ตอนที่ 1546

Alchemy Emperor of the Divine Dao

โก้วลี่มั่นใจว่าในอนาคตัวเขาจะกลายเป็นจ้าวอสูรที่ทุกคนต่างใฝ่ฝันได้แน่นอน

แต่ว่าตอนนี้เขายังเป็นเพียงจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลาง ส่วนเหล่าราชาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หินนั้นเป็นจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงหรือขั้นสูงสุด

เขายังไม่มีความสามารถพอที่ให้ปะทะกับราชาเหล่านั้น

ในอนาคตเขาสามารถเหยียบย่ำทุกคนในที่นี้ได้แน่นอนแต่ตอนนี้เขาต้องอดกลั้นเอาไว้ก่อน ที่ไม่คาดคิดคือจู่ๆหลิงฮันจะตะโกนเสียงดังลั่นหาเรื่องมาให้เขาแบบนี้

‘พรึบ’ สายตาทุกคู่จ้องมายังพวกเขาทันที แน่นอนว่ามีสายตาบางคนที่มองมาที่หลิงฮันแต่ส่วนใหญ่นั้นจดจ้องไปยังโก้วลี่

โก้วลี่ยิ้มอย่างขมขื่นในใจ เขากับหลิงฮันผูกมิตรกันด้วยสายสัมพันธ์ตอนหลบหนี แต่ไม่นึกว่าหลิงฮันจะยังไม่ลืมเรื่องที่เขาที่เขาลากมาติดร่างแหไปด้วยจึงได้เอาคืนเขาด้วยวิธีนี้

“มองหาอะไร? ไม่รู้รึไงว่าพี่ลี่ของข้ามีฉายาว่าพิฆาตราชา หากยังมองอยู่พวกเจ้าได้ลงไปนอนนิ่งใต้เท้าพี่ชายข้าแน่!” หลิงฮันกล่าวข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเหี้ยมโหด

“งั้นรึ?” ชายหนุ่มชุดฟ้าผมแดงเดินออกมาจากฝูงคน เขามองมายังโก้วลี่ด้วยสีหน้ามืดมน

โก้วลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตรและกล่าว “น้องชายของข้ามีนิสัยชอบกร่างไปทั่ว อย่าไปสนใจเขาเลย”

“เหอะ ปากดีขนาดนั้นแต่ที่จริงกลับเป็นเพียงพวกขี้แพ้?” รุ่นเยาว์อีกคนเดินออกมา มือของเขาไม่ใช่มือของมนุษย์แต่เป็นอุ้งมือของเสือดาว ร่างของเขาสูงกว่าคนทั่วๆ

“มาสิ ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าพี่ลี่ที่ว่าจะทำให้พวกเราลงไปนอนอยู่ใต้เท้าได้อย่างไร?” รุ่นเยาว์คนที่สามเดินออกมา ผิวของเขาซีดขาวกว่าคนปกติเล็กน้อยและมีดวงตาสีมรกตราวกับอสรพิษ

โก้วลี่สะบัดมือไปมาพร้อมกับหัวเราะ “น้องชายข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้น!”

“พี่ลี่ ท่านก็เป็นบุรุษเหมือนกัน จะไปยอมคนเหล่านั้นได้อย่างไร?” หลิงฮันเติมลงกองไฟ “เชื่อหรือไม่แค่ลิ่วล้ออย่างพวกเจ้าสามคน พี่ลี่ของข้าสามารถจัดการได้ด้วยมือข้างเดียว!”

“โห่?” ทั้งสามคนแสยะยิ้ม พวกเขาไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าพวกเขาย่อมรู้ว่าหลิงฮันจงใจพูดยั่วยุพวกเขา แต่เมื่อมีคนปรากฏตัวใหม่พวกเขาก็ต้องอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งเพียงใด

“เข้ามา!” ชายหนุ่มดวงตาอสรพิษเป็นคนลงมือคนแรก แขนทั้งสองข้างของเขากวัดแกว่งพริ้วไหวราวกับไม่มีกระดูก หมัดได้เปลี่ยนทิศทางไปมาอย่างต่อเนื่องทำให้ไม่สามารถหลบหลีกได้

โก้วลี่ขมวดคิ้วพร้อมกับตอบโต้ ในเมื่ออีกฝ่ายจู่โจมแล้วมีเขาจะอยู่เฉยยอมถูกทุบตี?

หลิงฮันกระโดดหลบไปด้านข้าง แผนการยั่วยุของเขาสำเร็จแล้วตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือดูการแสดงสนุกๆ

แต่ทันใดนั้นเองๆจู่ๆชายหนุ่มอุ้งมือเสือดาวก็ชี้นิ้วมาที่เขา “เจ้าหนู เข้ามา!”

“ข้าไม่บังอาจขนาดนั้น” หลิงฮันกล่าวอย่างถ่อมตัว

“ผู้อ่อนแอไม่มีคุณสมบัติยืนอยู่ในลานแห่งนี้!” ชายหนุ่มอุ้งมือเสือดาวลงมือโจมตี

หลิงฮันถอนหายใจ เขายกมือขวาขึ้นและตอบโต้อีกฝ่าย

เขาปลดปล่อยทักษะดาบฟ้าคำรามออกไป แต่ทักษะดาบฟ้าคำรามนั้นมีรากฐานมาจากทักษะบัญญัติดาบไวมาผสานรวมเข้ากับอำนาจของสายฟ้าสวรรค์ซึ่งเป็นอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์

เพราะงั้นพลังทำลายของมันจึงถูกลดลงมาเป็นอย่างมาก

แต่หลิงฮันก็ไม่ใส่ใจ คู่ต่อสู้เป็นเพียงจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลาง หากได้แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับอีกฝ่ายจะช่วยให้ความเข้าใจในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของดินแดนใต้พิภพของเขาเพิ่มขึ้น

เก้าสุดยอดราชานั่งชำเลืองมองจากที่นั่งอยู่ชั่วครู่ก่อนจะละสายตากลับไป การต่อสู้ระดับนี้ไม่อยู่ในสายตาของพวกเขา แต่เพราะยังไม่ถึงเวลาเริ่มงานแลกเปลี่ยนสมบัติเขาจึงไม่คิดจะห้ามปราบใดๆ

โก้วลี่นั้นแข็งแกร่งอย่างแท้จริง เขากำราบชายหนุ่มดวงตาอสรพิษได้ด้วยหนึ่งร้อยกระบวนท่า แต่การปะกันระหว่างหลิงฮันกับชายหนุ่มอุ้งมือเสือดาวนั้นยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้

“เจ้าเห็นเหมือนข้าไหมว่าพลังของเจ้าหนูนั่นดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าตอนแรกที่เริ่มสู้”

“อืม พอเจ้าพูดแบบนั้นก็เหมือนจะใช่จริงๆ!”

ทุกคนหันมองหน้ากันและเผยสีหน้าตกตะลึงอย่างปิดไม่มิด

น่าประหลาดมาก ถึงแม้สัหรับราชาส่วนใหญ่การต่อสู้จะช่วยให้พวกเขาพัฒนาตนเองได้รวดเร็วขึ้นแต่ก็ไม่ได้รวดเร็วพรวดพราดเช่นหลิงฮัน

…เมื่อต่อสู้จบ พวกเขาต้องเก็บตัวเป็นเดือนหรือเป็นปีเพื่อซึมซับประสบการณ์และยกระดับพลังต่อสู้ของตนเอง

แต่ในกรณีของหลิงฮันล่ะ?

ต้องเป็นสัตว์ประหลาดแบบใดกันถึงจะสามารถพัฒนาพลังต่อสู้ในขณะที่สู้อยู่ได้?

พรสวรรค์เช่นนี้เรียกได้ว่าท้าทายสวรรค์อย่างสิ้นเชิง!

อันที่จริงพวกเขาคิดมากเกินไป ระดับพลังของหลิงฮันคือระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางก็จริง แต่ความเข้าใจในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของเขายังไม่ถึงระดับเดียวกับกับระดับพลังบ่มเพาะ ดังนั้นเมื่อความเข้าใจในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของดินแดนใต้พิภพของเขาเพิ่มขึ้น พลังต่อสู้จึงค่อยๆเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

แต่คนอื่นไม่รู้เรื่องนี้ เมื่อเวลาผ่านไปครึ่งวัน จากตอนแรกที่หลิงฮันต้องป้องกันทุกๆสิบกระบวนท่าก็ลดมาลงเหลือเก้าและค่อยๆลดลงมาเรื่อยๆจนเหลือหนึ่ง

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เหล่าสุดยอดราชาที่นั่งอยู่มองหน้ากัน หากเจ้าหนูนี่ยังคงสู้ต่อไป เป็นไปได้รึไม่ว่าพลังของเขาจะตอบโต้ได้แม้กระทั่งจ้าวอสูร?

หนึ่งวันต่อมา หลิงฮันสามารถตอบโต้คู่ต่อสู้ได้โดยไม่เสียเปรียบอีกต่อไป

ชายหนุ่มอุ้งมือเสือดาวชะงักหยุดมือ เขากลัวว่าหากยังสู้ต่อพลังของหลิงฮันอาจจะก้าวข้ามเขาก็เป็นได้

หลิงฮันแสดงสีหน้าไม่พอใจ “ทำไมไม่สู้ต่อ?”

ชายหนุ่มอุ้งมือเสือดาวไม่กล่าวตอบและถอยกลับไปหลบกลางฝูงชน

โก้วลี่เดินกลับมาและมองไปยังหลิงฮัน “เจ้าเป็นคนที่แปลกจริงๆด้วย”

“เจ้าเองก็ไม่ธรรมดา ข้ายังมองไม่ออกเลยว่าความแข็งแกร่งของเจ้าอยู่ในระดับไหนกันแน่” หลิงฮันกล่าวออกไปตรงๆ

“อะแฮ่ม ใกล้จะถึงเวลาแล้ว มาเริ่มการแลกเปลี่ยนสมบัติกันดีกว่า” สุดยอดราชาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หินคนหนึ่งกล่าว เขาเป็นบุรุษที่มีรูปลักษณ์อยู่ช่วงอายุสามสิบปี หากมองจากภายนอกเขาคือคนที่แก่ที่สุดในลานแห่งนี้ เพราะเหตุนั้นเขาจึงเป็นที่เคารพและถูกเลือกให้เป็นผู้ดำเนินงานแลกเปลี่ยนสมบัติในครั้งนี้

“ทุกคนนำสมบัติออกมา ใครที่สามารถก็ให้แย่งชิงเสนอสมบัติของตนเองเป็นการแลกเปลี่ยน เจ้าของสมบัติจะเป็นคนตัดสินว่าจะยอมแลกเปลี่ยนกับผู้ใด” สุดยอดราชาผู้นี้มีชื่อว่าก่วงเฟยเฉิน เขามีพลังบ่มเพาะอยู่ที่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุดชั้นสูงสุดโดยที่เขาบรรลุขั้นสูงสุดเมื่อหนึ่งร้อยล้านปีก่อน แม้รูปลักษณ์จะดูเหมือนชายวัยกลางคนอายุสามสิบปีแต่แท้จริงแล้วโลหิตในร่างของเขายังคงเดือดพล่าน

“ข้าได้รับการแต่งตั้งจากถูกคนให้เป็นผู้ดำเนินงาน เพราะงั้นแล้วข้าขอเป็นคนแรก” เขายิ้มและสะบัดมือ ทันใดนั้นเหนือฝ่ามือของเขาก็มีผลสีแดงปรากฏออกมา “นี่คือผลมัจฉาสีชาด มันสามารถช่วยให้พลังบ่มเพาะของจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วราวกับก้าวกระโดด แต่ด้วยประสิทธิภาพอันรุนแรงของมัน ข้าคิดว่าหากไม่มีจ้าวอสูรคอยช่วยกำราบอำนาจของมันเอาไว้คงมีเพียงจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุดเท่านั้นที่สามารถดูดซับพลังของมันได้โดยตรง”

ทุกคนส่ายหัวเมื่อได้ยิน เงื่อนไขเช่นนั้นมันสูงเกินไป จะให้ไปขอให้จ้าวอสูรยื่นมือช่วยเหลืองงั้นรึ? เกรงว่าคงมีเพียงไม่กี่คนที่ทำได้!