ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 988 พลตรีเธอกำลังมองอะไรอยู่?
“ซ่าๆ——!”
ป๊อปคอร์นในมือของแสงดาวติดอยู่บนหน้าของผู้ชายคนนี้
“อยากตายรึไง!”
หล่อนขมวดคิ้วด้วยความโกรธ
ทันใดนั้นหล่อนก็ตะโกนออกมาด้วยความเสียงดัง ยิ่งเป็นการทำให้ผู้คนในโรงภาพยนตร์ได้ยิน
ซึ่งมันทำให้ลูกข้าราชการรู้สึกตกใจ
เขามองป๊อปคอร์นที่หยิบออกมา และมองไปผู้คนรอบๆที่หันมาจ้องมองเขาด้วยความเขินอาย จนแทบอยากจะมุดหัวลงไปในพื้น
“ขอ…ขอโทษครับคุณแสงดาว เมื่อกี้ผม…ผม…”
“ไสหัวไป!”
และไม่พูดอะไรอีกเลย!
การกระทำแบบนี้เป็นการทำให้ผู้หญิงโกรธ หล่อน“ขยี้”สักพักและลุกจากเก้าอี้ชี้หน้าด่าเขาแล้วจากไป
ลูกข้าราชการ:“……”
หน้าแดงเขาเหมือนสีของตับหมู ทุกคนในโรงภาพยนตร์ก็เริ่มหันมาทางเขา ร่างกายเขาแข็งทื่อ แต่ก็ทำได้แค่รีบวิ่งออกไปจากโรงภาพยนตร์เท่านั้น
หลังจากนั้นก็ออกมาจากที่นั่นได้ในที่สุด ด้านนอกนั้นแสงดาวเรียกรถหยุดได้แล้ว
“คุณแสงดาว!คุณแสงดาว! เดี๋ยวก่อน ผมขอโทษเมื่อกี้ผมล่วงเกินคุณ ให้อภัยผมนะ”
เขารีบเข้าไปรั้งหล่อนไว้ทันทีที่เห็น
เขายังกล้ารั้งหล่อนไว้อีก?
แสงดาวรู้สึกรังเกลียดมาก หล่อนโกรธจนทนไม่ได้และกำลังจะอ้าปากต่อว่า
แต่ในขณะนั้นเอง ลูกข้าราชการยื่นมือเข้ามาทันที
“คุณแสงดาวผม…ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เมื่อกี้คุณดูสวยและน่าดึงดูมากเมื่ออยู่ใต้แสงสลัวอย่างนั้น คุณเหมือนดอกทิวลิปที่เบ่งบานในยามค่ำคืนจนทำให้ผม…ผมทนไม่ได้
“ถ้าเธอยังโกรธผมอยู่ก็ทำร้ายผมได้เลย คุณจะทำร้ายผมยังไงก็ได้ ขอเพียงคุณอย่าไปจากผมได้ไหม?”
ประโยคสุดท้ายที่เขาพูดดูตื่นตระหนกจนเสียงสั่น
แล้วแสงดาวก็หยุดนิ่งไป!
เล่นอะไรกันอยู่? ทำไมคำพูดง้อผู้หญิงถึงพูดออกมาจากปากได้อย่างง่ายดาย?
อีกอย่างเขาต้องทำตัวโอเวอร์ขนาดนี้เลยเหรอ? พวกเรารู้จักกันได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง เขาต้องแสดงความเสียใจต่อหล่อนขนาดนั้นเลยเหรอ?
แสงดาวไม่เชื่อคำพูดเหล่านี้อยู่แล้ว
แต่ความโกรธที่อยู่ในใจก็หายไปไม่มากก็น้อย
“คุณชายวาริช เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้ ฉันไม่ชอบคนอย่างคุณ”
“……”
ภายใต้แดดที่แรงจัดทำให้มองเห็นเพียงใบหน้าที่ขาวสว่างของลูกข้าราชการหล่อนหลบตาลงอย่างรวดเร็วและหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
“เพราะอะไร?”
“ไม่มีเหตุผล?ไม่ชอบก็คือไม่ชอบต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ?”
แสงดาวตอบด้วยความอารมณ์เสีย
ลูกข้าราชการ:“……”
ยืนดูอ้างว้างอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้านเขาก็พูดประโยคนั้นออกมา:“ได้ งั้นเราไปกินข้าวด้วยกันได้ไหม? คุณเดินทางมาไกลยังไม่ได้กินอะไรเลย”
หล่อนมองไปหาเขา สายตาที่อยู่หลังเลนส์แว่นตาของเขาช่างน่าสงสารราวกับลูกสุนัขที่ถูกทอดทิ้ง
แล้วแสงดาวก็ขมวดคิ้ว
พูดชัดเจนขนาดนี้แล้ว ยังจะมากินคงกินข้าวอะไรอีกล่ะ? แสงดาวอดหยากขนาดนั้นเลยเหรอ?
หล่อนอยากปฏิเสธไปแบบตรงๆ
แต่สุดท้ายหล่อนก็นึกถึงคุณป้าที่แนะนำให้หล่อนเป็นพิเศษ เพื่อหลีกเลี่ยงการไถ่ถาม หล่อนจึงตอบตกลงไป
“ได้ แค่กินข้าวเท่านั้น”
“ได้ ได้เลย งั้นผมไปขับรถมาก่อน คุณรอผมตรงนี้นะ”
ทันใดนั้นแววตาของลูกข้าราชการก็เปล่งประกายและกลับมาสดใสอีกครั้ง เขาดีใจรีบพยักหน้าตอบและไปขับรถของตัวเองมาทันที
ส่วนแสงดาวยืนรออยู่ทางเข้าโรงภาพยนตร์
ฤดูใบไม้ร่วงที่สดใส การจราจรคับคั่งบนท้องถนน หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้โด่ดเด่นแม้หล่อนจะแต่งตัวทันสมัยแหวกแนว แต่ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาทำเพียงชำเลืองมองอย่างรวดเร็วเท่านั้น
แต่มีรถรถอเนกประสงค์สีดำอยู่คันหนึ่งที่ขับผ่านพอดี และคนข้างในรถก็สังเกตเห็นหล่อน
“เอี๊ยดๆ”
รถคันนั้นหยุดทันทีเมื่อเห็นหล่อน
“พลตรี จอดรถทำไม? เรายังไม่ถึงเลย”
เมื่อเห็นอย่างนั้น ชายที่นั่งอยู่บนรถด้วยกันถามขึ้นด้วยความตกใจ
หลังจากนั้น เขาก็รู้ทันทีว่าผู้บัญชาการคนที่ขับรถอยู่นั้นไม่ตอบสนอง
เขามองไปทางด้านขวาของเขา สายตานั้นมองมาจากใต้หมวกของทหารมองออกไปข้างนอก ในเวลาอันสั้นในรถก็มืดดำไปทั้งคันเหมือนถูกอะไรบ้างอย่างบดบังเอาไว้
นี่มันอะไรกัน…?
ชายคนนั้นก็มองไปข้างนอกเหมือนกัน
และเมื่อพวกเขาหันไปทางด้านขวาด้านหน้าของโรงภาพยนตร์ก็มีรถรถอเนกประสงค์จอดอยู่ แต่รถคันนั้นไม่ใช่รุ่นธรรมดาแต่เป็นรถฮัมเมอร์หนึ่งในรถหรูที่ดีที่สุด!!
แต่ดูจากสีและรุ่นแล้วเหมือนยังอยู่ในขั้นตอนการประกอบ
“ว้าว!คุณเอารถคันนี้มาจากไหน?เจ๋งมากเลย รถTMของฉันซื้อมาตั้งหลายปีฉันยังไม่เคยเจอแรงม้าที่ทรงพลังขนาดนี้มาก่อน!”
แววตาของแสงดาวก็เปล่งประกาย
หล่อนใส่กระโปรงหนังสีดำทรงเองขาสั้นสุดเซ็กซี่และถือกระเป๋าเดินมาที่ด้านหน้ารถและหลังรถ ลูปไล้รถที่ผ่านการแต่งแล้วจนน้ำลายแทบจะไหลออกมา
ทำอะไรไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนแหวกแนว
หล่อนไม่ชอบเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ ไม่ชอบลิปสติกและเครื่องสำอาง สิ่งเดียวที่ชอบคือรถ และต้องเป็นรถที่เร็วและแรงมากๆด้วย
ลูกข้าราชการไม่ได้คาดหวังกับต้นหลิวที่เขาปลูก แต่มันกลับให้ร่มเงาแก่เขา