ตอนที่ 1539

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ฮูเฟิงชะงักแข็งค้าง

แม้เขาจะเป็นเซียนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของดินแดนแห่งนี้เขาก็ยังแสดงสีหน้าโง่งมออกมาโดยไม่รู้ตัว

หมอนั่นหายไปไหนแล้ว?

เขารู้ว่าในโลกนี้มีสมบัติอย่างอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์อยู่ซึ่งเขาเองก็สามารถสร้างขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง แต่การจะสร้างอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์สักชิ้นหนึ่งจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมหาศาลและตัวเขาที่ยังเป็นเพียงเซียนระยะดับก็สามารถสร้างได้เพียงช่องมิติขนาดเล็ก

แน่นอนเขาย่อมรู้ดีว่าต่อให้เป็นอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม หากมองจากภายนอกแล้วมันไม่ต่างจากอุปกรณ์มิติทั่วไปที่เป็นวัตถุที่มองเห็นและจับต้องได้

เพียงแต่ว่าหลิงฮันนั้นหายตัวไปโดยที่ไม่มีสิ่งของใดๆหลงเหลือเอาไว้เลย

เคลื่อนย้ายในพริบตา?

เป็นไปไม่ได้!

ฮูเฟิงส่ายหัว ต่อให้หลิงฮันจะใช้ยันต์อาคมเคลื่อนย้ายมิติ เขาก็มั่นใจว่าหลิงฮันไม่มีทางที่หลบหนีออกไปจากขอบเขตการรับรู้ของเขาได้เด็ดขาด

ความเป็นไปได้อย่างเดียวคืออีกฝ่ายต้องเข้าไปหลบซ่อนตัวในอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ แต่แล้วไหนล่ะอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์?

ฮูเฟิงโคจรสัมผัสสวรรค์กวาดผ่านสำรวจอวกาศ

โชคดีที่อวกาศในขอบเขตนี้ว่างเปล่าไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆทำให้เข้าตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว

ไม่พบเจออะไรเลย…

เป็นไปได้อย่างไร?

ในขณะเดียวกัน แม้จะตกตะลึงแต่ฮูเฟิงก็ยังตื่นเต้นไปพร้อมๆกัน แม้แต่เซียนเช่นเขาก็ยังหาไม่พบนั้นหมายว่าอะไร? เจ้าหนูนั่นจะต้องครอบครองสมบัติของนิรันดร์อยู่เป็นแน่!

สมบัตินี้ไม่ควรเป็นของราชันวารีสวรรค์ ไม่เช่นนั้นแล้วในอดีตเขาจะหลบหนีการไล่ล่าไม่พ้นได้อย่างไร?

“หมอนั่นต้องพบเจอกับวาสนาอีกอย่าง บางทีเขาอาจจะได้รับสมบัติอันล้ำค่าอย่างแท้จริง… อุปกรณ์นิรันดร์!” ดวงตาของเขาส่องประกายพร้อมกับเสียงพูดที่สั่นเครือ

อุปกรณ์นิรันดร์!

มันคือสมบัติที่อยู่เหนือสมบัติทั้งปวง ต่อให้เป็นในดินแดนแห่งเซียนสมบัติประเภทนี้ก็ล้ำค่าหาอะไรเปรียบ มีเพียงราชานิรันดร์เท่านั้นที่จะมีอุปกรณ์นิรันดร์ โดยที่บางทีราชานิรันดร์ส่วนใหญ่อาจจะไม่มีครอบครองเลยด้วยซ้ำ

ไม่ใช่ว่าราชานิรันดร์ทั่วไปจะได้ครอบครองอุปกรณ์นิรันดร์ สมบัติล้ำค่าเช่นนั้นอยู่ในมือของตัวตนระดับราชานิรันดร์เพียงหยิบมือ

“ฮ่าๆ นี่ต้องเป็นวาสนาที่พระเจ้าส่งมาให้ข้าไม่ผิดแน่!” ฮูเฟิงหัวเราะลั่น

หากเขาได้ทักษะระดับราชานิรันดร์และอุปกรณ์นิรันดร์มา เมื่อได้กลับไปยังดินแดนแห่งเซียนเมื่อไหร่ไม่เพียงแค่เขาจะได้กลายเป็นราชานิรันดร์ แต่ยังเป็นราชานิรันดร์ที่ทรงพลังอีกด้วย ทั่วทั้งดินแดนแห่งเซียนจะต้องสั่นสะเทือนเพราะเขา

ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งตื่นเต้น ใบหน้าของเขาค่อยๆเบ่งบานราวกับบุปผาก่อนกลับมาขึงขัง สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือต้องตามหาหลิงฮันได้ ไม่เช่นนั้นทุกอย่างที่เขาวาดฝันไว้ก็จะไม่เกิดขึ้น

เขาเริ่มตรวจสอบตามหาอีกครั้ง หากไม่พบหลิงฮันและไม่ได้ทักษะระดับราชานิรันดร์กับอุปกรณ์นิรันดร์มาครอบครองเขาจะไม่กลับดินแดนต้องห้ามแปดศิลาเด็ดขาด

และทันใดนั้นเองเขาก็ต้องตกตะลึง ในระยะทางที่ห่างไกลออกไปอย่างมากเขาพบเห็นประกายแสงบางอย่างกำลังลอยอยู่

เป็นอุปกรณ์บินแหวกเมฆา!

แววตาของฮูเฟิงส่องประกายและรีบไล่ตามไป

คลื่นแสงแห่งเต๋าสีทองปรากฏออกมาและพุ่งทะยานไล่ตามอุปกรณ์บินแหวกเมฆาด้วยความเร็วที่สูงกว่า

‘พรึบ พรึบ พรึบ’ ฮูเฟิงก้าวเท้าเพียงสามเก้าก็ไล่ตามทัน แต่ในขณะที่เขากำลังจะลงมือโจมตี จู่ๆอุปกรณ์บินแหวกเมฆาก็หายไปต่อหน้าต่อตาเขา

ฮูเฟิงหงุดหงิดเล็กน้อย อีกฝ่ายเป็นเพียงจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ที่เขาสามารถบดขยี้ได้ด้วยมือข้างเดียวแท้ๆ เหตุใดการจับตัวอีกฝ่ายถึงได้ลำบากนัก?

แต่ตอนนี้เขาก็ทำได้เพียงนั่งรออยู่เฉยๆ

ผ่านไปไม่นานอุปกรณ์บินแหวกเมฆาก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในระยะที่ห่างออกไปหลายรอยไมล์ ฮูเฟิงไล่ตามไป แต่แน่นอนว่าอุปกรณ์บินแหวกเมฆาได้หายไปอีกครั้ง

“ฮึ่ม!” ฮูเฟิงคำรามท่ามกลางอวกาศ เขารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เซียนที่สามารถบดขยี้ได้แม้แต่ดวงดาวนับร้อยกับไม่สามารถจับกุมตัวจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นเอาไว้ได้

……

ภายในหอคอยทมิฬ

“จะคำรามเพื่ออะไร ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายหงุดหงิด” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ เนื่องจากถูกเซียนไล่ล่าเขาจึงทำได้เพียงเคลื่อนที่เชื่องช้าราวกับหอยทาก ไม่รู้ว่าต้องใครเวลาอีกกี่เดือนถึงจะไปดาวหยุนติ่งได้

“เอาเถอะ การถูกเซียนไล่ล่าก็ถือเป็นแรงพลักดันอย่างหนึ่งเช่นกัน” หลิงฮันคิดในแง่ดี

หลังจากพักผ่อนได้หนึ่งวัน หลิงฮันก็ฟื้นฟูปราณก่อเกิดเสร็จสิ้นและออกมาจากหอคอยทมิฬ เมื่อฮูเฟิงไล่ตามมาทัน เขาเลือกที่จะปะทะกับอีกฝ่ายสองกระบวนท่าและหลบเข้าไปในหอคอยทมิฬอีกครั้ง

“แฮ่ก! แฮ่ก!” หลิงฮันหายใจติดขัด “เซียนระดับต้นก็ยังเป็นเซียนอยู่ดี ความแตกต่างของพลังมีมากเกินไป ข้ามั่นใจว่าฮูเฟิงผู้นี้สามารถโค่นล้มเซียนหมิงซินได้ในร้อยกระบวนท่า”

“แต่ว่าการถูกเซียนทุบตีได้ทำให้พลังปราณของข้าหนาแน่นขึ้นและช่วยขัดเกลาพลังต่อสู้ของข้า”

หากเป็นคนอื่นอาจจะไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ แต่หลิงฮันนั้นบ่มเพาะทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ ตัวเขาเป็นดั่งแร่โลหะนิรันดร์ที่ยิ่งถูกตีก็ยิ่งแข็งแกร่ง

เหตุการณ์เช่นนี้วนซ้ำไปมา หลิงฮันออกไปปะทะกับฮูเฟิงทุกวันเพื่อสั่งสมประสบการณ์

หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งเดือน หลิงฮันก็พัฒนาจนสามารถรับกระบวนท่าของฮูเฟิงได้สามกระบวนท่า!

ถึงแม้หลังจากรับสามกระบวนท่าเขาจะต้องรีบใช้หยดวารีอมตะก็ตามที แต่พลังต่อสู้ของหลิงฮันก็พัฒนาขึ้นจากเดือนก่อนมาก

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ฮูเฟิงตกตะลึงเป็นอย่างมาก การพัฒนาที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้คืออะไร? หรือนี่เขากำลังสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมาด้วยตัวเขาเอง?

แต่จะให้เขาลามือก็ไม่ได้!

จะทักษะระดับราชานิรันดร์หรืออุปกรณ์นิรันดร์ ไม่ว่าอันไหนเขาก็ไม่สามารถยอมปล่อยให้หลุดมือ ต่อให้ต้องไล่ตามไปสุดขอบจักรวาลเขาก็ต้องจับหลิงฮันให้ได้

อีกสามเดือนต่อมา หลิงฮันสามารถรับสามกระบวนท่าของฮูเฟิงได้อย่างง่ายดายและสามารถควบแน่นดวงดาราดวงสุดท้ายสำหรับการบรรลุระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นชั้นสูงสุดได้สำเร็จ

วันนี้เขาไม่ออกไปสู้กับฮูเฟิงแต่เก็บตัวบ่มเพาะพลังใต้ต้นสังสารวัฏเพื่อทะลวงผ่านระดับวารีนิรันดร์ขี้นกลาง

หลิงฮันตัดขาดความสนใจจากโลกภายนอก แต่ทางด้านฮูเฟิงนั้นเขายังคงตั้งสมาธิจดจ่ออยู่ทั้งวันทั้งคืน

แต่ปัญหาที่ทำให้เขาเริ่มวิตกกังวลคือหลิงฮันไม่ได้ปรากฏตัวมาเป็นเวลาเดือนหนึ่งแล้ว