ตอนที่ 2115 กิเลนมาถึง

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ชายหนุ่มผู้นั้นที่ได้ยินก็ถึงกับผงะไป ในเวลานี้หลงเสี่ยวฉุนได้วิ่งหนีออกไปทางประตูหลังพร้อมหันมามองเย่หยวนด้วยสายตาอาฆาต

“เย่หยวน ข้าไว้ใจเจ้า! แต่เจ้ากลับหักหลังข้า!” หลงเสี่ยวฉุนร้องขึ้นอย่างโกรธแค้น

เย่หยวนที่ได้ยินก็หัวเราะขึ้นมา “สาวน้อย เจ้าหนีออกจากบ้านเช่นนี้ตระกูลของเจ้าคงเป็นห่วงแย่แล้ว เจ้าบอกว่ามาขอบคุณที่ข้าสังหารฉีเจิ้นลงมันย่อมจะหมายความว่าเจ้าเองก็รักพี่ไม่น้อยมิใช่หรือ? เช่นนั้นแล้วเจ้าจะยอมทนเห็นเขาทรมานจากความเป็นห่วงเจ้าเช่นนี้?”

หลงเสี่ยวฉุนนั้นหยุดเท้าลงทันทีที่ได้ยินพร้อมแสดงสีหน้าท่าทางคิดหนักออกมา

ที่ด้านข้างนั้นหลงเสี่ยวไห่ได้แต่ยืนนิ่งไม่รู้จะกล่าวถึงเรื่องใดก่อนดี

เขาหันไปมองดูเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “เจ้า…เจ้าสังหารฉีเจิ้นลง? มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”

เทพถ่องแท้สังหารเทพสวรรค์?

หลงเสี่ยวไห่ย่อมจะรู้สึกว่าเรื่องราวที่ได้ยินนี้มันมิใช่ความจริง

หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินนั้นต้องยกมือขึ้นกุมขมับด้วยท่าทางปวดหัวน้อย ๆ “เจ้าพี่โง่! เรื่องราวนี้มันใหญ่โตลือลั่นไปทั่วทั้งเมืองแต่เจ้ากลับไม่รู้ถึงมัน! เขาผู้นี้มีนามว่าเย่หยวนและเขาผู้นี้แหละคือรองมหาปราชญ์ที่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลแต่งตั้งขึ้นมา! เขานั้นเก่งกาจล้ำฟ้า!”

ตอนนี้ใบหน้าของหลงเสี่ยวไห่นั้นมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นตะลึงอย่างไร้อารมณ์อื่นเจือปน สมองของเขาในเวลานี้มันไม่อาจจะประมวลผลข้อมูลที่ได้รับนี้ได้

“ร-รองมหาปราชญ์?”

เขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขานี้จะเป็นผู้มีเบื้องหลังใหญ่โตเช่นนั้น

หลงเสี่ยวฉุนนั้นไม่คิดสนใจท่าทางตื่นตะลึงของหลงเสี่ยวไห่มากมายนัก นางหันกลับไปหาเย่หยวนด้วยท่าทางที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากอีกหน่อย “อ่า…ที่เจ้าว่ามามันก็มีเหตุผล แต่กว่าข้าจะได้ออกมาสู่โลกภายนอกเช่นนี้มันยากเย็นแค่ไหน แต่พี่ข้าคนนี้เขากลับไม่ยอมให้ข้าไปไหนไกล ข้าจึงได้แต่ต้องแอบหนีออกมาเช่นนี้”

หลงเสี่ยวฉุนนางนี้อาศัยอยู่ในโลกเสมือนมาแสนนานและรู้สึกอยากรู้อยากเห็นทุกสิ่งอย่างบนโลกภายนอก

แต่ระหว่างทางมานั้นหลงเสี่ยวไห่มักจะห้ามมิให้นางไปไหนมาไหน นางจึงรู้สึกอึดอัดมากจนถึงขั้นต้องแอบลอบหนีออกมา

หลงเสี่ยวไห่เองก็เพิ่งจะมาถึงตามหลังหลงเสี่ยวฉุนหลายวันและคิดถึงแต่เรื่องของนางจนไม่อาจจะไปสนใจเรื่องราวที่เย่หยวนฆ่าสังหารฉีเจิ้นใด ๆ

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “พี่เจ้านั้นก็แค่กังวลว่าเจ้าจะเป็นอันตรายไป เขาจึงไม่ได้ให้เจ้าเดินทางไปไหนไกลตัวมิใช่หรือ?”

หลงเสี่ยวฉุนคิดไปนิดก่อนจะหยักหน้าออกมา แต่สุดท้ายนางก็ส่ายหัวขึ้นอีกครั้ง “แต่ข้าเก่งนะ!”

เย่หยวนที่ได้ยินต้องหัวเราะลั่น “คนที่มาล้วนเป็นแขก ในเมื่อพวกเจ้ามากันแล้วก็มานั่งดื่มกันเสียหน่อยสิ”

“เย้ ๆ! ข้าชอบดื่มสุราที่สุดเลย!” หลงเสี่ยวฉุนร้องกล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้น

แต่ดื่มแค่ไม่กี่แก้วนางก็แทบจะล้มหัวทิ่มเสียแล้ว

แต่ในเวลานี้ความเมามันยิ่งทำให้ใบหน้าของนางนั้นเดิมขึ้นมาดูน่ารักน่าเอ็นดูกว่าเก่า

หลงเสี่ยวฉุนนั้นได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นออกมาทำให้หลงเสี่ยวไห่ได้เข้าใจถึงตัวตนของเย่หยวนในที่สุด แต่ยิ่งได้ฟังไปเขาก็ยิ่งตื่นตะลึงมากขึ้นเท่านั้น

ชายหนุ่มตรงหน้าเขานี้กลับเก่งกาจเหนือฟ้า!

เขานั้นเคยประลองโอสถกับฉีเจิ้นมาก่อนและย่อมจะรู้ดีถึงความเก่งกาจของฉีเจิ้น

แต่ฉีเจิ้นคนนั้นกลับไม่กล้าแม้แต่จะประลองกับเย่หยวน!

เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาก็อยากจะลองฝีมือตนดูและขอท้าประลองเย่หยวน แน่นอนว่าผลลัพธ์มันต้องเป็นไปดั่งคาดไม่มีอะไรผิดแปลก

เท่านี้หลงเสี่ยวไห่ก็ยิ่งชื่นชมเย่หยวนได้สุดใจขึ้น

ในที่สุดเขาก็ได้รู้แล้วว่าเหตุใดฉีเจิ้นนั้นถึงไม่กล้าแม้แต่จะประลอง

หลงเสี่ยวฉุนนั้นมองดูเรื่องราวอยู่ไม่ไกลด้วยสายตาชื่นชมเย่หยวนอย่างมาก

หลงเสี่ยวไห่นั้นเองก็เป็นคนบ้าการโอสถ พูดคุยเรื่องราวโอสถกับเย่หยวนไปนานถึงสามวันสามคืนเต็มก่อนที่จะพอใจ

“เฮ้อ มันก็ชักช้าปานนี้แล้ว ผู้อาวุโสของข้าคงกังวลมากแล้ว ไม่เช่นนั้นข้าล่ะอยากจะอยู่คุยกับพี่เย่อีกสักสองสามเดือน” หลงเสี่ยวไห่กล่าวขึ้นด้วยใบหน้าเสียดาย

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ไม่ต้องกังวล ตราบเท่าที่พวกเจ้าคิดอยากคุยก็มาหาข้าได้ทุกเมื่อ”

หลงเสี่ยวไห่เบิกตากว้างทันทีที่ได้ยิน “พี่เย่พูดจริง?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ข้านั้นรู้สึกถูกชะตากับพวกเจ้าทั้งสองราวกับเราเป็นพี่น้อง พบเจอพวกเจ้ามันก็ดั่งได้พบเจอครอบครัว ข้าย่อมจะไม่ปฏิเสธ”

หลงเสี่ยวฉุนจึงพยักหน้ารับตาม “ใช่ ๆ ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้น! ตั้งแต่ครั้งแรกที่ข้าเห็นเจ้ามันก็เหมือนได้เห็นพี่ชายไม่มีผิด”

หลังจากคุยกันอีกสักพักคนทั้งสองก็เตรียมตัวจากลา

แต่ก่อนจะจากไปหลงเสี่ยวฉุนก็หันหน้ากลับมาบอกเย่หยวนอีกครั้ง “เจ้าจำไว้นะ หาพวกกิเลนมันมาหาเรื่องรังแกเจ้า จงประกาศชื่อข้าออกไป!”

เย่หยวนแค่ยิ้มตอบกลับไปอย่างไม่สนใจมากมาย

สามวันจากนั้นมันก็ได้มีคลื่นพลังสุดแรงกล้าปรากฏขึ้นมาเหนือท้องฟ้าของเมือง

ในเวลานี้มันได้เกิดเสียงร่ำร้องขึ้นแทบพร้อม ๆ กันทั่วทั้งเมือง!

คลื่นพลังระดับนี้มันคือพลังของเทพเจ้า มีเพียงแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์เท่านั้นที่จะมีมันมาครองไว้ได้

“ข้าคือจักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนแห่งเผ่ากิเลน! ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าร้อยอึดใจ! จงส่งตัวเย่หยวน คนร้ายผู้นั้นออกมาเสียไม่เช่นนั้นข้าจะทำลายเมืองนี้ลง!”

เสียงนั้นดังลั่นสนั่นฟ้ากึกก้องไปทั่วทั้งเมือง

เหล่ายอดฝีมือเผ่าอสูรทั้งหลายต่างหน้าซีดขาวลง ตอนนี้พวกที่อ่อนแอหน่อยก็ถึงขั้นมีเลือดไหลออกมาจากหู

“จักรพรรดิเทพสวรรค์! มันเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์จริง ๆ!”

“ให้ตายสิ! มันเป็นเพราะท่านรองมหาปราชญ์แท้ ๆ ที่ไปสร้างเรื่องเช่นนั้นไว้ แล้วทีนี้จะทำอย่างไรเล่า?”

“ในเวลานี้ท่านรองมหาปราชญ์ควรสละตัวปกป้องพวกเราสิถึงจะถูก!”

มันเกิดเสียงวิจารณ์ว่าต่าง ๆ นา ๆ ทั่วทั้งเมือง

เย่หยวนนั้นมีที่พักอยู่ไม่ไกล แน่นอนว่ารอบ ๆ ที่พักของเขามันย่อมจะเต็มไปด้วยเหล่าอสูรที่มาร่ำร้อง

แต่จู่ ๆ มันก็เกิดเสียงไม่พอใจหนึ่งดังขึ้นมา “ไสหัวไปให้พ้นหน้าเทพสวรรค์ผู้นี้!”

ทุกผู้คนต่างหันไปมองและพบว่าเขาคนนี้คือเทพสวรรค์ซินหลัว!

เมื่อเหล่าอสูรทั้งหลายเห็นซินหลัวแน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องตะโกนร้องกลับมา

“ท่านซินหลัว ท่านต้องปกป้องพวกเรานะ!”

“จะปล่อยให้รองมหาปราชญ์ท่านฝังให้เมืองทั้งเมืองลงเพราะเรื่องความแค้นส่วนตัวไม่ได้”

คลื่นพลังที่จักรพรรดิเทพสวรรค์ปล่อยออกมานั้นมันย่อมจะรุนแรงเป็นที่สุด

ในเวลาห้วงความเป็นความตายเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นรองมหาปราชญ์ใดพวกเขาก็ไม่คิดสนใจ

ซินหลัวเองก็ตอบขึ้นมาด้วยใบหน้ามืดดำ “พวกเจ้าหุบปาก! เทพสวรรค์ผู้นี้จะมาขอให้ท่านรองมหาปราชญ์ทวงความยุติธรรมให้พวกเรา!”

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินสีหน้าของพวกเขาก็สดใสขึ้นทันที

ทวงความยุติธรรม? ซินหลัวพูดนี้มันย่อมหมายถึงจะส่งตัวเย่หยวนออกไปแล้ว

ซินหลัวเดินมาถึงที่หน้าประตูก่อนจะร้องเรียกขึ้น “ซินหลัวขอเข้าพบท่านรองมหาปราชญ์!”

เอี๊ยด!

ประตูหน้าที่พักของเย่หยวนค่อย ๆ เปิดออกเผยให้เห็นชายหนุ่มในชุดขาวสะอาด

เมื่อซินหลัวเห็นเย่หยวนเขาก็คิดจะเปิดปากพูดแต่กลับเป็นเย่หยวนที่ขัดขึ้นก่อน “เก็บน้ำลายของเจ้าไว้เถอะ ข้าบอกไปตั้งแต่วันนั้นแล้วว่าเรื่องราวนี้ข้าจะจัดการเอง!”

ซินหลัวนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น เพราะคำพูดที่เย่หยวนเคยบอกไว้ในเวลานั้นเขาย่อมจะคิดว่ามันเป็นแค่คำพูดไร้สาระไม่ถือเป็นจริงจัง

เพื่อการนี้เขาถึงขั้นวางเครือข่ายยอดฝีมือไว้ป้องกันดักทางหนีของเย่หยวน

แต่ทว่าเย่หยวนกลับไม่คิดหนีและจะก้าวขึ้นไปปะทะตรง ๆ เสียอย่างนั้น!

ซินหลัวนั้นถึงขั้นคิดว่าเวลานี้อาจจะต้องใช้กำลัง แต่ทางเย่หยวนกลับไม่คิดขัดขืนใด ๆ

หรือว่าตั้งแต่วินาทีที่เขาสังหารฉีเจิ้นนั้นเขาก็จะพร้อมรับความตายอยู่แล้ว?

แต่ไม่ว่าอย่างไรเสียการที่เย่หยวนยอมไปเองเช่นนี้มันย่อมจะสบายตัวซินหลัวไปมาก

เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงต้องถูกลงโทษที่ไปลบหลู่รองมหาปราชญ์และเรื่องคงจบไม่สวย

หากท่านมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลมาถามไถ่เรื่องราวแล้ว เขาย่อมจะกลายเป็นคนผิดไปทันที

ซินหลัวก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวน “ท่านรองมหาปราชญ์เข้าใจทำเรื่องที่ถูกต้อง ซินหลัวชื่นชมท่านรองมหาปราชญ์ยิ่งนัก”

เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “เลิกวางท่าเถอะ เจ้าวางกำลังคนมาสอดส่องมากมายเจ้าคิดว่าข้าจะไม่รู้เลย? หากปราชญ์ผู้นี้อยากจะไปจริง ๆ เจ้าคิดว่าลำพังแค่คนพวกนั้นมันจะหยุดข้าได้?”

เมื่อซินหลัวได้ยินเขาก็แสดงสีหน้าท่าทางตกตะลึงขึ้น

เพราะหน่วยสอดแนมที่เขาส่งออกมานั้นล้วนเป็นเทพสวรรค์ทั้งสิ้น แต่เย่หยวนกลับสัมผัสได้ถึงพวกเขา?

ทางเย่หยวนเองก็ไม่คิดจะรีรอให้อีกฝ่ายตอบกลับใด ๆ เดินหน้าพุ่งตัวขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที

……………..