บทที่ 670
เย่เฉินทำเป็นไม่เห็นสายตาของเธอ เบือนหน้าไปอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว พูดกับเซียวฉางควนว่า : “พ่อ ใช้เงินก้อนนี้เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ในบ้านแล้วกัน ถือโอกาสซื้อได้ไว ซื้อเสร็จพวกเราจะได้รีบย้ายเข้าไปเร็วหน่อย”
“โอเคๆ!” เซียวฉางควนพยักหน้า เก็บบัตรเข้ามาไว้ในกระเป๋าเสื้อ พูดถามเย่เฉินว่า : “ลูกเขยคนดี รหัสบัตรเอทีเอ็มใบนี้คืออะไร?”
เย่เฉินพูดว่า : “เดี๋ยวผมจะส่งไปในวีแชทของคุณ”
“โอเค!” เซียวฉางควนรีบเอ่ยพูดว่า : “อย่างนี้แล้วกัน ฉันไปธนาคารก่อน คุณส่งรหัสมาให้ฉัน ฉันจะไปโอนเงินเข้าบัญชีของฉัน เงินก้อนนี้จะต้องเก็บไว้ใช้เป็นการเฉพาะ ”
เย่เฉินพยักหน้า พร้อมพูดว่า : “งั้นคุณไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมส่งให้คุณ”
หม่าหลันโมโหมาก
เย่เฉินหมายความว่ายังไง?ต่อหน้าของตัวเอง แม้แต่รหัสก็ไม่ยอมที่จะบอก นี่คือป้องกันตัวเองเหรอ?สารเลวจริงๆ!
เย่เฉินกำลังป้องกันเธอจริงๆหม่าหลันคนนี้ไม่ได้มีศีลธรรมอะไร ไม่แน่ก็อาจจะแอบเอาเงินไปก็ได้ ดังนั้นระวังหน่อยน่าจะดีกว่า
เซียวฉางควนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จออกจากบ้านไปแล้ว ตอนที่ใกล้จะถึงธนาคารได้รับรหัสที่เย่เฉินส่งมาให้ ไปถึงตู้เอทีเอ็มก็เสียบบัตรเช็คยอดเงินครู่หนึ่ง ในบัตรมีเงินอยู่สองล้านจริงๆ
เห็นยอดเงินคงเหลือที่แท้จริงบนตู้เอทีเอ็ม ในใจของเซียวฉางควนก็ตกใจอย่างมาก
เย่เฉินไอ้เด็กคนนี้สุดยอดมากจริงๆ!ออกไปดูฮวงจุ้ยให้คนอื่นก็ได้เงินมาสองล้านแล้ว?
ถ้าหากรับทำงานแบบนี้เพิ่มอีกสักหน่อย งั้นเขาจะไม่ร่ำรวยเลยเหรอ?
เซียวฉางควนตกใจพลาง ป้อนบัญชีธนาคารของตัวเองไปพลาง เอาเงินที่อยู่ในบัตรนี้ โอนเข้าบัตรของตัวเอง
หลังจากนั้น เขาก็หยิบโทรศัพท์มาตรวจสอบดูที่แอพธนาคารในโทรศัพท์ เห็นว่าเงินเข้าบัญชีแล้ว ถึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
กำลังจะกลับ ทันใดนั้นก็ได้รับข้อความวีแชทที่เย่เฉินส่งมา เนื้อหาในวีแชทคือ : “พ่อ อย่าลืมเปลี่ยนรหัสหน้าจอโทรศัพท์ด้วยนะ รหัสแอพธนาคารในโทรศัพท์ รหัสผ่านการชำระเงินเหล่านี้ ไม่งั้นจะเกิดปัญหาได้ง่าย!”
นี่ทำให้เซียวฉางควนตระหนักถึงแล้ว!
โชคดีที่ลูกเขยที่แสนดีเตือนเร็ว ไม่เช่นนั้นตัวเองก็กลับไปทั้งแบบนี้ ขอเพียงแค่หม่าหลันได้จับโทรศัพท์ของตัวเองเพียงไม่กี่นาที เงินเหล่านั้นต้องถูกเธอเอาไปแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าล่าช้า รีบเปลี่ยนรหัสผ่านทั้งหมดโดยเร็ว และเปลี่ยนรหัสใหม่ที่หม่าหลันไม่มีทางเดาได้
เมื่อเซียวฉางควนกลับมาถึงบ้าน หม่าหลันก็รีบเดินเข้ามาถามว่า : “เป็นยังไงบ้างสามี ในบัตรนั่นมีเงินอยู่สองล้านจริงๆไหม?”
“แน่นอน!” เซียวฉางควนพูดด้วยสีหน้าที่หยิ่งผยองว่า : “ลูกเขยของผมเคยโกหกผมตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หม่าหลันรีบเอ่ยถามว่า : “งั้นเงินสองล้านโอนเข้าบัญชีของคุณแล้วเหรอ?”
“อืม” เซียวฉางควนพยักหน้า ไม่อยากจะพูดกับเธอเท่าไหร่ พร้อมเอ่ยพูดว่า: “เย่เฉินละ?”
“เขาออกไปจ่ายตลาดแล้ว”
เซียวฉางควนพูดเสียงอ๋อ แล้วพูดว่า : “ผมต้องไปโทรบอกลูกสาวสักหน่อยนะว่า พรุ่งนี้เช้าไปดูเฟอร์นิเจอร์ที่ห้างเฟอร์นิเจอร์ด้วยกัน”
หม่าหลันรีบเอ่ยถามว่า : “งั้นพรุ่งนี้หลังจากซื้อเฟอร์นิเจอร์เสร็จ งั้นก็เข้าอยู่ได้เลยใช่ไหม?”
เซียวฉางควนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า : “ซื้อเฟอร์นิเจอร์เยอะขนาดนั้น ไม่รอคนเขาเอาของมาส่ง ติดตั้งหน่อยเหรอ?ยังไงก็ต้องใช้เวลาสองสามวัน”
หม่าหลันหัวเราะฮิๆพร้อมพูดว่า : “ก็เป็นสามีของฉันนี้แหละที่เข้าใจอะไรดี ฉันก็ไม่รู้วิธีการอะไรพวกนี้หรอก คิดว่าซื้อเสร็จวันนั้นก็เข้าอยู่วันนั้นได้เลย!”
พูดแล้ว เธอก็รีบขยับเข้ามา ใช้ร่างกายถูกับเซียงฉางควน พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า : “ที่รัก พี่เฉินโทรมานัดฉันให้ออกไปทำสปาที่สถาบันเสริมความงาม บอกว่าทำให้หุ่นเฟิร์ม ยกกระชับผิวได้ดีมาก แต่ว่าฉันไม่มีเงินเลย คุณโอนให้ฉันสักเจ็ดแปดหมื่น ได้ไหมคะ?”
“ไม่ได้!” เซียวฉางควนพูดปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่า : “ครอบครัวก็เป็นอย่างนี้แล้ว คุณยังจะไปทำสปาอีก?นี้ไม่ใช่เป็นเพราะคนชอบใช้เงินอย่างคุณเหรอ!”
หม่าหลันพูดอย่างน้อยใจ : “ที่รัก ฉันก็ทำเพื่อคุณไม่ใช่เหรอ หรือว่าคุณอยากให้ฉันกลายเป็นอีแก่?”
เซียวฉางควนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า : “คุณคิดว่าเมื่อก่อนการที่คุณไปสถาบันเสริมความงามทุกวัน ไม่เป็นอีแก่แล้ว?ในสายตาของผม คุณก็เป็นอีแก่เสมอมา!”
หม่าหลันสีหน้าดำคล้ำ โพล่งพูดด่าออกไปว่า : “เซียวฉางควน คุณหมายความว่าไง?”
“หมายความตามที่เห็น” เซียวฉางควนพูดเฮิงด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา พูดว่า : “ถ้าคุณไม่พอใจผม เราก็ไปหย่ากัน จะได้จบสิ้นปัญหาทั้งหมดสักที!”