อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1177 ขั้นสูงสุดระดับหกเสียชีวิต
กู้ชูหน่วนสงบสติอารมณ์ ไม่ว่าพวกเขาจะต่อสู้กันจนฟ้าดินถล่มทลาย ทรายหินปลิวว่อนเพียงใด นางก็คิดเพียงแค่ว่าจะฟื้นฟูสภาพร่างกายให้ที่ดีที่สุดในระยะเวลาอันสั้นที่สุดเท่านั้น
เวลาผ่านไปหนึ่งนาทีหนึ่งวินาที ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
นางเพิ่งจะลืมตาขึ้น ก็เห็นเวินเส้าหยีทำร้ายไป๋หลี่หมิงเยียนบาดเจ็บสาหัส
เดิมทีสามารถสังหารไป๋หลี่หมิงเยียนได้ในคราวเดียว ก็ไม่รู้ว่าไป๋หลี่ป้าทะลวงตีค่ายกลที่นางวางไว้แตกตั้งแต่เมื่อไหร่ ลอบโจมตีจากทางด้านหลัง ร่างกายของเวินเส้าหยีกระเด็นถอยหลังไป กระอักเลือดออกมา เสื้อผ้าสีขาวย้อมไปด้วยเลือด แม้แต่พิณหิมะของเขาก็ถูกสะเทือนออกไปแล้ว
ขณะที่ยอดฝีมือประมือกันแล้วถูกคนลอบโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นี้ไม่ใช่เป็นการเอาไปครึ่งชีวิตแล้วหรือ
เมื่อเห็นไป๋หลี่หมิงเยียนและไป๋หลี่ป้าร่วมมือกัน ฝ่ามือแล้วฝ่ามือเล่า กระบวนท่าแล้วกระบวนท่าเล่า โจมตีถล่มอย่างดุดันไปทางเวินเส้าหยี ทุกกระบวนท่าล้วนตั้งใจทำให้เวินเส้าหยีตาย
เวินเส้าหยีต้านทานสุดชีวิต ก็รับการโจมตีแบบร่วมมือกันของพวกเขาสองคนไม่ไหว อีกอย่างพิณหิมะก็ถูกสะเทือนจนกระเด็นไปไกลอีก เขาไม่มีมือว่างที่จะเอื้อมไปหยิบพิณหิมะได้โดยสิ้นเชิง
เป็นเช่นนี้ต่อไป เวินเส้าหยีไม่ตายก็ปาฏิหาริย์แล้ว
แม้ว่านางจะชอบเวินเส้าหยีไม่ลง แต่เทียบกับคนตระกูลไป๋หลี่ นางหวังจะให้เวินเส้าหยีชนะมากกว่า
“ฟู่ว…”
เวินเส้าหยีถูกโจมตีเข้าเป้า กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง เสื้อผ้าสีขาวบนตัวก็ถูกย้อมไปด้วยเลือด กระจายเป็นดอกบัวหิมะเป็นดอกๆ
กู้ชูหน่วนยกเท้าขึ้นก็อยากเข้าไปช่วย
ซือโม่เฟยรีบดึงนางไว้ “พี่สาว วิทยายุทธของพวกเขาสูงเกินไป ท่านเข้าไปก็จะตาย”
“หากว่าเวินเส้าหยีตาย ข้าก็ต้องตาย”
“ผู้ชายคนนั้น เหมือนจะเป็นระดับหก”
“ข้าเห็นแล้ว”
กู้ชูหน่วนสงบจิตใจ ใช้ความคิดขับเคลื่อนขลุ่ยหยกมรกตและแหวนมิติ
ไป๋หลี่ป้าตัวดี ศักยภาพของเขาถึงระดับหกนานแล้ว แต่กลับปิดบังไว้มาโดยตลอด หากวันนี้เขาไม่ได้คิดอยากจะสังหารเวินเส้าหยีเช่นนั้น ก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะปิดบังไปอีกนานเพียงใด
เมื่อนึกถึงก่อนหน้านี้ที่ไป๋หลี่ป้าทนรับการดูถูกเหยียดหยามมากมายขนาดนั้นแต่ก็สามารถทนได้ ปิดบังความสามารถที่แท้จริงไว้ กู้ชูหน่วนก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
“บูม……”
เมื่อไป๋หลี่หมิงเยียนเห็นว่าเวินเส้าหยีไม่ได้นำพายอดฝีมือของตระกูลเวินมาด้วย สองมือประกบกัน เตรียมผนึกพลังทั้งหมดของเขาในการโจมตีเพื่อปลิดชีพกำจัดเวินเส้าหยีซะในครั้งเดียว
นี่เป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีการรวบรวมพลังยุทธทั้งหมดของเขา คนที่ต่ำกว่าระดับเจ็ดลงไปใครจะสามารถต้านทานได้
เผชิญหน้ากับการรวมพลังกันโจมตีของพวกเขา เวินเส้าหยีที่อยู่ในสภาพโดนยาพิษและบาดเจ็บสาหัสสู้ไม่ทันโดยสิ้นเชิง เมื่อเห็นกระบวนท่าที่แข็งแกร่งเป็นที่สุดของไป๋หลี่หมิงเยียนร่วงลงมา เขาก็รู้สึกท้อใจอย่างอดไม่ได้
วิญญาณของกู้ชูหน่วนยังรวบรวมได้ไม่ครบ
ความแค้นอันใหญ่หลวงของเผ่าเทียนเฟิ่นยังไม่ได้ชำระ
เขาจะตายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
แต่พวกเขาร่วมมือกันอย่างลงตัวเกินไป เขาจะสามารถจัดการได้อย่างไร
แล้วในเวลาที่เขาแทบจะสิ้นหวัง ขลุ่ยหยกมรกตเหนือร่างของไป๋หลี่หมิงเยียนก็เปล่งประกายแสงสว่างสีเขียวออกมา เปล่งเสียงขึ้นมาเองเงียบๆแล้วโจมตีกลับไปยังไป๋หลี่หมิงเยียน
ในขลุ่ยหยกมรกตแฝงไปด้วยพลังยุทธของผู้แข็งแกร่งระดับเจ็ด ซึ่งละเลยไม่ได้ การโจมตีของเขาก็แข็งแกร่งเป็นพิเศษเช่นกัน
ไป๋หลี่หมิงเยียนจำเป็นต้องละมือ ปกป้องตัวเองออกจากขลุ่ยหยกมรกตก่อน
แทบจะในเวลาเดียวกัน เวินเส้าหยีสังเกตเห็นโอกาส พยายามหอบร่างกายที่ถูกไป๋หลี่ป้าตีจนอาการสาหัสพลิกตัวกระโจนออกไปอย่างฉับพลัน เอาพิณหิมะกลับมา
“ชิ้งชิ้งชิ้ง….”
เสียงพิณดังขึ้น บรรเลงเสียงสังหาร สายพิณของพิณหิมะออกจากตัว ดีดไปทางไป๋หลี่หมิงเยียน
เหตุผลที่พิณหิมะถูกเรียกว่าพิณหิมะ นอกจากทั้งตัวพิณจะขาวดั่งหิมะแล้ว สายพิณของมันก็โปร่งใส่ดั่งหิมะเช่นกัน
หากไม่ดูให้ละเอียด ก็มองไม่เห็นโดยสิ้นเชิง
ยิ่งไปกว่านั้นเวินเส้าหยีดีดไปเส้นแล้วเส้นเล่า จริงบ้างปลอมบ้าง สลับขวักไขว่กันไปมา ไม่สนใจตัวเองที่ถูกไป๋หลี่ป้าโจมตีด้วยฝ่ามือแล้วฝ่ามือเล่าเลย แต่ก็ยังต้องการจะกำจัดไป๋หลี่หมิงเยียนไปให้ได้เสียก่อน
เสียงสังหารดังขึ้นเหมือนดั่งปีศาจร้ายเช่นนั้น
หลังจากที่ไป๋หลี่หมิงเยียนสะเทือนขลุ่ยหยกมรกตออกไป ก็ต่อต้านกับเสียงสังหารด้วยกำลังทั้งหมด
ทว่า…
รูม่านตาของเขาเบิกกว้างอย่างฉับพลัน มองไปทางเวินเส้าหยีด้วยความเหลือเชื่อ บนตัวส่งเสียงดังซือซือซือ
ทันทีที่มองอย่างละเอียดอีกครั้ง ร่างกายของไป๋หลี่หมิงเยียนก็ราวกับถูกมีดนับพันหมื่นฟาดฟันเช่นนั้น ทุกแห่งหนถูกปาดเป็นแผล ลึกจนเข้ากระดูก เลือดสดไหลนองเหมือนดั่งเขื่อนแตก ไหลติ๋งๆออกมา
“นี่คืออะไร….เสียงสังหาร…”
ไป๋หลี่หมิงเยียนเค้นประโยคหนึ่งออกมาจากซอกฟัน ม่านตายังคงเบอกกว้างจ้องมองเวินเส้าหยี เต็มไปด้วยความไม่ยินยอม
ไม่รอให้ตอบ ร่างกายของเขาก็ระเบิดไปโดยตรง ระเบิดจนกลายเป็นชิ้นๆ และแต่ละชิ้นนั้น ล้วนเป็นจุดที่สายพิณปาดผ่าน
แม้แต่ศีรษะของเขาก็ถูกปาดออกแล้ว
คนที่เป็นถึงขั้นสูงสุดระดับหก ก็ตายไปเช่นนี้ด้วยน้ำมือของเวินเส้าหยี
สิ่งนี้ถูกกำหนดให้เป็นหัวข้อสนทนาที่ใหญ่ที่สุดในทวีปปิงหลิง
ไป๋หลี่หมิงเยียนเสียชีวิตแล้ว เวินเส้าหยีก็ถูกไป๋หลี่ป้าโจมตีอย่างหนักติดต่อกัน ขาขวาของเขางอ คุกเข่าลงไปข้างหนึ่งโดยตรง
ระหว่างที่ได้รับบาดเจ็บ เขาใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายทั้งหมดอันน้อยนิด ดึงพิณหิมะออกมาทันที กระแสน้ำอันน่าสะพรึงกลัวสายหนึ่งพุ่งตรงไปทางไป๋หลี่ป้า
ไป๋หลี่ป้ารีบต้านทานอย่างรวดเร็ว
“ปังปังปัง…..”
เวินเส้าหยีบาดเจ็บสาหัส
แต่เขาที่ไม่ได้มีบาดแผลอะไร
ก็ยังถอยหลังไปทีละก้าวๆ จนแทบจะถูกสะเทือนตายไปตรงนี้
เงียบ
เหตุการณ์เงียบสงบลงทันที
เรี่ยวแรงในร่างกายของเวินเส้าหยีเกือบจะหมดลงแล้ว
เขาอาศัยลมหายใจเฮือกสุดท้ายฝืนยืนขึ้นมา และกล่าวว่า “หากว่าเจ้ารีบจากไปโดยเร็ว ข้าจะไม่สร้างความลำบากใจให้เจ้า หากว่าเจ้ายืนกรานที่จะอยู่ ข้าก็จะทำลายเจ้าไปด้วยพร้อมกัน”
ไป๋หลี่ป้าเป็นระดับหกแล้ว บนโลกนี้จะมีสักกี่คนที่กล้าพูดเช่นนี้กับเขา
แต่บังเอิญอีกฝ่ายคือเวินเส้าหยีที่เป็นขั้นสูงสุดระดับหก
อวัยวะภายในของไป๋หลี่ป้าแปรปรวนไปหมด เพราะการโจมตีเมื่อครู่ของเขาทำให้ได้รับบาดเจ็บแล้วเช่นกัน
เขามองไปทางไป๋หลี่หมิงเยียนที่ตายอย่างน่าอนาถ
แล้วมองไปทางเวินเส้าหยีกับกู้ชูหน่วนที่สีหน้าซีดขาวอีกครั้ง
จิตใจก็กระวนกระวายไม่เป็นสุขเล็กน้อย
เวินเส้าหยีได้รับบาดเจ็บสาหัส ยัยเด็กนั่นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
เวลานี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะกำจัดพวกเขาไป
แต่….
สุดยอดผู้อาวุโสไป๋หลี่หมิงเยียนเป็นถึงขั้นสูงสุดระดับหกผู้ผ่าเผยยังตายในเงื้อมมือของพวกเขา แต่เขานั้นเพิ่งจะเข้าสู่ระดับหกเท่านั้น หากว่า…
เมื่อคิดถึงว่าเวินเส้าหยีเดิมทีก็บาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว แต่บรรพบุรุษของตัวเองก็ไม่สามารถสังหารเขาได้
หากว่าเวินเส้าหยียังเก็บพลังที่แท้จริงไว้
หากว่ากู้ชูหน่วนยังสามารถขับเคลื่อนขลุ่ยหยกมรกตและแหวนมิติได้…
จิตใจของเขาสั่นไหวไม่คงที่
เวินเส้าหยีก็มองความคิดของเขาออกแล้วเช่นกัน เขาเอ่ยขึ้นว่า “คิดว่าคนของตระกูลเวินคงใกล้จะมาถึงแล้ว เจ้าบ้านไป๋หลี่อยากจะไปดื่มชาที่ตระกูลเวินพร้อมกับข้าหรือ?”
เจ้าบ้านไป๋หลี่ยิ้มด้วยสีหน้าเหยเก “เจ้าบ้านเวินพูดจาน่าขันแล้ว วันนี้ล้วนเป็นความเข้าใจผิด ข้าอยากจะฆ่าแค่นางเท่านั้น เสียดายที่พลาดท่าทำร้ายให้เจ้าบ้านเวินได้รับบาดเจ็บโดยไม่ได้ระวัง ในเมื่อบรรพบุรุษตระกูลไป๋หลี่ของพวกเราก็เสียชีวิตในมือของท่านแล้ว เช่นนั้นเรื่องวันนี้ ก็เป็นโมฆะ ท่านเห็นว่าอย่างไร?”
เวินเส้าหยีหัวเราะอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง แหงนหน้ามองฟ้า มองข้ามไป๋หลี่ป้าไปโดยตรง
ไม่ว่าผู้ใดก็รู้ว่าเหตุผลนี้ของไป๋หลี่ป้าฟังไม่ขึ้น
และก็รู้ว่าต่างฝ่ายต่างอยากทำอะไรบ้าง
ไป๋หลี่ป้าเห็นว่าเวินเส้าหยีไม่มีแววว่าจะทำให้เขาตกที่นั่งลำบาก แม้ว่าจะไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แต่ก็ทำได้เพียงเพ่งมองกู้ชูหน่วนด้วยความดุดันแวบหนึ่ง แล้วจากไปด้วยความไม่เต็มใจ
แต่กู้ชูหน่วนกลับหยุดฝีเท้าของเขาไว้
ไป๋หลี่ป้ากล่าว “ทำไม อาศัยแค่เจ้าก็ยังคิดจะรั้งให้ข้าอยู่ต่อรึ?”
เขาไม่คิดบัญชีกับนางก็ไม่เลวแล้ว
คิดไม่ถึงว่านางยังคิดจะขวางเขาไว้อีก
นางก็ไม่ดูซะบ้างว่าตระกูลไป๋หลี่ถูกนางทำซะจนเป็นอย่างไรแล้ว?
เวินเส้าหยีคิดจะเอ่ยปาก ให้กู้ชูหน่วนปล่อยไป แต่หากว่าเขาแสดงออกอย่างรีบร้อนจนเกินไป ก็จะทำให้ไป๋หลี่ป้าระแคะระคายเป็นแน่
การต่อสู้เมื่อครูนั้น เข้าสิ้นเปลืองพลังยุทธทั้งหมดไปแล้ว
ตอนนี้เรี่ยวแรงแม้สักนิดเดียวเขาก็ไม่มีเหลือ
ไม่ต้องพูดถึงว่าไป๋หลี่ป้าเป็นขั้นต้นระดับหก
แค่ระดับสองคนเดียวก็อาจเพียงพอที่จะเอาชีวิตเขาได้แล้ว