บทที่ 972 คุณชายครับ มีคนต้องการพบคุณ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 972 คุณชายครับ มีคนต้องการพบคุณ

สุดท้ายไพบูลย์ก็ไม่ได้ตอบคำถาม แต่พูดเตือนเส้นหมี่กับแสนรัก

ชีวิตนี้คงจะไม่ได้ออกมาอีก

งั้นก็หมายความว่าเขามีอะไรจะพูดงั้นเหรอ? พูดกับคนที่ส่งเขาลงนรกด้วยมือของตัวเอง?

เส้นหมี่รู้สึกค่อนข้างเหลือเชื่อ

“พี่ชายคะ พี่จะไปรึเปล่า?”

“เธออยากให้ฉันไป?”

ในที่สุดแสนรักก็เอ่ยปาก

แต่คำพูดแรกคือถามว่า เส้นหมี่อยากให้เขาไปไหม?

เส้นหมี่ได้ยิน หัวใจก็อบอุ่นขึ้นทันใด และยังรู้สึกราวกับว่ามีอะไรมาเติมเต็มจนจะล้นออกมา

“ฉันแค่คิดว่า ที่เขาขอให้พี่ไปพบเขาในตอนนี้คงอาจจะมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับตระกูลเทวเทพที่อยากจะพูดรึเปล่า? พวกเราใกล้จะกลับแล้ว ทิ้งพี่ใหญ่กับคุณปู่อยู่ที่นี่ ถ้าเขาต้องการจะพูดอะไรด้วยจริงๆ พวกเราก็ไปฟังก็ได้”

เส้นหมี่วิเคราะห์อย่างตั้งใจและมีเหตุผล

มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริงๆ

ก่อนที่ประพิศจะโดนตรวจสอบก็เป็นคู่อริกับตระกูลเทวเทพมาโดยตลอด ตอนนี้ความตายกำลังจะมาเยือนเขาแล้ว แต่เขายังคงต้องการเจอกับคนตระกูลเทวเทพ ถ้าไม่ใช่เรื่องเกี่ยวข้องกับตระกูลเทวเทพ จะเป็นเรื่องอื่นไปได้เหรอ?

แสนรักขมวดคิ้ว

สุดท้ายเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย

จากนั้นสองสามีภรรยาก็ออกจากโรงพยาบาล ตรงไปที่ไวท์ พาเลซ

แน่นอนว่าเส้นหมี่ไม่สามารถเข้าไปในไวท์ พาเลซได้ พอถึงที่นั่นเธอทำได้แค่รออยู่ข้างนอก ในขณะที่แสนรักเข้าไป

แต่เธอคิดไม่ถึงว่าในขณะที่เธอรออยู่นอกไวท์ พาเลซ น้าแจ๋วกลับโทรมากะทันหันว่า พิมเจ้าถูกคนทำร้ายที่สมรมณ์วัลย์ สมุดบัญชีที่เอาไปด้วยถูกฉีกเป็นชิ้นๆ!

ยังโดนฉีกเป็นชิ้นๆ?

พิมเจ้าไม่ได้ข่มพวกเขาจริงๆเหรอ?

เส้นหมี่โกรธจัดทันที เธอเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ เห็นว่ายังเช้าอยู่ จึงสตาร์ทรถตรงไปที่สมรมณ์วัลย์

เธออยากจะเห็นว่าคนเหล่านั้นจะเหิมเกริมสีกแค่ไหน?!!

ภายในไวท์ พาเลซ

ในที่สุดภายใต้การนำทางของเจ้าหน้าที่ของสภาคณะรัฐมนตรีที่หลีกเลี่ยงหูตาของสมาชิกรัฐสภา ก็สามารถพาแสนรักไปยังสถานที่ที่คุมขังประพิศ

นี่เป็นข่าวอื้อฉาว

และยังเกี่ยวข้องกับผู้นำระดับสูง

ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ประพิศจะสามารถปรากฏตัวท่ามกลางสายตาสาธารณชนได้อีก แม้ว่าสุดท้ายเขาจะถูกพิพากษาในภายหลังและถูกย้ายเข้าคุก แต่เขาก็ยังคงจะต้องจัดการอย่างลับๆ

แสนรักมาถึงที่หน้าห้องสอบสวน

“ประพิศ มีคนมาหา!”

ขณะที่การ์ดที่เฝ้าอยู่หน้าห้องสอบสวน เมื่อเห็นเขาหลังจากเปิดประตูออกแล้วก็ตะคอกใส่อย่างไร้ความเกรงใจ

ผู้นำระดับสูงสุดผู้สง่าผ่าเผยที่อดีตทุกคนต่างเรียก “ฯพณฯ” หรือ “ท่าน”…

แต่ตอนนี้กลับถูกเรียกแค่ชื่อนามสกุล

แสนรักยืนอยู่ที่ทางเข้าประตูนี้ ร่างสูงของเขายืนอยู่บนทางเดินที่ไม่สว่างนักอยู่นาน เมื่อประพิศมองไปที่ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของเขาอย่างกะทันหันภายใต้แสงมัวๆที่ลาดเอียง ช่างเหมือนกับคนคนหนึ่งเอามากๆ

คนที่ประพิศรู้จักคุ้นเคยกันดีมานาน

“แกช่างเหมือนพ่อจริงๆ”

เขานั่งอยู่ตรงนั้น มีสภาพเส้นผมสีเทาขาวดูรุงรัง หนวดแหลมออกมา หลังจากจ้องมองไปที่แสนรักอยู่สักพัก ในที่สุดก็เอ่ยปากพูดประโยคแรกออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

แสนรักเลิกคิ้วขึ้น

“คุณเรียกผมมา คงจะไม่ใช่เพื่อคำพูดไร้สาระพวกนี้หรอกใช่ไหม?”

“แน่นอน ที่ฉันเรียกแกมา มีเรื่องอยู่สองเรื่อง อย่างแรก ฉันอยากเห็นว่าลูกชายของขุนนายหน้าตาเป็นอย่างไร? เรื่องที่สอง ฉันอยากจะบอกแกว่าความจริงแกไม่ได้ชนะ”

ในหนึ่งคือราวกับว่าเขาไม่ใช่แค่ชายที่แก่ขึ้นแค่เพียงสิบปี เขามองแสนรักที่อยู่ตรงประตูแล้วจู่ๆก็หัวเราะออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง

เพียงแต่พอหัวเราะเข้าๆ ร่างกายที่ไม่ค่อยสบายของเขาก็ไอออกมาอย่างรุนแรงราวกับเครื่องเป่าลมที่พังๆ

แสนรักหรี่ตาลง

นี่เป็นเรื่องไร้สาระที่เขาเดาออกตั้งแต่แรกแล้ว

แสนรักตัดสินใจที่จะไม่เสียเวลาของตัวเองอีกต่อไป จึงหมุนตัวจะกลับ

“แกไม่เชื่องั้นรึ? แกคิดว่าฉันกำลังหลอกแกใช่ไหม? ดี งั้นแกลองใช้ชีวิตไปอีกสักครึ่งเดือนดู มาดูกันว่าการเลือกตั้งใหม่ในครั้งหน้า คนที่ออกมาจะเป็นใคร?”

จู่ๆประพิศก็พูดประโยคนี้ออกมาราวกับมีนัยแฝงอยู่เบื้องหลัง

ประโยคนี้ค่อยน่าสนใจหน่อย

ในที่สุดแสนรักก็หยุดฝีเท้าอีกครั้ง

แต่ไม่ใช่เพราะเขาสนใจคำพูดของประพิศ แต่เขาต้องการจะบอกประพิศถึงเรื่องเรื่องหนึ่ง

“ไม่ว่าใครก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผม คุณประพิศ ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบติดอยู่ในวงการนี้เหมือนคุณ คุณไม่รู้หรอว่าผมตั้งใจจะวางมือแล้ว?”

“อะไรนะ?”

พอเขาได้ฟังจนจบ ในที่สุดใบหน้าเหี่ยวก็แสดงสีหน้าตกใจ

“แกจะวางมือ? แกไม่เป็นผู้สืบทอดของตระกูลเทวเทพต่อแล้วเหรอ?”

“ทำไมผมต้องทำ?”

“แต่ว่า…แต่ว่า…”

เขาตกใจจนพูดว่า”แต่ว่า”ซ้ำกันหลายครั้งราวกับอยากจะพูดอะไร ตอนนี้แสนรักมีสภาพแวดล้อมเป็นใจคอยอำนวย แถมยังอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ การที่เขารับหน้าที่เป็นผู้สืบทอดเข้าทำงานในไวท์ พาเลซ นั่นเป็นโอกาสที่ดีที่สุด

แต่พูดไปๆ คำพูดด้านหลังเขาก็ไม่ได้พูดมันออกไป

จากนั้นหลังจากที่เขาเหม่อมองแสนรักอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆก็เหมือนเขาเพิ่งจะได้สติ เขาหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“5555…ที่แท้นี่ก็เป็นแผนของตระกูลเทวเทพนี่เอง ดี ดีมาก พวกแกจะให้ม็อกโกมาเป็นผู้สืบทอดแทนใช่ไหม? 5555…เยี่ยมไปเลย เยี่ยมไปเลยจริงๆ!!”

เขาพูดคำว่า “ดี” ติดต่อกัน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจนั้น สุดท้ายก็ยังหัวเราะจนน้ำตาร่วง

ท่าทีของแสนรักค่อยๆนิ่งลง