ตอนที่ 918 ยกโทษให้พวกมันไม่ได้

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

ลู่โจวสาบานได้ว่าถ้าเขารู้ว่านักศึกษาคนไหนเป็นคนทำเรื่องนี้ เขาจะอัปโหลดภาพตัดต่อของนักศึกษาคนนั้นลงเว็บไซต์มหาวิทยาลัยแน่นอน

แน่นอนว่าเขาแค่กำลังมโนไปเองเท่านั้น

มหาวิทยาลัยไม่ปล่อยให้เขาแก้แค้นแบบนั้นแน่ๆ

ยังไม่นับว่าลู่โจวเองก็รู้ดีว่าการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เหมือนที่เขาเคยคิดไว้

ณ โรงแรมแกรนด์ปักกิ่ง

ลู่โจวและผู้อำนวยการหลี่กำลังนั่งอยู่ในห้องประชุมขนาดเล็ก พวกเขาเริ่มคุยเรื่องสถานการณ์ปัจจุบัน

“ทางอเมริกามีท่าทีเป็นอย่างไรบ้างครับ?”

“ทางนั้นเองก็งงไม่แพ้กัน ผู้อำนวยการคาร์สันติดต่อผมมาเมื่อเช้า ผมรู้ว่าพวกเขาจะไม่มีวันทำอะไรแบบนี้แน่ๆ “

ลู่โจว “…”

ไม่ใช่พวกเขาแล้วจะเป็นใครไปได้อีกล่ะ?

พวกประเทศยักษ์ใหญ่ก็อยู่ที่งานประชุมตรงนี้กันทั้งนั้น แล้วใครจะมาอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อีก?

เอเลี่ยนหรือไง?

ผู้อำนวยการหลี่จิบชาให้คอหายแห้งแล้วพูดขึ้นว่า “ผมได้แจ้งเรื่องนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว…แต่ดูเหมือนว่าจะสายเกินไป”

ลู่โจวถอนหายใจแล้วถามต่อ “ความเสียหายเป็นอย่างไรบ้างครับ?”

ผู้อำนวยการหลี่ตอบด้วยเสียงจริงจัง “การจะฟื้นตัวขึ้นมาจากความเสียหายนี้มันไม่ยากหรอก ปัญหามันอยู่ที่ว่า พวกเราไม่รู้ว่าการโจมตีครั้งถัดไปจะมาเมื่อไหร่เนี่ยสิ”

จุดนี้เป็นจุดที่ยากที่สุดของการรักษาความมั่นคงทางไซเบอร์

เมื่อเผชิญหน้ากับพลังไซเบอร์อันรุนแรง ฝั่งที่เป็นฝ่ายป้องกันจะต้องตกที่นั่งลำบากอยู่เสมอ

มันจะง่ายกว่านี้ถ้าพวกเรารู้แรงจูงใจของคนที่แฮกเข้ามา อย่างเช่นว่า พวกเขาต้องการค่าตอบแทนแบบไหน ตราบใดที่พวกเขารู้แรงจูงใจของคนแฮก พวกเขาก็สามารถวางแผนตั้งรับและสร้างกับดักขึ้นมาได้ แต่ถ้าหากไม่มีแรงจูงใจที่ชัดเจนเบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์พวกนี้แล้ว พวกเขาจึงทำได้เพียงนั่งรออยู่เฉยๆ

นี่มันคล้ายกับการที่มีใครสักคน ‘ฆ่าคนแบบสุ่ม’ แล้วหนีรอดไปได้เลย

หลังจากที่ได้ยินคำอธิบายของผู้อำนวยการหลี่ ลางสังหรณ์ของลู่โจวก็บอกเขาว่า นี่เป็นการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีการจัดเตรียมแผนมาอย่างดี แต่เขาก็ไม่รู้ว่าการโจมตีพวกนี้ทำไปเพื่ออะไร

“พวกเขาต้องการอะไรกันแน่?”

“พวกเขาต้องการให้เราหยุดการประชุมเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์…และดูเหมือนพวกเขาจะต้องการให้เราปลดคุณจากตำแหน่งด้วย”

ลู่โจวยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า “ถ้าที่พวกเขาต้องการมีแค่ให้ปลดผมล่ะก็ ผมก็ทำตามที่พวกนั้นต้องการได้สบายๆ เลย”

ผู้อำนวยการหลี่เตือนอย่างจริงจังว่า “อย่าทำแบบนั้นนะ! คุณรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมาบ้างถ้าคุณทำอย่างนั้นจริง?”

“โอเคๆ ก็ได้ ผมรู้แล้ว แค่ล้อเล่นเฉยๆ เองครับ อย่างไรพวกเราก็ไม่มีทางทำตามที่พวกนั้นต้องการอยู่แล้ว…”

ผู้อำนวยการหลี่ค่อนข้างจริงจังกับเรื่องนี้จริงๆ …

ลู่โจวคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ถามออกมาว่า “แล้วมีวิธีไหนที่พวกเราจะรับมือกับสถานการณ์นี้ได้บ้างครับ?”

ผู้อำนวยการหลี่ตอบ “ไม่มีน่ะสิ…พวกเราติดต่อสหรัฐอเมริกาไปแล้ว หวังว่าพวกเขาจะช่วยพวกเราสืบหาเบาะแสก็แล้วกัน แต่ดูๆ แล้วพวกเขาไม่ค่อยจะกระตือรือร้นกับเรื่องนี้เลย พวกเขาบอกว่า จะช่วยสืบสวนถ้าเรามีหลักฐานที่แน่ชัดมากพอ”

ลู่โจวคิดอยู่ครู่หนึ่งก็สรุปว่า “ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็แค่ต้องหาหลักฐานสินะ”

ผู้อำนวยการหลี่ “อ่าฮะ พวกเราต้องระบุตัวพวกคนแฮกให้ได้ นี่เป็นวิธีเดียวที่จะหยุดการโจมตีของพวกนั้นได้ ไม่อย่างนั้นแล้วละก็ ต่อให้เราเอาชนะพวกมันได้ในเวลาสั้นๆ พวกมันก็จะหาวิธีโต้กลับได้อยู่ดี”

ลู่โจว “โอเคครับ ผมจะลองหาวิธีดูก็แล้วกัน”

“คุณน่ะเหรอ?” ผู้อำนวยการหลี่ส่ายหัวแล้วบอกว่า “ปล่อยเรื่องพวกนี้ให้เป็นเรื่องของเราเถอะ ผมแค่จะบอกคุณว่า อย่าเอาเรื่องส่วนตัวหรือข้อมูลทางวิชาการที่สำคัญโพสต์ลงอินเทอร์เน็ตก็แล้วกัน พวกเรากำลังอยู่ในสถานการณ์พิเศษอยู่ตอนนี้ และพวกมันก็กำลังเล็งจะจัดการคุณอยู่ด้วย”

ลู่โจว “…”

เออ พวกเขาเล็งจะจัดการฉันอยู่แล้ว!

เล่นโพสต์ภาพล้อเลียนฉันลงอินเทอร์เน็ตเสียขนาดนั้น!

ลู่โจวถอนหายใจแล้วบอกอีกฝ่ายว่า “ผมปล่อยเรื่องนี้ไปเฉยๆ ไม่ได้หรอก…พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง ถ้าพวกนั้นไม่มายุ่งกับผมก็คงจะไม่เป็นไรหรอก แต่นี่พวกมันมาเล็งจะจัดการผมเนี่ยสิ ผมยกโทษให้ไม่ได้”

ผู้อำนวยการหลี่ “…?”

ลู่โจวมองชายสูงวัยแล้วพูดย้ำว่า “ไม่ว่าอย่างไร ผมก็ยกโทษให้พวกมันไม่ได้!”

ผู้อำนวยการหลี่ส่ายหัวด้วยความไม่เชื่อแล้วเอ่ยว่า “โอเค ช่างมันเถอะ ด้วยความสามารถด้านโปรแกรมเมอร์ของคุณแล้ว…อยู่เฉยๆ เถอะ พวกเราสร้างกองทัพไซเบอร์ไว้แล้ว”

ผู้อำนวยการหลี่มองลู่โจวแล้วพูดอย่างเสียอารมณ์ว่า

“ส่วนคุณน่ะ ผมหวังว่าจะคุณจะโฟกัสกับการประชุมครั้งนี้ให้ได้ คุณกำลังเป็นตัวแทนของวงการวิชาการทั้งประเทศจีนนะ!”

สงครามไซเบอร์เริ่มเข้าสู่ช่วง ‘ทำอะไรไม่ได้แล้ว’

มันจะง่ายกว่านี้มากถ้าพวกแฮกเกอร์เป็นคนในประเทศจีน เพราะผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ๆ และฝ่ายอิเล็กทรอนิกส์ก็ให้ข้อมูลลับเบื้องหลังแก่กระทรวงความมั่นคงอยู่แล้ว พวกเขาจะจับแฮกเกอร์ได้ง่ายมาก

แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าแฮกเกอร์พวกนี้เป็นคนจากต่างประเทศน่ะสิ

ไม่เคยมีใครได้ยินชื่อของกลุ่ม ‘อีเกิ้ลฮันเตอร์’ มาก่อน แต่หลังจากที่ข่าวหลุดออกไป ชื่อกลุ่มของพวกเขาก็เริ่มแพร่กระจายไปเรื่อยๆ

คนส่วนใหญ่ก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์พวกเขา…

[เวรเอ๊ย ไอ้พวกอเมริกันพวกนี้มันชั่วจริงๆ ! แฮกเกอร์ประเทศเราไปไหนหมดวะ ขอพลังแฮกมาแฮกกลับไม่โกงหน่อย!]

[พวกเราไม่มีแฮกเกอร์เหลือแล้ว พวกแฮกเกอร์สายขาวก็ไปทำงานบริษัทเทคโนโลยีหมดแล้ว (ถอนหายใจ)]

[ได้ยินมาว่ามีกลุ่มแฮกเกอร์ใต้ดินที่เริ่มวางแผนจะโจมตีกลับแล้วนะ!]

[ฉันว่าศึกครั้งนี้ต้องลำบากแน่ๆ เลย พวกนั้นได้เปรียบอยู่ นอกจากว่าพวกเราจะพัฒนาให้ระบบรักษาความปลอดภัยดีเท่าของกองทัพได้ทุกแห่งอะนะ ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็เล่นงานเซิร์ฟเวอร์ที่อ่อนแอที่สุดของพวกเราอยู่ดี]

[เวรเอ๊ย! ไอ้พวกอเมริกันพวกนี้ไม่มีอะไรจะทำแล้วหรือไงวะ? จะมาโจมตีเซิร์ฟเวอร์เว็บหาพระแสงอะไร?]

[อ๋า ฉันกลัวว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อาจจะเป็นพวกรัฐบาลอเมริกาน่ะสิ…]

หลังจากที่ผู้อำนวยการหลี่จากไป ลู่โจวก็กลับเข้าห้องตัวเอง เขาเปิดเว่ยป๋อและพบว่า ‘กลุ่มอีเกิ้ลฮันเตอร์’ กำลังขึ้นเทรนด์

แฮกเกอร์พวกนี้ต้องเป็นดีใจจนฟินแล้วแน่ๆ ที่ชื่อเสียงกลุ่มตัวเองแพร่กระจายไปทั่วขนาดนี้

ฉันจะมานั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้…

ฉันปล่อยให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นไม่ได้

ลู่โจวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาคณบดีฉิน

“ฮัลโหล นี่ผมเองนะ ตอนนี้สถานการณ์ให้ห้องเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์เป็นอย่างไรบ้างครับ?”

คณบดีฉินถอนหายใจแล้วตอบไปว่า “ก็ยังมีไวรัสอยู่ในนี้อะนะ หน่วยงานความมั่นคงทางไซเบอร์ส่งคนมาช่วยดูแล้ว พวกเขาบอกว่าพวกเขาทำอะไรไม่ได้เลย ก็เลยมาเขียนรายงานแล้วก็กลับไปแล้ว…พวกเรายอมแพ้แล้วล่ะ นี่กำลังจะรีอินสตอลระบบปฏิบัติการเซิร์ฟเวอร์แล้วก็เปลี่ยนฮาร์ดไดรฟ์ใหม่ยกเซ็ตอยู่เนี่ย”

พวกเขายอมแพ้แล้วเหรอ?

ฉันปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ไม่ได้

ลู่โจวพูดขึ้นมาทันทีว่า “อย่าเพิ่งรีอินสตอลนะครับ ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์หลายคนที่สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง เดี๋ยวผมจะส่งคนไปช่วยเอง”

หลังจากที่ได้ยินคำตอบของลู่โจว คณบดีฉินก็ชะงักไปครู่หนึ่ง เขาไม่ได้คิดว่าลู่โจวจะทำอะไรแบบนี้

“คุณมี…ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลด้วยเหรอ?”

“แน่นอนครับ!” ลู่โจวคลี่ยิ้มแล้วตอบว่า “พวกเรายังเป็นสถาบันวิจัยเทคโนโลยีสารสนเทศที่อยู่ได้ด้วยตนเอง ก็เลยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์หลายคนครับ”

คณบดีฉินยิ้มแล้วส่ายหัวของตัวเอง

“โอเค ถ้าอย่างนั้นก็รีบๆ ส่งมาสักคนก็แล้วกัน”

คณบดีฉินไม่ได้หวังอะไรมากเลย

สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงเป็นสถาบันวิจัยที่ดีแห่งหนึ่ง แต่พื้นที่การวิจัยหลักของพวกเขาจะเป็นด้านคณิตศาสตร์ วัสดุศาสตร์เชิงคำนวณ และเคมี

พอเป็นเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศแล้ว หรือถ้าพูดชัดกว่านั้นคือด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยพวกนี้ก็ไม่ได้เก่งไปกว่าวิศวกรรักษาความปลอดภัยจากบริษัทใหญ่ๆ เลย

ยังไม่นับว่า มันไม่มีทางที่สถาบันสารสนเทศของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงจะอยู่ในระดับเท่ากับคณะซอฟต์แวร์ของมหาวิทยาลัยจินหลิงด้วย ขนาดอาจารย์ใหญ่สวี่เองก็ยังอยู่ในวงการวิจัยเทคโนโลยีสารสนเทศ

ขนาดผู้เชี่ยวชาญจากคณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้เลย…

หลังจากวางสาย ลู่โจวก็บอกเสี่ยวไอว่าต้องทำอะไรบ้าง จากนั้นเขาก็โทรหาหลัวเหวินเซวียน

เสียงของหลัวเหวินเซวียนดังมาจากปลายสาย

“ฮัลโหล?

“ฉันเองนะ”

“…บอกมาเลยว่านายอยากได้อะไร นายต้องอยากได้อะไรจากฉันอีกแน่ๆ “

ลู่โจวยิ้มเจื่อน

มันชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอ…

รอยยิ้มของลู่โจวหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเขาเปลี่ยนไปพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

“ฉันอยากให้นายช่วยอะไรหน่อย”

…………………………..