บทที่ 2245 อยากรู้ความจริงไหม
“ฉันพูดอะไรน่ะเหรอ” ใบหน้าของซือเซี่ยเต็มไปด้วยความสงสัย “หรือว่า…ฉันยังพูดไม่ชัดเจนพอ ไม่ก็หูของทุกท่านมีปัญหา ฉันบอกว่า…ฉันต้องการครอบครองรัฐอิสระ ส่วนพวกนาย มีทางเลือกแค่สองทาง ยอมสยบ ไม่งั้นก็ตาย เลือกเอาเองเถอะ”
พอได้ยินคำพูดนี้ของซือเซี่ย ทุกคนในเหตุการณ์ต่างก็พากันหัวเราะดังลั่น ผู้นำกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์คนนี้ ถูกประตูหนีบหัวมารึไง มาพูดจาโง่ๆ แบบนี้ที่นี่ พิลึกเกินไปแล้ว!
“นายมีสิทธิ์อะไร” ประมุขสายหลักเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยัน
จากนั้น ซือเซี่ยก็ยังไม่ตอบ เพียงแต่สายตากลับมองไปที่ร่างของอี้สุ่ยหาน “อี้สุ่ยหาน ว่ายังไง มาช่วยฉันไหม”
“นายคิดว่าไงล่ะ” อี้สุ่ยหานย้อนถามซือเซี่ย
“ฉันว่า…”ซือเซี่ยยกมุมปากขึ้นนิดๆ “นายน่าจะยินดีมาช่วยฉันมาก”
ไม่รอให้อี้สุ่ยหานได้อ้าปากพูด จู่ๆ ซือเซี่ยก็ส่ายหน้า และเอ่ยต่อไปว่า “ไม่ต้องรีบตอบฉันหรอก…อี้สุ่ยหาน ฉันรู้เรื่องของนาย…และรู้ความจริงที่นายไม่รู้ด้วย นายคิดจริงๆ เหรอว่าเด็กสาวคนนั้น เป็นคนที่สายรองส่งมาลอบฆ่านาย…”
“นายหมายความว่ายังไง” แววตาของอี้สุ่ยหานวูบไหว
“อยากรู้ความจริงใช่ไหม…ถ้าอย่างนั้น มาช่วยฉันสิ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ฉันจะบอกความจริงกับนาย” ซือเซี่ยเอ่ยยิ้มๆ
อี้สุ่ยหานยังไม่ทันได้เปิดปาก ซือเซี่ยก็พูดต่อแล้ว “ใช่แล้ว หวังว่านายจะให้ค่าคำพูดของฉันนะ นายอาจจะคิดว่าสามารถทรมานฉันเพื่อรีดเอาความจริงได้…ก็ฉันสู้นายไม่ได้จริงๆ นั่นละ แต่ว่าฉันน่ะเป็นคนบ้า ถ้านายไม่ตอบตกลง ความจริงเรื่องนี้ นายจะไม่ได้รับรู้มันไปตลอดกาลนะ ว่าไงล่ะ”
เมื่อซือเซี่ยพูดจบ อี้สุ่ยหานก็ตกอยู่ในความเงียบ
ผ่านไปพักใหญ่ อี้สุ่ยหานถึงได้พยักหน้าตอบรับ “ได้ ถ้าความจริงของนาย แตกต่างไปจากที่ฉันรู้มาอย่างมหาศาล ฉันจะช่วยนาย”
“โอเค อี้สุ่ยหานพูดคำไหนเป็นคำนั้น ฉันไว้ใจนาย” ซือเซี่ยพยักหน้า “นายคิดว่า เด็กสาวในอดีตคนนั้น คิดจะวางยาพิษเอาชีวิตนาย แต่ต่อมาเพราะหลงรักนายเข้า ก็เลยหักใจทำไม่ลง ถึงได้ทำให้แม่นายพลาดท่าไปกินอาหารที่ใส่ยาพิษไว้จริงๆ น่ะเหรอ”
“นายหมายความว่ายังไง” อี้สุ่ยหานถามพลางขมวดคิ้ว
“ฮ่า ความจริงคือ เด็กสาวคนนั้น ไม่เคยรักนายเลย…เธอเป็นคนไร้ความรู้สึก ถูกฝึกฝนให้เป็นทหารพลีชีพตั้งแต่เล็กๆ คนประเภทนี้ จะถูกล้างสมองตั้งแต่เด็ก ไม่มีทางหวั่นไหวตกหลุมรัก ทำตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น…นายรู้ไหม เด็กสาวคนนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับสายรองเลย ทุกอย่างต่างก็เป็นแผนร้ายของสายหลัก”
“แกพูดจาเหลวไหล!”
เจียงอิงตวาดด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว
จากนั้น กลุ่มสายรองกลับเงียบงันลงอย่างน่าแปลกใจ สายรองของพวกเขาไม่เคยทำเรื่องแบบนี้เลย ทว่าอี้สุ่ยหานกลับกัดพวกเขาไม่ปล่อย ตอแยกันอยู่นาน ที่แท้ก็เป็นแผนการของสายหลัก…
“ประมุขเจียงอิง นายอย่าตื่นเต้นไปเลย ให้ฉันค่อยๆ พูดเถอะ” ซือเซี่ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ที่เขาพูดไม่เป็นความจริง ฆ่าเขาซะ!” พอพูดจบ ยอดฝีมือสองสามคนของสายหลักก็ลงมือกับซือเซี่ยทันที
ทว่า อี้สุ่ยหานกลับเข้าไปขวางอยู่ข้างกายซือเซี่ยทันที และบีบให้สองสามคนนั้นถอยร่นไป “ไสหัวไป!”
“น่าสนใจใช่ไหม…ปีนั้น สายหลักค้นพบอี้สุ่ยหาน และถูกทักษะยุทธ์ของอี้สุ่ยหานทำให้ตื่นตระหนก ถ้าได้รับความช่วยเหลือจากอี้สุ่ยหาน เมื่อย้อนกลับมาที่รัฐอิสระอีกครั้ง ก็เหมือนพยัคฆ์ติดปีก…แต่น่าเสียดาย ที่อี้สุ่ยหานกลับไม่เอาด้วย เป็นตายยังไงก็ไม่มาหาสายหลัก…ไม่นาน สายหลักก็คิดแผนการอย่างหนึ่งขึ้น ใช้ยอดทหารพลีชีพหญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งมาใส่ร้ายสายรอง ทหารหญิงคนนั้นทำตามแผนการ แกล้งทำเป็นบังเอิญเจออี้สุ่ยหาน จนตอนนั้น อี้สุ่ยหานเกิดรักแรก ต่อมา อี้สุ่ยหานจึงได้พาทหารหญิงเข้าบ้าน…และหลังจากนั้น ทหารหญิงก็วางยาพิษฆ่าแม่ของเขา”
—————————————————————————————
บทที่ 2246 พวกเราวางเดิมพันให้สูงหน่อย
พอเล่ามาถึงตรงนี้ ซือเซี่ยก็หัวเราะฮึเสียงเย็น “ทหารพลีชีพหญิงร้องไห้ฟูมฟายบอกอี้สุ่ยหานว่า สายรองกลัวอี้สุ่ยหานจะเข้าร่วมกับสายหลัก ด้วยเหตุนี้จึงส่งเธอมาลอบสังหารอี้สุ่ยหาน แต่เธอหลงรักอี้สุ่ยหานเข้าแล้ว ในวินาทีสุดท้าย จึงหักใจทำไม่ลง ถึงเป็นเหตุให้แม่ของอี้สุ่ยหานบังเอิญกินอาหารใส่ยาพิษเข้าไป…”
ซือเซี่ยมองไปที่อี้สุ่ยหาน “รู้ไหม เด็กสาวคนนั้นไม่ได้รักนายเลย เธอไม่มีอารมณ์ความรู้สึก ที่วางยาพิษแม่นาย ก็เพื่อป้ายสีสายรอง นี่เป็นแผนร้ายที่สายหลักวางไว้ตั้งแต่แรกแล้ว”
“พูดจาน่าขำจริงๆ นายพูดแบบนี้ มีหลักฐานอะไร” เจียงอิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“หลักฐานน่ะ แน่นอนว่าต้องมีอยู่แล้ว” จากนั้น ซือเซี่ยก็ดีดนิ้วทีหนึ่ง
วินาทีต่อมา ชายชราสายหลักคนหนึ่งก็ย่างเท้าออกมาจากมุมมืด
“เป็นเขา…” เมื่อเห็นชายชรา เยี่ยหวันหวั่นก็ผงะไปแวบหนึ่ง ตาเฒ่าคนนี้ไม่ใช่เฒ่าเซวียที่ถูกตัวเองยั่วโมโหจนล้มป่วยติดเตียงหรอกเหรอ มองจากท่าทางแล้ว ตอนนี้สุขภาพก็ยังโอเคอยู่นี่
เยี่ยหวันหวั่นไม่คิดเลยว่า ซือเซี่ยคนนี้ แม้แต่ผู้เฒ่าเซวียของสายหลักก็ยังซื้อตัวมาได้…
“ฉันเป็นพยานให้ได้ ที่ผู้นำสหพันธ์พูดมาเป็นความจริงแน่นอน เรื่องนี้ ทหารพลีชีพคนนั้นถูกสายหลักชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก ผ่านการฝึกฝนมานานหลายปี…แน่นอนว่าในตอนนั้นฉันเองก็ไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะไม่ว่ายังไงอี้สุ่ยหานกับแม่ของเขาก็เป็นคนของสายหลัก แต่ว่า…สมาชิกระดับสูงส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจการคัดค้านของฉัน…” ผู้เฒ่าเซวียถอนหายใจ
“แก…” เจียงอิงจ้องผู้เฒ่าเซวียด้วยความโกรธ
“ประมุข ขอโทษด้วย…ลูกสาวกับลูกเขยผม…อยู่ในกำมือของผู้นำสหพันธ์ ผมทำได้แค่พูดไปตามความจริง” ผู้เฒ่าเซวียส่ายหน้า
เยี่ยหวันหวั่นฟังแล้วใช้ความคิด มิน่าล่ะสมาชิกระดับสูงของสายหลักที่มีอำนาจมากมายอย่างผู้เฒ่าเซวียถึงได้อยู่ฝ่ายซือเซี่ย ที่แท้ก็เป็นเพราะซือเซี่ยเอาชีวิตลูกสาวและลูกเขยของเขามาข่มขู่
“เป็นพวกแก”
ทันใดนั้น อี้สุ่ยหานก็พินิจมองพวกสายหลัก ด้วยใบหน้ามืดครึ้มราวกับจะมีน้ำหยดออกมา
“ฮ่า…อย่ารีบร้อนไป ถ้าอยากล้างแค้นก็รอหน่อยเถอะ ยังมีโอกาสอยู่” ซือเซี่ยเอ่ยกับอี้สุ่ยหาน
“ฉันบอกไปก่อนหน้านี้แล้ว รอให้เรื่องของพวกเขาสะสางจบแล้ว ฉันถึงจะลงมือ” อี้สุ่ยหานตอบ
เวลานี้ สมาชิกในตระกูลซือเก่าแก่ทุกคน กำลังมองประเมินซือเซี่ยแล้ว
ประมุขตระกูลซือมุ่นหัวคิ้วนิดๆ ไม่คิดเลยว่า ลูกชายของซืออู๋เทียนในปีนั้น จะโตมาเป็นยอดคนแบบนี้ ถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นแบบนี้ ปีนั้นควรจะรับซือเซี่ยเข้าตระกูลซือถึงจะถูก
“ว่ายังไงล่ะ คืนความบริสุทธ์ให้สายรองของพวกนายแล้ว รู้ซึ้งถึงฐานะของผู้นำกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์อย่างฉันคนนี้รึยัง” ซือเซี่ยมองตระกูลเก่าแก่สายรองพลางเอ่ยยิ้มๆ
ไม่มีใครตอบซือเซี่ย เพราะว่าไม่มีใครรู้ที่แท้เขามีเป้าหมายอะไรกันแน่
ไม่นาน สายตาของซือเซี่ยก็ค่อยๆ เคลื่อนไปที่ร่างของเนี่ยอู๋หมิง
ไม่ให้โอกาสซือเซี่ยได้พูดอะไร เยี่ยหวันหวั่นก็เปล่งเสียงเยียบเย็นออกมา “ซือเซี่ย นายคิดจะทำอะไร”
ซือเซี่ยส่ายหน้า “ไม่ต้องร้อนใจไป ฉันแค่อยากจะพูดบางอย่างกับเขา”
“โอ้…งั้นนายก็ว่ามาสิ” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ย
“พี่อู๋หมิง ว่ายังไงล่ะ สนใจมาช่วยฉันไหม” ซือเซี่ยถาม
“ไม่สู้เอาแบบนี้ นายมาช่วยฉันดีกว่า สนใจไหมล่ะ” เนี่ยอู๋หมิงยกมุมปากขึ้นนิดๆ
“อย่ารีบร้อนสิ…พวกเรามาพนันกันไหม ฉันขอพนันว่า นายจะมาช่วยฉันแน่นอน ว่ายังไง” ซือเซี่ยเอ่ย
“ของเดิมพันคืออะไร ในเมื่อเป็นการพนัน งั้นก็ต้องวางเดิมพันให้สูงหน่อยนะ นายคิดว่าไงล่ะ” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยยิ้มๆ
“ได้สิ ในเมื่อเป็นการพนัน งั้นพวกเราก็วางเดิมพันให้สูงหน่อยเถอะ…ให้ฉันคิดก่อนนะว่าจะเอาอะไรมาเดิมพันกับนาย…” ซือเซี่ยทำท่าครุ่นคิด “แบบนี้เป็นไง เดิมพันด้วยชีวิตของหลิงเหมี่ยว เอาไหม?!”
—————————————————————————————