คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1788
”ฝ่าพระบาท…” แฟนนี่ตัวสั่นเทา เธอไม่สามารถลืมสายตาของเขาไปได้จนชั่วชีวิตแน่ มันน่ากลัวเกินไป
วินาทีต่อมาแฟนนี่ก็ฝืนยิ้มและแสร้งทำเป็นกลัว “หม่อมฉันผิดไปแล้ว หม่อมฉันพูดไม่ได้เรื่อง”
แอมโบรสดูเย็นชาและไม่พูดเรื่องไร้สาระ เขาถามว่า “ขอถามหน่อย ทำไมถึงจับออโรร่ากับเอร่าไว้? พวกเธอทำผิดอะไร?”
แฟนนี่ลังเลและบอกอย่างระมัดระวังว่า “ฝ่าพระบาท พระองค์อาจจะลืมไปแต่ว่าตอนเราอยู่ในงานฉลองครบ 1000 ปีของสำนักง้อไบ๊ ท่านมาเพื่อตามหาเอร่า ตอนนั้นศิษย์พี่ก็บอกท่านไปว่าออโรร่านั้นมีความสัมพันธ์ผิดทำนองคลองธรรมกับคนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าและกำเนิดเอร่า หล่อนเป็นมารหัวขน เป็นเด็กนอกสมรส เธอไม่ทำตามกฎของสำนักและเราก็ทำสิ่งที่ต้องทำ”
“ออโรร่าฝ่าฝืนกฎของสำนักและทำให้สำนักง้อไบ๊ต้องขายหน้า จึงเป็นเรื่องสมควรที่ศิษย์พี่ผู้เป็นประมุขจะจับตัวทั้งแม่และลูกมา”
แฟนนี่ทำท่าธรรมดาเหมือนเรื่องที่เล่านั้นสมเหตุสมผล
พอแอมโบรสได้ยินดังนั้นเขาก็กำหมัดแน่นพลันในใจก็มีโทสะพวยพุ่ง
‘ออโรร่าและเอร่าโดนขับออกจากสำนักนานหลายปีแล้ว แม้ว่าพวกเธอจะทำผิดแต่ก็ได้ทำคุณไถ่โทษแล้ว แต่ว่าสำนักง้อไบ๊ยังยืนกรานความผิดของพวกเธอ ต้องให้ทำลายชื่อเสียงของทั้งสองจนป่นปี้พวกนี้ถึงพอใจหรือไง?’ เขาคิด ดวงตาแดงก่ำขณะที่จ้องแฟนนี่อย่างเดือดดาล
“ปล่อยออโรร่าเดี๋ยวนี้” เขาพูด
เอร่าหนีไปได้ดังนั้นตอนนี้เขายังไม่ต้องห่วงเรื่องของเธอ แต่ว่าออโรร่าเป็นแม่ของเอร่า และเขาไม่อาจเมินเฉยได้ว่าตอนนี้เธอกำลังโดนทรมานอยู่ในคุกทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด
สีหน้าแฟนนี่เปลี่ยน เธอกัดปากแน่นและส่ายหน้าพร้อมบอกว่า “ฝ่าพระบาท หม่อมฉันเกรงว่าจะทำไม่ได้”
แววตาของเขาวาววับขณะที่พูดอย่างเย็นเยียบ “อย่างนั้นเหรอ?”
เขาปล่อยกลิ่นอายรุนแรงออกมาซึ่งมันแข็งแกร่งเสียจนแทบหายใจไม่ออก
แฟนนี่ตัวสั่นเมื่อเธอรู้สึกได้ถึงรังสีสังหารของแอมโบรส เธอแอบสูดหายใจเย็นเยียบ
ชั่วขณะต่อมาแฟนนี่ก็แสร้งทำเป็นนิ่ง เธอยิ้มและบอกว่า “ฝ่าพระบาท พระองค์น่าจะรู้ว่าหม่อมฉันเป็นแค่ผู้รักษาการตำแหน่งประมุข หม่อมฉันจัดการได้แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในสำนักเท่านั้น หม่อมฉันไม่มีอำนาจเรื่องคนทรยศอย่างออโรร่า”
“อีกอย่างตอนที่ท่านประมุขจับออโรร่า ฝ่าพระบาทที่เป็นคนมีน้ำใจเช่นนี้หากว่าต้องการโต้แย้งข้อหาก็ควรจะพูดกับท่านประมุข หม่อมฉันเชื่อว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับเธอ เธอไม่มีทางปฏิเสธคำขอของท่านแน่ ท่านคิดว่ายังไงเพคะ?”
ในฐานะศิษย์ที่เมแกนเชื่อใจ แฟนนี่ก็เป็นคนชั่วร้าย เพียงคำพูดไม่กี่คำเธอก็โยนความรับผิดชอบทั้งหมดไปให้เมแกน
‘ยังไงเมแกนก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ ฉันจะพูดอะไรก็ได้ ประเด็นสำคัญตอนนี้คือทำให้แอมโบรสใจเย็นลง’
“แฟนนี่ คุณไม่ต้องมาพูดจาไร้สาระกับผม” แอมโบรสหัวเราะเย็นชาและบอกว่า “เมแกนติดอยู่ในพระราชวังทวีปโมอาน่าเหนือ แล้วผมจะเอาเรื่องนี้ไปพูดกับเมแกนได้ยังไง? คุณคิดจะถ่วงเวลางั้นเหรอ? บอกไว้เลยนะว่าไม่ได้ผล”
แอมโบรสพูดอย่างมุ่งมั่นไม่เว้นที่ไว้ให้ต่อรอง “ผมจะพูดอีกครั้ง ปล่อยเธอซะ”
ปัง
แอมโบรสระเบิดรังสีแข็งแกร่งออกมา เมื่อเขาพูดประโยคสุดท้ายจบมีเสียงใสของค้อนทรราชที่เขากำแน่นไว้ในมือ
พริบตานั้นแสงสว่างเจิดจ้าดุจดวงอาทิตย์ก็ระเบิดออกมาจากค้อนทรราช
แฟนนี่ตัวสั่นเทาเมื่อเห็นค้อนทรราชในมือของแอมโบรส ขาเธออ่อนแรงทันที
เวลาเดียวกันนั้นศิษย์ของสำนักง้อไบ๊หลายคนก็รีบเข้ามาเมื่อรู้สึกได้ถึงความสั่นสะเทือนในโถงหลัก แต่เมื่อพวกเขารู้สึกถึงพลังรุนแรงที่ระเบิดออกมาจากค้อนทรราช พวกเขาก็ตะลึงไป ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หลังผ่านไปประมาณสิบนาที แฟนนี่ก็ตั้งสติได้ เธอกัดปากและดูอ่อนแอมาก “ฝ่าพระบาท ได้โปรดทรงเย็นพระทัยก่อน หม่อมฉันไม่มีอำนาจที่จะปล่อยออโรร่าจริง ๆ หากว่าหม่อมฉันปล่อยเธอไปท่านประมุขต้องฆ่าหม่อมฉันแน่ เด็กสารเลวเอร่านั่นก็หนีไปแล้ว หม่อมฉันปล่อยออโรร่าไปอีกไม่ได้”
“บัดซบ” แอมโบรสคำรามอย่างคลุ้มคลั่ง ดวงตาเขาแดงก่ำ “ฉันจะพูดอีกครั้ง เอร่าไม่ใช่เด็กสารเลว เธอไม่ใช่”
เพียะ
ขณะที่พูดแอมโบรสก็ตบฉาดที่ใบหน้าของแฟนนี่
“บัดซบ ปล่อยเขาออกมาเดี๋ยวนี้ ปล่อยซะ” แอมโบรสตะโกนดังจนเหมือนคำราม