เมื่อจัดการกับกงหยางเลี่ยเสร็จเรียบร้อยทางจีโมก็ค่อย ๆ หันหน้าไปหาจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซู “หึ เผ่ากิเลนเจ้านี้มันช่างน่าชื่นชมจริง ๆ!”
เรื่องราวในครั้งนี้แน่นอนว่าจีโมย่อมจะมองดูมันมาตั้งแต่ต้น
เพียงแค่ว่าในหมู่ยอดฝีมือทั้งหลาย ณ ที่นี้ มันมีเพียงแค่เย่หยวนเท่านั้นที่สัมผัสถึงตัวตนของเขาได้
เรื่องราวที่เผ่ากิเลนใช้ชื่อเสียงอำนาจพลังข่มขู่ผู้คนใด ๆ นั้นเขาย่อมจะมองเห็นมันอย่างแจ่มแจ้ง
เหตุผลเดียวที่เขายังไม่คิดจะออกมาจัดการเรื่องราวตั้งแต่ต้นนั้นมันเป็นเพราะว่าเขาอยากจะเห็นเสียก่อนว่าเย่หยวนจะมีปัญญาเอาตัวรอดแค่ไหน
แม้ว่าทางมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นจะแต่งตั้งให้เย่หยวนเป็นรองมหาปราชญ์ แต่แท้จริงตัวจีโมเองก็ไม่ได้ต่างจากมหานักบวชขนแดงมากมายนัก สุดท้ายในใจของเขาก็ยังมีความเคลือบแคลงสงสัยอยู่ไม่น้อย
เพราะการจะให้ยอมรับเทพถ่องแท้ผู้หนึ่งขึ้นมาอยู่เหนือหัวพวกเขาศิษย์พี่น้องทั้งสิบเอ็ดนั้นมันย่อมจะเป็นเรื่องที่เขาไม่อาจจะยอมรับได้ง่ายดาย
แต่เมื่อได้มองดูเรื่องราวมาจนถึงวันนี้ จีโมก็ต้องเปลี่ยนความคิดที่ตัวเขามีต่อเย่หยวนไปทันที
ตัวเย่หยวนนั้นมิใช่เพียงแค่ยอดอัจฉริยะด้านการโอสถที่ทำให้คนทั้งหลายต้องอับอายไม่กล้าเอาตัวไปเทียบ แต่ตัวเด็กหนุ่มคนนี้ยังเป็นยอดอัจฉริยะด้านวิชายุทธในเวลาเดียวกันด้วย!
เย่หยวนนั้นมีวรยุทธวิชาการต่อสู้ที่เหนือล้ำจนคนรุ่นเดียวกันไม่อาจจะเทียบเคียงได้แม้แต่เส้นผม
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือการที่เย่หยวนสามารถเรียกใช้ลายพระเจ้าได้ตั้งแต่ยังอยู่ในอาณาจักรเทพถ่องแท้
ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดอาจารย์ของเขาจึงจะตั้งให้เย่หยวนเป็นคู่ปรับ ต่อให้จะวัดกันแค่ในด้านเต๋าโอสถ เย่หยวนเองก็คงก้าวล้ำพวกเขาศิษย์พี่น้องทั้งหลายไปได้ในไม่ช้า
เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูได้ยินถึงชื่อเสียงเรียงนามของจีโม ตัวเขาก็ต้องสูดหายใจเข้าลึกทันที
เขาเองก็ย่อมจะไม่เคยคิดฝันว่ามหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นจะให้ค่ากับตัวรองมหาปราชญ์มากมายปานนี้ ถึงขั้นส่งศิษย์ของตนออกมาจัดการเรื่องราวเอง
จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นไม่ยุ่งย่ามกับเรื่องราวของโลกเบื้องล่าง
แต่ตัวจีโม ตัวตนอันสูงส่งผู้นี้เองก็แทบจะไม่ได้ลงมายุ่งกับเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเช่นกัน
จักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายนั้นมันคือสุดยอดตัวตนอันสูงส่งอย่างแท้จริงในมหาพิภพถงเทียน!
แต่มหานักบวชเคลื่อนดาราผู้นี้กลับปรากฏตัวออกมายังโลกเบื้องล่างเพื่อช่วยเหลือเย่หยวน!
แต่แม้จะอยู่ต่อหน้ามหานักบวชเคลื่อนดารา ทางจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูเองก็ไม่อาจจะยอมเสียหน้าของเผ่ากิเลนไปได้ เขารีบก้มหัวลงเถียงกลับมหานักบวชเคลื่อนดาราทันที “คำพูดของท่านเคลื่อนดารานี้ซือซูไม่อาจเข้าใจได้ ต่อให้เย่หยวนนี้จะเป็นรองมหาปราชญ์แต่ตัวเขาก็ได้สังหารยอดอัจฉริยะการโอสถอันดับหนึ่งของเผ่ากิเลนข้า ทำให้พลังโอสถของเผ่ากิเลนข้าจะต้องตกต่ำลง แถมตัวเขายังแย่งชิงกระดูกจักรพรรดิกิเลนไปครอง หรือว่าเรื่องราวนี้เผ่ากิเลนข้าจะต้องกลับไปอย่างไม่ได้รับความยุติธรรมเช่นนี้?”
มหานักบวชเคลื่อนดาราจ้องมองดูที่ใบหน้าของจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูอย่างดุดันจนอีกฝ่ายตัวสั่นเทา “หึ ๆ เผ่ากิเลนเจ้านี้ก็ช่างโทษคนเก่งจริง! ตั้งแต่ที่รองมหาปราชญ์มาถึงเมืองนี้ จักรพรรดิผู้นี้ก็ได้จับตาดูเขาอยู่ตลอด เรื่องราวทั้งหลายในวันนี้มันล้วนเป็นเผ่ากิเลนเจ้าที่ออกมาหาเรื่องผู้คน รองมหาปราชญ์นั้นได้อดทนอดกลั้นมาตลอดแต่พวกเจ้ากลับไม่คิดถอน เปลี่ยนจากชั่วเลวเป็นร้าย นอกจากฉีเจิ้นมันจะบอกล้างคำเดิมพันด้วยน้ำลายง่าย ๆ แล้วมันยังมีหน้าไปขู่ให้รองมหาปราชญ์มอบกระดูกจักรพรรดิให้พร้อมก้มหัวขอโทษ หึ ๆ นี่คือรองมหาปราชญ์ที่ท่านอาจารย์แต่งตั้งขึ้นมา แต่เจ้ากลับจะคิดให้เขาก้มหัวขอโทษ ทำเช่นนั้นเจ้าไม่คิดว่ามันจะเป็นการหยามท่านอาจารย์ข้าเกินไปหน่อยหรือ? หืม?”
เมื่อพูดจบทางจีโมก็ได้ปล่อยคลื่นจิตศักดิ์สิทธิ์อันหนักหน่วงรุนแรงออกมาพุ่งใส่ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูทันที
จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายจนสุดท้ายไม่อาจประคองร่างได้ต้องคุกเข่าลงต่อหน้าจีโม
จากนั้นทางจีโมก็ได้ก้าวเดินออกไปด้านข้างเผยให้เห็นตัวของเย่หยวนอยู่ด้านหลัง
ทำให้ตอนนี้มันกลายเป็นว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูกำลังก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเย่หยวนแทน
จักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายนั้นสุดแสนจะแข็งแกร่ง ทั้งตัวจีโมนี้ยังเป็นมหานักบวช พลังจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขานี้จะต้องแข็งแกร่งปานใด?
หากเขาคิดทำจริง ตัวเขานั้นสามารถป่นทำลายดวงจิตของซือซูลงได้ทันที
ตอนนี้ใบหน้าของจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูนั้นซีดเผือดราวกับกำลังป่วยหนักอย่างสาหัส
เขานั้นหันหน้าไปมองจีโมด้วยความตื่นตะลึงพร้อมหวาดกลัว
มหานักบวชเคลื่อนดารานั้น…แข็งแกร่งจนเกินไป!
เหล่ายอดฝีมือเผ่าอสูรทั้งหลายในเวลานี้ต่างตื่นตะลึงอย่างมาก เผ่ากิเลนที่วางท่าใหญ่โตเดินทางออกมาครั้งนี้ สุดท้ายสองจักรพรรดิเทพสวรรค์ของพวกเขาหนึ่งนั้นกลับถูกเย่หยวนจัดการจนต้องคุกเข่าลง ส่วนอีกคนนั้นกลับถูกมหานักบวชเคลื่อนดารากดดันจนต้องคุกเข่าตาม
เรื่องนี้มันย่อมจะทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาป่นปี้!
ที่สำคัญไปกว่านั้นมหานักบวชขนแดงยังได้เชิญยอดฝีมือจากทุกเผ่าอสูรมาในงานครั้งนี้
มันย่อมจะเท่ากับว่าความอับอายครั้งนี้ของเผ่ากิเลนมันได้ถูกรับรู้ทั้งทั่วหล้าอย่างแท้จริง
แต่เหล่าอสูรทั้งหลายในเมืองนั้นก็ยังกังวล มหานักบวชเคลื่อนดาราวางตัวเช่นนี้เขาไม่กลัวว่าทางเผ่ากิเลนจะมาถามทวงเรื่องราวหรือ?
“ท่านเคลื่อนดารา…ท่านใช้กำลังข่มเหงรังแกผู้คนจนเกินไปแล้ว! ท่านคิดว่า…เผ่ากิเลนข้าจะไม่มียอดฝีมือหรือ?” จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูกัดฟันร้อง
จีโมที่ได้ยินก็ยิ้มตอบกลับไป “จักรพรรดิผู้นี้ย่อมรู้ดีว่าเผ่ากิเลนเจ้านั้นเก่งกาจ ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าวิหารนักบวชเราเลย เพียงแค่ว่า…เรื่องนี้เจ้ายังจะมีหน้ามาถามทวงความยุติธรรมจากข้า? การคุกเข่าขอขมานี้เป็นสิ่งที่เจ้าคิดค้างรองมหาปราชญ์ไว้!”
จีโมหรี่ตาลงแคบพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้ง “รองมหาปราชญ์นี้เป็นผู้ที่ท่านอาจารย์แต่งตั้งขึ้นมาเอง ตัวตนของเขานี้เหนือล้ำกว่าพวกเขาศิษย์พี่น้องทั้งหลายด้วยซ้ำ แต่เจ้าแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์สามดาวกลับคิดจะมาลบหลู่รองมหาปราชญ์แห่งวิหารนักบวชเรา มันจะไม่เท่ากับว่าเดินไปตบหน้าท่านอาจารย์ข้าหรือ? มันเป็นเจ้าเองมิใช่หรือที่คิดรังแกวิหารนักบวชข้าเพราะคิดว่าพวกเราจะไม่มีใครออกหน้ามาจัดการเรื่อง?!”
เสียงของจีโมนี้ดังลั่นฟ้าดินก้องกังวานไปทั่วทิศ
ความโกรธแค้นของเขานั้นมันเป็นความโกรธแค้นของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล
เดิมทีชื่อรองมหาปราชญ์ของเย่หยวนนั้นมันก็เป็นแค่ชื่อ ไม่มีใครคิดยึดถือมันจริงจัง
แต่เมื่อจีโมลงมาออกหน้าเองเช่นนี้มันย่อมจะแสดงถึงความสำคัญของรองมหาปราชญ์อย่างมาก
เพราะฉะนั้นแม้จะบังคับให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูคุกเข่าลงมันก็ไม่ผิด!
จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูเองก็ได้แต่ทำหน้าขาวซีด เพราะเดิมทีเผ่ากิเลนเองก็ไม่ได้คิดว่าตำแหน่งรองมหาปราชญ์ของเย่หยวนนี้มันจะมีค่าใด ๆ
ที่สำคัญไปกว่านั้น พวกเขาทั้งหลายยังเข้าใจผิดไปมากโขกว่าใคร ๆ
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นไม่ได้คิดกับเขาแค่เป็นเด็กหนุ่มยอดอัจฉริยะ แต่ตัวมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นได้ยกเขาขึ้นมานั่งในระดับเดียวกับตนไปแล้ว
ความสูงส่งของตำแหน่งนี้มันเหนือล้ำกว่าที่ใครจะคาดคิด!
จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูกัดฟันแน่น “ถึงจะเป็นเช่นนั้นเผ่ากิเลนข้าเองก็ไม่ยอมให้ท่านเคลื่อนดารามาฉีกหน้าเราเช่นนี้แน่!”
จีโมจึงยิ้มตอบกลับไป “เช่นนั้นหรือ? หากเจ้ายังไม่คิดพอใจก็เชิญเหล่ายอดฝีมือที่แท้ของเผ่ากิเลนออกมา จักรพรรดิผู้นี้จะรอรับมือให้เอง! วิหารนักบวชเราไม่กลัวที่จะทำสงครามศักดิ์สิทธิ์หรอก!”
เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูได้ยินเช่นนั้นดวงตาของเขาก็ต้องเบิกกว้าง
จีโมนั่นกลับพูดออกมาง่าย ๆ แต่ความหมายในคำพูดนี้มันช่างหนักหน่วง!
“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน? ท่านรองมหาปราชญ์นั้นเป็นแค่เทพถ่องแท้ผู้หนึ่งเหตุใดท่านมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลถึงได้ให้ค่าเขาสูงนัก?”
“มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลท่านกลับไม่คิดลังเลที่จะประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์เพื่อรองมหาปราชญ์!”
“ดูท่าเราจะประเมินตัวตนของรองมหาปราชญ์ในความคิดของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลท่านผิดไป!”
…
เหล่าอสูรทั้งหลายต่างจะสั่นสะท้านไปถึงแก่น
มหานักบวชเคลื่อนดารานี้มาเป็นตัวแทนของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลท่าน
หากเผ่ากิเลนกล้าทำอะไรเย่หยวนจริง ๆ แล้วสงครามศักดิ์สิทธิ์ย่อมจะเกิดขึ้นเป็นแน่
จะสู้หรือถอย!
การเลือกนี้มันถูกโยนกลับไปให้ทางเผ่ากิเลน
จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูหายใจเข้าลึกก่อนจะหันไปหาเย่หยวนด้วยใบหน้าเหยเก “เรื่องวันนี้ซือซูไม่อาจจะตัดสินใจเองได้ แต่คำพูดของท่านเคลื่อนดารานั้น ซือซูจะนำมันกลับไปบอกท่านทั้งหลายในเผ่าแน่!”
พูดจบจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูก็คิดจะหันหน้าเดินจากไป
“หยุด จักรพรรดิผู้นี้อนุญาตให้เจ้าไปแล้ว?” จีโมร้องห้ามขึ้น
จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูหน้าถอดสีลงทันทีก่อนจะพูดตอบกลับมา “ทำไมเล่า? ท่านเคลื่อนดาราคิดจะสังหารข้าลงหรือ? แม้ว่าซือซูผู้นี้จะมิใช่คนใหญ่โตใด ๆ แต่ข้าก็มาวันนี้ในฐานะตัวแทนเผ่ากิเลน หากข้าตายสงครามศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ มันย่อมจะเกิดขึ้นแน่!”
จีโมนั้นไม่ได้คิดจะสนใจคำขู่นั้นใด ๆ ก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ พร้อมกล่าว “วันนี้มีผู้คนยอดฝีมือมากมายมาอยู่รวมกันแล้ว เช่นนั้นก็มาดูชมความเก่งกาจที่แท้ของรองมหาปราชญ์กันเถอะ!”
………………