ตอนที่ 936 มังกรดำผ่านภัยสววรค์ (3)

หมอดูยอดอัจฉริยะ

“พ่อครับ มังกรตัวนั้นจะไม่โดนฟ้าผ่าตายใช่ไหม?”

การมองเห็นของเยี่ยชิวน้อยสู้พวกพ่อของเขาไม่ได้ จึงมองเห็นเพียงฟ้าแลบและเสียงฟ้าร้องอยู่ไกลๆ แต่ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งปรากฏอยู่ในนั้น มือที่จับพ่อเอาไว้ก็มีเหงื่อไหลออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาตื่นเต้นมากแค่ไหน

“ไม่หรอก มังกรดำเป็นพันธุ์ที่แตกต่างจากพวกงู บวกกับปราณวิเศษที่เบาบางในโลกนี้ พลังอานุภาพของสายฟ้าฟาดจึงอ่อนแออยู่บ้าง มังกรดำจึงสามารถรับมือได้ทั้งหมด!”

เยี่ยเทียนได้ยินแล้วจึงส่ายหน้า พร้อมกับจิตใจที่ผ่อนคลาย เขาสามารถมองเห็นมังกรดำที่ถูกปกคลุมอยู่ท่าม กลางฟ้าแลบ ถึงแม้เกล็ดที่อยู่บนลำตัวจะถูกทำลายจนทะลุหมดแล้ว แต่กายเนื้อขนาดมหึมาก็ได้ดูดซับพลังแห่งฟ้าดินที่อยู่ในสายฟ้าเข้าไปภายในร่างกายจนหมดสิ้น ทำให้ร่างกายกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่น่าอัศจรรย์

เมื่อมองถึงตรงนี้ ในใจของเยี่ยเทียนจึงตระหนักรู้ขึ้นมาทันที

สายฟ้าฟาดไม่ใช่การลงทัณฑ์จากสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการลงโทษผู้ฝึกตนที่คิดว่าตัวเองฝึกวรยุทธแล้วจะสามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของกฎแห่งสวรรค์ได้ และตัวของมันก็เป็นเหมือนจังหวะกับโอกาสขนานใหญ่ ขอเพียงสามารถผ่านไปได้อย่างปลอดภัย ทั่วทั้งตัวก็จะเกิดการลอกคราบใหม่จากการถูกพลังของฟ้าผ่า แล้วเข้าสู่โลกใบใหม่

ก็เหมือนกับมังกรดำที่กำลังรับเคราะห์สายฟ้าฟาดอยู่ในตอนนี้ ร่างกายของมันที่ถูกสายฟ้าช็อตนั้น ได้ทำให้มันยิ่งมั่นคงมากขึ้น เดิมทีลำตัวที่ยาวสามสิบกว่าเมตร เวลานี้เกือบจะยาวถึงห้าสิบเมตรแล้ว และเขาเดียวที่อยู่ตรงหน้าผากก็ปรากฏแสงแวบๆ ของกระแสไฟเช่นกัน แถมยังดูดซับพลังปราณชีวิตแห่งฟ้าดินของสายฟ้าเข้าไปในกายเนื้อได้โดยตรงอีกด้วย

มังกรดำได้รับความเมตตาจากสวรรค์ ได้ฝึกบำเพ็ญตบะอยู่ในจุดหยินหยางที่มหัศจรรย์นี้เป็นเวลานับร้อยปี แถมยังได้รับวิชาการบำเพ็ญตบะของปีศาจ ถึงจะยังไม่ถึงระดับต้าเยา แต่ก็ฝึกถึงระดับเน่ยตันแล้ว การลงทัณฑ์ของสวรรค์ระดับนี้ถือว่าดูถูกมันเกินไปแล้ว

เสียงมังกรคำรามทอดยาวออกมาจากปากของมัน จากนั้นมังกรดำจึงพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า โบกหางที่ใหญ่ยักษ์ของมันกวาดก้อนเมฆจนเกิดความกดอากาศต่ำ ร่างกายขนาดมหึมาผลุบๆ โผล่ๆ อยู่กลางก้อนเมฆสีดำ ราวกับกำลังจะโจมตีสายฟ้าฟาดที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าให้พังทลายลงมา

“เปรี๊ยง!”

หลังจากที่หางของมังกรดำกวาดก้อนเมฆแล้ว จึงเกิดเสียงฟ้าผ่าดังสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วฟ้าดิน ก้อนเมฆที่ดูเหมือนจะตกถึงพื้นราวกับถูกกระตุ้นให้เกิดความพิโรธ พุ่งขึ้นไปข้างบนในทันใด สายฟ้าแลบแปรบปราบ จากนั้นสายฟ้าสิบแปดสายที่หนาเท่ารอบเอวก็ผ่าลงมาติดๆ กัน กระหน่ำลงไปบนตัวของมังกรดำอย่างไม่หยุดยั้ง

“โกรล!”

ถึงแม้มังกรดำจะมีร่างกายแข็งแกร่งราวเหล็กไหล มีเกราะเกล็ดที่ไม่สามารถทำลายได้ แต่เกล็ดเหล่านั้นก็ยังถูกสายฟ้าสิบแปดสายฟาดลงจนแตกสลาย เลือดสีดำเป็นสายพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของมัน มังกรดำร้องคำรามเสียงยาวออกมาจากปากของมันด้วยความเจ็บปวดทรมาน ร่างกายร่วงหล่นลงไปนับสิบเมตร จากนั้นจึงไม่ลองดีเพื่อกำจัดสายฟ้าฟาดอีก

แต่หลังจากฟ้าผ่าสิบแปดสายผ่านไป ความเร็วและความถี่ของเคราะห์สายฟ้าฟาดบนท้องฟ้าก็ช้าลงเป็นอย่างมาก กระแสไฟแต่ละสายที่ผ่ามาบนตัวของมังกรดำ กลับมีเสน่ห์ของมหามรรคแห่งเต๋าที่ยากจะพรรณนาออกมาได้ จากนั้นสายฟ้าก็หลบเข้าไปอยู่ภายในร่างกายของมังกรดำ

แต่ว่าอัสนีสวรรค์ที่เกิดหลังจากนั้นกลับยิ่งทวีความน่ากลัวขึ้น สายฟ้าที่ฟาดลงมาแต่ละสายล้วนแต่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจไปทั่วฟ้าดิน ปกคลุมทั่วทั้งร่างของมังกรดำ ส่งเสียงร้องคำรามที่น่าเวทนาออกมาไม่หยุด เขาเดียวที่เป็นประกายที่อยู่เหนือหัวของมังกรดำนั้นก็มีสีหม่นลง

“นั่นก็คือเต๋า?”

เยี่ยเทียนที่มีวรยุทธเหนือคนอื่นยืนอยู่บนยอดเขาไกลๆ ทำให้เขามองเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในสายฟ้าอย่างชัดเจน ตอนที่ร่างกายของมังกรดำถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้านั้น เขาจับบางอย่างได้ทันที จึงอดส่งสายตาที่แปลกประหลาดออกมาอย่างช่วยไม่ได้

สิ่งที่แฝงอยู่ในการลงทัณฑ์ของสวรรค์นั้นไม่เพียงแฝงไปด้วยการเข่นฆ่าหรือเต๋าไร้รูปเท่านั้น หากแต่มีโอกาสในการรอดชีวิตอยู่เสมอ ขอเพียงสามารถต้านทานไหว นั่นก็จะกลายเป็นพื้นที่ของโลกใบใหม่

ถึงแม้ตอนนี้มังกรดำจะร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดทรมาน แต่โอกาสในการรอดชีวิตกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พลังแห่งเต๋าที่มองไม่เห็นหลบซ่อนเข้าไปอยู่ในร่างกายของมัน ทำให้มันเกิดการพัฒนาของการดำรงชีวิตอยู่ขึ้นไปอีกขั้น และสายฟ้าฟาดมาทำร้ายมันก็ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่า ก็ตามมาด้วยเสียงร้องคำรามด้วยความดีอกดีใจ ก้อนเมฆที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้ากระจายออกในที่สุด แสงดาวสาดส่องลงมา พระจันทร์สุกสกาวส่องไปทั่วพื้นดินโดยทะลุผ่านก้อนเมฆที่ยังกระจายออกไปไม่หมด

ร่างกายของมังกรดำลอยผ่านกลุ่มก้อนเมฆ อ้าปากกลืนก้อนเมฆเข้าไปแล้วก็พ่นออกมา จากนั้นจึงเกิดฝนตกหนักในระยะสิบลี้ขึ้นมากระทันหัน แม้แต่เยี่ยเทียนและคนอื่นๆ ที่อยู่บนยอดเขาก็ยังตัวเปียกไปด้วยน้ำฝนไม่น้อยเช่นกัน

“นี่…คือร่างกายครึ่งหนึ่งของมังกรใช่ไหม?”

เมื่อเห็นอิทธิฤทธิ์ของมังกรดำแล้ว ทุกคนต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง นอกจากเขาเดียวที่อยู่เหนือหัวแล้ว มังกรดำก็ไม่มีความแตกต่างใดๆ จากมังกรที่อยู่ในตำนานเลยสักนิดเดียว โดยเฉพาะความสามารถในการสร้างเมฆและฝน ที่มีเพียงเจ้าสมุทรทั้งสี่ที่อยู่ในตำนานเท่านั้นที่สามารถทำได้

“โกรล…”

เสียงร้องคำรามดังขึ้น มังกรดำปรากฏตัวแวบไปแวบมาอยู่กลางท้องฟ้า บินมายังทิศทางของเยี่ยเทียนและคนอื่นๆ ขณะที่ใกล้จะบินมาอยู่ตรงหน้านั้นเยี่ยเทียนกลับพบว่า เดิมทีเกล็ดที่ดำขลับของมังกรดำ ตอนนี้ได้กลายเป็นสีทองไปหมดแล้ว หลังจากที่มันเข้ามาใกล้ๆ พลังอานุภาพกลุ่มหนึ่งก็ปกคลุมเข้ามาอย่างท่วมท้น เยี่ยเทียนจึงต้องปล่อยปราณแท้ออกมา ถึงได้ปกป้องคนอื่นที่อยู่ข้างกายตัวเองไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ

“นี่มังกรดำ แกช่วยเก็บพลังปราณชีวิตของแกหน่อย”

ถึงแม้มังกรดำจะเลื่อนขั้นสำเร็จ แต่เยี่ยเทียนก็สามารถสัมผัสได้ว่า มันไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อตัวเองเลยสักนิดเดียว ดังนั้นเขาจึงพูดจาเป็นกันเองกับมันเหมือนเคย

เยี่ยเทียนในตอนนี้สามารถสัมผัสได้ถึงพลังปราณที่พลุ่งพล่านราวกับท้องทะเลอยู่ภายในร่างกายของมัน ส่วนขอบเขตพลังของมันนั้น เขาไม่สามารถมองออกได้อีกต่อไป และพลังอานุภาพที่ล้นออกมาจากตัวของมัน ก็ยังทำให้จิตใจของเยี่ยเทียนต้องสั่นสะท้าน เหมือนกับสิงห์ขนทองที่เขาเจอบนเกาะเทวดาเผิงไหลในตอนนั้น

แต่พื้นที่ของโลกก็ยังสู้เกาะเทวดาเผิงไหลที่ถูกผนึกไว้ไม่ได้ และพลังปราณชีวิตที่อัดแน่นและล้นออกมาจากตัวของมังกรดำนั้น ก็ยังทำให้อากาศที่อยู่รอบๆ เกิดระลอกคลื่นออกมาเป็นระยะ รอยแตกแยกเล็กๆ จำนวนนับไม่ถ้วนได้ปรากฏอยู่รอบ ตัวของมัน

“สหาย ฉันต้องไปแล้ว อยู่ที่นี่ถูกกดดันด้วยมหามรรคแห่งเต๋า ถึงแม้จะอาศัยอยู่มานานนับร้อยปี แต่ก็ไม่สามารถพัฒนาไปอีกขั้นได้!”

หลังจากได้ยินคำพูดของเยี่ยเทียนแล้ว มังกรดำจึงเก็บพลังปราณชีวิตเล็กน้อย เพียงแต่หลังจากที่มันเลื่อนขั้นเป็นมังกรน้ำจริงๆ แล้ว พื้นที่ที่อ่อนแอบริเวณนี้ก็ไม่สามารถแบกรับมันได้อีกต่อไป พื้นที่ที่อยู่รอบตัวยังคงไม่เสถียรเช่นเดิม ราวกับว่าสามารถฉีกออกได้ตลอดเวลา

พลังปราณชีวิตต้นกำเนิดที่ล้นออกมาจากพื้นที่เหล่านั้น ทำให้ปราณวิเศษที่อยู่ในโลกนี้เกิดความหนาแน่นขึ้นมาอย่างฉับพลัน โก่วซินเจียและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหลังเยี่ยเทียนจึงเกิดความตื่นเต้นดีใจ อยากจะพุ่งขึ้นไปในพื้นที่ที่อยู่นอกโลกอย่างอดใจไม่ไหว

“แกจะไปที่ไหน?”

เยี่ยเทียนได้ยินแล้วตกตะลึง จึงถามว่า

“แกจะไปเขตแดนแห่งทวยเทพใช่หรือเปล่า? ฉันมีแผนที่อยู่ในมือ สามารถส่งแกไปที่นั่นได้!”

ด้วยวรยุทธของเยี่ยเทียนกับมังกรดำในเวลานี้ จากเทือกเขาฉางไป๋ซานไปเทือกเขาคุนหลุน ใช้เวลาหายใจสั้นๆ เพียงอึดใจเดียวเท่านั้น นอกจากนี้เยี่ยเทียนก็รู้วิธีการเปิดเขตแดน จึงสามารถส่งมังกรดำเข้าไปได้อย่างไม่มีปัญหา

“ครั้งนี้หลังจากที่ข้าเลื่อนขั้นแล้ว ในหัวได้รับวิชาถ่ายทอดมากมาย สถานที่ที่ข้าจะไปเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งการบำเพ็ญตบะของเผ่าปีศาจ ไม่ใช่เขตแดนแห่งทวยเทพเหมือนอย่างที่แกพูด!”

มังกรดำส่ายหน้าแล้วพูดว่า

 “เยี่ยเทียน แกจะไปกับข้าหรือไม่? ตัวข้ามีสายเลือดของมังกรทองห้ากรงเล็บ แม้ว่าจะไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าปีศาจ ก็จะไม่ถูกรังแก สามารถปกป้องความปลอดภัยของพวกแกทุกคนได้ และที่นั่นก็มีเผ่ามนุษย์อาศัยอยู่เช่นกัน!”

หลังจากเลื่อนขั้นเป็นต้าเยาแล้วก็มีระดับเท่ากับจินตันเหมือนพวกมนุษย์ สมองของมังกรดำจึงมีความชัดเจนมากขึ้น มันรู้สึกอาลัยอาวรณ์เพื่อนคนเดียวของมันเป็นอย่างมาก และมันก็รู้ว่า เยี่ยเทียนอยู่ห่างจากระดับจินตันอีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น ถ้าหากเขาสามารถผ่านการลงทัณฑ์สวรรค์ระดับจินตันได้สำเร็จ แม้ว่าจะไปอยู่ในพื้นที่ของเผ่าปีศาจก็ถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งเช่นกัน

“สหาย ฉันก็อยากจะไปเหมือนกัน แต่ฉันยังมีห่วงอยู่!”

เยี่ยเทียนถอนหายใจ หลังจากที่ฝึกจิตอยู่ในโลกมนุษย์มานับสิบปี เยี่ยเทียนก็ยังมองเรื่องการเกิด การตายและการพรากจาก ไม่ทะลุปรุโปร่งเสียที ถึงแม้ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาตัวเองจะไม่ได้ฝึกวรยุทธเลย แต่เขากลับฝึกปรุงยาและตามหายาอายุวัฒนะ เพื่อช่วยยืดอายุขัยของคนในครอบครัว แล้วจะยอมตัดใจไปกับมังกรดำได้อย่างไร?

“พ่อครับ พวกเราจะไปไหนเหรอ? แล้วแม่จะทำยังไงครับ?”

เยี่ยชิวน้อยที่อยู่ข้างๆ ดูเหมือนจะมองอะไรออกแล้ว จึงจับมือของเยี่ยเทียนแน่น เพราะเขาไม่อยากให้สัตว์ประหลาดตัวนี้พรากพ่อไปจากเขา

“พ่อจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”

เยี่ยเทียนลูบศีรษะน้อยๆ ของลูกชายด้วยความรัก จากนั้นจึงหันมามองโก่วซินเจียและคนอื่นๆ แล้วพูดว่า

“ศิษย์พี่ใหญ่ พวกพี่อยากจะไปด้วยกันไหม? ไปกับมังกรดำ เพราะพื้นที่ของที่นั่นเหมาะสมกับการฝึกวรยุทธมากกว่า”

เยี่ยเทียนรู้นานแล้ว ว่าพลังจิตของโก่วซินเจียพัฒนาเร็วมากในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา ถ้าหากไม่ใช่เพราะปราณวิเศษในโลกมนุษย์ที่มีจำกัด เกรงว่าเขาคงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นกลางไปนานแล้ว แต่ทุกคนไม่ยอมจากไปเพื่อรอเขา จึงทำให้เยี่ยเทียนรู้สึกละอายใจอยู่บ้าง

“ไม่เป็นไร การฝึกวรยุทธในโลกมนุษย์อีกร้อยปี ใช่ว่าจะเป็นเรื่องเลวร้ายเสมอไป!”

โก่วซินเจียส่ายหน้า เพราะไม่มีความคิดที่จะจากไป ในเมื่อเขตแดนการฝึกตนของพวกมนุษย์เขายังไม่ยอมเข้าไป นับประสาอะไรกับพื้นที่ของเผ่าปีศาจ มีเพียงตัวเองที่สามารถครอบครองความแข็งแกร่งได้เท่านั้น โก่วซินเจียถึงจะพิ จารณายอมเข้าไปสู่โลกของปลาใหญ่กินปลาเล็กอย่างแท้จริง

เมื่อเห็นศิษย์พี่ใหญ่และคนอื่นๆ ไม่ยอมไปกับมังกรดำ เยี่ยเทียนจึงเงยหน้าแล้วพูดว่า

“มังกรดำ ขอบใจสำหรับความหวังดี การจากกันในวันนี้ พวกเรายังสามารถเจอกันได้อีกในวันหน้า!”

“ก็ได้ เยี่ยเทียน อย่าลืมมาหาข้านะ!”

มังกรดำจ้องมองเยี่ยเทียนด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง ถึงแม้มนุษย์กับปีศาจจะมีเส้นทางที่แตกต่างกัน แต่เยี่ยเทียนกลับเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่มันเชื่อใจ การจากกันในวันนี้ไม่รู้ว่าจะได้พบกันอีกเมื่อไร มังกรดำจึงรู้สึกอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากเช่นกัน หลังจากส่งกระแสจิตเข้าไปในหัวของเยี่ยเทียนแล้ว ร่างกายขนาดใหญ่ของมังกรดำจึงบินไปยังบึงน้ำมังกรดำ

บินอยู่เหนือบึงน้ำมังกรดำที่มันอาศัยนานนับร้อยปีอยู่พักหนึ่ง แล้วมังกรดำก็แหงนหน้าส่งเสียงร้องคำรามออกมา ระลอกคลื่นออกมาจากปากของมันพุ่งขึ้นไปยังขอบฟ้า ในขณะเดียวกัน กรงเล็บส่วนหน้าของร่างกายก็ฉีกไปทางซ้ายและขวา เกิดรอยแยกขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของมังกรดำทันที

พลังปราณชีวิตแห่งฟ้าดินอันบริสุทธิ์ล้นทะลักออกมาจากรอยแยกนั้น เมื่อมองทะลุผ่านรอยแยกเข้าไปก็จะมองเห็นภูเขาสูงและแม่น้ำสายใหญ่รวมทั้งธาตุแท้ของปราณวิเศษของฟ้าดิน เสือและลิงส่งเสียงร้องคำรามอยู่บนภูเขาสูงตระหง่าน เกิดเป็นภาพวาดโบราณภาพหนึ่งปรากฏขึ้นมาทันที

“ลาก่อน สหาย!”

มังกรดำร้องคำรามเสียงยาวออกมาพักหนึ่ง และตอนที่รอยแยกกำลังจะปิดนั้น ร่างกายอันใหญ่ยักษ์ของมันก็เบียดเข้าไป หลังจากเข้าไปในพื้นที่แห่งนั้นแล้ว รอยแยกระหว่างฟ้าดินก็บรรจบเข้าหากัน พื้นที่ที่เกิดความสับสนวุ่นวายพลันสงบนิ่งขึ้นมา

“และแล้วโลกก็ไม่เหมาะสมให้ผู้ฝึกตนดำรงอยู่อีกต่อไปจริงๆ!”

โก่วซินเจียและคนอื่นๆ ต่างก็มองเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า จึงรู้สึกเหม่อลอยอยู่พักหนึ่ง พวกเขามีความรู้สึกบางอย่าง ถ้าหากตัวเองสามารถอยู่ในพื้นแบบนั้นได้ วรยุทธของพวกเขาจะต้องก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดแน่นอน

 ………………………