บทที่ 2215 โลกใบนี้กลับดำเป็นขาว!
ตัวขี้เหร่!
พวกเขาทั้งบ้านตาบอดรึไง
ไปให้จักษุแพทย์ตรวจตาหน่อยไหม! นี่เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้ายแล้วใช่ไหม!
เขารู้อยู่แล้ว! เขาว่าแล้วเชียวผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางคลอดเด็กดีออกมาได้แน่นอน! ใช่จริงๆ!
“ถังถัง ห้ามพูดกับลุงเจียงแบบนี้” ซือเยี่ยหานมองถังถัง แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ถังถังเงยหน้ามองพ่อแท้ๆ ของตัวเองแวบหนึ่ง “ความคิดของพ่อต่างไปจากแม่เหรอครับ”
ซือเยี่ยหานเงียบไปทันที ผ่านไปครู่หนึ่งถึงเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ต่างหรอก…”
เจียงหลีเฮิ่นพูดไม่ออกแล้ว
โลกใบนี้! ช่างไร้ความปราณี! กลับดำเป็นขาว!
….
ภายในพันธมิตรอู๋เว่ย เยี่ยหวันหวั่นไม่รับรู้ถึงฉากเล็กๆ ระหว่างถังถังกับเจียงหลีเฮิ่นเลย กำลังตรวจตราไปทั่วอาคารหลักพร้อมกับเป่ยโต่ว
“พี่เฟิง ผมสาบานด้วยชีวิตของผมได้เลย ทั้งพันธมิตรอู๋เว่ยถูกขนไปจนเกลี้ยงแล้ว เหลือแค่ชุดหม้อชามในห้องครัวเท่านั้น ไม่มีของอย่างอื่นเหลืออยู่แน่นอน!”
เป่ยโต่วเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า ดูเหมือนจะไม่เหลืออะไรให้ขนแล้วจริงๆ
พอถึงเวลาก็ไปยื่นฟ้องสายหลักกับสภาตุลาการก่อน จากนั้นค่อยไปเอาพันธมิตรอู๋เว่ยกลับมาจากเดธโรส โดยอ้างว่าตัวเองใช้ทรัพย์สินมหาศาลเพื่อไถ่พันธมิตรอู๋เว่ยกลับมา แบบนี้คล้ายจะเข้าท่าอยู่
“ไม่ถูกสิ ข้าวของในคลังสมบัติของพวกเรายังขนไม่หมดเลย ฉันจำได้ว่ามีโต๊ะใหญ่ตัวหนึ่งอยู่ ดูเหมือนจะทำมาจากไม้ล้ำค่าหายากอะไรสักอย่าง รออีกสองสามวัน นายตามฉันมาขนมันไปซะ!” เยี่ยหวันหวั่นกล่าว
“ใช่ๆๆ พี่เฟิงความจำดีจริงๆ ผมเกือบลืมไปเลย!” เป่ยโต่วรีบพยักหน้ารับ
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเยาะ เหลวไหลน่า เรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเงินทอง ความทรงจำของเธอเข้าขั้นที่ว่าเห็นผ่านตาก็ไม่ลืมเลือนเลยด้วยซ้ำ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นกับเป่ยโต่วก็ออกจากพันธมิตรอู๋เว่ย แล้วมุ่งหน้าไปที่เดธโรส
สองวันมานี้ เยี่ยหวันหวั่นจัดการเรื่องความขัดแย้งระหว่างสมาชิกระดับสูงของทั้งสองฝ่ายอยู่ที่เดธโรสไปได้พอประมาณแล้ว
และในช่วงเวลาสองวันนี้ ก็มีข่าวหนึ่งถูกส่งมาจากทางสายหลัก
เป่ยโต่วผลักประตูห้องทำงานให้เปิดออก แล้ววิ่งเหยาะๆ เข้าไปในห้องทำงาน
“นายทำอะไรน่ะ เคาะประตูไม่เป็นรึไง”
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเป่ยโต่วแวบหนึ่ง ตัวเองกำลังคุยธุระกับผู้อาวุโสใหญ่อยู่
“พี่เฟิง พี่ไม่รู้หรอก ผมจะมาบอกพี่ว่า…เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!” เป่ยโต่วรีบเอ่ยเรียกเยี่ยหวันหวั่น
พอสิ้นเสียงของเป่ยโต่ว เยี่ยหวันหวั่นก็พลันมุ่นคิ้วนิดๆ เกิดเรื่องใหญ่งั้นเหรอ
“เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นอีกล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นถาม
“พี่เฟิง พี่ยังจำผู้เฒ่าเซวียคนนั้นจากสายหลักได้ไหม” เป่ยโต่วย้อนถาม
“ไร้สาระ” เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเป่ยโต่วแวบหนึ่ง เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน จะลืมได้ยังไงล่ะ
“พี่เฟิง เฒ่าเซวียคนนั้น ตั้งแต่กลับจากพันธมิตรอู๋เว่ยครั้งก่อน ก็โมโหพี่จนล้มป่วยลุกไม่ขึ้น ตอนนี้นอนอยู่บนเตียงทั้งวันเลย คิดว่าคงโมโหพี่จนจะตายแล้ว!” เป่ยโต่วเล่า
เยี่ยหวันหวั่นฟังแล้วมีสีหน้ามึนงง ตาเฒ่าเซวียของสายหลักคนนั้น โมโหตัวเองจนล้มป่วยลุกไม่ขึ้นงั้นเหรอ
ผู้อาวุโสใหญ่เหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นแวบหนึ่ง ดูเหมือนว่า…ท่านผู้นำของพวกเขา จะมีความสามารถในด้านนี้จริงๆ สอดส่ายสายตาไปทั่วรัฐอิสระแล้ว เขายังไม่เคยเห็นใครที่หน้าด้านไร้ยางอายได้ขนาดนี้มาก่อนเลย…
แต่ก่อนตอนอยู่ที่จีน เปิดศึกกับซืออู๋เทียน ผู้นำโทรแจ้งเหตุร้ายกับตำรวจด้วยความสุขุมมาก…จากนั้น ก็ไม่มีต่อจากนั้นแล้ว
ได้ยินว่า ช่วงที่ผู้นำไปติดเกาะก่อนหน้านี้ ได้รับตราพยัคฆ์ขาวมา…อันที่จริงก็คือเล่นพนันได้มาจากเจ้าของตราพยัคฆ์ขาว พนันว่าชาวบ้านเขาไม่กล้ากิน…ขี้
โดยเฉพาะการรับมือกับสายลัก เล่นลูกไม้นี้ ยิ่งยากจะบรรยายได้จริงๆ
“เฮ้อ ผู้เฒ่าเซวียคนนั้น รุ่งโรจน์มาทั้งชีวิต อยู่ในสายหลักก็มีสิทธิ์มีเสียงเช่นกัน สรุปคือเป็นคนมีหน้ามีตานั่นแหละครับ คาดว่าคงไม่เคยเจอคนอย่างผู้นำมาก่อน ก็เลยรับไม่ได้ไปชั่วขณะ โมโหจนล้มป่วย นับว่าธรรมดามาก” ผู้อาวุโสใหญ่ที่อยู่ด้านข้างเอ่ยพลางยิ้มน้อยๆ
—————————————————————————————
บทที่ 2216 มีค่าไม่เท่าโต๊ะตัวหนึ่ง
“ผู้อาวุโสใหญ่ ดูนายพูดเข้าสิ อะไรที่เรียกว่าเป็นคนมีหน้ามีตา ในรัฐอิสระไม่ใช่ว่าพวกเราก็เป็นคนมีหน้ามีตาเหมือนกันรึไง บอกได้แค่ว่า ผู้เฒ่าเซวียคนนั้นสภาพจิตใจไม่ได้เรื่อง ความอดทนต่ำมาก แบบนั้นจะโทษใครได้ล่ะ พวกเราไม่ได้ละเมิดข้อสัญญาข้อไหนสักหน่อย!”
“แบบนั้นแน่นอนครับ” ผู้อาวุโสใหญ่พยักหน้า
เยี่ยหวันหวั่นยักไหล่ “พอถึงเวลาถ้าโมโหจนตาย ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันแล้ว และถ้าเกิดโมโหจนตายไปจริงๆ สายหลักก็ไม่มีทางมาล้างแค้นพวกเราหรอกน่า”
พอได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น เป่ยโต่วกับผู้อาวุโสใหญ่ก็สบตากันแวบหนึ่ง
“เอ่อ…” เป่ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่น “พี่เฟิง...คงจะไม่มาล้างแค้นผมกับผู้อาวุโสใหญ่หรอก ต่อให้คิดจะล้างแค้น ผมว่าสายหลักก็คงจะล้างแค้นแค่พี่คนเดียวนะ…”
เยี่ยหวันหวั่นผงะไปเลย
ข่าวที่ว่าผู้เฒ่าเซวียของสายหลักถูกพันธมิตรอู๋เว่ยยั่วโมโหจนล้มป่วย ยังไม่ถึงครึ่งวันก็แพร่ไปทั่วรัฐอิสระแล้ว
กลุ่มอำนาจมากมายแอบด่าทอเยี่ยหวันหวั่นว่าต่ำช้าไร้ยางอาย ผู้เฒ่าเซวียจากสายหลักอายุมากขนาดนั้น เป็นผู้เฒ่าวัยเจ็ดสิบแปดสิบแล้ว ดูสิว่าถูกยั่วโมโหจนกลายเป็นแบบไหนไปแล้ว
บรรดาขาใหญ่ที่ถูกเยี่ยหวันหวั่นช่วยออกมาจากเกาะก่อนหน้านี้ ต่างก็พากันส่ายหน้า พวกเขาเคยเจอกับความไร้ยางอายของผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยด้วยตัวเองแล้ว โชคดีที่พวกเขายังหนุ่มยังแน่น ความอดทนด้านจิตใจจึงแข็งแกร่ง ไม่อย่างนั้น เกรงว่าคงถูกผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยยั่วโมโหจนตายตั้งแต่อยู่บนเกาะแล้ว
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ๆ บรรดาขาใหญ่เหล่านั้นก็นึกเห็นใจผู้เฒ่าเซวียจากสายหลักขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ตาเฒ่าคนนี้โชคร้ายจริงๆ ถึงแม้ว่าจะผ่านการต่อสู้ในที่ลับและที่แจ้งมาทั้งชีวิตแล้ว แต่นั่นคือการต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพ เกรงว่าทั้งชีวิตคงไม่เคยเจอใครที่หน้าด้านไร้ยางอายแบบผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยมาก่อน นี่ได้แต่ถือว่าเขาดวงซวยแล้ว
….
สำหรับเรื่องของผู้เฒ่าเซวีย เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้ใส่ใจเลย กลับลากพวกเป่ยโต่วกลับไปที่พันธมิตรอู๋เว่ยอีกครั้ง เตรียมขนย้ายโต๊ะไม้ล้ำค่าตัวนั้นไป
“พี่เฟิง เรื่องเล็กๆ แบบนี้ ให้ลูกน้องมาทำก็ได้นี่ พวกเราต้องมาย้ายกันเองเลยเหรอ” เป่ยโต่วเอ่ยถาม
เยี่ยหวันหวั่นปรายตามองเป่ยโต่วแวบหนึ่ง “เหลวไหล ของมีค่าแบบนี้ ถ้าขนแล้วพังไปจะทำยังไง เอานายไปขายก็ชดใช้ไม่ได้หรอก”
เป่ยโต่วเงียบไปแล้ว โต๊ะตัวหนึ่งมีค่ามากกว่าเขาอีกเหรอ?!
ทันใดนั้น ขณะที่เพิ่งเคลื่อนย้ายโต๊ะออกมาจากคลังเก็บสมบัติ จู่ๆ ม่านตาของผู้อาวุโสสามก็หดตัวลงและมองไปด้านหน้า
“ผู้นำครับ!” ผู้อาวุโสสามร้องเรียกเยี่ยหวันหวั่นทันที
“ว่ายังไง” เยี่ยหวันหวั่นมองไปทางผู้อาวุโสสามตามสัญชาตญาณ
“คนลึกลับที่นัดพบกับเนี่ยหลิงหลงในตอนนั้นครับ!” ผู้อาวุโสสามชี้ไปข้างหน้า
เยี่ยหวันหวั่นและพวกเป่ยโต่วมองไปตามทิศทางที่ผู้อาวุโสสามชี้
เงาร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมสีดำร่างหนึ่ง ไม่รู้ว่าปรากฏตัวขึ้นในพันธมิตรอู๋เว่ยตั้งแต่เมื่อไหร่ และข้างๆ คนชุดดำ ก็มียอดฝีมือจากสายหลักติดตามมาด้วยคนหนึ่ง
“ผู้อาวุโสสาม ใช่เขาแน่เหรอ?!” เยี่ยหวันหวั่นถาม
“ไม่ผิดแน่ครับ!” ผู้อาวุโสสามพยักหน้ารัวๆ “ผู้นำครับ คนนี้แน่นอน ถึงกลายเป็นขี้เถ้าผมก็จำได้!”
“นายบอกว่าวันนั้นดึกเกินไป มองเห็นรูปร่างไม่ชัดไม่ใช่เหรอ” เยี่ยหวันหวั่นนึกสงสัยอยู่บ้าง
“เห็นคนไม่ชัด แต่ผมจำชุดนั้นได้!” ผู้อาวุโสสามเอ่ยต่อ “อีกอย่าง คนคนนี้ก็เป็นพวกเดียวกับสายหลัก แบบนั้นไม่ผิดแน่ครับ!”
จากนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็มองไปที่คนชุดดำ ดวงตาสาดประกายหนาวยะเยือกแวบหนึ่ง
เป็นคนคนนี้สินะที่ตอนนั้นสมคบคิดกับเนี่ยหลิงหลง บอกให้กำจัดเนี่ยอู๋หมิงทิ้ง…
ถ้าคนคนนี้ไม่เห็นด้วย พี่ชายก็คงไม่ตายแน่นอน!
เยี่ยหวันหวั่นแทบไม่เสียเวลาพูดอะไรแล้ว ส่งแรงไปที่สองเท้า ตัวคนราวกับจะพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า หมัดอันทรงพลังน่าพรั่นพรึง ชกเข้าใส่คนชุดดำอย่างดุดัน
—————————————————————————————