บทที่ 677
เช้าวันรุ่งขึ้น เย่เฉินและครอบครัวทั้งสี่คนกินอาหารเสร็จ ก็ขับรถตรงไปยังห้างเฟอร์นิเจอร์
หม่าหลันคิดทั้งคืน คิดไม่ได้เลยว่าจะเป็นเงินออกจากบัญชีธนาคารของเซียวฉางควนได้อย่างไร เมื่อเห็นแล้วว่าจะต้องใช้เงินแล้ว ในใจเธอรู้สึกแย่มาก
และในขณะเดียวกัน ครอบครัวใหญ่ของนายหญิงใหญ่เซียว ก็ตื่นกันแต่เช้าด้วย
กินอาหารเช้าเสร็จ รถบรรทุกสินค้าก็มาถึง พวกคนงานย้ายเครื่องเรือนไม้พะยูงไหหลำของตระกูลเซียวขึ้นมาไว้บนรถ ขับรถมุ่งหน้าไปห้างเฟอร์นิเจอร์พร้อมกันกับคนของตระกูลเซียว
ทางตะวันตกของเมืองจินหลิง มีห้างเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง คนขายเฟอร์นิเจอร์เกือบทั้งหมดในเมืองจินหลิงรวมตัวกันอยู่ที่นี่
ที่นี่มีเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างครบครัน เรียกได้ว่าเป็นแหล่งเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ดีที่สุด
เซียวฉางควนเองก็ได้รับอิทธิพลมาจากคุณท่านใหญ่เซียวมาโดยตลอด ชอบวัตถุโบราณเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่ชอบช้อปปิ้งของเก่าเท่านั้น ยังชอบเฟอร์นิเจอร์เก่าๆอีกด้วย โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์เก่าที่ทำจากไม้อย่างดี
เฟอร์นิเจอร์ไม้พะยูงไหหลำในคฤหาสน์ตระกูลเซียวชุดนั้น เขาชอบมากๆมาโดยตลอด น่าเสียดายที่ไม่สามารถเก็บสิ่งนั้นไว้ใช้เองได้ และก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น
เพราะชอบเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า ดังนั้นเมื่อเซียวฉางควนมาถึงห้างเฟอร์นิเจอร์ ก็ตรงไปที่โซนเฟอร์นิเจอร์ไม้ของที่นี่เลย
เมื่อหม่าหลันเห็นเขาตรงไปที่โซนเฟอร์นิเจอร์ไม้ ชักสีหน้าทันทีและโพล่งพูดออกไปว่า: “เซียวฉางควน ไม่อนุญาตให้คุณซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้เน่าๆกลับบ้านนะ! บ้านของเราเป็นคฤหาสน์ใหญ่ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา หากจะซื้อให้ซื้อเฟอร์นิเจอร์หรูหราสไตล์ยุโรป เฟอร์นิเจอร์ไม้ชนิดนั้น ทั้งเชยทั้งแพง นั่งแล้วก็รู้สึกแย่ อย่าซื้อเด็ดขาด!”
“คุณจะไปเข้าใจอะไร?” เซียวฉางควนกล่าวด้วยความเหยียดหยาม: “เฟอร์นิเจอร์สไตล์จีนจะเล่นที่เนื้อไม้และการมีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรม แถมของแบบนี้ยังมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นสูงมาก คนมีการศึกษาเท่านั้นแหละถึงจะเข้าใจได้!”
หม่าหลันโพล่งออกมาว่า: “เราสองคนก็มาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน คุณคิดว่าคุณมีการศึกษาสูงกว่าฉันงั้นเหรอ?”
เซียวฉางควนโบกมือ: “การศึกษาที่พูดไปหมายถึงความรู้เชิงลึก ผมคุยกับคุณไม่รู้เรื่องหรอก”
เมื่อพูดจบ หันไปหาเย่เฉินแล้วพูดว่า: “โอเค ลูกเขย หากเราสามารถซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้พะยูงไหหลำได้สักชุด วันนี้คงไม่ได้มาเสียเปล่าแล้ว!”
เย่เฉินพยักหน้าอย่างอะไรก็ได้ และกล่าวว่า: “แค่พอชอบก็โอเคแล้ว”
หม่าหลันเห็นเซียวฉางควนไม่สนใจตัวเอง กระทืบเท้าด้วยความโกรธ ถ้าเป็นปกติเธอคงจะคลุ้มคลั่งไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่กล้าคลุ้มคลั่งกับเขาแล้ว ถึงอย่างไรตอนนี้ตัวเองไม่มีแม้แต่สตางค์เดียว ถ้าวีนแตกขึ้นมาในตอนนี้จะไม่กลายเป็นผู้ถูกกระทำเกินไปเหรอ?
ดังนั้นเธอทำได้เพียงดึงเซียวชูหรันไป และเอ่ยปากว่า: “ชูหรัน ลูกไปโน้มน้าวพ่อหน่อย อย่าซื้อสินค้าพวกเฟอร์นิเจอร์ไม้ปลอม ทั้งแพงและไม่สวย เพื่ออะไร? จะดีกว่าไหมถ้าเก็บเงินหลายแสนไว้ในธนาคาร เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน?”
เซียวชูหรันพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า: “แม่ ในเมื่อเงินก้อนนั้นเย่เฉินให้สิทธิ์พ่อเต็มที่ เราก็อย่าไปก้าวก่ายเขาเลย”
“เจ้าลูกคนนี้ ทำไมไม่อยู่ข้างฉันเลย?” หม่าหลันคิดไม่ถึงว่าเซียวชูหรันไม่เห็นด้วยกับเธอ เธอรู้สึกโมโหทันที
เซียวชูหรันพูดอย่างจริงจังว่า: “แม่แพ้ไพ่มามากมายตั้งเท่าไหร่ ก็ควรเรียนรู้จากการผิดพลาดบ้าง ถึงเวลาหยุดได้แล้ว ในเมื่อคุยกันแล้วว่าจะให้พ่อดูแลเรื่องเงิน งั้นก็ต้องเคารพการตัดสินใจของพ่อ”
หม่าหลันมีคำพูดมากมายในใจแต่พูดออกมาไม่ได้ เธอรู้สึกแย่และอึดอัดมาก
ในตอนนี้ เซียวฉางควนเดินไปร้านค้าหนึ่งชื่อว่า “ฮัวหลีจือเจีย” ร้านนี้เชี่ยวชาญทางด้านเฟอร์นิเจอร์ไม้พะยูงไหหลำเป็นที่รู้จักกันดีในเมืองจินหลิง
เมื่อเดินเข้าไป ก็มีพนักงานแนะนำสินค้า ถามอย่างกระตือรือร้นว่า: “พวกคุณจะดูอะไรดีครับ?”
เซียวฉางควนกล่าว: “ผมอยากดูเฟอร์นิเจอร์ไม้พะยูงไหหลำ วางไว้ในห้องนั่งเล่น”
พนักงานแนะนำสินค้ารีบถามต่อว่า: “งั้นขอถามหน่อย ห้องนั่งเล่นคุณใหญ่แค่ไหนครับ?”
เซียวฉางควนกล่าว: “ประมาณร้อยกว่าตารางเมตร!”