ตอนที่ 2,326 : หนทางของเซียนอมตะเสเพล
ด้วยความที่เลี่ยวหนันเจียงเป็นตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ ที่พลังก้าววข้ามขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะไปแล้ว
ทำให้ยามพลังของมันปะทุออกมา เสียงยังสนั่นประหนึ่งมังกรคำราม พาลให้ความว่างเปล่าโดยรอบบิดเบือน…!
ราวกับขอแค่เร่งพลังขึ้นอีกนิดมันก็จะปริฉีกทันที!
‘ร้ายกาจอะไรขนาดนี้!’
แทบจะทันทีที่ต้วนหลิงเทียนเห็นเลี่ยวหนันเจียงปะทุพลังออกมา ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังดังกล่าวได้ชัดเจน
‘พลังของมันตอนนี้ ไม่ใช่อะไรที่ครึ่งก้าวเซียนอมตะทั่วไปจะเทียบได้เลย…นี่น่ะเหรอ เซียนอมตะเสเพล 3ทัณฑ์?’
ต้วนหลิงเทียนพึ่งเคยได้ยินเรื่องเซียนอมตะเสเพล 3ทัณฑ์ครั้งแรกก็เมื่อครู่นี่เอง ทำให้เขายังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมันเท่าไหร่
ทว่าตอนนี้พอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่แผ่พุ่งออกมาจากร่างเลี่ยวหนันเจียง เขาก็ตระหนักได้ถึงพลังอำนาจของเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ได้ทันที!
‘พลังระดับนี้…ถ้าจู่โจมออกมายังเป็นอะไรที่เหนือกว่าพลังของค่ายกลสังหารของ 3 ปีศาจครึ่งก้าวเซียนอมตะที่สร้างกับดักในภูมิภาคเบื้องบนเสียอีก…แถมตอนนั้นผู้เฒ่าหั่วก็เคยบอกไว้ว่านั่นเป็นระดับพลังสูงสุดของระนาบโลกียะ…’
‘แต่ว่า…ตอนนี้เลี่ยวหนันเจียงที่เป็นเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์อะไรนั่น กลับเผยพลังที่เหนือกว่าพลังสูงสุดของระนาบโลกียะนั่นได้ ระดับพลังมันสมควรเป็นขอบเขตพลังในระนาบเทวโลกไปแล้ว’
พอย้อนคิดเทียบดู สีหน้าต้วนหลิงเทียนก็เปลี่ยนเป็นจริงจังนัก
ปรากฏว่าถึงเขาจะใช้ปฐมเวทย์กลืนกิน จนเพิ่มพูนระดับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดให้เพิ่มพูนขึ้นไปมหาศาลจนเหนือกว่าระดับพลังในระนาบโลกียะไปแล้ว แต่ท่าทางว่าจะยังไม่ใช่ไร้คู่เปรียบ!
เพราะในระนาบโลกกียะแห่งนี้ ยังสมควรมีตัวตนที่สามารถใช้พลังเหนือขอบเขตระนาบโลกียะซุกซ่อนอยู่!
‘แล้วเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์มันคืออะไรกันแน่ ทำไมถึงมีพลังได้ขนาดนั้น?’
ตอนนี้ในใจต้วนหลิงเทียนเริ่มครุ่นคิดขึ้นมาอย่างจริงจัง เพราะเขาเริ่มบังเกิดความสงสัยนัก ว่าสิ่งที่เรียกว่าเซียนอมตะเสเพลนั่นมันคืออะไรกันแน่
ระหว่างที่เขาคิด พลังของเลี่ยวหนันเจียงก็เริ่มสร้างความปั่นป่วนให้ความว่างรอบกายของมันมากขึ้นทุกที ดูไปประหนึ่งจะพังทลายได้ทุกเวลา!
“นี่มัน…”
เหล่าคนของ 3 วัง 6 ตำหนักเองก็กำลังตื่นตระหนกตกกตะลึงนัก
พวกมันเคยได้เห็นฉากเรื่องราวอันน่ากลัวแบบนี้ที่ไหน!!
“ข้ารู้สึกเสมือน…พื้นที่กำลังจะฉีกขาด!”
“นี่มันพลังอำนาจอันใดกัน!?”
“นี่น่ะเหรอพลังของเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์!!”
“ที่แท้เซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์มันคืออะไรกันแน่?มีผู้ใดบอกข้าได้บ้าง!?”
“ข้าเองก็ไม่รู้”
…
เรียกว่าบรรดาตัวตนรองลงมาของ 3 วัง 6 ตำหนักพากันแตกตื่นกับพลังอันน่ากลัวของเลี่ยวหนันเจียงนัก พวกมันยังเริ่มบังเกิดความอยากรู้เห็นถึงที่สุด…ว่าเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ ที่แท้มันคือเรื่องอะไรกันแน่!
เพราะมองจากสถานการณ์ในปัจจุบัน
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เรียกว่าเซียนอมตะเสเพล 3ทัณฑ์…มันเป็นอะไรที่อยู่เหนือกว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะ! ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในระนาบโลกียะในสามัญสำนึกของพวกมัน!!
“รองจ้าววังชิง ท่าน…ใช่รู้จักเซียนอมตะเสเพล 3ทัณฑ์หรือไม่?”
รองจ้าววังวิญญาณอสุราอีกคน หันไปมองถามชิงหยวนป้าทันที ใบหน้าของมันเผยให้เห็นถึงความอยากกรู้นัก
สาเหตุที่มันกล่าวถามชิงหยวนป้าออกมานั้น เพราะมันพบว่า…
ชิงหยวนป้าผู้นี้ แต่ต้นจนจบเพียงมองไปยังอาจารย์ของประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์ด้วยความหวาดกลัวอย่างเดียว แต่ไม่ได้เผยความอยากรู้อยากเห็นใดๆออกมาเลย ทำราวกับรู้ความหมายของเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์แต่แรก!
ขวับ! ขวับ! ขวับ!
…
พอรองจ้าววังวิญญาณอสุราที่สงสัยนั่นถามชิงหยวนป้าออกมา ผู้คนโดยรอบก็หันขวับไปจับจ้องร่างชิงหยวนป้าทันที!
ในสายตาของพวกมันก็เผยความอยากรู้อยากเห็นไม่น้อย!
“เซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ เป็นตัวตนที่อยู่เหนือครึ่งก้าวเซียนอมตะ และมีพลังสูงส่งกว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะ!”
ได้ยินคำถามของรองจ้าววังวิญญาณอสุราอีกคน ทั้งเห็นสายตาสงสัยรอบข้าง ชิงหยวนป้าเสมือนเป็ดที่ถูกไล่ให้ไปขึ้นคอนตัวหนึ่ง เร่งกล่าวออกมาเสียงขรึม!
เสียงขรึมนั่น แฝงไว้ด้วยความหวาดกลัวล้นปรี่!
“รองจ้าววังชิง แล้วเซียนอมตะเสเพลถือกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไรหรือ? มิใช่ว่าผู้ที่บรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้ว ไม่นานก็จะถูกชักนำให้ขึ้นสวรรค์ไปหรือไร? ไฉนยังมีด่านพลังสูงกว่านี้ได้อีกเล่า?”
รองจ้าววังวิญญาณอสุราอีกคนกล่าวถามออกมาด้วยคำถามที่คนอื่นๆอยากรู้ออกมา
“นั่นสิรองจ้าววังชิง หรือที่แท้ครึ่งก้าวเซียนอมตะสามารถหลบหนีพลังอำนาจของสวรรค์ที่จะฉุดดึงให้ขึ้นไปเบื้องบนได้? คราวนี้พอบ่มเพาะพลังต่อไป จึงจะสามารถบรรลุถึงเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์?”
อาวุโสวังวิญญาณอสุราที่อยู่ไม่ไกลเอ่ยถามต่อ
“มิใช่อย่างนั้น”
ชิงหยวนป้าส่ายหัวไปมา “เซียนอมตะเสเพล 3ทัณฑ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับครึ่งก้าวเซียนอมตะทั้งสิ้น…กระทั่งบรรดาเซียนอมตะเสเพลทั้งหลาย ล้วนไม่เคยมีผู้ใดบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะมาก่อน! มันเป็นอีกเส้นทางที่ต่างออกไปชัดเจน…”
“นั่นเพราะ…ผู้ที่จะเป็นเซียนอมตะเสเพลได้ ทั้งหมดล้วนเป็นตัวตนที่ล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ทั้งสิ้น!”
“ส่วนครึ่งก้าวเซียนอมตะนั้น จะบรรลุถึงทันทีหลังข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ”
เสียงของชิงหยวนป้าคราวนี้หลังดังจบคำ ก็สะท้านสะเทือนจิตใจผู้ฟังโดยรอบไม่น้อย พาลให้พวกกมันอดไม่ได้ที่จะสงสัยมากขึ้นไปอีก
“ล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์? มิใช่ว่าต้องตายคาที่หรอกหรือ?”
อาวุโสวังวิญญาณอสุรากล่าวถามออกมาด้วยความประหลาดใจ ตัวมันไม่อาจเข้าใจเรื่องนี้ได้จริงๆ
กระทั่งคนอื่นๆของวังวิญญาณอสุรา ก็พยักหน้าราวกับจะเห็นด้วยกับคำของอาวุโสผู้นั้น
“ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ล้มเหลว…ไม่ได้หมายความว่าถึงจุดสิ้นสุดและต้องตายเสมอไป…”
ชิงหยวนป้ากล่าวสืบต่อ “เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่สำนึกรู้ฟ้าดินถึงขีดจำกัด และคว้าโอกาสชักนำหายนะสู่สวรรค์ให้ลงมาได้สำเร็จนั้น…ต่อให้จะล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ แต่หากใช้เคล็ดถอดจิตลี้ร่างได้ทันท่วงที ร่างวิญญาณก็จะรอดพ้นความตายจากอัสนีทัณฑ์มาได้!”
“แน่นอนว่าหลังใช้ถอดจิตลี้ร่างออกมา ย่อมเป็นตัวตนที่หมดสิ้นความหวังในการบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้ว! ได้แต่ดำรงชีวิตต่อไปในรูปแบบวิญญาณเท่านั้น ไม่อาจสร้างร่างกายเหมือนเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน ไม่อาจบ่มเพาะพลังใดๆสืบต่อ!!”
“ตัวตนเช่นนี้จะถูกเรียกว่าเซียนอมตะเสเพล!”
“กล่าวได้ว่านับตั้งแต่วินาทีแรกที่ล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์และคงเหลือแต่ร่างวิญญาณ ก็เสมือนเป็นเซียนอมตะเสเพล! หลังจากนั้นทุกๆ 1,000 ปี ฟ้าดินจะเริ่มส่งหายนะทัณฑ์สวรรค์ลงมาเพื่อพิฆาตตัวตนเซียนอมตะเสเพล! พูดไปก็ไม่ต่างอะไรกับการลงทัณฑ์จากสวรรค์!!”
“หากสามารถทานทนอัสนีสวรรค์ที่จะฟาดลงพิฆาตทุกๆ 1,000 ปี ได้จนครบ 10,000 ปีล่ะก็ เซียนอมตะเสเพลผู้นั้นก็จักได้รับโอกาสที่ 2 ในการขึ้นสู่ระนาบเทวโลก!”
“หายนะ 10 รอบที่เซียนอมตะเสเพลต้องเผชิญหน้าทุกๆ 1,000 ปีนั้น เรียกว่า หายนะพันปี หรือหายนะเซียนอมตะเสเพล! หากในระหว่างทางเซียนอมตะเสเพลล้มเหลวในการเอาชนะหายนะย่อมหมายถึงความตายหาก มีแต่ชนะถึงจะได้อยู่รอด!!”
“และหลังจากข้ามผ่านหายนะแต่ละครั้ง พลังของเซียนอมตะเสเพลก็จะยกระดับขึ้นอย่างมาก!”
ตอนนี้คนของวังวิญญาณอสุราล้วนตั้งใจฟังคำพูดของชิงหยวนป้าอย่างตื่นตกใจ กระทั่งรู้สึกเหลือเชื่อไม่น้อย หากแต่ชิงหยวนป้าก็กล่าวอธิบายสืบต่อไปเรื่อยๆ ไม่แยแสท่าทางเหลือเชื่อของพวกกมัน
“เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์นั้น เมื่อกลายเป็นเซียนอมตะเสเพลแล้วพลังฝึกปรือจักถดถอยกลับมาอ่อนด้อยกว่าเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนด้วยซ้ำ…”
“มีเพียงเฝ้ารอเวลาให้ครบ 1,000 ปี พอหายนะเซียนอมตะเสเพลรอบแรกมาถึงและข้ามผ่านได้สำเร็จก็จะกลายเป็นเซียนอมตะเสเพล 1 ทัณฑ์ และตอนนี้ระดับพลังจะหวนกลับมาทัดเทียมกับเซียนสวรรค์ 9เปลี่ยน! รวมถึงได้ความสามารถในการบ่มเพาะพลังกลับคืนมา!”
“และเมื่อครบกำหนด 1,000 ปีอีกครั้ง หายนะเซียนอมตะเสเพลรอบที่ 2 ก็จักปรากฏ! หากข้ามผ่านได้ก็จะกลายเป็นเซียนอมตะเสเพล 2 ทัณฑ์ ซึ่งตอนนี้พลังจะทัดเทียมได้กับครึ่งก้าวเซียนอมตะ!”
“ส่วนหายนะเซียนอมตะเสเพลรอบที่ 3 นั้น หากข้ามผ่านได้สำเร็จก็จะบรรลุถึงเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ พลังก็จะก้าวข้ามขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะไป! หลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ 5ทัณฑ์ ไปจนถึง 9 ทัณฑ์ พลังอำนาจก็จะเพิ่มพูนขึ้นอย่างน่ากลัว!”
พอชิงหยวนป้ากล่าวถึงจุดนี้มันก็หยุดลงเล็กน้อยค่อยกล่าวสืบต่อ
“แน่นอนว่ายังเหลือหายนะครั้งที่ 10 ซึ่งเป็นหายนะสุดท้าย! และหายนะสุดท้ายที่ว่าเป็นอะไรที่ยากจะข้ามผ่านอย่างยิ่ง…ยังยากยิ่งกว่าหายนะ 9 รอบก่อนหน้าอย่างเทียบไม่ติด!”
“กระทั่งในเผ่าปีศาจเรา ลำพังแค่ตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ตลอดทั้งประวัติศาสตร์ตั้งแต่มีเผ่าปีศาจถือกำเนิดขึ้นมาก็หาได้ยากนักสำหรับผู้ที่ข้ามผ่านหายนะที่ 10 ไปได้ ก็มีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย”
ชิงหยวนป้าพูดออกมารวดเดียวจบ ก่อนที่จะหยุดลงและไม่พูดอะไรต่อออกมาอีก
เพราะตอนนี้มันได้พูดสิ่งที่สมควรพูดไปหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรอีก
สำหรับคนของวังวิญญาณอสุราเมื่อฟังคำของชิงหยวนป้าจนจบ พวกมันก็พึ่งเสมือนคนที่ได้เปิดหูเปิดตา!
ราวกับชิงหยวนป้าได้เปิดประตูสู่โลกใหม่ให้พวกมัน…
“ที่แท้…ครึ่งก้าวเซียนอมตะยังมิใช่ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในระนาบโลกียะของเรา!”
“ข้าล่ะไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าในโลกหล้ายังมีตัวตนอย่างเซียนอมตะเสเพลดำรงอยู่…กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ก็มีพลังเหนือกวว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะ! เช่นนั้นเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ 5ทัณฑ์ และเหนือกว่านั้นเล่า…มิใช่จะเป็นตัวตนที่ทรงพลังอย่างยิ่งหรือ!?”
“มิต้องสงสัยเลย! กระทั่งแค่เซียนอมตะเสเพล 3ทัณฑ์ยังมีพลังทัดเทียมครึ่งก้าวเซียนอมตะ…หลังจากนั้นยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง! ต้องน่ากลัวสุดที่พวกเราจะจินตนาการได้แน่!!”
“แต่หายนะพันปียิ่งมาก็ยิ่งยากจะผ่าน จำนวนเซียนอมตะเสเพลคงมิได้มีมากมายเป็นแน่!”
……
ตอนนี้ผู้ที่มารวมตัวอยู่ในวังเซียนสัญจรได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างตื่นกลัว
“ตอนแรกข้าหลงคิดว่า…ไม่ต้องกล่าวถึงการขึ้นสู่ระนาบเทวโลกอันใด หากล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ หมายถึงจุดสิ้นสุดและความตายเสียอีก! แต่ข้าไม่คิดเลยว่าถึงแม้จะล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ ทว่วายังมิได้หมายถึงจุดจบและความตาย ยังมีโอกาสอยู่รอดในฐานะเซียนอมตะเสเพล และได้รับโอกาสที่ 2 ในการขึ้นสู่สวรรค์!!”
อาววุโสวังวิญญาณอสุราอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
“โอกาสที่ 2 ในการขึ้นสวรรค์หรือ ไหนเลยจะง่ายดาย! เจ้าไม่ได้ยินที่ท่านรองจ้าววังชิงกล่าวหรือไร กระทั่งในประวัติศาสตร์ตั้งแต่เผ่าปีศาจถือกำเนิด ลำพังแค่บรรลุถึงเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ก็ยากยิ่งกว่ายากแล้ว เช่นนั้นตัวตนที่ข้ามผ่านหายนะรอบที่ 10 และได้ขึ้นสู่ระนาบเทวโลก…มิใช่หายากยิ่งกว่าหางมังกรขนหงส์รึไร?”
“นั่นสิ ฟังจากกท่านรองจ้าววังชิง…โอกาสที่ 2 ในการขึ้นสู่สวรรค์ช่างยากเข็ญยิ่ง! เป็นหนทางสู่เซียนอมตะที่ยากเย็นเหลือเกิน…”
รองจ้าววังวิญญาณอสุราคนอื่นๆ ได้แต่กล่าวออกมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง
‘บนระนาบโลกียะแห่งนี้…ยังมีตัวตนอย่างเซียนอมตะเสเพลด้วย?’
แต่ต้นจนจบต้วนหลิงเทียนย่อมได้ยินคำพูดอธิบายของรองจ้าววังวิญญาณอสุราชิงหยวนป้าชัดเจนดี ทำให้ในใจเขาเต็มไปด้วยความทึ่งไม่น้อย!
(ชุ่มฉ่ำไปเลย น้ำล้วน! 55+)