มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะได้เจอสิ่งมีชีวิตในโลกของแม่น้ำมหาดารา ดังนั้นเมื่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญเจอพวกเผ่ามด เขาจึงคุยกับพวกมันผ่านทางดวงวิญญาณไม่ใช่ด้วยภาษา เพราะแน่นอนว่าภาษาที่พวกมดใช้มันย่อมแตกต่างจากภาษาของมนุษย์อยู่แล้ว

เมื่อคุยกันจบ พวกมดได้บอกข้อมูลต่าง ๆ ให้กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญได้รู้มากมายโดยเฉพาะตำแหน่งที่อยู่ของสมบัติที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

ด้วยความโลภเมื่อรู้ตำแหน่งของสมบัติแล้ว ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญจึงมีความคิดอยากจะฆ่าพวกมดทั้งหมดปิดปากทันทีเพื่อไม่ให้คนอื่นได้รู้ข้อมูลนี้อีก

แต่แล้วก่อนที่เขาจะทันได้ลงมือ เขากลับถูกหลิงยู่ชานสังหารลงก่อนภายในพริบตา

หลังจากสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญเรียบร้อย หลิงยู่ชานบินกลับมาหาหลิงตู้ฉิงราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากจัดการผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญไปเรียบร้อย หลิงตู้ฉิงเอ่ยถามพวกมดที่กำลังหวาดกลัวอยู่ด้วยสีหน้าปกติ “มีสถานที่อยู่แห่งหนึ่งที่เหมาะจะให้พวกเจ้าไปสร้างที่อยู่ใหม่ พวกเจ้าสนใจอยากจะดูสักหน่อยรึเปล่า?”

มดตัวที่ใหญ่สุด ซึ่งน่าจะเป็นผู้นำของเผ่ามดเงยหน้าขึ้นมองหลิงตู้ฉิง จากนั้นมันถามกลับว่า “ที่อยู่ใหม่? สภาพแวดล้อมของที่นั่นเหมาะจะให้พวกเราเข้าไปอยู่อาศัยจริง ๆ เหรอ? ตอนนี้อาหารของพวกเราแทบจะไม่เหลืออีกแล้ว สถานที่ที่ท่านว่ามีอาหารพอสำหรับพวกเรารึเปล่า?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ไหนเจ้าแสดงอาหารของเจ้าให้ข้าดูหน่อยว่ามันเป็นยังไง?”

มดลังเลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นมันค่อย ๆ หยิบหินสีส้มก้อนขนาดลูกมะพร้าวขึ้นมาก้อนหนึ่ง และพูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “นี่คืออาหารของพวกเรา!”

เมื่อเห็นหินก้อนนี้ กลุ่มของหลิงตู้ฉิงทุกคนเข้าใจทันทีว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญเมื่อครู่ถึงอยากฆ่ามดพวกนี้ให้ตายทั้งหมด เรื่องทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะหินสีส้มนี้นี่เอง หินนี้มันคือผลึกตะกอนโลก มันเกิดขึ้นจากพลังส่วนเกินที่โลกขับออกมาและเมื่อเวลาผ่านนานเข้าพลังส่วนเกินเหล่านั้นมันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดพวกมันก็ควบแน่นจนกลายเป็นก้อนผลึกอยู่ในชั้นใต้ดิน

ผลึกตะกอนโลกจัดได้ว่าเป็นสมบัติที่หายากเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้ แค่ดูดซับมันไม่กี่ก้อนใครที่อยู่ในขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญจะสามารถทะลวงระดับขึ้นไปได้แบบสบาย ๆ

พวกมดเหล่านี้กินของแบบนี้กันเป็นอาหารงั้นเหรอ?

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดขึ้น “ไม่ต้องกังวล สถานที่ใหม่ที่ข้าแนะนำมันจะมีอาหารเพียงพอเลี้ยงชีพของพวกเจ้าแน่ แต่ถ้าพวกเจ้าจะเข้าไปอยู่อาศัยพวกเจ้าต้องทำตามกฎที่ข้าวางเอาไว้ นับจากนี้พวกเจ้าวางไข่ได้แค่ครั้งละ 1 ฟองและวางได้แค่ปีละครั้ง และในช่วงชีวิตของพวกเจ้าแต่ละตัววางไข่ได้สูงสุดไม่เกิน 10 ฟอง หากเจ้ายอมรับเงื่อนไขนี้ได้ พวกเจ้าก็เก็บข้าวของและย้ายเข้าไปอยู่ในสถานที่ใหม่ที่อุดมสมบูรณ์กว่าที่นี่ได้เลย”

เมื่อหลิงตู้ฉิงพูดจบ เขาเปิดประตูโลกของเขาออกเผยให้พวกมดเห็นโลกที่เขาสร้างขึ้นด้านใน

ผู้นำเผ่ามดเดินไปที่ประตูและสำรวจสภาพแวดล้อมโลกของหลิงตู้ฉิงอยู่สักพัก จากนั้นมันพยักหน้าและพูดว่า “พวกเราตกลงที่จะย้ายไปยังสถานที่ที่ท่านจัดหาให้!”

หลังจากนั้นผู้นำเผ่ามดส่งต่อคำสั่งของมันไปยังสมาชิกเผ่าทุกตัวทันที ส่งผลให้ทั้งเมืองมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่

จากนั้นก่อนที่พวกมดจะเดินเข้าไปในโลกของหลิงตู้ฉิง ผู้นำมดเดินมาหยุดที่หน้าของหลิงตู้ฉิงพร้อมกับมอบหินสีเหลืองก้อนใหญ่พอ ๆ กับแตงโมให้กับเขาและพูดว่า “พวกเราขอขอบคุณที่ท่านมอบที่อยู่ใหม่ให้กับพวกเรา สิ่งนี้คือสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดที่เผ่าของพวกเรามี ข้าขอมอบมันให้กับท่านเป็นการตอบแทน ขอบคุณ!”

หลิงตู้ฉิงรับหินสีเหลืองปริศนานี้มาด้วยสีหน้างุนงง เพราะว่าเขาไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร

อย่างไรก็ตาม ผู้นำเผ่ามดก็ไม่อยู่ให้เขาถามต่อ เมื่อมันมอบของให้เขาเสร็จมันก็รีบพาเผ่าของมันทั้งหมดเดินเข้าไปในโลกของหลิงตู้ฉิงทันที

หลิงตู้ฉิงมองตามหลังของพวกมดที่เพิ่งเข้าไปยังโลกของเขา จากนั้นเขายิ้มและโบกมือปิดทางเข้าโลกของเขาทันทีและเอ่ยขึ้นว่า “อย่างน้อย ๆ ข้าก็ได้สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของที่นี่ ประชากรมด 37,000 ตัว!”

หลังจากที่พวกมดเข้าไปอยู่อาศัยในโลกของเขา ระดับการบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิงก็พุ่งทะยานขึ้นไปอีกจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญขั้นกลาง

“เอาล่ะ ถึงเวลาที่พวกเจ้าทุกคนจะได้รับประโยชน์กันแล้ว!” หลิงตู้ฉิงพูดกับกลุ่มคนของเขา

เมื่อพูดจบ เขาโบกมือยกแผ่นดินซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองมดออกเผยให้เห็นใต้ดิน ซึ่งมีแม่น้ำสีดำซ่อนอยู่

“น้ำมหาจันทราบรรพกาล!” คนอื่น ๆ อุทานขึ้นอย่างลืมตัว

น้ำมหาจันทราบรรพกาลคือของเหลวที่สามารถทำให้โลกจำลองของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญทุกคนแข็งแกร่งขึ้นได้หลายเท่า ซึ่งโดยปกติแล้วมันจัดได้ว่าเป็นสมบัติที่แทบจะหาไม่ได้อีกแล้วในโลกภายนอก แต่ที่นี่มันกลับมีอยู่เป็นจำนวนมาก

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “พวกเจ้าทุกคนมีสิทธิ์เก็บได้คนละ 100 หยด ห้ามเกินไปกว่านั้น”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างรีบวิ่งไปที่ตักน้ำมหาจันทราบรรพกาลมาเก็บไว้ในขวดหยกของตัวเองทันที จากนั้นเมื่อทุกคนตักเสร็จหลิงตู้ฉิงจึงวางเมืองมดปิดทับเอาไว้เหมือนเดิม

“ท่านพ่อเร็วเข้าพวกเรารีบไปสถานที่ต่อไปกันเร็ว!” หลิงฟ่างหัวคะยั้นคะยอ เนื่องจากอดใจไม่ไหวอยากเห็นว่าสถานที่ต่อไปจะมีอะไรให้พวกเขาได้ประโยชน์อีกเร็ว ๆ

พวกเขาทุกคนต่างรู้ดีว่าการติดตามหลิงตู้ฉิงไปไหนมาไหนนั้นพวกเขาจะได้พบกับสมบัติและเหตุการณ์ที่น่าตื่นตะลึงมากมาย แถมมันยังไม่อันตรายเลยอีกต่างหาก

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “สถานที่ถัดไปอยู่ห่างจากที่นี่ไปอีก 100,000 ลี้”

แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ออกเดินทางต่อ จู่ ๆ พวกเขาก็เห็นเพลิงอันรุนแรงพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในระยะห่างจากพวกเขาไปไม่เกิน 200 ลี้ ซึ่งความร้อนของเพลิงนั้นนับได้ว่าไม่ธรรมดาเลย เพราะขนาดพวกเขาอยู่ห่างขนาดนี้พวกเขายังสัมผัสได้ถึงคลื่นความร้อนอย่างชัดเจน

“เพลิงสวรรค์เร้นลับ!” หลิงไช่หยุนอุทานขึ้น “เพลิงนี้มีอำนาจพอจะเผาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ได้แบบสบาย ๆ ทำไมมันถึงได้มาโผล่ที่นี่ได้?”

พื้นที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้คือพื้นที่สำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สามัญ การที่มันมีเพลิงที่รุนแรงถึงระดับสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ให้ตายได้แบบนี้บังเกิดขึ้นมันนับว่าแปลก

หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้น “พวกเราไปดูกันสักหน่อยก็แล้วกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

จากนั้นเมื่อพวกเขาไปถึงจุดเกิดเหตุ พวกเขาทั้งหมดเห็นว่ามีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งล้มอยู่และยังมีศพของสิ่งมีชีวิตที่ดูคล้ายเผ่าภูตนางฟ้า แต่สีผิวของพวกมันเป็นสีเทาและไม่มีเส้นผมนอนตายกันเกลื่อนพื้น และถัดไปจากนั้นพวกเขาเห็นเถ้ากระดูกอีกหลายกองอยู่ไม่ไกล

ถ้าดูจากสภาพที่เกิดเหตุเมื่อครู่ คงมีผู้เชี่ยวชาญกลุ่มหนึ่งตามฆ่าสิ่งมีชีวิตที่คล้ายภูตนางฟ้าเหล่านี้และทำลายต้นไม้ใหญ่นี้ทิ้ง แต่ท้ายที่สุดโลกก็ได้ทำการทวงราคาคืนโดยสร้างเพลิงสวรรค์เร้นลับสังหารผู้เชี่ยวชาญที่ก่อเหตุจนหมด

หลิงตู้ฉิงถอนหายใจ จากนั้นเขาเรียกง้าวเทวะพินาศออกมาและปักมันลงไปที่พื้น “ในนามของข้า ข้าขอโมฆะพลังแห่งความตายในบริเวณนี้ทั้งหมด!”

อย่างไรก็ตาม มีเพียงพวกภูตที่ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่ฟื้นชีวิตขึ้น ส่วนพวกที่อ่อนแอนั้นได้ตายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นต่อให้หลิงตู้ฉิงจะใช้เขตแดนประกาศิตมันก็ไม่มีผล

“พวกเจ้าทั้งหมดสามารถย้ายไปอยู่ในโลกของข้าได้ ถ้าพวกเจ้าต้องการ และข้าอนุญาตให้พวกเจ้าสามารถนำต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพวกเจ้าเข้าไปในโลกของข้าได้ด้วย ข้ารับประกันว่าโลกของข้ามีพลังเพียงพอจะหล่อเลี้ยงต้นไม้ของพวกเจ้าให้ฟื้นฟูกลับเป็นเหมือนเดิมได้แน่นอน” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้น

บรรดาภูตตัวสีเทาต่างคุกเข่าคำนับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าซาบซึ้ง จากนั้นพวกมันต่างรีบพากันเข้าไปในโลกของหลิงตู้ฉิงพร้อมกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพวกมัน

จากนั้นหลิงตู้ฉิงเดินไปที่กองเถ้ากระดูกของบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ตายไป และเริ่มทำการดึงพลังวิญญาณบริสุทธิ์ที่หลงเหลืออยู่เข้าไปเสริมให้กับโลกของเขาเอง และเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเขาก็พาครอบครัวของตัวเองจากไปในทันที

เมื่อไปถึงสถานที่ถัดไป หลิงตู้ฉิงก็ได้เจอเผ่าที่ดูเหมือนมนุษย์แต่มีดวงตา 3 ดวงและตาทุกดวงเหมือนกับตาของแมวแบบไม่มีผิดเพี้ยน แถมสีผิวของคนเผ่านี้ทุกคนล้วนเป็นสีดำสนิท

เมื่อเห็นกลุ่มของหลิงตู้ฉิงมาถึง มนุษย์ผิวดำเหล่านี้คุกเข่าลงต้อนรับหลิงตู้ฉิงทันทีโดยไม่ถามไถ่อะไรสักคำ

หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ “พวกเจ้าสามารถมองทะลุเห็นไปถึงดวงวิญญาณของผู้คนได้งั้นเหรอ ช่างน่าสนใจดีจริง ๆ ดูเหมือนว่าโลกใบนี้จะมีเผ่าแปลก ๆ อาศัยอยู่เยอะมากกว่าที่ข้าคิดเอาไว้”

สาเหตุที่คนเผ่านี้ยอมศิโรราบให้กับหลิงตู้ฉิงทันที เพราะพวกเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าดวงวิญญาณของหลิงตู้ฉิงนั้นทรงอำนาจขนาดไหน มันไม่มีประโยชน์อะไรที่พวกเขาจะต่อต้าน

หลิงตู้ฉิงเอ่ยประโยคเดิมที่เขาเคยเอ่ยกับเผ่าอื่น ๆ “พวกเจ้ายินดีจะย้ายไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ไหม?”

ผู้นำของเผ่ามนุษย์สามตาตอบกลับทันที “องค์เทพ พวกเรายินดีทำตามที่ท่านสั่ง!”

จากนั้นหลิงตู้ฉิงหัวเราะและเปิดโลกของเขาเองให้คนของเผ่ามนุษย์สามตาเข้าไปอยู่อาศัยด้านใน ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลให้ระดับการบ่มเพาะของเขาพัฒนาขึ้นอีกรอบ!