ตอนที่ 2332

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,332 : คิดหนี?

 

ต้วนหลิงเทียนแข็งแกร่งทรงพลังเพียงใด ตอนนี้พวกมันตระหนักได้ชัดเจน

 

กระทั่งอาจารย์ของประมุขเผ่าตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์อย่าง อาวุโสเลี่ยว ยังตกตายในพริบตา

 

กับจ้าววังเซียนสัญจรอย่างอวี่เหวินฮ่าวเฉิน คิดรอดพ้นชะตาตายตกนั้นยากเย็นนัก!

 

และหลังจากอวี่เหวินฮ่าวเฉินตกตายไปแล้ว ไม่ว่าต้วนหลิงเทียนจะลงมือกับพวกมันหรือไม่ ก็กลายเป็นดั่ง ‘ผีในใจ’ พาลให้ผู้คนในที่นี้ล้วนหวั่นวิตกนัก!

 

แต่ในขณะที่ทุกคนคิดว่าต้วนหลิงเทียนต้องลงมือฆ่าอวี่เหวินฮ่าวเฉินอย่างอำมหิตนั้น

 

เสียงของต้วนหลิงเทียนพลันดังขึ้นอย่างประจวบเหมาะ น้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความเฉยเมย

 

“อวี่เหวินฮ่าวเฉิน ข้ามีสองทางให้เจ้าเลือกเดิน…หนึ่งคือกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า ว่าจะปฏิบัติต่อข้าเหมือนเจ้านายและเคารพเชื่อฟังคำของข้าแต่โดยดี ส่วนทางที่สอง…ตาย!”

 

ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าววาจาประโยคนี้ออกมาทำให้ทุกคนโดยรอบต่างสับสนงุนงงทันที

 

ฟังจากที่ต้วนหลิงเทียนกล่าว

 

คิดเหลือทางรอดให้อวี่เหวินฮ่าวเฉินจริงๆหรือ?

 

“ขอบคุณเจ้า…”

 

แทบจะทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ หวงเหวินจิ้งก็เร่งกล่าวออกมาด้วยความโล่งอก ขอบคุณต้วนหลิงเทียนทันที

 

เพราะนางรู้ดี

 

นี่คือความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ต้วนหลิงเทียนจะให้นางได้…

 

ถึงแม้ว่าการที่ให้อาจารย์ของนางยึดถือเป็นเจ้านาย จะเป็นการดูถูกไปหน่อย

 

แต่พอนึกถึงพลังความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน และความสามารถอันลึกล้ำสุดหยั่งถึง กระทั่งสามารถยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณให้ผู้คนได้ นางก็รู้สึกว่า…

 

ต้วนหลิงเทียนผู้นี้มีคุณสมบัติมากเกินพอที่จะเป็นนายท่านของอาจารย์นาง!

 

“ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก…ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เจ้ารับปากจะช่วยดูแลคนของข้าก่อนหน้า จนทำให้ข้าติดค้างเจ้าเลย การปล่อยให้อาจารย์ของเจ้ารับข้าเป็นเจ้านาย ทำให้ข้าได้ประโยชน์กว่าการฆ่ามันเยอะนัก!”

 

ได้ยินคำขอบคุณของหวงเหวินจิ้ง ต้วนหลิงเทียนก็ตอบกลับไปอย่างเฉยเมย

 

ขณะพูดคำนี้ไปทีท่าเขาแลดูสบายๆ ดั่งสายลมเคลื่อนคล้อยเมฆลอยเอื่อย ราวกับพูดถึงเรื่องไม่สำคัญ

 

และอันที่จริงเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับเขาเท่าไหร่

 

กลับกันมันก็เป็นความจริง…

 

การไม่ฆ่าอวี่เหวินฮ่าวเฉินและปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นข้ารับใช้นั้น ด้วยพลังฝีมือของมันย่อมมีประโยชน์กว่าฆ่าให้ตายเยอะ!

 

จะว่าอย่างไรอวี่เหวินฮ่าวเฉินผู้นี้ก็เป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะ หากอีกฝ่ายสาบานจะติดตามรับใช้เขา ย่อมมีส่วนช่วยเขาในเรื่องยิบย่อยมากมาย กระทั่งเขายังกลายเป็นผู้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งวังเซียนสัญจรทันที!

 

โอ!

 

ได้ยินคำขอบคุณของหวงเหวินจิ้ง และคำที่ต้วนหลิงเทียนตอบกลับมา ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้แก่ทุกผู้คนในที่เกิดเหตุ

 

“ข้าก็ว่าแล้ว…ไฉนต้วนหลิงเทียนถึงมีเมตตาปล่อยแม่นางเหวินจิ้งทั้งให้ทางรอดแก่จ้าววังอวี่เหวินแบบนี้! ที่แท้เพราะต้วนหลิงเทียนเคยติดค้างแม่นางเหวินจิ้ง!”

 

“โชคดีที่แม่นางเหวินจิ้งสละผลประโยชน์ส่วนตัวและเลือกใช้หนี้บุญคุณช่วยเหลือ…ไม่งั้นจ้าววังอวี่เหวินไม่รอดพ้นมือต้วนหลิงเทียนแน่”

 

“อย่างไรก็ตามทางรอดสายนี้นับว่าหมิ่นเกียรติและศักดิ์ศรีของจ้าววังอวี่เหวินนัก…คิดให้จ้าววังอวี่เหวินสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้ายอมรับเป็นเจ้านาย! ยอดฝีมือฆ่าได้หยามไม่ได้!!”

 

“เหอะๆ…แล้วเจ้าไม่คิดบ้างหรือ ตอนนี้หากต้วนหลิงเทียนคิดฆ่าจ้าววังอวี่เหวินย่อมง่ายดายประหนึ่งเชือดคอไก่ การหลงเหลือหนทางรอดให้รับใช้แบบนี้นับว่ามีเมตตามากแล้ว!”

 

“หากเป็นข้า…ข้ายินดีอยู่อย่างอับอายทั้งยังมีลมหายใจ ดีกว่าตายไปกับศักดิ์ศรีไร้สาระแล้วมิเหลืออะไร!”

 

……

 

หลายคนเริ่มถกกันถึงประเด็นนี้ บ้างก็รู้สึกว่าทางเลือกของต้วนหลิงเทียนนั้นมันมากเกินไป บ้างก็คิดว่าทางเลือกที่ต้วนหลิงเทียนมอบให้นั้นสมควรแล้ว

 

“ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง…”

 

ห่างออกไปไกลๆ ก่านหรูเยี่ยนที่ตระหนักเรื่องราวได้ทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะโล่งใจไปเปราะหนึ่ง

 

ตอนแรกพอเห็นต้วนหลิงเทียนคิดเหลือทางรอดให้จ้าววังอวี่เหวิน นางคิดว่าเพราะต้วนหลิงเทียนหลงใหลในรูปโฉมอันงดงามของศิษย์ปิดสำนักจ้าววังอวี่เหวินนี่เสียอีก ถึงได้คิดละเว้นชีวิตอาจารย์เพื่อเอาใจอีกฝ่าย

 

แต่พอได้ฟังคำของต้วนหลิงเทียน ก็ทำให้นางตระหนักได้ว่านางมองต้วนหลิงเทียนผิดไป

 

ที่แท้หวงเหวินจิ้งผู้นี้ ได้รับปากต้วนหลิงเทียนเอาไว้

 

ว่านางจะดูแลคนของเขา หลังจากที่เขาตาย!

 

คนของต้วนหลิงเทียนหมายถึงใคร ไหนเลยนางจะไม่รู้…ก็ไม่ใช่นาง หลานสาวของนางอย่างซือหลิงและน้องสาวอย่างเค่อเอ๋อหรือไร!

 

ต่างจากก่านหรูเยี่ยนนัก สีหน้าเค่อเอ๋อไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อยตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะนางสนับสนุนและอยู่ข้างต้วนหลิงเทียนอย่างไร้เงื่อนไข

 

‘รับมันเป็นเจ้านายหรือ?’

 

ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน อวี่เหวินฮ่าวเฉิน ก็ประหลาดใจไม่น้อยเรื่องที่ศิษย์ของตัวไปมีรับปากอะไรกับอีกฝ่ายไว้แบบนี้ แต่มันก็ตระหนักได้ว่าที่ต้วนหลิงเทียนเหลือทางรอดไว้ให้มันล้วนเป็นเพราะศิษย์คนนี้ล้วนๆ

 

ทว่าเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนบอกให้มันสาบานรับเป็นเจ้านายนั้น ทำให้มันตัดสินใจไม่ได้อยู่ครู่หนึ่ง

 

จะอย่างไรมันเองก็เป็นถึงจ้าววังเซียนสัญจร 1 ใน 9ยอดฝีมือระดับแนวหน้าของ 3 วัง 6 ตำหนัก โดยเฉพาะตอนนี้มันเสมือนมีฐานะเป็นผู้นำสูงสุดเพราะพลังฝึกปรือบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้ว…

 

การให้มันยอมรับมนุษย์เป็นเจ้านาย ทำให้มันไม่อาจตัดสินใจได้ทันที

 

‘ยอมรับมันเป็นเจ้านาย…หรือตาย’

 

อย่างไรก็ตามด้วยมีแค่สองทางเลือกดังกล่าว ทำให้อวี่เหวินฮ่าวเฉินอดไม่ได้ที่จะคิดหนัก

 

“ข้าจะให้เวลาเจ้าอีก 3 ลมหายใจ…หากผ่านครบ 3 ลมหายใจเจ้ายังเลือกไม่ได้ ข้าจะฆ่าเจ้า…”

 

พอเห็นความลังเลของอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ต้วนหลิงเทียนก็ชักหน้ามุ่ย ด้วยคร้านจะเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องให้มาก เร่งกล่าวเร่งรัดออกมาตรงๆ น้ำเสียงยังเด็ดขาดนัก

 

“ท่านอาจารย์…”

 

หวงเหวินจิ้งเองก็หวาดกลัวว่าอาจารย์ของนางจะเลือกยอมตายดีกวว่ายอมจำนนน ทำให้สีหน้าของนางเปลี่ยนไปไม่สู้ดี

 

ด้วยมีคำขาดของต้วนหลิงเทียน ทำให้บรรยากาศกลับกลายเป็นเคร่งเครียดคลุ้งกลิ่นดินปืนอีกครั้ง ราวกับฉากนองเลือดจะอุบัติขึ้นได้ทุกเวลา!

 

ทุกสายตาพากันจับจ้องไปยังร่างอวี่เหวินฮ่าวเฉิน

 

ในสายตาทั้งหลาย มีทั้งเข้าใจ มีบ้างสงสัย…ยังมีบ้างที่อยากรู้

 

หากแต่ทั้งหมดได้แต่มองถาม ไม่กล้ากล่าวใดแม้ครึ่งคำ

 

และหลังทุกสายตาจับจ้องมองอวี่เหวินฮ่าวเฉินได้ไม่นาน

 

“ข้าอวี่เหวินนฮ่าวเฉิน…”

 

ภายใต้สายตาทุกคน อวี่เหวินฮ่าวเฉินในที่สุดก็กัดฟันตัดสินใจได้ มันเริ่มกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าออกมา และยอมรับต้วนหลิงเทียนเป็นเจ้านาย ไม่คิดคดทรยศต่อต้วนหลิงเทียน

 

ในที่สุดจ้าววังเซียนสัญจรของเผ่าปีศาจมนุษย์ก็ยอมสยบแต่โดยดี…

 

สำหรับการยอมจำนนของมัน ไม่มีใครในที่นี้คิดดูถูก เพราะทั้งหมดดีว่านี่เป็นเรื่องปกติ

 

“เฮ่อ…”

 

เมื่อเห็นอวี่เหวินฮ่าวเฉินยอมสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้ารับต้วนหลิงเทียนเป็นเจ้านาย ไม่เพียงแต่หวงเหวินจิ้งจะโล่งอก แต่ยังรวมถึงคนของวังเซียนสัญจรคนอื่นอีกด้วย ต่างพากันระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเป็นแถว

 

หวงเหวินจิ้งระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเพราะนางรู้ว่าอาจารย์ของนางรอดตายแล้ว

 

ส่วนคนอื่นๆในวังเซียนสัญจรที่ถอนหายใจออกมาดังเฮือกด้วยโล่งอกนั้น เพราะพวกมันเข้าใจได้ไม่ยาก ว่าถ้าต้วนหลิงเทียนละเว้นจ้าววังของพวกมัน ต้วนหลิงเทียนก็คงไม่คิดทำอะไรตัวเล็กตัวน้อยอย่างพวกมันแน่นอน

 

หลังอวี่เหวินฮ่าวเฉินกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าจบ สายตาต้วนหลิงเทียนก็ละออกจากร่างมันก่อนที่จะกวาดมองไปยังเหล่าชนชั้นผู้นำของ 2วัง 6 ตำหนักโดยรอบ

 

และทันทีที่สายตาต้วนหลิงเทียนกวาดมองไปยังร่างเหล่าชนชั้นผู้นำของ 2 วัง 6 ตำหนัก แววตาของเขาก็แปรเปลี่ยนไปคมกล้าปานมีดดาบ ประหนึ่งจะผ่าทำลายได้ทุกสิ่ง!!

 

ซีด! ซูด!

 

……

 

พอเห็นสายตาคมกล้าที่ต้วนหลิงเทียนมองมา เหล่าชนชั้นผู้นำและคนของ 2 วัง 6 ตำหนักอดหน้าจะเปลี่ยนสีไปไม่ได้

 

หลังจากนั้นเสมือนนกรู้ จ้าวตำหนักขจีจรัสเร่งกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าว่าจะภักดีต่อต้วนหลิงเทียนออกมาก่อนใคร!

 

มันเร่งยอมรับต้วนหลิงเทียนเป็นเจ้านายอย่างรวดเร็ว ด้วยกลัวว่าหากล่าช้าต้วนหลิงเทียนจะบังเกิดความหงุดหงิด…เมื่อมีคนเปิดย่อมมีคนตาม!ชนชั้นผู้นำที่เหลือไร้ซึ่งความลังเลใดๆเร่งกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้ายอมรับต้วนหลิงเทียนเป็นนายออกมาตามๆกัน!!

 

ล้อกันเล่นหรือ!?

 

กระทั่งจ้าววังอวี่เหวินที่บรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะยังสาบานรับต้วนหลิงเทียนเป็นนาย เว้นแต่พวกมันจะยอมตายก็ไร้ซึ่งทางเลือกใดอื่น!!

 

เมื่อเห็นว่าเหล่าผู้นำของตัวเร่งยอมรับต้วนหลิงเทียนเป็นนาย เหล่าศิษย์และอาวุโสของขุมพลังต่างๆก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก

 

คงเหลือแต่เพียงระดับสูงของวังวิญญาณอสุรา ที่นำโดยรองจ้าววังอย่างชิงหยวนป้าเท่านั้นที่ไม่ได้ทำอะไร เพราะแต่ต้นจนจบพวกมันเห็นชัดว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้เหลือบแลพวกมันเลย!

 

“ใต้เท้าต้วนหลิงเทียน”

 

แต่สุดท้ายชิงหยวนป้าก็ตัดสินใจมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนออกมาด้วยน้ำเสียงประหม่า เห็นชัดว่ามันฝืนใจพูดออกมาให้เคารพนอบน้อม “ข้าในนามของวังวิญญาณอสุรา ขอโอกาสรับใช้ใต้เท้าต้วนหลิงเทียนด้วย!!”

 

ตอนนี้ชายร่างสูงกำยำ และได้ชื่อว่าเป็นอันดับ 1 ใต้เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนของเผ่าปีศาจมนุษย์อย่างชิงหยวนป้า ต่อหน้าต้วนหลิงเทียนมันก็เหลือไม่ความหยิ่งผยองถือดีอันใดอีก

 

และเหตุผลที่ชิงหยวนป้าเป็นผู้ออกหน้านั้น เพราะมันคืออันดับ 2 ในวังเซียนสัญจรมาโดยตลอด เมื่อไร้ซึ่งจ้าววังอย่างฉีหนานฟงแล้ว ทุกการตัดสินใจของวังวิญญาณอสุราย่อมขึ้นอยู่กับมันเป็นธรรมดา!

 

วังวิญญาณอสุรา?

 

ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนพลันหันไปมองชิงหยวนป้ากับคนของวังวิญญาณอสุรา “หากใครในวังวิญญาณอสุราของเจ้า สามารถทำประโยชน์โดยให้เบาะแสที่อยู่ของตำหนักเมฆาครามแก่ข้าได้ ข้าจะไว้ชีวิตมันผู้นั้น”

 

“ไม่งั้นพวกเจ้าก็ติดตามฉีหนานฟงจ้าววังของพวกเจ้าไปตามทาง เพื่อรับใช้มันในนรกเถอะ..”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมย คล้ายพูดถึงเรื่องสัพเพเหระประหนึ่งวันนี้อากาศดี…

 

สิ้นคำของต้วนหลิงเทียน สีหน้าของคนวังวิญญาณอสุราก็แปรเปลี่ยนไปใหญ่หลวง

 

“หนีเร็ว!”

 

รองจ้าววังวิญญาณอสุรา ชิงหยวนป้า พอได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน มันก็เข้าใจได้ทันทีว่าต้วนหลิงเทียนไม่คิดละเว้นพวกมัน หากรั้งอยู่ก็มีแต่ตาย!

 

เช่นนั้นมันจึงเลือกจะตะโกนออกมาเสียงดังลั่น หมายให้คนของมันแยกย้ายกันหลบหนี!!

 

ทำประโยชน์? ให้เบาะแสที่อยู่?

 

พวกมันจะไปรู้ได้ยังไง!!

 

หากพวกมันรู้ พวกมันคงบอกจ้าววังวิญญาณอสุราอย่างฉีหนานฟงไปแต่ไหนแต่ไรแล้ว! ไหนเลยพวกมันยังต้องติดตามอีกฝ่ายมาตายถึงที่นี่!!

 

ตอนนี้ชิงหยวนป้ายังลอบหวังในใจ

 

หากคนของวังวิญญาณอสุรามันแยกย้ายกันหลบหนี บางทีอาจจะมีใครรอดชีวิตไปได้!

 

อนิจจาความจริงกลับพิสูจน์ให้เห็นว่ามันคิดตื้นเกินไป…

 

หรือไม่มันก็ประเมินความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนต่ำเกินไป…

 

สิ้นคำตะโกนของชิงหยวนป้า เหล่าคนของวังวิญญาณอสุราก็ปะทุพลังแยกย้ายกันเหินร่างออกไปทันที

 

“คิดหนี?”

 

ต้วนหลิงเทียนแสยะยิ้มเย้ยเยาะ ก่อนที่จะค่อยๆยกมือขึ้นมาแล้วยื่นออกไปเบื้องหน้า…