ขุนเขาเขียวชอุ่มแม่น้ำใสสะอาดตาพร้อมกลิ่นหอมไม้ดอกและเสียงนกสัตว์ร้อง
เวลานี้เรือน้อยอันเดียวดายมันกำลังไหลล่องไปตามแม่น้ำท่ามกลางภูเขา
คนทั้งหลายยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือมองดูชมวิวทิวทัศน์สวยงามสองข้างทางพร้อมกล่าวชมอย่างไม่ขาดปาก
“นายน้อย ที่แห่งนี้มันสวยงามจริง ๆ! หากเราได้มาอยู่ที่นี่กับพวกพี่ลี่เอ๋อทั้งหลายแล้วมันคงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย!”
เมื่อได้เห็นทิวทัศน์เหนือโลกนี้ลู่เอ่อจึงรู้สึกชื่นชมมันอย่างสุดหัวใจ
ส่วนพวกกู้หงทั้งหลายนั้นต่างก็แสดงสีหน้าชื่นชมในอีกรูปแบบออกมา
เมืองบูรพาโลกเสมือนนั้นมันเป็นสิ่งที่สุดแสนลึกลับมีคนในมหาพิภพถงเทียนแค่ไม่กี่คนที่จะรู้จักมัน
เขาเองก็ไม่นึกไม่ฝันว่าวันหนึ่งจะได้เดินทางไปยังที่แห่งนั้น
ทุกอย่างนี้มันล้วนเป็นเพราะบารมีของอาจารย์!
เย่หยวนยิ้มออกมา “สวยก็สวยหรอก แต่มันกลับแฝงจิตสังหารไว้หนักหน่วงนัก! มีหรือที่มันจะมีสรวงสวรรค์เช่นนี้เกิดขึ้นในโลกหล้าได้จริง ๆ?”
ลู่เอ๋อที่ได้ยินต้องอ้าปากค้าง “แฝงจิตสังหาร? ทำไมข้าไม่เห็นจะรู้สึกถึงมันเลยเล่า?”
ตอนนี้มันมิใช่แค่ลู่เอ๋อแต่แม้เทพสวรรค์อย่างกู้หงเองก็ยังไม่อาจสัมผัสได้ถึงอันตรายใด ๆ
เย่หยวนตอบกลับมา “ด้วยพลังของเผ่ามังกรแล้วมีหรือที่ค่ายกลกับดักใด ๆ มันจะถูกมองออกได้ง่ายดายปานนั้น? สองฝั่งน้ำนี้มันเปี่ยมไปด้วยชีวิตและพลังงาน ส่วนเกินกว่าที่จะมีอยู่จริงได้หากแค่มองมันอาจจะดูสมบูรณ์แต่หากมันเกิดเรื่องราวที่ไม่เป็นไปตามกฎขึ้นแล้วที่แห่งนี้มันก็จะปลดปล่อยพลังที่แฝงออกมาจนสิ้น ยิ่งสวยงามมันจะยิ่งอันตรายรอบ ๆ พื้นที่นี้มันต่างมีพลังปิดกั้นรุนแรงแฝงอยู่สิ้น ข้าเกรงว่าแม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เองก็ตาม แต่หากโดนพลังนี้เข้าพวกเขาก็คงไม่อาจจะรอดกลับออกไปได้แน่”
เมื่อทุกผู้คนได้ยินพวกเขาก็ต้องขนลุกชันทั้งกาย
พื้นที่โดยรอบนี้มันสุดแสนสวยงาม แต่สวยงามจนเกินกว่าที่จะสัมผัสได้ถึงอันตรายใด ๆ
ที่ด้านข้างหลงฉือต้องหันมามองเย่หยวนอย่างตกตะลึง “สมแล้วจริง ๆ ที่ได้ชื่อรองมหาปราชญ์ ท่านมองทุกสิ่งอย่างออกได้ในคราเดียวจริง ๆ ดูท่าท่านรองมหาปราชญ์คงก้าวไปถึงแก่นของยอดเต๋าแล้ว”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “แค่เดาสุ่ม ๆ น่ะ แต่เย่ผู้นี้เองก็ตกใจเหมือนกันนะที่ผู้อาวุโสหลงฉือท่านยอมให้ข้ามายังเผ่ามังกรด้วย”
แม้ว่าตัวหลงฉือนั้นจะกังวลอยู่มากแต่สุดท้ายเขาก็ยอมรับพาเย่หยวนมา
หลังจากพักกันอยู่ในอาณาจักรวิญญาณประจิมอีกหลายวันพวกเขาก็ได้นำพากลุ่มเย่หยวนออกเดินทางมายังเมืองบูรพาโลกเสมือน
หลงฉือได้แต่ยิ้ม “ให้พูดตรง ๆ ข้าเองก็สงสัยเรื่องของท่านรองมหาปราชญ์เช่นกัน”
หลงเสี่ยวฉุนรีบลุกขึ้นร้องบอก “ใช่ ๆ เจ้านี่มันเป็นคนลึกลับจริง ๆ มีแต่ความน่าสงสัยตั้งแต่หัวจรดเท้า!”
เย่หยวนที่ได้ยินก็หัวเราะตอบกลับไป “เจ้าต่างหากเล่าที่เป็นสาวน้อยลึกลับ!”
พูดไปก็หัวเราะกันไปจนในที่สุดผู้คนทั้งหลายก็รู้สึกเหมือนตนเองเพิ่งจะพุ่งตัวผ่านม่านพลังอะไรสักอย่างมา
นั่นทำให้พวกเขาทั้งหลายเข้าใจทันทีว่าจากนี้ไปมันคงเป็นเขตแดนของเมืองบูรพาโลกเสมือนแล้ว
วิวทิวทัศน์เบื้องหน้ามันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังเป็นเขาเขียวชอุ่มและน้ำใส ๆ พร้อมด้วยกลิ่นหอมของไม้ดอก
แต่ในเวลานี้สายเลือดมังกรในกายเย่หยวนมันกลับร่ำร้องออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจ ราวกับว่ามันกำลังจะเดือดขึ้นมา
คลื่นพลังสายเลือดมังกรอันบริสุทธิ์จากกายของเย่หยวนนี้มันทำให้แม้แต่หลงฉือยังต้องเหลือบตามอง
แน่นอนว่าคลื่นพลังในระดับนี้มันย่อมจะไม่ทำให้เขาตื่นตกใจใด ๆ เพียงแค่ว่าความบริสุทธิ์ของคลื่นพลังนี้มันกลับเหนือล้ำกว่าที่เขาคาดคิดไปมาก
หลงฉือได้แต่ตั้งคำถามในใจว่าบรรพบุรุษของเจ้าหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงได้มีพลังสายเลือดที่บริสุทธิ์นัก?
เขานั้นไม่รู้ว่าเดิมทีสายเลือดของเย่หยวนมันก็บริสุทธิ์มากมายอยู่แล้ว
ตอนนี้เมื่อได้ผ่านทุกขจุติของระดับหกและมีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับหกมาครอบครองมันจะยิ่งทำให้คลื่นพลังสายเลือดนั้นดูบริสุทธิ์หนักแน่นไปกว่าเก่า
แน่นอนว่าเรื่องนั้นมันไม่ได้ทำให้เส้นทางในวันหน้าของเขาง่ายขึ้นแต่อย่างใด
กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดที่รอเย่หยวนอยู่นั้นมันคงเป็นห้วงความเป็นความตายของเย่หยวนแน่!
“นี่มันเหมือนได้กลับมาบ้าน! หรือว่าต้นตระกูลข้าจะมาจากที่นี่จริง ๆ?” เย่หยวนเงยหน้าขึ้นมองบนฟ้าครามพร้อมกล่าวออกมาอย่างครุ่นคิด
ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางในดินแดนศักดิ์สิทธิ์มา เย่หยวนก็ได้ออกเดินทางไปทั่วทุกมุมโลก
แต่ในวันนี้เขากลับรู้สึกเหมือนได้กลับมายังบ้านเก่า มันเป็นอารมณ์ที่ยากจะอธิบายได้
“เสี่ยวฉุน เสี่ยวไห่ พวกเจ้านำรองมหาปราชญ์ไปยังที่พักก่อนเลย ข้าจะไปรายงานเรื่องราวกับทางเผ่าก่อน” หลงฉือบอก
หลงเสี่ยวฉุนยกมือขึ้นมาโบกไล่ทันที “ไปเถอะ ๆ! ให้ข้าจัดการต่อเอง!”
หลงฉือนั้นพยักหน้ารับก่อนจะก้าวเท้าส่งร่างจางหายไปกับอากาศทันที
ไม่รู้ว่าผ่านไปอีกนานเท่าใด แต่ในที่สุดคนทั้งหลายก็มาถึงฝั่ง
คนทั้งหลายกระโดดเก้าลงจากเรือเหยียบเท้าลงเดินทางบนแผ่นดินต่อ
หลายวันจากนั้นพวกเขาทั้งหลายก็ได้เดินมาจนถึงปราการใหญ่ที่ปรากฏต่อสายตาของพวกเขา
หลังจากก้าวผ่านกำแพงปราการนั้นมาเย่หยวนก็ได้หันหน้ามองดูภาพตรงหน้าอย่างตื่นเต้น
ภายในปราการที่มั่นนี้มันมีทั้งชายทั้งหญิง ทั้งแก่ทั้งหนุ่ม
การปรากฏตัวของพวกเย่หยวนนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องหันมามอง
แต่เย่หยวนกลับได้เห็นสีหน้าของคนทั้งหลายนั้นว่ามันดูแปลกจนผิดปกติ ภายในดวงตานั้นมันแฝงไปด้วยความหวาดกลัว และพยายามหลบเลี่ยงพวกเขาราวกับเป็นตัวเชื้อโรค
“เมืองบูรพาโลกเสมือนนั้นมีเก้าปราการสวรรค์ แปดสิบเอ็ดปราการปฐพีพร้อมปราการนิลและปราการทองอีกมากมายนับไม่ถ้วน ปราการมังกรพิรุณเรานี่เป็นหนึ่งในแปดสิบเอ็ดปราการปฐพี! ส่วนลุงฉือเป็นผู้อาวุโสพิทักษ์ปราการมังกรพิรุณ…”
หลงเสี่ยวฉุนเริ่มเล่าเรื่องราวการปกครองและชีวิตคนในเมืองบูรพาโลกเสมือนออกมาให้เย่หยวนฟังอย่างตื่นเต้น
ตามที่หลงเสี่ยวฉุนว่ามานั้นเก้าปราการสวรรค์นั้นจะเป็นเขตของผู้ปกครองเมืองบูรพาโลกเสมือนอย่างแท้จริง มีเพียงแค่มังกรสายเลือดชั้นสูงเท่านั้นที่จะเข้าไปยังปราการสวรรค์ได้
ที่แห่งนั้นมันคือแก่นกำลังของเผ่ามังกรอย่างแท้จริง มียอดฝีมือมากมายอย่างนับไม่ถ้วน
แต่แม้จะเป็นแค่เหล่าแปดสิบเอ็ดปราการปฐพีนี้มันก็เทียบเคียงได้กับวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ของโลกภายนอกแล้ว
เพราะแต่ละปราการปฐพีนั้นมันจะมีจักรพรรดิเทพสวรรค์อยู่ดูแลเสมอ!
เมื่อได้เห็นเช่นนั้นเย่หยวนและพวกต่างก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตื่นตะลึงออกมา
เผ่ามังกรนี้สมชื่อว่าเป็นสุดยอดเผ่าโบราณ มีกำลังมากมายมหาศาลอย่างที่ไม่อาจคาดคิดได้จริง ๆ
“เสี่ยวฉุน ทำไมข้าถึงรู้สึกเหมือนว่าคนทั้งหลายกำลังกลัวเราเล่า?” เย่หยวนถาม
หลงเสี่ยวฉุนหัวเราะขึ้น “เป็นไปได้อย่างไร? ไม่ต้องไปสนใจพวกนั้นหรอก มาเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปที่พักเอง”
ที่ด้านข้างทางหลงเสี่ยวไห่นั้นทำหน้าเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ต้องกลืนคำพูดนั้นลงไป
เพียงแค่ว่าเรื่องนั้นมันจะหลุดรอดจากสายตาเย่หยวนไปได้หรือ?
แต่หากอีกฝ่ายไม่คิดพูดบอก เย่หยวนเองก็ไม่กล้าจะเสียมารยาทไปถามย้ำ เขาจึงได้แต่ต้องปล่อยมันผ่านไป
หลงเสี่ยวฉุนพาเย่หยวนมายังบ้านหินหลังหนึ่งที่ดูใหญ่ไม่น้อยและบอกให้เขาพักที่นี่
“พี่เย่ ท่านอยู่ที่นี่ก่อนเถอะ วันพรุ่งนี้ข้าจะพาท่านไปเดินเล่นรอบ ๆ ปราการมังกรพิรุณ” หลงเสี่ยวไห่ยกมือขึ้นคารวะพร้อมบอก
เย่หยวนพยักหน้าออกมา “เช่นนั้นคงต้องลำบากท่านแล้ว!”
หลังจากหลงเสี่ยวไห่จากไป เย่หยวนก็เข้าเก็บตัวในทันทีตลอดคืน
เช้าวันต่อมาเย่หยวนเดินออกมาหน้าบ้านและคิดจะไปเดินเล่นรอบ ๆ เสียหน่อยก่อนจะพบว่ามีกลุ่มคนไม่ไกลไปนักกำลังร้องโวยวายกันอยู่
เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ เย่หยวนก็ต้องรู้สึกเดือดดาลขึ้นทันที
เพราะเวลานี้มันมีชายหนุ่มเผ่ามังกรสามคนกำลังรุมล้อมตัวลู่เอ๋อและหยางเฟยเอ๋อไว้ ดูจากสีหน้าของทั้งสองแล้วมันคงมิใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
“ฮ่า ๆ ๆ นางมนุษย์ นายน้อยผู้นี้ไม่เคยจะลิ้มรสมนุษย์เลย! มากับข้าหลงห่าวผู้นี้ แล้วข้าจะมอบชีวิตแสนสุขให้เจ้าทุกวี่วันตลอดกาล!” ชายหนุ่มคนตรงกลางเดินเข้าไปใช้มือช้อนคางของหยางเฟยเอ๋อขึ้น
ในเวลานี้สภาพของหยางเฟยเอ๋อและลู่เอ๋อนั้นดูอ่อนล้าไม่มีแรงจะขัดขืนใด ๆ
มังกรหนุ่มทั้งสามนั้นมีพลังแข็งแกร่งไม่น้อย ดูจากคลื่นพลังที่ปล่อยออกมาแล้วมันคงอยู่ในระดับหกขั้นสุด
แม้ว่าหยางเฟยเอ๋อเองก็จะเป็นเทพถ่องแท้เก้าดาว นับเทียบกับระดับหกขั้นสุดได้แต่ตัวนางก็เป็นแค่มนุษย์ ย่อมจะไม่อาจไปเทียบพลังกับเผ่ามังกรได้
ส่วนทางลู่เอ๋อนั้นยิ่งไปกันใหญ่ แม้นางจะมากพรสวรรค์แต่นางก็ยังอ่อนแออยู่มาก
เวลานี้หยางเฟยเอ๋อและลู่เอ๋อนั้นมีเสื้อผ้าดูยับยู่ยี่ ดูท่าคงผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดมาแล้วเป็นแน่
เมื่อเย่หยวนเห็นเรื่องราวแน่นอนว่าตัวเขานั้นต้องเดือดพล่านไปทั้งกาย
“หยุด!” เย่หยวนตะโกนบอกก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหาคนทั้งหลายนั้น
เมื่อหลงห่าวเห็นหน้าของเย่หยวน หลงห่าวก็ร้องทักขึ้น “ว่าไง นี่มันเจ้ามนุษย์ที่มากับดาวหายนะมิใช่หรือ? ทำไมเล่า? สองนางนี้เป็นหญิงของเจ้าหรือ? แต่จากวันนี้ไปมันจะกลายเป็นหญิงของข้าแล้ว!”
……………….