อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1194 ช่องทางเดิน
ตอนที่เสด็จอาเข้าพบราชินี ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน เพียงรู้ว่าข้างในมีเสียงทะเลาะกันรุนแรงมาก ดูเหมือนจะคุยกันอย่างไม่ราบรื่น
ไม่นานก็มีคนยื่นฎีกาฟ้องเสด็จอา บอกว่าเสด็จอาสมรู้ร่วมคิดกับศัตรู ขายชาติเพื่อความรุ่งโรจน์ ยังคิดอยากแย่งชิงบัลลังก์ หลักฐานเพียบพร้อม
ราชินีมีพระราชโองการยึดทรัพย์ เสด็จอารู้ตัวก่อน พาทหารจวนจำนวนมากกับคนในครอบครัวหลบหนีไป
ระหว่างทางไล่ล่า ลูกน้องยอดฝีมือของเสด็จอากับทหารรักษาพระองค์ต่อสู้กันอย่างดุเดือด คนในจวนอ๋องมีทั้งล้มตาย บาดเจ็บ เหลือเพียงไม่กี่คน
เสด็จอาจึงทิ้งครอบครัว หนีไปคนเดียว จนถึงตอนนี้ก็ยังไร้ร่องรอย
เรื่องนี้เป็นที่รู้กันไปทั่วทั้งแคว้นน้ำแข็ง
คนไม่น้อยต่างพูดถึงเสด็จอากัน คิดไม่ถึงว่าคนดีๆอย่างเขา จะทรยศขายชาติ หวังแย่งชิงบัลลังก์
คนในราชสำนักไม่น้อยเชื่อว่าเสด็จอาไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่ จึงช่วยพูดเข้าข้างเสด็จอา ราชินีโกรธจัด สั่งประหารขุนนางไปไม่น้อย กระทั่งสั่งประหารทั้งตระกูล สั่งประหารสามชั่วโคตร
คนในราชสำนักต่างหวาดผวา ต่อให้รู้ดีแก่ใจว่าเสด็จอาถูกใส่ร้ายป้ายสี แต่ก็ไม่กล้าช่วยพูด เพียงผิดหวังในตัวราชินีอย่างมาก
กู้ชูหน่วนก็ไม่เชื่อสักคำ
ไม่มีเหตุผลที่จะกระทำความผิดบาป
ขอเพียงใครที่มีตา ต่างก็ย่อมรู้ว่าเสด็จอาถูกราชินีใส่ร้าย
ภายในหอกระบี่มียอดฝีมือเฝ้าทั้งในและนอกอย่างแน่นหนา คนที่แอบจับตามองดูนางก็เยอะจนนับไม่ถ้วน
กู้ชูหน่วนต้องใช้พลังความคิดอย่างมาก ค่อยสามารถใช้วิธีแอบลักลอบเบี่ยงเบน หลบหนีจากคนที่คอยแอบจับตามองดูนาง
นางอาศัยทักษะวิชาตัวเบาที่คล่องแคล่วกับภูมิศาสตร์ที่คุ้นเคย อยากแอบเข้าไปในห้องทรงอักษร
ทั่วทั้งพระราชวัง ห้องทรงอักษรเข้ายากที่สุด
แม้แต่พวกสัตว์อสูรของนางก็เข้าไปไม่ได้
ที่นี่มีทหารเฝ้าอยู่อย่างแน่นหนา แม้แต่แมลงวันสักตัวก็เข้าไปไม่ได้
ราชินีใคร่กาม ปกติหากไม่บำเรอคนนี้ ก็บำเรอคนนั้น
ที่น่าแปลกก็คือ หลังจากบำเรอเสร็จแล้ว สถานที่แรกที่นางจะไปทุกครั้งก็คือห้องทรงอักษร บอกว่าในนี้ไม่มีอะไร นางไม่เชื่อเด็ดขาด
มองดูรอบๆ ห้องทรงอักษรมีเวรยามเฝ้าอยู่อย่างหนาแน่น มียอดฝีมืออยู่ประจำทั้งในที่ลับและในที่แจ้ง
ไม่ว่านางจะใช้วิธีไหน ก็ไม่สามารถเข้าไปในห้องทรงอักษร
กู้ชูหน่วนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วย่น
ไม่นานทหารราชองครักษ์ชุดใหม่ก็จะมาลาดตระเวนแล้ว กู้ชูหน่วนผลักเปิดประตูห้องหนึ่งที่ไม่ไกลจากห้องทรงอักษร
ภายในห้องมืดมาก กู้ชูหน่วนไม่ได้คิดที่จะอยู่ในนี้นาน รอทหารราชองครักษ์ผ่านไปแล้วก็ออกมา
แสงจันทร์สาดส่องเข้ามา ส่องหักเหบนม้วนกระดาษภาพบนผนัง
ฝีเท้าที่กำลังจะเดินจากไปของกู้ชูหน่วนหยุดชะงัก จ้องมองดูภาพวาดนั้น
บนภาพนั้น เป็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทานขนมอยู่
มือข้างหนึ่งของผู้หญิงถือขนมดอกไม้ มือหนึ่งชี้ไปที่แจกันด้านขวา
สิ่งที่ทำให้กู้ชูหน่วนอึ้งก็คือขนมดอกไม้ในมือของนาง
ขนมดอกไม้นั่น เหมือนขนมดอกไม้ในแหวนมิติเลย
เดิมก็แค่ภาพวาดภาพหนึ่ง ก็ไม่มีอะไร แต่นางรู้สึกว่าแววตาผู้หญิงในภาพนี้เหมือนมีอะไรบางอย่างผิดปกติ
นางเอื้อมมือไปที่แจกันทางด้านซ้ายที่ผู้หญิงคนนั้นชี้ หมุนเบาๆ
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นางหมุนอีกหลายครั้ง แต่ก็ยังคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กู้ชูหน่วนหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ากำลังคิดอะไรอยู่ ก็แค่ภาพวาดหญิงงามคนหนึ่งเท่านั้นเอง”
นิ้วชี้ของนางหมุนไปที่แจกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นก็เกิดเสียงดังกระหึ่ม
จากนั้น…
ประตูลับบานหนึ่งปรากฏตรงหน้านาง
สายตากู้ชูหน่วนเป็นประกาย “แบบนี้ก็ได้หรือ?”
ภายนอกแจกันดูสะอาดมาก แต่ตรงด้านล่างเต็มไปด้วยฝุ่น ก็ไม่รู้ว่าไม่มีคนมาทำความสะอาดนานแค่ไหนแล้ว และก็ไม่รู้ว่าราชินีรู้ความลับของแจกันนี้ไหม
กู้ชูหน่วนไม่มีความลังเลเลย ตรงเข้าไปในทางลับ แล้วก็ปิดประตูไว้
ข้างในมืดมาก นางจุดไฟตะบันไฟ พบว่าข้างในเป็นช่องทางเดินลึกมาก