นี่คือสิ่งที่หลัวซิวใช้เทพทองเทพเหล็กและเวลาอีกกว่าสามเดือนกลั่นออกมาเป็นวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ

ร่องรอยกฎที่สลักอยู่ด้านบนนั้น แฝงไปด้วยการสัมผัสรู้ของเขาทั้งหมดต่อกฎการเวียนว่ายตายเกิดและเทพแห่งวัฏจักรชีวิต เป็นผลลัพธ์ทั้งหมดในเส้นทางการฝึกยุทธ์ที่เป็นรูปธรรม

“อืม? แค่ของขลังชิ้นหนึ่ง คิดจะต้านข้าหรือ?” เทพมารอสูรเหยี่ยวทองหัวเราะเย้ยหยัน รูเล็ตที่อยู่เหนือศีรษะหลัวซิว ถึงแม้จะดูแปลกประหลาด แต่คลื่นออร่าที่แพร่กระจายออกมานั้น กลับเป็นเพียงแค่ระดับของขลังเท่านั้น

นาทีต่อมา สีหน้าของเทพมารอสูรก็พลันเปลี่ยนเป็นตื่นกลัวขึ้นมา อุ้งเท้าของเขาฉีกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ภายใต้การบดขยี้ของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ ไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย

“เป็นไปได้อย่างไร?” สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงของขลังชิ้นหนึ่ง แต่กลับสามารถทำร้ายร่างกายของเทพมารอสูรที่เทียบเท่าสมบัติเทพมารได้?

“ไม่ใช่ เมื่อครู่ข้าสัมผัสได้ถึงพลังบาง ๆ ของกฎดั้งเดิม หรือว่านี่จะไม่ใช่แค่เพียงของขลัง แต่เป็นสมบัติเทพมาร?”

ด้านหลังของเขามีปีกสีทองคู่หนึ่งงอกออกมา ภายใต้การขยับนั้นสามารถล่าถอยออกไปได้อย่างรวดเร็ว สีหน้านั้นแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก

ในฐานะผู้แข็งแกร่งเทพมารอสูร ร่างเนื้อได้รับบาดเจ็บ ก็จะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้ในทันที แต่อุ้งเท้าที่ถูกวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพบดขยี้นั้น กลับมีออร่าพิเศษพันล้อมอยู่ ไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาเป็นดังเดิมได้

“เจ้าเป็นแค่เพียงแดนเจ้ายุทธจักร แต่กลับครอบครองพลังแห่งกฎดั้งเดิม? อีกทั้งยังฝึกตนสองระดับความเป็นตาย?” เทพมารอสูรคำรามเหมือนคนเสียสติ

ฝึกตนสองระดับความเป็นตาย ที่โลกแสงดาวนับตั้งแต่สมัยโบราณจนกระทั่งปัจจุบันยังไม่มีใครสามารถทำได้

แต่ที่พิภพกลาง กลับมีคนเคยทำได้ ซึ่งหลัก ๆ คือเกี่ยวข้องกับวรยุทธ์พิเศษ เป็นความลับที่ไม่ส่งต่อของกองกำลังใหญ่ขั้นสูง

การสืบทอดชั้นสูงประเภทนี้คนทั่วไปแทบจะไม่มีทางได้รับ เทพมารอสูรผู้นี้ก็เพียงแค่ได้ยินมา ไม่เคยได้เห็นกับตา

“เทพมารก็แค่เท่านี้”

หลัวซิวเดินก้าวเท้ามาด้านหน้าก้าวใหญ่ วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพอยู่ดี ๆ ก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ปริภูมิโดยรอบปรากฏภาพการพังทลายอันน่าหวาดกลัว

เทพมารอสูรผู้นี้ไม่กล้าต่อกรกับวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ จึงได้กระพือปีกสีทองด้านหลังเหาะหนีขึ้นไปด้านอากาศ

จากนั้น เขาสนใจเพียงแค่การหนีไป แต่กลับละเลยการมีอยู่ของวิชาห้ามค่ายกลระดับเทพที่อยู่กลางท้องฟ้า

“อ้าก!”

แสงค่ายอันน่าหวาดเกรงนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น ทำให้ปีกสีทองที่ด้านหลังของเทพมารอสูรผู้นี้ขาดสะบั้น เลือดของเทพมารอสูรสาดกระจายออกมา

หลัวซิวเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าก็พลันขรึมลงเล็กน้อย โชคยังดีที่เขาไม่ได้ลองเหาะขึ้นไปบนอากาศ ไม่เช่นนั้นเกรงว่าจุดจบจะอนาถยิ่งกว่านี้เสียอีก

“เทพมารอสูรผู้นี้เป็นเหยี่ยวทองที่ฝึกตนสำเร็จ ปีกคู่นี้เป็นสมบัติชั้นยอดเลยทีเดียว”

หลัวซิวแววตาเป็นประกาย เอื้อมมือออกไปคว้าเอาปีกคู่นั้นที่ถูกตัดขาดทั้งยังมีเลือดหยดอยู่เก็บเข้ามา

“สารเลว!”

เทพมารอสูรเหยี่ยวทองเห็นว่าปีกของตนถูกหลัวซิวเก็บไป ก็ตระโกนคำรามด้วยความโมโห อ้าปากปล่อยลำแสงสีทองออกมา

หลัวซิวไม่ได้สนใจ โบกมือยกไฟเทวสว่างขึ้นมา บังการโจมตีของลำแสงสีทองนี้เอาไว้

บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยวิชาห้าม เทพมารอสูรเหยี่ยวทองไม่กล้าที่จะเดินไปบนอากาศอีก รอบกายถูกแสงค่ายกรีดจนเลือดหยดเป็นทาง รีบลงมาด้านล่างอย่างรวดเร็ว

“ตราผนึกเทพ!”

หลัวซิวขับเคลื่อนหมื่นจักรวาลไร้รูป แปรพลังอมตะชนิดหนึ่ง นิ้วชี้ไปกลางอากาศสลักออกมาเป็นสัญลักษณ์ ผนึกเข้าที่หว่างคิ้วของเทพมารอสูรเหยี่ยวทอง

หมื่นจักรวาลไร้รูปที่เขาสร้างขึ้นนั้น คือการแปรเปลี่ยนไร้รูปให้เป็นหมื่นจักรวาลสรรพสิ่ง ไม่ว่าทักษะยุทธ์ระดับอมตะชนิดใด เพียงแค่ถูกเขาตระหนักรู้ ก็สามารถใช้หมื่นจักรวาลไร้รูปกลั่นแปรออกมาได้

พลังอมตะตราผนึกเทพนี้ ได้รับมาจากความทรงจำของหลี่ยู่ ผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าท่านหนึ่งแห่งตระกูลหลี่โลกมหาจักรภพสร้างขึ้น

ถึงแม้ความทรงจำของหลี่ยู่ยังมีพลังอมตะระดับราชาเทพที่แข็งแกร่งกว่าอยู่อีก แต่ด้วยแดนผลการฝึกตนของหลัวซิวในปัจจุบัน หากะไปตระหนักรู้พลังอมตะระดับราชาเทพ ยังถือเป็นการฝืนเกินไปหน่อย