อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1191พูดคุยนินทา

กู้ชูหน่วนครุ่นคิดหาวิธีรับมือราชินีทั้งคืน หรือทำให้ราชินียกเลิกงานอภิเษก

นางเรียกเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กับเจ้าเสือน้อยมา ให้พวกสัตว์อสูรช่วยตามหาเซียวหยู่เซวียนภายในพระราชวัง

ผ่านไปแล้วทั้งคืน ก็ตามหาเซียวหยู่เซวียนไม่เจอ

คิดถึงสภาพการตายของหลินซือหย่วน กู้ชูหน่วนก็ยิ่งเป็นห่วงว่าเซียวหยู่เซวียนก็ถูกดูดวิทยายุทธไปหมด สุดท้ายกลายเป็นโครงกระดูก

ไม่ แม้แต่โครงกระดูกก็ไม่ครบถ้วน

หันไปมอง กลับเห็นเย่จิ่งหานหลับตาสนิท ลมหายใจสม่ำเสมอ เหมือนนอนหลับไปแล้ว

แต่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความสุกสกาว คนที่เคยฝึกวิทยายุทธต่างก็รู้ แขนขาของเขาล้วนกำลังเคลื่อนไหว

แสงแดดแรกในยามเช้า สาดส่องเข้ามา

กู้ชูหน่วนลุกขึ้นมาอย่างหงุดหงิด กำลังเตรียมที่จะปรุงยาให้เย่จิ่งหาน เขาจะได้หายไวๆ

ยังไม่ทันเปิดประตู ก็ได้ยินพวกบ่าวใช้กำลังพูดคุยนินทาอะไรกันอยู่

“เจ้าได้ยินมาหรือยังไง? เมื่อคืนราชินีบำเรอชายรูปงามไปหนึ่งร้อยคน”

“หนึ่งร้อยกว่าคน? ราชินีมีอานุภาพจริงๆ ชายรูปงามพวกนั้นไม่เหลือสักคนสักไหม”

“จะเหลือหรือ เสียงร้องโหยหวนเมื่อคืนนั้น อยู่ห่างตั้งไกลยังได้ยิน น่าสงสารผู้ชายพวกนั้นจริงๆ ได้ยินว่าหนึ่งร้อยกว่าคนนี้ ล้วนเป็นบุคคลผู้อัจฉริยะของทวีปปิงหลิง ยอดฝีมือของแต่ละสำนักใหญ่ มีลูกหลานตระกูลใหญ่สูงศักดิ์ กระทั่ง….กระทั่งยังมีพระญาติราชวงศ์ ยอดฝีมือวัยรุ่นของทวีปปิงหลิงเรา ล้วนหายไปหมดแล้ว”

“ยังมีพระญาติราชวงศ์ งั้นราชินีก็…..”

“ก็ใช่นะสิ ดังนั้นเสด็จอาจึงวิ่งมาหาราชินีอย่างโกรธโมโห ไม่รู้ว่าราชินีจะลงมือฆ่าเสด็จอาเลยไหม”

“คงไม่มั้ง เสด็จอาเป็นถึงขุนนางราชสำนัก มีบารมีสูงส่งในแคว้นน้ำแข็ง ราชินีจะฆ่าเขาได้อย่างไร”

“แต่นี่ก็พูดยาก หลายวันก่อนราชินีก็ฆ่าขุนนางราชสำนักไปแล้วหลายคนไม่ใช่หรือ? แม้แต่ไท่ซือยังถูกบีบบังคับให้ลาออกจากตำแหน่ง พูดถึงไท่ซือ เจ้ารู้ไหม ตอนที่ไท่ซือกลับบ้านเกิด ได้ถูกคนเอามีดปาดคอ”

“อะไร….ไท่ซือเป็นถึงขุนนางอาวุโสสี่ราชวงศ์ ใครกันที่กล้าลอบฆ่าไท่ซือ ไม่กลัวราชินีประหารเก้าชั่วโคตรหรือ?”

“จุ๊ๆ เสียงเบาหน่อย หากคนอื่นได้ยินว่าเราแอบนินทากัน เดี๋ยวจะหัวหลุดออกจากบ่า”

“ขอโทษที ข้าตื่นเต้นไปหน่อย ไท่ซือเป็นคนดีขนาดนั้น ใครช่างอำมหิตฆ่าเขาได้ลงคอ โทษหนักประหารเก้าชั่วโคตรเลยนะ”

ทหารราชองครักษ์มองไปรอบๆ มั่นใจว่าไม่มีคนจึงกระซิบพูดขึ้นว่า “มีคนร่ำลือว่า คนที่ฆ่าไท่ซือก็คือราชินี”

“อ๋า…..”

“จุ๊ๆ เจ้าดูเจ้าสิ ช่างเถอะ ข้าไม่คุยกับเจ้าแล้ว เดี๋ยวหัวจะหลุดออกจากบ่า”

“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน ข้าเสียงเบาหน่อยก็ได้ ยังไงที่นี่ก็ไม่มีคน เจ้าเล่าให้ข้าฟังก่อน ไท่ซือเป็นอาจารย์ผู้มีพระคุณของราชินี อบรมสั่งสอนราชินีมาตั้งแต่เด็ก ที่ราชินีได้เป็นราชินีก็เพราะไท่ซือสนับสนุน ใครไม่รู้บ้างว่ราชินีเคารพนับถือไท่ซืออย่างมาก ราชินีจะฆ่าไท่ซือได้อย่างไร?”

“เมื่อก่อนราชินีเคารพนับถือไท่ซือ แต่หลายปีมานี้ราชินีเปลี่ยนไปอย่างมาก แตกคอกันกับไท่ซือแต่แรกแล้ว”

“งั้นก็ไม่มีหลักฐานแสดงว่าราชินีเป็นคนแอบส่งนักฆ่าไปฆ่าคนนะสิ”

“เจ้าไม่รู้เรื่องล่ะ ก่อนที่ไท่ซือจะกลับบ้านเกิด ได้ทิ้งจดหมายลับไว้ให้กับเสด็จอา หากระหว่างทางเขาถูกทำร้าย ผู้ที่สั่งการอยู่เบื้องหลังก็คือราชินี ไท่ซืออยากให้เสด็จอาระวังราชินี”

“เจ้ารู้มากมายขนาดนี้ได้อย่างไร เจ้าพูดไปเรื่อยหรือเปล่า”

“เรื่องสำคัญขนาดนี้ ข้าจะกล้าพูดไปเรื่อยได้อย่างไร”

“งั้นเจ้ารู้ได้อย่างไร?”

“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่า ข้ามีพี่สาวทำงานอยู่ในจวนอ๋อง”

“อ้อ….ใช่ ข้าลืมไปแล้ว วันนี้ท่านอ๋องมาหาราชินี ราชินีจะฆ่าเขาไหม”