ตอนที่ 2123 ดาบแห่งเจตจำนง

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ด้วยความที่เย่หยวนถูกพัดเข้ามากลางดงสงครามทุกสิ่งอย่างมันย่อมไม่อาจจะเป็นไปตามที่เขาคาดคิดได้

เพราะนี่มันคือกระดานจำลองฟ้าดินที่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลและโอสถบรรพกาลทั้งสองคนนั้นได้ร่วมกันสร้างขึ้น แน่นอนว่าพลังของมันย่อมจะเป็นพลังของคนทั้งสองผสานร่วมกัน

เมื่อเข้ามาในเกมกระดานนี้แล้วตัวเขาย่อมจะเป็นได้แค่หมากตัวหนึ่ง!

ในสนามรบเวลานี้มันเกิดแสงดาบพุ่งทะยาน ผู้คนนับหมื่น ๆ ตีล้อมต่อสู้

ตอนนี้เจตจำนงอันแรงล้ำถูกส่งลงมายังร่างของเย่หยวนต่อเนื่อง สั่งให้เย่หยวนพุ่งตัวไปฆ่าสังหารศัตรูที่ด้านหน้า

เย่หยวนเองก็คุ้นเคยกับสัมผัสนี้อย่างมากเพราะมันคือเจตจำนงของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั่นเอง

เพียงแค่ว่าหากเอามันไปเทียบกับอย่าถามครั้งก่อนที่เขาได้ลองเล่นแล้ว มันย่อมจะรุนแรงอย่างไม่อาจเอามาเทียบเคียงกันได้

เมื่อเขาเข้ามาถึงกระดานหมากนี้ตัวเขาจึงได้ถูกเจตจำนงนี้ควบคุมทันทีอย่าไม่อาจจะต้านทานมันได้

“หึ! จะเป็นอย่าถามของจริงแล้วมันทำไมเล่า? จิตของข้านั้นมันก็จะเป็นของข้า! จงทลายเสีย!”

เย่หยวนร้องขึ้นพร้อมปล่อยคลื่นเจตจำนงอันรุนแรงทะยานทะลุฟ้า!

เมื่อถูกจับมาไว้ในกระดานเช่นนี้เย่หยวนย่อมจะไม่อาจเห็นสองยักษ์ใหญ่ที่ควบคุมกระดานได้

แต่มันเหมือนว่ามีสองคลื่นพลังจากสองฝั่งที่ควบคุมโลกหล้าไว้

“หึ! แค่มดปลวก เจ้ามันเป็นได้แค่หมากเท่านั้น! กล้าขัดขืนข้าหรือ? จงยอมแพ้เสีย!”

ที่ด้านบนฟ้ากว้างนั้นมีเสียงหนึ่งดังพุ่งลงมาถึงกลางสนามรบ

พร้อม ๆ กันเสียงนั้นมันก็ได้มีฝ่ามือหนึ่งตกลงมาจากฟ้ากว้าง พุ่งทะยานลงสู่โลกเบื้องล่าง

และเป้าหมายของฝ่ามือนี้นั้นก็คือตัวเย่หยวน!

เมื่อคนด้านนอกได้เห็นภาพเช่นนั้นพวกเขาทั้งหลายก็ถึงกับต้องหน้าขาวซีดลง

“น่ากลัว! นี่มันคือพลังของโลกหล้าอย่างแท้จริง! เย่หยวนมันรนหาที่ตายแล้ว ท้าทายเกมกระดานเช่นนี้ผู้คนที่เข้าไปย่อมจะทำได้แค่เป็นหมาก เขากลับคิดขัดขืนอย่างนั้นหรือ?”

“มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลที่อยู่ในกระดานหมากนี้ย่อมจะไม่รู้เรื่องรองมหาปราชญ์ใด ๆ แต่เย่หยวนกลับไปทำให้เขาไม่พอใจขึ้นมาเสียแล้ว”

“เจตจำนงของท่านศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นมันเหนือล้ำฟ้าดิน ไม่มีทางขัดขืนได้มีหรือที่เทพถ่องแท้ผู้หนึ่งจะไปต้านทานขัด?”

เมื่อฝ่ามือนั้นถูกกดลงมาแน่นอนว่าทุกผู้คนต่างจะคิดว่าเย่หยวนต้องตายแน่แล้ว

เพราะฝ่ามือนี้มันรุนแรงพอจะบดขยี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เป็นฝุ่นผงได้ มีหรือที่เทพถ่องแท้จะรอด?

“ฮ่า ๆ ๆ ข้าก็นึกว่ามันจะเป็นยอดคนมากพรสวรรค์ใด ที่แท้มันก็เป็นแค่ไอ้โง่! ด้วยพรสวรรค์ของมันวันหน้ามันอาจจะก้าวขึ้นไปถึงระดับของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลได้จริง แต่ในเวลานี้มันก็เป็นได้แค่มดปลวก! เป็นแค่แมงเม่ากลับไปเล่นกับกองไฟ? เจตจำนงของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นต่อให้จะเป็นพวกเราทั้งหลายก็คงไม่อาจต้านทานมันได้ แต่มันกลับกล้า?” จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูร้องขึ้นเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า

การกระทำนี้ของเย่หยวนมันย่อมจะเป็นการรนหาที่ตายในสายตาของทุกผู้คน

เมื่อก้าวขึ้นไปถึงระดับของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลหรือโอสถบรรพกาลแล้ว มันย่อมจะอยู่ห่างจากอาณาจักรเต๋าบรรพกาลแค่ไม่กี่ก้าว

แน่นอนว่าพลังเจตจำนงจิตใจของคนระดับนั้นมันย่อมจะบดขยี้โลกหล้าได้

มีหรือที่มดปลวกน้อย ๆ จะไปต้านทานพลังของโลกทั้งใบได้?

ทำเช่นนี้มันจะเป็นอะไรไปได้นอกจากรนหาที่ตาย?

ฝ่ามือนั้นถูกกดทับลงมาอย่างรุนแรงพร้อมด้วยพลังที่จะสยบทุกชีวิต

“อ่อก!”

ทั้ง ๆ ที่ฝ่ามือนั้นยังไม่ทันลงมาถึงเย่หยวนก็กลับกระอักเลือดออกมาคำโตแล้ว

คลื่นพลังอันรุนแรงนั้นมันแทบจะกดเขาจมลงกับพื้น

“ผู้ยอมก้มหัวรอด ผู้ต่อต้านตาย! มีหรือที่จักรพรรดิผู้นี้จะยอมให้ใครขัดขืนได้? ตายเสีย!” มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นร้องกล่าวขึ้นมาจากท้องฟ้ากว้าง

ตูม!

ในเวลานั้นเองมันก็ได้มีคลื่นพลังอีกสายหนึ่งตกลงมาจากฟ้ากว้างเช่นกัน

ตอนนี้บนท้องฟ้านั้นมันได้มีหม้อหลอมโอสถปรากฏขึ้นมากดทับร่างเย่หยวนไว้

ฟู!

เมื่อหม้อหลอมนี้ปรากฏร่างของเย่หยวนนั้นก็เหมืองดั่งถูกสายฟ้าผ่าลงกลางหัวต้องกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง

หม้อหลอมยักษ์นี้พร้อมด้วยฝ่ามือนั้นมันกดดันลงบนสองบ่าของเย่หยวนราวกับว่าตัวเขานั้นได้แบกขุนเขาไว้ถึงสองลูก

คลื่นพลังเจตจำนงอันรุนแรงนี้มันเหมือนค้อนยักษ์ที่ทุกลงมายังทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนอย่างไม่คิดหยุดยั้ง

ที่ด้านนอกเวลานี้มันได้เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นตาม ๆ กัน

“นี่มัน…หม้อหลอมยักษ์นี้มันคือเจตจำนงของโอสถบรรพกาล! ดูท่าทางโอสถบรรพกาลท่านเองก็จะไม่พอใจเช่นกัน!”

“พระเจ้าช่วย สองยอดตัวตนนั้นกลับไม่พอใจขึ้นมาพร้อม ๆ กัน! มันช่างเป็นพลังที่รุนแรงได้ขนาดนี้?”

“บ้า! มันบ้าไปแล้ว! รองมหาปราชญ์นั้นรนหาที่ตายชัด ๆ! นี่มันคือหมากกระดานที่สองยอดคนนี้เล่นกัน แต่เขากลับคิดจะเข้าไปยุ่งด้วย คิดท้าทายจิตจำนงของยอดคนทั้งสอง! จนเวลานี้ทั้งสองท่านนั้นโกรธเคืองขึ้นอย่างมากแล้ว!”

อย่าถามกระดานนี้มันคืออย่าถามที่แท้จริง แตกต่างจากสิ่งที่เย่หยวนเคยสัมผัสมาก่อนอย่างสิ้นเชิง

ภายในอย่าถามกระดานนั้น ผู้ควบคุมกระดานมันคือมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล

แต่ในกระดานหมากนี้ มันมีสองยอดคนปะทะกันอยู่

และหากลองสัมผัสดี ๆ จะพบว่าทางโอสถบรรพกาลนั้นจะมีพลังรุนแรงกว่ามหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเสียด้วยซ้ำ

ความไม่ยอมใครของเย่หยวนนี้มันไม่ได้แค่ทำให้มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลไม่พอใจ แต่รวมถึงไปตัวโอสถบรรพกาลด้วย

เมื่อสองยอดคนลงมือพร้อม ๆ กันแล้วโลกหล้ามันย่อมไม่มีทางขัดขืนได้

คลื่นพลังที่รุนแรงนี้มันเปรียบดั่งฟ้าดินจะแตกสลายลงตรงหน้า

ต่อให้คนที่เหลือนั้นจะไม่ได้ร่วมอยู่ในเกมกระดานนี้ด้วย แต่พวกเขาเองก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่มหาศาล

ในตอนนี้เย่หยวนเริ่มมีผมร่วงลง ทั้งตา จมูก ปาก หู ทวารทั้งหลายต่างมีเลือดแดงสดหลั่งไหลออกมา

คลื่นพลังกดดันอันที่เขารับอยู่นี้มันย่อมจะรุนแรงจนไม่มีใครจินตนาการออก

เมื่อจีโมเห็นภาพนี้เขาก็ต้องแสดงสีหน้าไม่สบายใจออกมา

เพราะตัวเขาเองก็เคยผ่านอย่าถามมาก่อน แต่ตัวเขานั้นไม่ได้คิดขัดขืนสองยอดคนอย่างที่เย่หยวนทำนี้

ต่อให้มันจะถูกผนึกพลังไว้ครึ่งหนึ่ง แต่ตัวเขาก็ไม่กล้าจะไปท้าทายจิตของคนทั้งสอง

ภายในกระดานหมากนี้ ต่อให้ตัวเขาที่เป็นศิษย์โดยตรงของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลก็ทำได้เพียงยอมเป็นตัวหมาก

เพราะคนทั้งสองนี้มันอยู่สูงล้ำจนไม่อาจเอื้อมถึงได้เลย

พลังของพวกเขานั้นน่ากลัวจนเกินต้าน

มีเพียงคนที่ได้เข้าไปอยู่ภายในกระดานและสัมผัสถึงพลังของคนทั้งสองเท่านั้นที่จะทราบว่าคนทั้งสองนั้นมีพลังที่เหนือล้ำไร้ที่สิ้นสุดปานใด

จีโมต้องถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะกล่าวขึ้น “รองมหาปราชญ์ ยอมแพ้เถอะ! โอสถบรรพกาลและอาจารย์ข้านั้นเป็นสุดยอดตัวตนของภพนี้ ตัวพวกเขาทั้งสองท่านมีพลังเหนือล้ำเกินจินตนาการ วันหน้าในสักวันท่านอาจจะเก่งกาจเทียบเคียงเจตจำนงของพวกเขาได้ แต่ในเวลานี้ท่านย่อมจะไม่อาจต่อต้านใด ๆ มันได้ ด้วยพรสวรรค์และกำลังของท่าน หากไม่คิดขัดขืนเสียอย่างแล้วมันย่อมจะหลุดพ้นจากการกดดันนี้ได้ไม่ยาก!”

เสียงของจีโมนี้มันดังเข้ามาถึงภายในกระดานหมากอย่าถาม

แต่เย่หยวนที่ได้ยินกลับหัวเราะขึ้น “ฮ่า ๆ ๆ…ในตัวเย่หยวนผู้นี้ไม่มีคำว่า ‘ยอมแพ้’ อย่างเด็ดขาด! หากไม่มีจิตใจของยอดคนแล้วมีหรือที่คนจะวางตัวเหนือสวรรค์ทั้งเก้าได้? ข้าเย่หยวนนี้จะไม่ยอมเป็นหมากให้ใคร! หากวัดกันแค่พลังฝีมือข้าย่อมไม่อาจเทียบพวกเจ้าทั้งหลายได้ในเวลานี้! แต่หากเทียบกันที่ความหนักแน่นของจิตแล้ว ข้าเย่หยวน จะไม่มีวันแพ้ให้ใคร!”

“ด้วยจิตของข้านี้ตัดชั่วฟ้า! จงปรากฏออกมา!”

เย่หยวนร้องลั่นดังสนั่นฟ้าดิน

ภายใต้สายตาอันมึนงงของทุกผู้คนมันได้ค่อย ๆ เกิดเงาร่างดาบยักษ์หนึ่งขึ้นมา

และคลื่นพลังของดาบยักษ์นี้มันกลับไม่ได้อ่อนแอไปกว่าพลังของสองยอดคนนั้นเลย!

เมื่อดาบปรากฏขึ้น มันก็พุ่งทะลุฟ้าขึ้นไปหายังหม้อหลอมยักษ์นั้น

“นี่มันดาบแห่งเจตจำนง! เป็นไปได้อย่างไรกัน?”

“ไม่มีทางใช่ไหมเนี่ย? เย่หยวนกลับมีเจตจำนงที่รุนแรงจนสร้างดาบยักษ์นั้นขึ้นมาได้!”

“เขาคิดจะปะทะกับโอสถบรรพกาลตรง ๆ! หากพลาดขึ้นมาแล้วทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาคงแตกสลายได้ตายอย่างไร้ที่กลบฝัง!”

เสียงโห่ร้องดังขึ้นตาม ๆ กัน

เพราะดาบแห่งเจตจำนงนี้มันคือตัวแทนจิตของเย่หยวน มันผสานทั้งพลังของแนวคิดแห่งดาบและแนวคิดแห่งห้วงมิติเข้าไปจนสุดพลัง

นั่นทำให้พลังของดาบนี้มันไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่ายอดคนทั้งสองเลย

การที่จะสามารถใช้จิตสร้างดาบแห่งเจตจำนงเช่นนี้ขึ้นมาได้มันย่อมจะหมายความว่าเจตจำนงของเย่หยวนนั้นเทียบเคียงได้กับโอสถบรรพกาล เทียบเคียงยอดคนเช่นนั้นได้

มีหรือที่คนทั้งหลายจะไม่แตกตื่น?

จีโมได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าตกตะลึง “อย่างที่เขาว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน! ข้าไม่อาจจะคาดเดาได้เลยว่าท่านไปมีจิตที่รุนแรงหนักแน่นปานนี้ได้อย่างไร! ในวันนี้ข้าได้เข้าใจอีกครั้งแล้วว่าเหตุใดท่านอาจารย์จึงได้ตั้งท่านเป็นรองมหาปราชญ์! ข้านั้นด้อยกว่าท่านจริง ๆ!”

………………