อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1179 ฆ่าด้วยยาพิษ

หากไม่ใช่เพราะถูกนางทำให้โกรธจนไม่อยากทะเลาะ เวินเส้าหยีจะต้องกระอักเลือดออกมาแน่

เป้าหมายแรกของไป๋หลี่ป้าคือนาง เวินเส้าหยีจึงถือโอกาสนั่งขัดสมาธิ ซื้อเวลาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเองก่อน ไม่อยากเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว

ระหว่างเวินเส้าหยีและกู้ชูหน่วน คนที่เขาอยากฆ่ามากที่สุดคือกู้ชูหน่วน

ดังนั้น แรงสังหารของเขาจึงพุ่งไปทางกู้ชูหน่วนก่อน

กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างช้าๆสบายๆ “เจ้าบ้านไป๋หลี่ ท่านต้องคิดให้ดี ไม่ว่าข้าจะดิ้นรนเพียงใด ก็เป็นเพียงแค่ขั้นกลางระดับสี่ผู้หนึ่ง แต่เจ้าผีเสื้อไม่เหมือนกัน เขาเป็นถึงขั้นสูงสุดระดับหก หากว่าศักยภาพของเขาฟื้นฟูกลับมา แล้วยังจะปล่อยท่านไปได้หรือ”

“หากว่าข้าเป็นท่าน ข้าจะฆ่าเวินเส้าหยีก่อน แล้วค่อยๆจัดการข้า เพื่อเลี่ยงการทิ้งชีวิตตัวเอง……โดยไม่ทันได้ระวังตัว”

ไป๋หลี่ป้าได้ยินดังนั้น การเคลื่อนไหวก็ชะงักดังคาด เปลี่ยนเป้าการโจมตีไปทางเวินเส้าหยี

ไป๋หลี่ป้าหัวเราะอย่างชั่วร้าย “แม้ว่าเจ้าจะยืมมือคนอื่นฆ่าคน แต่ก็ไม่สามารถจะปฏิเสธได้ว่า ที่เจ้าพูดมีเหตุผลจริงๆ”

เวินเส้าหยีเพิ่งจะเคลื่อนพลังยุทธรักษาอาการบาดเจ็บ ได้ยินการสนทนาของพวกเขา ไม่ง่ายกว่าจะเคลื่อนพลังขึ้นมาได้ก็แตกพ่ายไปทั้งหมด

ผู้หญิงโง่คนนี้…..

ให้เวลาเขาเล็กน้อยเพื่อให้เขาฟื้นฟูพลังยุทธสักหน่อย บางทีอาจจะยังสู้ได้อีกสักรอบ

แต่นาง…

ดันอยากจะให้ไป๋หลี่ป้าฆ่าเขาไปซะทันทีให้ได้

หากว่าเขาตายแล้ว ไป๋หลี่ป้าจะปล่อยนางไปได้เหรอ?

เมื่อเห็นลูกบอลไฟของไป๋หลี่ป้าใกล้จะตกลงบนตัวของเขา เวินเส้าหยีไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงควบรวมพลังยุทธเฮือกสุดท้ายในตัว เพื่อสกัดกั้นลูกบอลไฟเหล่านั้น

ลูกบอลไฟพุ่งมาอย่างรุนแรง อาศัยเพียงแค่พลังยุทธเล็กน้อยนั่นของเขา เวินเส้าหยีก็พ่ายแพ้เป็นธรรมดา

ไป๋หลี่ป้าไม่ได้ให้เวลาเขาหอบหายใจ เมื่อเห็นว่าเขาต้านทานไม่ไหว กระบวนท่าแล้วกระบวนท่าเล่า แต่ละกระบวนท่าล้วนใช้พลังยุทธทั้งหมดของเขา แทบอยากจะบดขยี้เขาให้แหลกเป็นเถ้าธุลี

“หึ…ดูเหมือนว่าข้าจะเดิมพันถูกแล้ว เวินฉู่ อาการบาดเจ็บของเจ้าสาหัสกว่าที่ข้าเอาคิดไว้มากนัก วันนี้ ข้าจะส่งเจ้าไปสวรรค์ก่อนละกัน”

“ฟู่ว…”

เวินเส้าหยีต้านทานไม่ไหว กระดูกบนตัวของเขาถูกกดดันจนแตกหักไปหลายท่อน

เป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะต้องตายเป็นแน่

แล้วมองไปที่กู้ชูหน่วน คิดไม่ถึงว่าจะฉวยโอกาสตอนที่พวกเขาต่อสู้กันอย่างหนัก ลากซือโม่เฟยให้เผ่นหนีไปด้วยกัน

บนใบหน้าของเวินเส้าหยีเย็นชาจนน่ากลัว

เขาท่องบางอย่างเงียบๆ ฉับพลันนั้นซือโม่เฟยก็กุมหน้าอกแล้วนั่งยองลงไปด้วยความเจ็บปวด

“อาโม่ เจ้าเป็นอะไร?”

“เจ็บ…..เจ็บมาก…”

เวินเส้าหยีต้านทานไปพลาง และกล่าวพลางว่า “วางใจ เพียงแค่ข้ายังอยู่ เขาก็ตายไม่ได้”

ความหมายในคำพูดของเขาก็คือ หากว่าเขาตาย ซือโม่เฟยก็จะตายไปพร้อมกับเขาด้วย

กู้ชูหน่วนด่าทอว่า “เจ้าลงมือทำอะไรกับร่างกายของเขา ชั่วช้า”

“นั่นก็ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าถ่ายทอดความรู้ให้”

เวินเส้าหยีทำเกราะปราณพลังรูปครึ่งวงกลมขึ้นมา แสงประกายบนเกราะปราณพลังอ่อนลงเรื่อยๆ ทันทีที่ประกายแสงทะลุแตก ชีวิตของเขาก็จะจบลงตรงนั้น

กู้ชูหน่วนมองไปที่เวินเส้าหยี แล้วมองไปยังซือโม่เฟยที่กำลังเจ็บปวดเป็นที่สุด ทิ้งไว้ประโยคหนึ่ง “ข้ากับอาโม่ก็แค่คนที่รู้จักกันโดยบังเอิญ ข้าทิ้งชีวิตเพื่อเขา งั้นข้าก็โง่เกินไปแล้ว พวกเจ้าทั้งสองล้วนไม่ใช่คนดีอะไร พ่ายแพ้ย่อยยับสิ้นชีพไปพร้อมกันทั้งสองฝ่ายเป็นดีที่สุด ข้าไปก่อนแล้ว”

“จะไปไหน”

ไป๋หลี่ป้าเกลียดกู้ชูหน่วนเข้ากระดูกดำ จะปล่อยให้นางจากไปได้อย่างไร

เวินเส้าหยีอยู่ในการควบคุมของเขา ถูกเขาฆ่าตายก็เป็นแค่เรื่องช้าหรือเร็วเท่านั้น

กู้ชูหน่วนเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ทั้งยังสามารถออกคำสั่งฝูงสัตว์ได้อีก ปล่อยให้นางหนีไปแล้วคิดจะฆ่านางอีก เกรงว่าก็คงจะต้องเปลืองแรงอีกยกหนึ่ง

เมื่อคิดเช่นนี้ ไป๋หลี่ป้าก็เอามือออกมาข้างหนึ่ง ฉึบเสียงหนึ่งใยแมงมุมก็กวาดออกไป

ใยแมงมุมหนาแน่น นับจำนวนไม่ได้ เกาะกุมไปทางกู้ชูหน่วน

ใยแมงมุมมีพิษร้ายแรง หากสัมผัสโดนเข้าไปแม้ว่าจะเป็นกู้ชูหน่วนก็ต้องตายอย่างแน่นอน

กู้ชูหน่วนใช้ความคล่องแคล่วปราดเปรียวของวิชาตัวเบาหลบซ้ายแฉลบขวา หลบเลี่ยงจากใยแมงมุม

แต่ใยแมงมุมก็ไล่ตามนางติดๆราวกับว่ามีตาเช่นนั้น ไม่ว่านางจะหลบเร็วเพียงใด ใยแมงมุมก็ไล่ตามหลังมาติดๆ

ไม่ช้า พื้นดินก็ก่อตัวก่อตัวขึ้นเป็นค่ายกลค่ายหนึ่ง ค่ายกลนี้กู้ชูหน่วนคุ้นเคยเป็นที่สุด

นี่ไม่ใช่แมงมุมฟ้าใยพิษที่เป็นค่ายกลพิเศษเฉพาะตัวของไป๋หลี่ป้าหรือไง

ใยแมงมุมเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด สถานที่ที่ถูกใยแมงมุมปกคลุมอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ร้อนจนทำให้นางเหงื่อแตกโชก

กู้ชูหน่วนด่าทอสาปแช่ง “ให้ตายเถอะ เป็นค่ายกลบ้านี่อีกแล้ว”

“มอบสิ่งของออกมา ไม่เช่นนั้นวันนี้เจ้าจะต้องทุกข์ทรมานร้องขอชีวิตก็ไม่ได้ ร้องขอความตายก็ไม่ได้เช่นกัน”

มือทั้งคู่ของไป๋หลี่ป้าประสานกัน ไม่รู้ว่าปากกำลังพึมพำอะไร รอบๆตัวของเวินเส้าหยีก็มีแมงมุมฟ้าใยพิษปกคลุมลงมาโดยตรง

ไม่พูดไม่ได้ว่า ไป๋หลี่ป้าหวาดกลัวเวินเส้าหยีมาก

แม้ว่าเขาจะโดนยาพิษและบาดเจ็บสาหัสจนร่อแร่ใกล้ตาย แต่ค่ายกลที่ไป๋หลี่ป้าจัดใช้กับเขานั้น ร้ายกาจกว่าค่ายกลที่จัดใช้กับกู้ชูหน่วนหลายเท่านัก

ก่อนหน้านี้เวินเส้าหยีสามารถสลายค่ายกลใยแมงมุมได้ในกระบวนท่าเดียว

ตอนนี้ เขากลับไม่สามารถทำลายได้

แต่กลับมองดูแมงมุมพิษที่ยั้วเยี้ยอยู่บนแขนรวมตัวเป็นหนึ่งกับหนอนดำบนแขนของเขาอยู่นิ่งๆ

พิษอันร้ายกาจทั้งสองผสมผสานกัน เวินเส้าหยีคุกเข่าข้างหนึ่งลงไป แหงนหน้ามองฟ้า ระเบิดเสียงคำรามย่างเจ็บปวดออกมา

บนใบหน้าที่สง่างามของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทั้งตัวเดี๋ยวก็ดำ เดี๋ยวก็แดง

คนที่มีตาล้วนมองออกได้ว่า เขากำลังอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างมหาศาลอยู่ ดังนั้นคนให้ความสำคัญของเกียรติในตนเองเช่นเขานี้ หากไม่ได้เจ็บปวดถึงขีดสุด จะคุกเข่าลงข้างหนึ่งได้อย่างไร

ไป๋หลี่ป้ารู้สึกดีใจทันที “ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน แล้วค่อยไปต่อกรกับนังเด็กสารเลวนั่น”

ขณะที่ไป๋หลี่ป้าคิดจะสังหารเวินเส้าหยีให้สิ้นซาก ค่ายกลที่ปกคลุมกู้ชูหน่วนไว้ก็สะท้อนกลับไปอย่างฉับพลัน ใยแมงมุมอันหนาแน่นเกาะพันไปบนตัวของเขาอย่างมืดฟ้ามัวดิน

ใยแมงมุมมีพิษแรงมหาศาล และพลานุภาพยิ่งใหญ่

ไป๋หลี่ป้าไม่ทันได้สังเกต จึงถูกใยแมงมุมเสียบเข้าไปในร่างกาย เจ็บปวดจนเขาตกใจสูดหายใจเข้าไปด้วยความเจ็บปวด เจ็บจนแทบอยากตายไปทั้งเป็น

ไป๋หลี่ป้ามองไปทางกู้ชูหน่วนที่หลุดพ้นจากแมงมุมฟ้าใยพิษนานแล้วด้วยความเหลือเชื่อ ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ตกว่าทำไมใยแมงมุมที่เขาภาคภูมิใจจึงสะท้อนกลับมาที่เขาได้

ยิ่งเหลือเชื่อกว่าคือ แมงมุมฟ้าใยพิษที่ไม่ว่าจะกักขังกู้ชูหน่วน หรือกักขังเวินเส้าหยี หรือกระทั่งที่สะท้อนกลับใส่เขา เขาล้วนควบคุมไม่ได้ จึงทำได้เพียงโถมสายตาที่รู้สึกตกตะลึงไปทางกู้ชูหน่วน

กู้ชูหน่วนยกริมฝีปากขึ้นยิ้ม เอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันเย็นชาว่า “ไม่อยากจะเชื่อสินะ…..เพียงแค่เป็นค่ายกลก็ล้วนมีวิธีทำลายทั้งสิ้นนั่นแหละ อีกอย่าง อาโม่ก็ยังเป็นยอดฝีมือในการทำลายค่ายกลผู้หนึ่งด้วย วันนี้หากว่าท่านไม่ใช้แมงมุมฟ้าใยพิษ บางทีพวกเราอาจจะตาอย่างน่าสังเวชภายใต้เงื้อมมือของท่านก็ได้ น่าเสียดาย ท่านมั่นใจในแมงมุมฟ้าใยพิษของท่านเกินไปแล้ว”

“และข้า ครั้งก่อนข้าได้เคยพ่ายแพ้ในแมงมุมฟ้าใยพิษของท่าน และจะไม่ศึกษาแมงมุมฟ้าใยพิษของท่านให้ถ่องแท้ได้อย่างไรกัน ให้การโจมตีแบบปลิดชีพในครั้งเดียวกับท่าน”

“ฟู่ว…”

ใยแมงมุมดูเหมือนธรรมดา แต่ทุกเส้นเป็นเหมือนดั่งเหล็กดัดอ่อน ที่เหนียวทนทาน และเหล็กกล้าที่แข็งแกร่ง

ถูกใยแมงมุมทิ่มแทงทะลุผ่าน เท่ากับถูกมีดอันแหลมคมทิ่มแทงทะลุผ่าน

และเขา ก็ไม่รู้ว่าถูกใยแมงมุมแทงทะลุร่างกายไปมากน้อยเพียงใด

ไป๋หลี่ป้ากระอักเลือดออกมาเต็มปาก พลังยุทธทั้งหมดก็ถูกใยแมงมุมสะเทือนจนกระเจิงไป

หากไม่ใช่เพราะศักยภาพของเขาสูงส่งแข็งแกร่ง ก็คงไปพบพญายมนานแล้ว

เวลานี้…เขาก็บาดเจ็บสาหัส ไม่มีแรงที่จะต่อสู้ได้อีกต่อไป

“ไร้ยางอาย….” ไป๋หลี่ป้าด่าว่า

กู้ชูหน่วนเดินเข้าไปทีละก้าว กล่าวอย่างเย็นชา “ฆาตกรตัวจริงที่สังหารทั้งตระกูลมู่ของข้า เป็นท่านใช่หรือไม่?”

ไป๋หลี่ป้าถูกแมงมุมพิษเจาะร่างกาย พิษอันร้ายแรงแทรกซึมไปทั่วร่าง แต่ก็ยังคงรักษาเกียรติและมาดเจ้าบ้านของเขาไว้

“ทั้งชีวิตนี้เจ้าอย่าคิดว่าจะได้รู้เลยว่าใครเป็นฆาตกรตัวจริง”