เมืองมหาดาราเป็นเมืองที่โด่งดังมากในโลกเบื้องบน เพราะมันคือเมืองที่เป็นจุดแวะพักที่ใกล้ที่สุดก่อนที่จะเข้าไปในแม่น้ำมหาดาราที่มีอันตรายอยู่รอบด้าน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าด้านในแม่น้ำมหาดาราจะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อันตรายที่สุดในโลกเบื้องบน ผู้คนทั้งหลายก็ยังยอมที่จะเสี่ยงชีวิตเข้าไปหาสมบัติที่อยู่ด้านใน เนื่องจากสมบัติที่อยู่ด้านในนั้นบางชิ้นมันล้ำค่าซะจนแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเทพยังต้องตาลุกวาว
ด้วยการที่มันเป็นเมืองที่สำคัญเช่นนี้ เกือบทุกกองกำลังที่อยู่ในโลกเบื้องบนจึงพากันมาจับจองซื้อที่ดินภายในเมืองเพื่อตั้งสถานที่พักส่วนตัวของตนเองเอาไว้ ให้คนของพวกเขาใช้เป็นด่านหน้าในการส่งคนเข้าไปสำรวจด้านในแม่น้ำมหาดารา
ในวันนี้ชายผู้หนึ่งพร้อมกับหญิงสาวหน้าตางดงามหลายคนก็ได้เดินเข้ามาในเมืองมหาดาราเช่นกัน
คนกลุ่มนี้ไม่ใช่ใครอื่น พวกเขาคือหลิงตู้ฉิงและบรรดาภรรยา
หลังจากที่ขึ้นมาบนโลกเบื้องบน หลิงตู้ฉิงพาภรรยาของเขาทั้งหมดเดินทางมาที่เมืองมหาดาราทันที
“สามี ข้าไม่นึกเลยว่าที่โลกเบื้องบนจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับต่ำกว่าพวกเราอาศัยอยู่ด้วยเต็มไปหมดแบบนี้!” จ้าวเหมิงลู่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“เหมิงลู่ ผู้คนบนนี้บางคนก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกับคนในโลกเบื้องล่าง” หลิงตู้ฉิงอธิบาย “เมื่อครั้งบรรพกาล โลกเบื้องบนนี้คือดินแดนที่มีแต่เหล่าเทพอาศัยอยู่แต่เมื่อ 1 ล้านปีที่ผ่านมา มีเทพบรรพกาลผู้หนึ่งพยายามสร้างโลกของตัวเอง แต่เนื่องจากมีบางอย่างผิดพลาดมันจึงทำให้เส้นแบ่งระหว่างโลกมนุษย์และดินแดนเทพถูกทำลายลงช่วงเวลาหนึ่ง และในช่วงเวลานั้นที่ไม่มีเส้นแบ่งกั้นบรรดาสรรพชีวิตจากโลกมนุษย์ส่วนหนึ่งก็ได้หลุดเข้ามาอยู่ในดินแดนเทพจนทำให้ดินแดนเทพหรือโลกเบื้องบนในปัจจุบันมีทั้งพวกเทพและสรรพชีวิตของโลกมนุษย์อาศัยอยู่”
“ถึงแม้ช่วงเวลาที่เส้นแบ่งนั้นหายไปมันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น แต่เมื่อวัฏจักรทุกอย่างกลับเป็นปกติเหมือนเดิม ดินแดนเทพกลับมีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ดินแดนเทพที่มีสิ่งมีชีวิตสามัญอาศัยอยู่ด้วยมันย่อมไม่อาจถูกเรียกว่าดินแดนเทพได้อีกต่อไปและกฎต่าง ๆ ที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมก็ไม่สามารถใช้ได้เช่นกัน ดังนั้นสวรรค์จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนกฎต่าง ๆ ของดินแดนเทพใหม่หลาย อย่างรวมไปถึงชื่อที่เคยถูกเรียกว่าดินแดนเทพก็ไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป”
“อันที่จริงโลกที่มีอยู่นั้นไม่ได้มีเพียงแค่โลกเบื้องบนและโลกเบื้องล่าง จริง ๆ แล้วมันยังมีอีกสองโลกที่ข้ายังไม่เคยเอ่ยถึงให้กับเจ้าฟัง หนึ่งในทั้งสองโลกนั้นคือยมโลก ยมโลกคือสถานที่ที่เจ้าน่าจะเดาออกว่าเป็นสถานที่สำหรับคนตายเท่านั้นที่อาศัยอยู่ ยมโลกนั้นถูกเชื่อมต่อกับทั้งโลกเบื้องบนและโลกเบื้องล่างเพื่อคอยรับดวงวิญญาณที่ไม่ว่าจะเป็นทั้งของพวกเทพหรือสิ่งมีชีวิตสามัญเข้ากระบวนการไปเกิดใหม่ ส่วนอีกโลกหนึ่งก็คือดินแดนแห่งบาป”
“ดินแดนแห่งบาปนั้นคือสถานที่ที่ถูกปิดตายจากทุกโลก มันคือสถานที่ที่เป็นแหล่งรวมสิ่งชั่วร้ายทุกแบบอยู่ข้างใน และบางตัวตนก็ถูกจับไปขังอยู่ในดินแดนแห่งนี้ การที่จะเข้าไปด้านในดินแดนแห่งบาปนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ แต่สิ่งที่ยากกว่าคือการออกมา ผู้ที่จะเข้าไปได้นั้นจะต้องมีคุณสมบัติบางอย่างถึงจะสามารถเข้าไปได้ ส่วนคนที่จะออกมาได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่ไม่มีบาปหลงเหลืออยู่ในตัวแม้แต่น้อยถึงจะสามารถออกมาได้”
“มันมีสถานที่แปลกประหลาดแบบนั้นดำรงอยู่ด้วยงั้นเหรอ?” โจวจื่อซินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าสนใจ
แน่นอนว่านางต้องสนใจเพราะในเวลานี้ดอกบัวเพลิงพิพากษาของนางยังไม่พัฒนาไปถึงระดับสูงสุดของมันเลย สิ่งที่ขาดอยู่ในตอนนี้ก็คือบาปจำนวนมากและถึงแม้ว่านางจะสามารถสร้างบาปได้อย่างง่ายดายด้วยการฆ่าผู้คน แต่ด้วยอำนาจของดอกบัวเพลิงพิพากษาที่คอยลบบาปให้กับนางเรื่อย ๆ มันจึงทำให้เรื่องการสะสมบาปในตัวนางกลายเป็นเป็นเรื่องยากทันที ดังนั้นถ้าหากในดินแดนแห่งบาปมีบาปอยู่เยอะ มันก็เป็นสถานที่ที่นางอยากจะเข้าไปด้านในเพื่อบ่มเพาะดอกบัวเพลิงพิพากษาของนาง
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “จริง ๆ แล้วมันมีสถานที่ที่แปลกประหลาดอีกเยอะที่พวกเจ้ายังไม่รู้ยกตัวอย่างเช่นแม่น้ำมหาดารา”
“แล้วแม่น้ำมหาดารานี้มันมีความเป็นมายังไง?” เย่ชิงเฉิงเอ่ยถามขึ้น
มี่ไลส่ายหัวและตอบแทน “ที่มาของแม่น้ำมหาดารานั้นไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงหรืออะไรทำให้มันกำเนิดขึ้น บางคำเล่าลือก็บอกว่ามันคือสถานที่ที่ทำให้โลกและสวรรค์กำเนิดขึ้น บางคำเล่าลือก็บอกว่าเทพผู้สร้างโลกตายลงที่นี่และกลายเป็นมัน แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทุกคนรู้แน่นอนก็คือที่ด้านในแม่น้ำมหาดารานั้นมีสมบัติมากมายแต่อันตรายก็มีอยู่อย่างมหาศาล แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเทพหากไม่ระวังก็อาจจะตายในนั้นได้ และในอดีตก็มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเทพตายในนั้นมาแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเจ้าอาจจะยังไม่เข้าใจว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเทพแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ในอนาคตพวกเจ้าจะได้รู้แน่นอน”
“ถ้ามันอันตรายขนาดนั้นพวกเรายังจะเข้าไปอีกเหรอ?” จ้าวเหมิงลู่เอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้ากังวล
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “แน่นอนว่าข้าต้องเข้าไป ส่วนพวกเจ้าข้าจะให้พวกเจ้าไปแอบในโลกจำลองของข้าป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายอะไรกับพวกเจ้า และเมื่อข้ามั่นใจเมื่อไหร่ว่าด้านในปลอดภัยข้าจะปล่อยพวกเจ้าออกไปหาสมบัติ”
มี่ไลพยักหน้า “มันจะปลอดภัยที่สุดเมื่อทุกคนอยู่ในโลกจำลองของท่าน ส่วนตัวข้านั้นท่านคงรู้ดีว่ามันไม่จำเป็น จริงไหม?”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ข้ารู้!”
ถึงแม้ระดับการบ่มเพาะของนางจะเท่ากันกับจ้าวเหมิงลู่และคนอื่น ๆ แต่อำนาจที่นางสามารถสำแดงออกมาได้มันเหนือกว่าพวกจ้าวเหมิงลู่เป็นอย่างมาก ต้องรู้เอาไว้ว่าในอดีต มี่ไลเคยบรรลุไปถึงขอบเขตจักรพรรดิเทพ ดังนั้นความรู้และความเข้าใจต่าง ๆ ในพลังแห่งกฎของนางมันจึงเหนือกว่าคนทั่วไปอย่างเทียบไม่ติด
การมีนางคอยช่วยเหลืออีกแรงจึงนับได้ว่าเป็นเรื่องที่หลิงตู้ฉิงคิดว่าไม่เลว
หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงพาบรรดาภรรยาของเขามุ่งหน้าไปที่ตึกสูง ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองมหาดารา และเมื่อเขาเข้าไปด้านใน เขาเข้าไปพบกับคนที่ดูแลสถานที่แห่งนี้ทันทีพร้อมกับโยนแหวนที่เต็มไปด้วยเหรียญผลึกจักรพรรดิไปให้และถามว่า “เมื่อไหร่แม่น้ำมหาดาราจะสงบพอที่จะเดินทางเข้าไปด้านในได้?”
ผู้ดูแลตึกมองไปที่หลิงตู้ฉิง จากนั้นเขามองไล่สำรวจผู้หญิงของหลิงตู้ฉิงทีละคนก่อนจะตอบว่า “อีก 2,000 ปีแม่น้ำมหาดาราถึงจะสงบ!”
“อืม!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า จากนั้นเขาพาภรรยาของเขาเดินออกจากตึกทันที
ในทันทีที่หลิงตู้ฉิงจากไป ผู้ดูแลรีบเดินขึ้นไปหาชายผู้หนึ่งซึ่งกำลังนั่งบ่มเพาะอยู่บนชั้นบนสุดของตึก
ชายที่กำลังนั่งบ่มเพาะอยู่นั้นมีรัศมีแสงเปล่งประกายออกจากร่างไม่หยุดหย่อนราวกับว่าตัวเขาเป็นดวงอาทิตย์ขนาดย่อม
เมื่อสัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามา ชายหนุ่มลืมตาขึ้นทันทีและถามขึ้น “อู๋เมิ่ง เจ้ามีอะไร?”
“องค์ชายตี๋ฮ่าว เมื่อครู่ข้าได้พบกับหญิงสาวนางหนึ่งที่มีร่างกายจันทราศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเหมาะกับร่างกายสุริยะสวรรค์ของท่านพอดี ท่านสนใจอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมรึเปล่า?” อู๋เมิ่งเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
เมื่อได้ยินเช่นนี้ดวงตาของตี๋ฮ่าวเปล่งประกายทันที “ร่างจันทราศักดิ์สิทธิ์? นางอยู่ที่ไหนตอนนี้และนางเป็นคนของฝ่ายไหนกัน?”
อู๋เมิ่งส่ายหัว “ข้าไม่แน่ใจเหมือนกันฝ่าบาทว่านางเป็นคนของใคร แต่ว่ากลุ่มคนที่มากับนางทั้งหมดล้วนเป็นผู้สำเร็จเต๋า ถ้าให้ข้าเดาคนกลุ่มนี้น่าจะเพิ่งขึ้นมาจากโลกเบื้องล่าง”
ตี๋ฮ่าวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาเอ่ยถามขึ้น “เจ้าต้องอะไรสำหรับข้อมูลนี้?”
อู๋เมิ่งจ้องไปที่ตี๋ฮ่าวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ จากนั้นเขาพูดว่า “ฝ่าบาทในฐานะที่ท่านคือองค์ชายของเผ่าอีกาทองคำ คำขอของข้าก็คือข้าต้องการขนจากร่างอีกาทองคำของฝ่าบาท หากท่านตกลงข้าจะให้ข้อมูลของหญิงสาวคนนั้นแก่ท่านทันที!”
เมื่อได้ยินเงื่อนไขนี้ ตี๋ฮ่าวจ้องเขม็งไปที่อู๋เมิ่งทันทีพร้อมกับแสงที่ส่องประกายออกจากร่างของเขาก็สว่างขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
แต่แล้วหลังจากนั้นครู่หนึ่ง ตี๋ฮ่าวก็ถอนหายใจและพูดว่า “ข้าได้ยินว่าเจ้ากำลังสะสมขนนกของตัวตนที่มีสายเลือดระดับสูงทั้งหลายเพื่อเอาไปสร้างพัดของเจ้าใช่ไหม?”
“ฝ่าบาทนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของข้า มันจะดีที่สุดหากฝ่าบาทจะไม่ก้าวก่าย” อู๋เมิ่งเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีที่ไม่สุภาพอีกต่อไป “เอาล่ะฝ่าบาทตอนนี้ท่านจะว่ายังไง ท่านจะตกลงรับข้อเสนอของข้าไหม?”
ตี๋ฮ่าวหัวเราะ “แค่ข้อมูลอย่างเดียวมันไม่พอที่ข้าจะสละขนของข้าให้กับเจ้าหรอก ถ้าเจ้าอยากได้ขนของข้า เจ้าจะต้องจับตัวผู้หญิงคนนั้นมาส่งให้กับข้าถึงมือข้าถึงจะยอมตกลงด้วย”
“ข้าอภัยด้วยจริง ๆ ฝ่าบาทข้าคงลงมือให้ท่านไม่ได้ มันเป็นกฎเหล็กของตัวข้า” อู๋เมิงส่ายหัว “ในเมื่อฝ่าบาทไม่ยินดีจะสละขนของท่านให้กับข้า งั้นเอาเป็นว่าเปลี่ยนเป็นขนของอีกาทองคำระดับสูงก็ได้ แบบนี้ฝ่าบาทพอจะรับได้รึเปล่า?”
ตี๋ฮ่าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาพนักหน้า “ข้าตกลง!”
หลังจากนั้นตี๋ฮ่าวหยิบขกนกอีกาทองคำขึ้นมาอันหนึ่งและมอบมันให้กับอู๋เมิง
ทางด้านของอู๋เมิ่ง เมื่อได้รับของที่ตนเองต้องการมาแล้วเขาจึงฉายภาพกลุ่มของหลิงตู้ฉิงให้ตี๋ฮ่าวได้เห็นทันที