บทที่ 2253 กลับตัวไม่ได้แล้ว
พูดกันอย่างถอยให้หมื่นก้าวแล้ว สิบสองเขตของรัฐอิสระอยู่มาถึงทุกวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย วันคืนอันสงบสุขที่ผ่านมา ก็มีต้นตอมาจากความทุ่มเทของสภาตุลาการ แล้วจะทำลายความสงบของสิบสองเขตรัฐอิสระเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวได้ยังไง
“เสี่ยวเซี่ย หยุดเถอะ” ชายชรามองซือเซี่ยแล้วเอ่ยออกมา
“คุณตา…คุณตาว่าอะไรนะครับ” ซือเซี่ยเอ่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ “นี่คือเป้าหมายและความฝันของคุณตา…”
ทว่า ชายชรากลับส่ายหน้า “อันที่จริง ฉันคิดได้ดีแล้ว เสี่ยวเซี่ย เธอมองฉันสิ ครอบครัวไม่เป็นครอบครัว หลานสาวต่อต้านฉัน ส่วนหลานชายก็เกลียดชังฉัน สุดท้ายก็มีชีวิตอยู่กับโรคเรื้อรังจากอาการบาดเจ็บ หรือว่า ต่อไปเธออยากเป็นเหมือนฉันกันล่ะ”
“ไม่ครับ!” ซือเซี่ยส่ายหน้า “ผมพยายามมานานขนาดนี้…ผมวางแผนอยู่นานขนาดนั้น จะบอกให้หยุดก็หยุดเลยได้ยังไง คุณตาครับ ขอแค่คุณตาเห็นด้วย พวกเราก็สามารถยึดครองรัฐอิสระได้ทันทีเลยนะครับ จากนั้น ค่อยแทรกซึมไปยังสิบเอ็ดเขตที่เหลือ ต่อให้เป็นสภาตุลาการ พอถึงเวลาก็ทำอะไรเราไม่ได้อยู่ดี!”
เพื่อจะเกลี้ยกล่อมคุณตา ซือเซี่ยจึงรีบเอ่ยต่อไปอีกว่า “อีกอย่างนะครับคุณตา ถ้าพวกเราไม่ทำแบบนี้ สภาตุลาการกฎเกณฑ์เผด็จการไร้เหตุผล และไม่มีมนุษยธรรมพวกนั้นก็จะไม่ถูกทำลาย คุณตาอย่าลืมสิครับ ตอนนี้พี่สาวเป็นผู้นำคนปัจจุบันของเดธโรส สภาตุลาการไม่มีทางปล่อยเธอไป!”
บรรดาอดีตผู้นำของเดธโรสต่างก็ต้องการโค่นล้มสภาตุลาการ จุดประสงค์คือปลดปล่อยรัฐอิสระ ถูกสภาตุลาการเพ่งเล็งว่าเป็นลัทธิชั่วร้าย กลายเป็นเป้าหมายที่สภาตุลาการต้องการกวาดล้าง
เยี่ยหวันหวั่นคือผู้นำคนปัจจุบันของลัทธิชั่วร้าย สภาตุลาการจะปล่อยผ่านได้ยังไง
นายหญิงเนี่ยที่อยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้นทันทีว่า “มีพวกเราอยู่ ไม่มีทางปล่อยให้ใครมาทำร้ายอู๋โยวได้เด็ดขาด!”
ซือเซี่ยแค่นเสียงเย็นชา “ฮ่า อยู่ที่นี่ตระกูลเนี่ยเป็นผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่ แต่ว่า คุณคิดว่าตระกูลเนี่ยจะไปต่อกรกับสภาตุลาการได้งั้นเหรอ”
ถ้าทำได้ ตอนนั้นคุณตาคงไม่สิ้นหวังสุดขีด จนใช้วิธีการสุดโต่งแบบนั้นหรอก
ชายชราที่อยู่ด้านข้างได้ฟังก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “เสี่ยวเซี่ย สภาตุลาการถอนคำสั่งเอาชีวิตอู๋โยวแล้ว”
ซือเซี่ยตะลึงงัน จากนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น “อะไรนะ”
“ไม่งั้นแล้ว เธอคิดดูสิ…อู๋โยวกลับสู่ฐานะเดิมนานขนาดนี้แล้ว แต่ทำไมสภาตุลาการยังไม่มีความเคลื่อนไหวอีกล่ะ” ชายชราเอ่ย
ซือเซี่ยกล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เป็นไปไม่ได้! สภาตุลาการไม่มีทางปล่อยเธอไป!”
ชายชราค่อยๆ อธิบายว่า “ตอนแรกอู๋โยวได้รับแหวนวงนั้นมาอย่างไม่คาดคิด แต่สภาตุลาการในรุ่นนั้นไม่ฟังคำอธิบายอะไรเลย ดึงดันจะขุดรากถอนโคน เรื่องราวผ่านมานานหลายปี อู๋โยวก็หายตัวไปหลายปี เดธโรสก็ไม่มีวี่แววที่จะย้อนกลับมา จึงมีสมาชิกระดับสูงของสภาตุลาการออกตัวค้ำประกันให้ เลยรักษาชีวิตของอู๋โยวเอาไว้ได้”
คำพูดของคุณตาทำให้ทุกคนในที่นี้ รวมถึงเยี่ยหวันหวั่นต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจ
เยี่ยหวันหวั่นไม่รู้เลยว่าในระหว่างนี้เกิดเรื่องราวขึ้นมากมายขนาดนี้
ไม่น่าเชื่อเลยจะมีคนในสภาตุลาการช่วยชีวิตเธอไว้งั้นเหรอ
มีอำนาจมากขนาดนี้ ตำแหน่งต้องไม่ต่ำต้อยแน่…
แถมยังรับหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกันอีก ใครกันที่กล้าเอาชีวิตของตัวเองมาช่วยเหลือเธอขนาดนี้
“ผมไม่เชื่อ! ผมไม่เชื่อ!!!” ซือเซี่ยร้องตะโกนอย่างคลุ้มคลั่งอยู่บ้าง
ชายชราส่ายหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
แรกเริ่ม เป้าหมายของซือเซี่ยอาจจะอยากทำความปรารถนาของเขาให้สำเร็จจริงๆ แต่ว่า ท้ายที่สุดแล้ว อำนาจกลับกัดกินปณิธานเดิมของเขาไปแล้ว
เขากลับตัวไม่ได้แล้ว
ซือเซี่ยเพิ่งจะโวยวายจบ เงาดำสายหนึ่งก็พลันทะยานเข้ามาตรงหน้า
มองเห็นเพียงว่า ซือเยี่ยหานปรากฏตัวขึ้นข้างกายของซือเซี่ย
‘เพียะ’
ซือเซี่ยยังไม่ทันได้สติกลับมา ซือเยี่ยหานก็พลันตวัดฝ่ามือ ฟาดเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างแรง
—————————————————————————————
บทที่ 2254 อยู่ด้วยกันซะเถอะ
“ถึงยังไงฉันก็เป็นอาเก้าของนาย” ซือเยี่ยหานจ้องมองซือเซี่ยที่ถูกตบโดยไม่ทันตั้งตัว “หยุดซะ ไม่งั้นจะต้องตาย”
“แก…!”
ซือเซี่ยกัดฟันกรอดแล้วเอ่ยขึ้นว่า “เอาฐานะอาเก้ามาใช้กับฉันให้น้อยๆ หน่อยเถอะ แกไม่มีคุณสมบัตินั้น!”
“ฉันจะพูดอีกครั้ง” ซือเยี่ยหานเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “หยุดซะ”
ในเวลานี้เอง รถออฟโรดทางการทหารสีดำขบวนหนึ่งได้ขับฝ่าเข้ามาจากทางด้านหลังของสนามรบอย่างเงียบเชียบ
ทันทีที่รถออฟโรดติดอาวุธครบครันพวกนี้ปรากฏขึ้นในสนามรบก็ทำให้ทุกคนมองด้วยสายตาระแวดระวังทันที
วินาทีต่อมา รถหยุดลงด้านข้าง จากนั้น ก็มีผู้ชายสามคนผู้หญิงหนึ่งคนก้าวลงมาจากรถคันหน้าสุด และมีทีมทหารชุดดำที่ต่างก็ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีก้าวลงมาจากรถออฟโรดอีกสามสี่คันที่อยู่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว
เยี่ยหวันหวั่นหรี่ตาลงนิดๆ “คนพวกนี้…”
สองมือของเนี่ยอู๋หมิงที่ยืนอยู่ด้านข้างพลันกำแน่นจนเป็นหมัด แล้วเอ่ยด้วยสีหน้ามืดครึ้มว่า “สภาตุลาการ…”
“อะไรนะ สภาตุลาการงั้นเหรอ” สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นเปลี่ยนไปทันที
ดูเหมือนชายสามหญิงหนึ่งที่เดินนำหน้ามาจะเป็นสมาชิกระดับสูงของสภาตุลาการ อายุราวสี่สิบห้าสิบปี ผู้หญิงคนนั้นดูยังสาว อย่างมากก็อายุราวๆ สามสิบ
เยี่ยหวันหวั่นอดไม่ได้ที่จะมองผู้หญิงคนนั้นให้มากหน่อย เนื่องจากหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นสวยเกินไปจริงๆ แต่ท่าทางกลับเย็นชามืดมนมาก ทำให้ความงามบนใบหน้านั้นเสียเปล่าไป
และไม่รู้ว่าเป็นเพราะจับสังเกตสายตาของเยี่ยหวันหวั่นได้หรือไม่ จู่ๆ สายตาที่ราวกับใบมีดคมกริบของผู้หญิงคนนั้นก็พลันมองมาที่เยี่ยหวันหวั่น
แววตานั้นเจือความชิงชังและรังเกียจที่ไม่เป็นมิตรอย่างยิ่ง ทำให้เยี่ยหวันหวั่นหนาวสะท้านอยู่ในใจพักหนึ่ง
และในเวลาเดียวกันนี้
ฝ่ามืออันอบอุ่นข้างหนึ่ง ได้ขับไล่ความหนาวเหน็บสายนั้นออกไปจากร่าง
เยี่ยหวันหวั่นมองมือตัวเอง และพบว่าซือเยี่ยหานมาจับมือเธอไว้ตอนไหนก็ไม่รู้ กอบกุมไว้ในฝ่ามือ ความอบอุ่นแผ่จากฝ่ามือไปทั่วร่าง
สีหน้าของซือเซี่ยมืดครึ้มราวกับจะคั้นน้ำได้ “สภาตุลาการ…”
ผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยคนนั้นพลิกเปิดประมวลกฎหมายเล่มหนา จากนั้นก็กวาดสายตามองทุกคนในที่เกิดเหตุ สุดท้าย สายตาก็ไปหยุดนิ่งอยู่ที่ร่างของซือเซี่ย สายตาราวกับมองคนตายคนหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ซือเซี่ย คุณฝ่าฝืนกฎข้อที่สามสิบหกของสภาตุลาการ กักตุนอาวุธสงครามจำนวนมหาศาล เชิญมากับพวกเราด้วย”
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ชาวรัฐอิสระทั้งหมดที่อยู่ที่เกิดเหตุต่างก็มีสีหน้าตกตะลึง พวกเขาทราบจากปากของซือเซี่ยว่าเขากักตุนอาวุธสงครามจำนวนมหาศาลเอาไว้ก่อนหน้านี้ครู่เดียว ที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินข่าวลือเลยสักนิด สภาตุลาการไปได้ข่าวมาจากไหนกัน มาถึงที่เกิดเหตุเร็วขนาดนี้เลยเหรอ
แถมสภาตุลาการยังส่งตุลาการมาพร้อมกันสี่คน มีอาวุธครบมืออีกต่างหาก เห็นได้ชัดเลยว่ารู้เรื่องนานแล้ว
สภาตุลาการมีการแต่งตั้งตุลาการทั้งหมดสิบสองคน เป็นผู้พิทักษ์และตั้งกฎเกณฑ์ให้รัฐอิสระทั้งรัฐ เป็นตำแหน่งที่น่ายกย่องนับถืออย่างยิ่ง
ถ้าเป็นเรื่องทั่วไปไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาออกโรงจัดการด้วยตัวเองเลย แต่ครั้งนี้ ตุลาการสี่ท่านกลับมาพร้อมในคราวเดียว
และตุลาการหญิงเพียงคนเดียวของสภาที่เป็นคนจากเขตหนึ่งที่แข็งแกร่งที่สุดในสิบสองเขตของรัฐอิสระ อินเยวี่ยหรง
ซือเซี่ยไร้ซึ่งความเกรงกลัว ตอนแรกวางแผนไว้แค่จะลงมือในตอนที่ไม่ทันตั้งตัว แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คาดคิดเลยว่าข่าวจะเล็ดรอดออกไป ทำให้สภาตุลาการมาถึงในช่วงเวลานี้ได้
ดวงตาของซือเซี่ยสาดประกายความบ้าคลั่ง “ฮ่า กฎเหรอ น่าขำ! สภาตุลาการงั้นเหรอ ในเมื่อมาแล้ว งั้นก็อยู่ด้วยกันซะเถอะ!”
สมาชิกอาวุโสของสภาตุลาการที่มีรูปร่างอวบท้วม ผมสีขาว สวมชุดสูทสีดำ ยืนอยู่ด้านข้างผู้หญิงคนนั้นก็พลันหัวเราะฮ่าๆ ขึ้นมา “พ่อหนุ่ม อย่าพูดจาจองหองเกินไปจะดีกว่านะ!”