บทที่ 1440 แกมันขยะบูดของแท้

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

ภายในวัง

เสียงที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้ทั่วบริเวณเงียบกริบลงขณะที่ทุกคนเบิกตากว้าง กระทั่งการหายใจของพวกเขาก็อ่อนลง พวกเขานึกไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าพูดคำเช่นนี้ต่อหน้าราชันไป่หลิง…

ชายผู้นี้เป็นผู้ปกครองทวีปไป่หลิง คำพูดของเขาสามารถทำลายขั้วอำนาจน้อยใหญ่ได้ ราชันไป่หลิงมีพลังอำนาจที่ทำให้ทุกคนหวาดกลัว

แต่ตอนนี้…มีคนเรียกเขาว่าขยะ?

เมื่อนึกถึงความโกรธของราชันไป่หลิง ทุกคนก็เริ่มตัวสั่นสะท้าน พวกเขาจินตนาการได้เลยว่าโถงจะนองไปด้วยเลือดในวันนี้แน่…

ท่ามกลางความเงียบทุกคนก็มองไปที่ข้างหลังถังเชียนเอ๋อราวกับกำลังมองคนตาย

ถังเชียนเอ๋อสะดุ้งเมื่อริมฝีปากถูกปิดไว้ นางแทบจะถ่องศอกออกไปเพื่อตอบโต้ แต่เมื่อได้ยินคำเรียกขานนั่นกระแสเลือดก็ถึงกับแข็งตัว

นี่เป็นเสียงที่นางคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก

นางค่อยๆ หันหน้ากลับมาก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาปรากฏในครรลองสายตา เทียบกับในอดีตใบหน้านี้ไม่มีความอ่อนเยาว์อีกต่อไป ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นทำให้รู้สึกปลอดภัย

“มู่…มู่เฉิน?!”

ถังเชียนเอ๋อตะลึงงันขณะที่พูดตะกุกตะกัก นางรู้สึกเหมือนว่ากำลังฝันไปจึงยื่นมือออกเพื่อสัมผัสใบหน้านั้น

เมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ดวงตานางก็เบิกกว้างด้วยความตกใจอุทานว่า “นี่เจ้าจริงๆ เหรอ? เจ้ามาทำอะไรที่นี่?!”

มู่เฉินยิ้ม “มาเยี่ยมญาตินะสิ”

เขาเลื่อนมือถังเชียนเอ๋อออกจากใบหน้าตนเองพลางก้าวย่างพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ขณะมองไปที่มู่เฟิง “ท่านพ่อมองจนเอ๋อไปแล้วเหรอ?”

มู่เฟิงเบิกตากว้างขณะมองไปที่บุตรชาย เขาไม่สามารถฟื้นจากความตกใจเนื่องจากมู่เฉินออกจากบ้านไปนานเหลือเกิน เขาคิดถึงบุตรชายทุกวัน ดังนั้นเมื่อมู่เฉินปรากฏตัวต่อหน้าจริงๆ เขาก็รู้สึกไม่อยากเชื่อ

“ไอ้ลูกบ้าในที่สุดเจ้าก็กลับบ้านเป็นแล้วเรอะ?!”

พักใหญ่เมื่อได้สติมู่เฟิงก็ตำหนิเป็นประโยคแรก

มู่เฉินยิ้มตาหยีนั่งลงข้างมู่เฟิงพลางตบหลัง เอ่ยพลางยิ้ม “ท่านพ่อใจเย็นๆ”

สายตาเขากวาดผ่านรอยเลือดบนริมฝีปากของมู่เฟิง แม้รอยยิ้มบนใบหน้ายังสดใส แต่ก็ปรากฏแววเย็นชาในดวงตา

เมื่อมองไปที่ใบหน้าโตเต็มวัย มู่เฟิงก็รู้สึกซับซ้อน แต่ไม่ช้าเขาก็นึกบางอย่าง สีหน้าเขาเปลี่ยนไปจากนั้นก็ประสานมือให้ราชันไป่หลิง “โปรดอภัย ลูกชายข้าไม่ค่อยรู้เรื่องราว ไม่ได้คิดจะหยาบคาย…”

มู่เฟิงได้ยินคำพูดของมู่เฉินเต็มสองหู ดังนั้นเมื่อคิดถึงก็รู้สึกว่าร่างกายถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อเย็น ราชันไป่หลิงเป็นคนใจแคบและไร้ปรานี ดังนั้นคำพูดดูถูกของมู่เฉินต้องสร้างความโกรธแค้นในใจอีกฝ่ายแน่นอน

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”

ราชันไป่หลิงหัวเราะก่อนที่มู่เฟิงจะพูดจบ เสียงหัวเราะดังก้องในโถง แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไรเพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารเข้มข้น

ใบหน้าของมู่เฟิงเปลี่ยนไปแขนกางออกเพื่อปกป้องลูกรัก เขาตัดสินใจแล้วว่าแม้จะต้องตายก็ต้องปกป้องมู่เฉิน

ถังเชียนเอ๋อก็ก้าวออกไปเพื่อปกป้องมู่เฉิน ขณะมองไปที่ราชันไป่หลิงด้วยความตื่นตัว

ผู้นำคนอื่นๆ มองไปที่กลุ่มมู่เฟิงอย่างสงสาร ความโกรธแค้นของราชันไป่หลิงในวันนี้อาจจะทำให้ทุกคนจากพันธมิตรเป่ยหลิงรอดชีวิตกลับไปไม่ได้

“เจ้าหนุ่มนั่นก่อปัญหาแล้ว พันธมิตรเป่ยหลิงต้องทนทุกข์จากการนองเลือด…” บางคนพึมพำออกมาเบาๆ แต่พวกเขาก็เต็มใจที่จะดูมากกว่า หากพันธมิตรเป่ยหลิงถูกทำลาย พวกเขาก็จะสามารถแทรกแซงเข้าในมณฑลเป่ยหลิง

เสียงหัวเราะของราชันไป่หลิงยังคงดำเนินต่อไปชั่วครู่ก่อนที่จะค่อยๆ เงียบลง เขาป้ายน้ำตาออกจากมุมตา “มีคนเรียกข้าว่าขยะ…”

เขาส่ายหัว จากนั้นก็โบกมือแววโหดเหี้ยมผุดขึ้นที่มุมปาก “หักแขนขามันแล้วโยนออกไป”

จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มชุดดำที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้าอย่างเย็นชาและก้าวออกไปขณะมองมู่เฉินด้วยสายตาชั่วร้าย

เมื่อมู่เฟิงเห็นภาพนี้หัวใจก็เย็นเยือกพร้อมกับความวิตกกังวลพล่านในดวงตา

ถังเชียนเอ๋อกัดฟัน หินหงส์ฟ้าปรากฏอยู่ในมือ ถ้านางบดขยี้ก็จะสามารถพาทุกคนหลบหนีไปได้

เมื่อเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มกระทั่งนางยังรู้สึกกดดันอย่างมาก

แต่เมื่อนางกำลังจะบดขยี้ มือมู่เฉินก็ยื่นเข้ามาหยุดไว้ ถังเชียนเอ๋อหันหน้ามองไปที่มู่เฉินอย่างรีบร้อน “มู่เฉินอย่าโง่ คนฉลาดย่อมรู้ดีว่าจะไม่ทำอะไรเสียเปรียบตรงหน้า ดังนั้นไม่จำเป็นต้องสู้กับมัน”

นางคิดว่ามู่เฉินยังคึกคะนองแบบเด็กหนุ่ม ไม่เต็มใจที่จะกลืนเรื่องนี้

เมื่อได้ยินคำพูดนั่น มู่เฉินก็อึ้งไปก่อนจะส่ายหัว “พี่เชียนเอ๋อไม่ต้องกังวล ข้ารู้ขีดจำกัดของตัวเองดี”

เมื่อพูดจบเขาก็เงยหน้าขึ้นมองผู้อาวุโสชุดดำที่เดินเข้ามา คลื่นหลิงไร้ขอบเขตของอีกฝ่ายเติมเต็มทุกตารางนิ้วของวัง อีกฝ่ายเข้ามาพร้อมกับความคิดที่จะทรมานเขาเพื่อสร้างความกลัวให้กับคนอื่นๆ

“แกเป็นคนทำให้พ่อข้าบาดเจ็บเหรอ?” มู่เฉินขมวดคิ้วมองไปที่อีกฝ่าย

ฝีเท้าผู้อาวุโสชุดดำหยุดลงชั่วคราว เขารู้สึกว่าคำถามของมู่เฉินเป็นเรื่องน่าหัวเราะ รอยยิ้มน่าเกลียดปรากฏบนใบหน้าเขาขณะตอบว่า “ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวข้าจะทำให้ทั้งแกและพ่อแกได้ลิ้มรสถึงชีวิตที่เลวร้ายยิ่งกว่าตาย”

มู่เฉินยิ้มให้กับคำพูดนั่น แต่ไม่มีแววเป็นมิตรในดวงตาเลย จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ยื่นมือออกมาขยี้ไปที่ผู้อาวุโสชุดดำ

ตู้ม!

ราวกับว่ามือที่มองไม่เห็นกดร่างผู้อาวุโสชุดดำลงก่อนที่คลื่นหลิงมหาศาลโดยรอบจะระเบิด ก่อนที่ผู้อาวุโสชุดดำจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาก็รู้สึกถึงแรงมหาศาลจับตัวทุ่มเขาลงไปกองกับพื้น

ครืน!

โถงสั่นสะเทือนพร้อมกับทุกคนตกตะลึง นั่นเป็นเพราะผู้อาวุโสชุดดำที่ดูเหมือนจะควบคุมความเป็นตายก่อนหน้านี้คุกเข่าลงต่อหน้ามู่เฟิง แม้แต่พื้นใต้เข่าก็แตกละเอียด…

“นี่…นี่…”

ทุกคนรู้สึกราวกับเห็นผี ชัดว่าพวกเขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มถึงคุกเข่าต่อหน้ามู่เฟิง

บางคนที่มีสายตาแหลมคมก็สังเกตเห็นความกลัวบนใบหน้าผู้อาวุโสชุดดำ เขาพยายามดิ้นรนรุนแรง ทว่าพลังมหาศาลทำให้เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้

ถังเชียนเอ๋อ มู่เฟิงและถังซันตกตะลึงกับฉากนี้ พวกเขาดึงสติกลับมาไม่ได้

“ในเมื่อแกเป็นคนทำ งั้นก็จงขอโทษซะ”

มู่เฉินมองไปที่ผู้อาวุโสชุดดำอย่างไม่แยแส เขาโบกมือ ศีรษะของผู้อาวุโสชุดดำก็กระแทกกับพื้น ทำให้พื้นทรุดลง

“อ้าก!”

ผู้อาวุโสชุดดำร้องลั่นขณะเลือดอาบหัว เขาดิ้นรนรุนแรง

“ยังไม่ขอโทษอีกเรอะ?” มู่เฉินขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นแล้วโบกลงไปอีกครั้ง

ปัง! ปัง! ปัง!

ทุกคนในโถงต่างก็ตกตะลึงกับมู่เฉินที่ทำเหมือนกำลังเล่นกับตุ๊กตา พร้อมกับมือโบกลงศีรษะของผู้อาวุโสชุดคลุมสีดำก็จะกระแทกลงบนพื้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดรอยแตกกระจายไปทั่วพื้นด้านล่าง…

ทั้งโถงไร้สรรพเสียงโดยมีเพียงเสียงศีรษะของจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มโขกลงกับพื้น ดังนั้นทุกคนจึงรู้สึกเหงื่อเย็นแตกเต็มแผ่นหลัง

พวกเขามองมู่เฉินที่สามารถเล่นกับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มได้แบบนี้ ในที่สุดก็เข้าใจว่าชายหนุ่มคนนี้น่ากลัวเพียงใด…

ปัง!

หน้าผากของผู้อาวุโสในชุดดำเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่ก็เป็นแค่อาการบาดเจ็บเล็กๆ สำหรับเขานี่ช่างบางจางเมื่อเทียบกับความกลัวในใจ

นั่นเป็นเพราะในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่าเบื้องหน้าพลังที่แข็งแกร่งเพียงนี้ เขาเป็นแค่มด…

ยามนี้เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน?

วันนี้เขาเตะกำแพงเหล็กเข้าให้แล้ว

“นายท่าน นายท่าน! ข้าผิด ข้าผิด! ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ!”

ตอนนี้เขาจะยังหยิ่งยโสได้ยังไง? เขารู้ดีว่าแค่พลิกมือจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนก็สามารถฆ่าเขาได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ต่อต้านอีกต่อไป เสียงสะท้อนด้วยความกลัวหนาแน่น

พร้อมกับเสียงกรีดร้องของผู้อาวุโสชุดดำ มู่เฉินก็หยุดลงพูดอย่างไม่แยแส “รีบขอโทษแต่แรกก็ดีแล้ว ไสหัวไปซะ”

ขณะที่พูดมู่เฉินก็เหวี่ยงหมัดออก ทันใดนั้นอากาศก็ระเบิดในมิติเบื้องหน้า ผู้อาวุโสชุดดำราวกับโดนโจมตีรุนแรง หน้าอกทั้งหมดยุบลงขณะที่ร่างกระเด็นไปด้านหลังทิ้งรอยยาวบนพื้น ก่อนที่จะปะทะเข้ากับเสาสลบเหมือดลงทันที

เขารู้สึกได้ว่าคลื่นหลิงในร่างกายแตกสลายไปหมดภายใต้หมัดของมู่เฉิน แม้แต่เส้นลมปราณก็แตกสลาย แม้ว่ามู่เฉินจะไว้ชีวิต แต่การฝึกฝนทั้งชีวิตที่ผ่านมาจบสิ้นลงแล้ว

ทั้งโถงเงียบกริบแม้กระทั่งลมหายใจก็หยุดลง ทุกคนตัวสั่น นั่นคือจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มนะ! ในทวีปไป่หลิงเป็นการดำรงอยู่ที่ของราชันเลยทีเดียว! แต่ต่อหน้าชายหนุ่มคนนี้กลับไร้พลังราวกับหุ่นเชิด…

ผู้นำหลายคนร้องโหยหวนอย่างขมขื่นในใจ ‘ชายหนุ่มคนนั้นเป็นลูกชายของมู่เฟิงจริงหรือ?’

ตอนแรกพวกเขาคิดว่าอีกฝ่ายก็เป็นแค่พวกอวดดี แต่ใครจะคิดว่าเขาจะเป็นจอมยุทธ์ที่น่าสะพรึงกลัวไปได้!

หลังจากจัดการกับผู้อาวุโสชุดดำ สายตาราบเรียบของมู่เฉินก็มองไปที่ราชันไป่หลิงที่มีใบหน้าเขียวคล้ำ เขายิ้มก่อนที่จะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ในสายตาข้า แกมันขยะบูดของแท้”