ตอนที่ 1206 พบกับเจ้าตัวเล็ก

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

มู่เฉียนซีเองก็ยังรู้สึกสับสนเล็กน้อยในเวลานี้ หรือว่าจะมีคนจงใจปล่อยสิ่งเหล่านี้ออกมาให้พวกเขาต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ที่นี่ แล้วจากนั้นผู้ที่ได้อันดับหนึ่งก็จะได้เข้าไปชิงกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์

จริง ๆ แล้วมันก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ใครจะมีความสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดนี้ได้?

แม้แต่กองกำลังสำนักนิกายระดับสาม หากไม่ได้เตรียมการมาดีพอก็คงไม่สามารถทำได้กระมัง!

ตอนนี้หลิงได้มาเผชิญหน้ากับคนของตำหนักเป่ยหานแล้ว ผู้อาวุโสสูงสุดรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นมู่เฉียนซีกลับมาพร้อมกันกับหลิง

เมื่อเข้าสู่ภาพลวงตานั้น ตำหนักเป่ยหานของพวกเขาก็ต้องสูญเสียกำลังคนไปไม่น้อย แต่สาวน้อยนี้กลับยังมีชีวิตอยู่

ทันทีที่เห็นผู้อาวุโสสูงสุด มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ผู้อาวุโสสูงสุด หลิงได้รับบาดเจ็บและข้าต้องรักษาเขา ไม่กี่วันนี้ขอไม่ปฎิบัติการก่อนได้หรือไม่?”

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวว่า “ข้าเองก็รู้สึกว่าป่าแห่งนี้ค่อนข้างแปลก ในระหว่างที่ยังไม่ทราบข่าวคราว ก็คงไม่ง่ายที่จะกระทำการใด พวกเราพักที่นี่กันก่อนแล้วกัน”

ผู้อาวุโสสูงสุดเหลือบมองไปที่หลิง และแม้ว่าสีหน้าเขาจะดูปกติดี แต่กลับพบว่าร่างกายของเขานั้นค่อนข้างแย่

หลิงยังมีประโยชน์ในการใช้งานอยู่มาก และตอนนี้เขาก็ยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้เขาตาย

“ตกลง เช่นนั้นข้าจะพาหลิงไปรักษาตัว”

สมกับที่ผู้อาวุโสสูงสุดเป็นเฒ่าเจ้าเล่ห์ เมื่อเขารู้ว่าสถานการณ์ที่นี่ดูไม่ปกติ ก็ได้ส่งคนไปสืบข่าวทันที

เขากล่าวว่า “นี่ต้องเป็นกับดักที่ใครบางคนตั้งไว้อย่างแน่นอน สิ่งอื่นไม่ต้องสนใจ คิดหาทางตรงไปที่ทางเข้าเดี๋ยวนี้”

“ผู้อาวุโสสูงสุด ใครเป็นคนทำเรื่องนี้กันแน่ ตำหนักตงจี๋หรือแคว้นเทพฟ้านอิน?” นอกจากกองกำลังสำนักนิกายระดับสามแล้ว คาดว่าคงไม่มีใครในดินแดนโลกสี่ทิศที่มีความสามารถนี้ ผู้อาวุโสสูงสุดส่ายหัวและกล่าวว่า “ตำหนักตงจี๋ในตอนนี้ก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่วุ่นวายนี้เช่นกัน และรูปแบบสถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่คิดว่าแคว้นเทพฟ้านอินจะเป็นคนทำ ข้าสงสัยว่าจะมีกองกำลังสำนักนิกายใหญ่อีกสำนักหนึ่งที่เกี่ยวข้อง พวกเราจะต้องระมัดระวัง และจะต้องทำภารกิจที่เจ้าตำหนักมอบหมายให้สำเร็จ อย่าทำให้เขาต้องผิดหวังเอาได้!”

“ใช่!”

บทสนทนาของพวกเขา มู่เฉียนซีและหลิงก็ได้ยินเช่นกัน

แสงมืดกระพริบผ่านในดวงตาของพวกเขา ที่แท้ก็เช่นนี้เอง

หลิงยิ่งอยากให้มู่เฉียนซีออกไปจากสถานที่อันตรายนี้มากยิ่งขึ้น พวกเขาไม่แน่ใจว่ากองกำลังสำนักนิกายใหญ่อันดับสี่นั้น เป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายใด

มู่เฉียนซีย่อมเข้าใจความคิดของเขาและตอบกลับเขาด้วยสายตา ไม่มีทาง!

พวกเขาสองอาหลานเริ่มเข้าใจกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถพูดคุยกันอย่างเป็นทางการได้ แต่ด้วยสายตาก็สามารถเข้าใจความคิดของกันและกันได้

หลิงเป็นกังวลมาก

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวว่า “อีกฝ่ายหนึ่งคิดอยากจะรั้งพวกเราทั้งหมดไว้ จากนั้นก็จะได้นำหน้าพวกเราไปหนึ่งก้าวเพื่อแย่งชิงกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ พวกเราต้องรีบลงมือแล้ว! ไป…”

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ผู้อาวุโสสูงสุด อาการบาดเจ็บของหลิง!”

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวว่า “ทักษะทางการแพทย์ของแม่นางมู่นั้นสูงมาก และหลิงก็ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ข้าไม่สามารถปล่อยให้คนเพียงคนเดียวมากระทบต่อภารกิจของเราและทำให้เจ้าตำหนักต้องผิดหวังได้!”

หลิงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้ข้าไม่เป็นไรแล้ว เริ่มภารกิจได้ทันที!”

การเข้าร่วมกลุ่มของตำหนักเป่ยหาน ย่อมไม่มีผู้ใดมาสร้างปัญหาได้ แต่เมื่อพวกเขามาถึงขอบเขตของป่าแห่งนี้

ในอีกด้านหนึ่ง นกอัคคีนับไม่ถ้วนได้บินผ่านและเริ่มล้อมพวกเขาไว้

ปัง ปัง ปัง! นกอัคคีเหล่านี้มีพลังการต่อสู้ที่ไม่แข็งแกร่งนัก แต่พวกมันกลับสามารถขวางไม่ให้พวกเขาเคลื่อนที่ต่อไปได้

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวว่า “ฆ่าพวกมันซะ! สัตว์เหล่านี้อาจถูกคนพวกนั้นส่งมาเพื่อถ่วงเวลา! ตราบใดที่พวกเขายังคงถ่วงเวลาอยู่นั่นก็หมายความว่าพวกเขายังทำไม่สำเร็จ”

“ฆ่า…”

นกอัคคีเหล่านี้เป็นสัตว์ธาตุไฟและดูราวกับว่าเป็นอมตะ

แม้ว่าจะมียอดฝีมือของตำหนักเป่ยหานที่เป็นผู้นำในการหยุดนกอัคคีส่วนใหญ่นั้น แต่ก็ยังมีบางตัวที่กระโจนเข้าใส่มู่เฉียนซี

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “มังกรวารีพิฆาต!”

มังกรวารีสีฟ้าอันเย็นยะเยือกห้อมล้อมรอบนกอัคคีเหล่านี้ไว้ พลันนั้นพวกมันก็กรีดร้องออกมาด้วยความสยดสยอง และก็ถูกมังกรวารีกำจัดทิ้งไปในที่สุด

“ผนึกมังกรวารี!”

“วารีสะท้านสวรรค์”

“บุปผาหลั่งสายฝน!”

บูม! เนื่องจากธาตุน้ำนั้นใช้การได้ดีเป็นพิเศษ มู่เฉียนซีจึงไม่ลังเลที่จะเริ่มการโจมตีด้วยทักษะวิญญาณธาตุน้ำที่บ้าคลั่ง คนเหล่านั้นของตำหนักเป่ยหานเองก็สังเกตเห็นถึงความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณธาตุน้ำของมู่เฉียนซีแล้ว

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวว่า “สมกับที่แม่นางผู้นี้เป็นอัจฉริยะจริง ๆ ธาตุน้ำแข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้ หากความแข็งแกร่งของนางสูงขึ้นอีกหนึ่งระดับ นกอัคคีเหล่านี้คงขวางพวกเราไว้ไม่ได้”

มู่เฉียนซีกินยาไปก็แสดงทักษะวิญญาณไป พลังวิญญาณดูเหมือนจะไม่ได้สิ้นเปลืองไปเท่าไหร่นัก

นกอัคคีออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ และแม้ว่าจะต้องสูญสิ้น พวกมันก็จะขวางคนเหล่านี้ไว้ให้ได้

“ผู้อาวุโสสูงสุด ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเราจะไม่สามารถผ่านไปได้เลย!”

“ผู้อาวุโสสูงสุด พวกเราจะถอยหรือคิดหาทางฆ่าพวกมันเพื่อออกไปดี”

“..…”

มู่เฉียนซีรู้ดีว่าถ้ายังคงสู้ต่อไปเช่นนี้ คาดว่าทุกคนคงจะอ่อนเพลียจนไม่สามารถออกไปได้

จะจัดการอย่างไรกันแน่!

พลังวิญญาณของมู่เฉียนซีแผ่ออกไป และพบว่าปลายขอบเขตของป่าแห่งนี้ถูกปิดกั้นโดยกำแพงที่มองไม่เห็น

นกอัคคีเหล่านี้วิ่งออกมาจากอีกด้านหนึ่งของกำแพงนี้ และที่ออกมาเล็กที่สุดคือใน …

ลองดูก็จะรู้!

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “มังกรวารีพิฆาต!”

มังกรวารีสีฟ้าน้ำแข็ง พุ่งไปที่มุมนั้น

อย่างไรนางก็มีความแข็งแรงไม่เพียงพอ ทำได้เพียงแค่ใช้ธาตุน้ำปิดกั้นตรงนั้น ไม่ให้นกอัคคีโผล่ออกมา แต่นางกลับไม่สามารถระเบิดผนังนี้ออกได้

มู่เฉียนซีตะโกนว่า “หลิง!”

ไม่จำเป็นต้องให้มู่เฉียนซีพูดอะไรมากกว่านี้ หลิงก็ตอบโต้อย่างรวดเร็ว กระบี่เฉือนไปยังสถานที่ที่ถูกมังกรวารีปิดกั้น

ปัง! เสียงดังสนั่นหวั่นไหว กระบี่เล่มนี้ของหลิงได้ระเบิดช่องทางหนึ่งออกมาตรงหน้า

ด้านนี้เป็นป่าสีเขียวแต่อีกด้านหนึ่งนั้นกลับเป็นเพลิงสีแดงที่ไม่มีที่สิ้นสุด

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตรงนี้ สามารถออกไปข้างนอกได้ ไป…”

ในขณะที่พวกเขากำลังลังเลอยู่ มู่เฉียนซีก็เป็นคนแรกที่รีบวิ่งไปและหลิงก็รีบไล่ไปทันที

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวว่า “เร็ว! รีบไปเร็วเข้า!”

เมื่อเห็นว่านกอัคคีตัวอื่น ๆ กำลังจะเข้ามาล้อมพวกเขาไว้ หากพวกเขาคิดอยากเข้าใกล้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์โดยเร็ว ก็มีเพียงวิธีเดียวที่จะไปได้

หลังจากเข้าไปในนั้นมู่เฉียนซีก็หมดสติ

เมื่อได้สติอีกครั้ง สิ่งแรกที่รู้สึกคือความร้อนราวกับว่าถูกทอดอยู่ในกระทะก็มิปาน

ทันใดนั้น ความรู้สึกเย็นวาบที่นิ้วมือก็ทำให้มู่เฉียนซีลืมตาขึ้นทันที

ความรู้สึกเย็นวาบนั่นก็เพราะ…

มู่เฉียนซีมองลงไปที่เจ้าตัวเล็กบนนิ้วมือของนาง มันเป็นงูอัคคีตัวน้อยที่มีร่างกายใหญ่ได้ไม่เท่านิ้วหัวแม่มือเล็ก ๆ ของนางเลย

ในขณะนี้งูอัคคีตัวน้อยเลียนิ้วมือและแหวนมังกรเทพวารีบนนิ้วมือของนาง

เจ้าตัวเล็กก็เหมือนจะรู้สึกได้ว่ามู่เฉียนซีได้ตื่นขึ้นมาแล้ว มันเหมือนกระต่ายตัวน้อยที่หวาดกลัว ฟิ้ว! ทันใดนั้นมันก็ได้หายตัวไปต่อหน้ามู่เฉียนซี

มู่เฉียนซียืนขึ้นอย่างช้า ๆ ความเย็นวาบบนนิ้วมือของนางยังคงไม่หายไป

งูอัคคีตัวน้อยนั่นไม่ได้ถือโอกาสทำร้ายนาง แต่กลับกำลังเลียแหวนของนาง หรือว่าเจ้าตัวเล็กอาจจะรู้จักแหวนมังกรเทพวารี?

ไม่มีใครไขข้อสงสัยแก่นางได้ เจ้าตัวเล็กนั่นดูเหมือนไม่ได้แข็งแรงนัก แต่ทักษะของการหลบหนีนั้นเก่งกาจมาก แม้ว่านางจะแผ่พลังจิตวิญญาณออกไป แต่ก็ไม่สามารถหาเจ้าตัวเล็กนี้ได้

มู่เฉียนซีไม่ได้ใส่ใจกับเจ้าตัวเล็กนั่นอีกต่อไป แต่เมื่อมองไปยังรอบ ๆ !

ที่นี่มันที่ไหนกัน? ท่านอาเข้ามากับนาง แต่ตอนนี้เขากลับไม่ได้อยู่กับนาง