ฉิงเจอก่อนหน้านี้รีบเอ่ยขึ้นทันที

หลิงตู้ฉิงพ่นลมหายใจด้วยสีหน้าเย็นชา จากนั้นเขาพูดว่า “ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าทั้งหมดอีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น อีกแค่ครั้งเดียว! ถ้าหากยังมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นอีก ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมดและทำลายโลกจำลองทั้งสี่ของพวกเจ้ารวมไปถึงสันเขาหมื่นอสูรทั้งหมด! เอาล่ะตอนนี้ส่งตัวมนุษย์ที่ยังเหลืออยู่ออกมาได้แล้ว และพวกเจ้าทั้งสามจงเปิดโลกของพวกเจ้าออกด้วย ข้าจะเข้าไปดูโลกของพวกเจ้าทั้งหมดด้วยเหมือนกัน!”

“เทพโลหิต เจ้ารีบปล่อยมนุษย์ที่เหลืออยู่เร็ว ๆ เข้า! แค่นี้เผ่าอสูรของพวกเราก็เผชิญกับหายนะมากพอแล้ว เจ้าอย่าได้ทำให้มันแย่มากไปกว่านี้เลย หากเจ้ายังคงดื้อดึงอยู่แบบนี้มันจะยิ่งเป็นผลเสียต่อพวกเราทั้งหมด!” ผู้ปกครองโลกอีก 2 ใบรีบเอ่ยขึ้น

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบใจนักที่ต้องยอมก้มหัวให้กับหลิงตู้ฉิง แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นเมื่อเผชิญกับอาวุธเต๋าที่สามารถยับยั้งพลังของโลกที่คอยเกื้อหนุนพวกเขาได้เช่นนี้

เมื่อรู้ตัวว่าสู้ไม่ได้ ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดของพวกเขาจึงต้องยอมถอย

เทพโลหิตพ่นลมหายใจด้วยความอาฆาต แต่สุดท้ายมันก็จำยอมปล่อยมนุษย์กลุ่มสุดท้ายนับพันคนให้ลอยออกไปจากโลกของมัน

เมื่อได้เห็นคู่หมั้นของตัวเองในกลุ่มผู้คนที่ถูกปล่อยออกมา ชี่หยิงรีบวิ่งเข้าไปกอดนางทั้งน้ำตาทันที

พวกเขาทั้งคู่ต่างคิดว่าชาตินี้พวกเขาคงไม่น่าจะได้เจอกันอีกแล้ว ชี่หยิงไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าหลิงยี่เทียนจะเห็นปัญหาของคนธรรมดาอย่างพวกเขาเป็นปัญหาใหญ่ และช่วยเหลือพวกเขาขนาดนี้

หลิงตู้ฉิงมองไปที่กลุ่มคนที่ถูกปล่อยออกไปอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาหันกลับมาพูดว่า “จงเปิดโลกจำลองของพวกเจ้าอีก 3 ใบออก ข้าจะเข้าไปตรวจสอบพวกมันทั้งหมดเช่นกัน!”

ในเมื่อพวกอสูรคิดตุกติกเช่นนี้ ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงจำเป็นต้องตรวจสอบโลกจำลองของพวกอสูรให้ครบเพื่อที่หลังจากนี้หลิงยี่เทียนจะได้ไม่มีอะไรคาใจ ไม่งั้นเรื่องในครั้งนี้มันจะตามหลอกหลอนหลิงยี่เทียนไปตลอด ทำให้เขาไม่อาจสงบใจบ่มเพาะได้อย่างสมบูรณ์

ผู้ปกครองอีก 3 โลกเปิดโลกของตนเองให้หลิงตู้ฉิงและหลิงยี่เทียนเข้าไปตรวจสอบทันที

อย่างไรก็ตาม เทพโลหิตซึ่งยังคงเคืองแค้นอยู่ก็พ่นลมหายใจด้วยสีหน้าอาฆาตออกมาอีกรอบหนึ่ง ซึ่งรอบนี้หลิงตู้ฉิงหันมาหาทันทีและเขวี้ยงง้าวเทวะพินาศเข้าใส่จนร่างของเทพโลหิตถูกแยกออกเป็น 18 ส่วนภายในพริบตา ส่งผลให้มันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทั้ง ๆ ที่ตัวตนอย่างมันไม่ควรจะรู้สึกเจ็บปวดใด ๆ!