ตอนที่ 2,339 : ล้วนเป็นคนรู้จัก!
เรียกว่าทันทีที่รับสืบทอดเคล็ดบำเพ็ญจิตเต๋ากระบี่สูงสุด ‘ยอดใจกระบี่’ จากเซียนกระบี่ฟงชิงหยางมา ต้วนหลิงเทียนก็ได้เป็นผู้สืบทอดของเซียนกระบี่ฟงชิงหยางเช่นกัน
ขณะเดียวกันเขาก็ถือได้ว่าเป็นผู้สืบทอดหมอกพิรุณ!
อย่างไรก็ตามแม้ในอดีตต้วนหลิงเทียนจะรู้มาตลอดว่าตัววเองเป็นผู้สืบทอดหมอกพิรุณ แต่เขาก็ไม่รู้เลยว่าผู้สืบทอดหมอกพิรุณมีความสำคัญอย่างไร
มาตอนนี้พอกลับมาถึงภูมิภาคเบื้องบนได้ไม่ทันไร เขากลับได้รับทราบข่าวของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ กระทั่งได้รู้ว่า 7 ทวาราเที่ยงแท้คืออะไร!
เขาจึงได้ทราบว่า
ที่แท้นามหมอกพิรุณที่เขาได้รับสืบทอดมา ไม่ใช่ ‘ฉายา’ เลื่อนลอยหากแต่เป็น ‘ภาระ’ หนักอึ้งที่เขาต้องแบกรับเอาไว้!
หมอกพิรุณคือทวาราเที่ยงแท้ลำดับ 1!
และทายาทหมอกพิรุณแต่ละรุ่นก็คือผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้!
หากทายาทหมอกพิรุณไม่ปรากฏ ทวาราเที่ยงแท้ก็เหมือนมังกรไร้เศียร! ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ปรากฏกายสู่โลกหล้าด้วยซ้ำ!!
และนี่ยังเป็นกฏเหล็กของ 7 ทวาราเที่ยงแท้!
“ไม่คิดเลย…ไม่คิดเลยจริงๆ”
หลังได้รับรู้เรื่องราวของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ และความสำคัญของนามหมอกพิรุณ ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปมา ใจยังอื้ออึงยากจะฟื้นคืนอยู่นาน
ก่อนหน้าตอนที่อยู่ในภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า เขาเองก็เคยได้ยินเรื่องราวของเซียนกระบี่ฟงชิงหยางมาไม่น้อย
ทว่าเขาไม่เคยได้รู้เรื่อง 7 ทวาราเที่ยงแท้เลย!
มาตอนนี้เขาได้รู้แล้ว…
ว่าที่แท้ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ายังมีขุมพลังเก่าแก่นี้อยู่ กระทั่งในอดีตเคยเป็นขุมพลังที่สยบได้กระทั่ง ลัทธิบูชาไฟ ลัทธิชะตาฟ้า และลัทธิอารามทมิฬ!
“ในยุคสมัยของอาวุโสฟงชิงหยาง…7 ทวาราเที่ยงแท้ช่างทรงพลังนัก”
หลังได้รับทราบเรื่องราวของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ และวีรกรรมในอดีต ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะยังไม่กระจ่างชัด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสมือนเลือดในกายเดือดพล่าน
ราวกับเขาได้อยู่ในช่วงเวลาที่ 7 ทวาราเที่ยงแท้รุ่งโรจน์ด้วย!
เพราะยุคสมัยนั้นไม่ได้เป็นแค่ยุคสมัยของอาวุโสฟงชิงหยางเท่านั้น ยังเป็นยุคสมัยของ 7 ทวาราเที่ยงแท้อีกด้วย
‘จริงสิ…จำได้ว่าตอนอยู่ที่ประเทศฝูเฟิง อาจารย์ของเทียนหวู่เคยกล่าวถามข้าถึงเรื่อง 7 ทวาราเที่ยงแท้…’
‘แต่ตอนนั้นข้าดันไม่เคยรู้เรื่อง 7 ทวาราเที่ยงแท้อะไรเลย…ที่นางถามก็ไม่พ้นเพราะเห็นเขตแดนหมื่นกระบี่ที่ข้าใช้ออก นางเลยสงสัยว่าข้าอาจจะเป็นผู้สืบทอดหมอกพิรุณ…’
‘เพราะอย่างไรเขตแดนหมื่นกระบี่ของข้า ก็คือป้ายบอกยี่ห้อผู้สืบทอดของอาวุโสฟงชิงหยาง’
พอนึกย้อนทบทวนเรื่องราวในอดีต ต้วนหลิงเทียนก็จดจำเรื่องนี้ได้
‘มาตอนนี้ดูท่าประมุขนิกายอัคคีล่องลอยในประเทศฝูเฟิงก็น่าจะเป็นผู้สืบทอดของ 7 ทวาราเที่ยงแท้เช่นกัน…ยังเป็นผู้สืบทอดของ หงส์ฟ้าจรัสแสง ทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 5!’
‘ในเมื่อนางถ่ายทอดเคล็ดวิชาบ่มเพาะให้เทียนหวู่…นั่นหมายความว่าตอนนี้เทียนหวู่ก็คือผู้สืบทอดของทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 5 หงส์ฟ้าจรัสแสงคนปัจจุบันจริงๆ!’
พอสติกลับมาแจ่มใส ต้วนหลิงเทียนที่ได้ยินว่า 7ทวาราเที่ยงแท้หวนคืนแล้ว ทำให้เขาพอจะทราบถึงความสำคัญของผู้สืบทอด 7 ทวาราเที่ยงแท้ทั้งหลาย
และในบรรดาผู้สืบทอดที่ว่า ยังมีคนใกล้ตัวที่เขาอยากพบเจอกระทั่งในฝันอย่างเฟิ่งเทียนหวู่อีกด้วย!
“เฟิ่งเทียนหวู่ ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 5หงส์ฟ้าจรัสแสง แรกปรากฏก็สังหาร จ้าวพยัคฆ์ขาวแห่งลัทธิอารามทมิฬ ผู้ที่ติดอยู่ในอันดับ 10 ของรายนามยอดเซียน…”
‘จ้าวพยัคฆ์ขาวนั่นอย่างไรก็เป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน…แต่ทว่าเทียนหวู่กลับฆ่ามันได้เมื่อไม่กี่ปีก่อน นั่นบอกให้รู้ว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อนพลังงฝีมือของเทียนหวู่ย่อมอยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ 8เปลี่ยนเป็นอย่างน้อย!’
‘ไม่คิดเลย…ว่าหลังเทียนหวู่ขึ้นมายังภูมิภาคเบื้องบนได้ไม่นาน กลับได้รับวาสนาสูงล้ำถึงขั้นแข็งแกร่งขึ้นมากขนาดนี้!
ต้วนหลิงเทียนเองก็ได้ตามหาเฟิ่งเทียนหวู่มานานแล้ว
ในระหว่างที่ตามหาตัวนาง ต้วนหลิงเทียนเองก็ห่วงความปลอดภัยของนางไม่น้อย ยังกลัววว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนาง!
และหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเฟิ่งเทียนหวู่ขึ้นมาจริงๆ ไม่เพียงแต่เขาไม่อาจทนรับได้ไหว กระทั่งเขายังไม่มีหน้าจะไปพบลุงเฟิ่งอีกด้วย!
แต่พอต้วนหลิงเทียนมาได้ยินข่าวคราวของเฟิ่งเทียนหวู่วันนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
อย่างน้อยๆเขาก็มั่นใจได้ ว่าเฟิ่งเทียนหวู่ยังคงปลอดภัยดีอยู่ ที่สำคัญยังแข็งแกร่งขึ้นมาก
ในขณะที่รู้สึกโล่งใจ ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกยินดีและมีความสุขกับเฟิ่งเทียนหวู่จากใจ เมื่อได้ยินความสำเร็จของเฟิ่งเทียนหวู่
‘อย่างไรก็ตามข้าไม่คิดเลยว่าเทียนหวู่จะเป็น ทายาทของ 7 ทวาราเที่ยงแท้เหมือนข้า…’
ในขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็รู้ว่าเขาเป็นผู้สืบทอดของทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 และนับว่าประสบความสำเร็จมากที่สุด! อย่างไรก็ตามพอคิดถึงเรื่องที่เขากับเฟิ่งเทียนหวู่ดันมาเป็นคนในขุมพลังเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
หลังจากถอนหายใจเรื่องนี้ไปแล้ว ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็ระบายลมหายใจออกมายืดยาวอีกครั้ง
‘นอกจากนั้นไม่คิดเลยว่า เฉวี่ยไน่จะเป็นไปกับเขาด้วย…นางเป็นคนในขุมพลังเดียวกับข้าอีกเหมือนกัน!’
เฉวี่ยไน่ที่ต้วนหลิงเทียนพูดถึง ก็คือ หานเฉวี่ยไน่ คุณหนูใหญ่แห่งคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหาน ขุมพลังชั้น 5 ในภูมิภาคเบื้องล่าง!
ต้วนหลิงเทียนเองก็รู้จักนางมานานแล้ว ยังเห็นนางเป็นเหมือนน้องสาวแสนซนมาตลอด
ต้วนหลิงเทียนเองก็ได้รู้เรื่องที่หานเฉวี่ยไน่ออกจากคฤหาสน์สกุลหานตอนที่เขาอยู่ในภูมิภาคเบื้องล่างเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เขาคิดไม่ถึงจริงๆ
ว่าหลังออกจากคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหาน เฉวี่ยไน่จะประสบความสำเร็จขนาดนี้
“หานเฉวี่ยไน่ ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 7 ธุลีแดง แรกปรากฏก็สังหารผู้นำของลัทธิอารามทมิฬ ที่ติดอยู่ใน 20 อันดับแรกของรายนามยอดเซียน จนทำให้โด่งดั่งไปทั่ว”
นี่คือข้อความที่ต้วนหลิงเทียนได้ยินมา
‘ผู้นำของลัทธิอารามทมิฬคนนั้นเท่าที่จำได้มันก็มีพลังฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนทั้งยังเป็นชนชั้นยอดฝีมือคนหนึ่ง…แต่ในเวลาแค่ไม่กี่ปีเฉวี่ยไน่กลับมีพลังสูงพอจะฆ่ามันได้?’
ต้วนหลิงเทียนเต็มไปด้วยความประหลาดใจนัก
และตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะนึกย้อนกลับไปถึงวันที่ได้พบเจอหานเฉวี่ยไน่วันแรก
สาวน้อยซุกซนในอดีต มิคาดกลับเติบโตขึ้นมาถึงขนาดนี้
ในขณะที่บังเกิดความรู้สึกยินดีและมีความสุขกับความสำเร็จของหานเฉวี่ยไน่ ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมา ‘7 ทวาราเที่ยงแท้ มีผู้สืบทอดนามที่มีพลังฝีมือโดดเด่นแตกต่างกันไป…’
‘แต่เรื่องของเรื่องคือ ในบรรดา 7 ทวาราเที่ยงแท้กลับเป็นคนรู้จักของข้าทั้งนั้น หากนับรวมข้าก็เป็นผู้สืบทอดทั้ง 6 เข้าไปแล้ว’
‘นี่มัน…จะไม่บังเอิญเกินไปหน่อยหรือ?’
‘ทำไมข้ารู้สึกเหมือน…ว่ามีมือมืดคอยชักใยเรื่องราวให้มันเป็นแบบนี้กันนะ?’
ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความคิดทำนองนี้ขึ้นมา
เพราะนอกจากทายาทของทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 2ความลับสวรรค์ ที่เขาไม่รู้จักแล้ว ผู้สืบทอดนามทวาราเที่ยงแท้อีก 5 ลำดับ เขารู้จักทั้งสิ้น!
เฟิ่งเทียนหวู่ หานเฉวี่ยไน่
ทั้งคู่เป็นผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 5 กับ 7 ใน 7 ทวาราเที่ยงแท้
กู่ลี่ กลับเป็นผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 3 จอมเผด็จการ
เย่วอู๋หยิ่ง เป็นผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 4เงาทมิฬ
หนานกงยี่กับหนานกงแนเป็นผู้สืบทอด ทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 6 คนคู่
กล่าวได้ว่านอกจากเฟิ่งเทียนหวู่กับหานเฉี่ยไน่ เขาเองก็รู้จักเยว่อู๋หยิ่ง หนานกงยี่ หนานกงเฉินและกู่ลี่ดี
‘แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าพี่กู่จะเอากับเค้าด้วย ไฉนอยู่ๆพี่แกได้เป็นผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับ 3 ได้เล่า?’
สำหรับกู่ลี่นั้น ไม่ใช่คนที่แปลกหน้าสำหรับต้วนหลิงเทียนเลย
เรียกว่าเป็นสหายอันดีที่เขามีในภูมิภาคเบื้องล่าง รวมถึงเดินทางขึ้นมายังภูมิภาคเบื้องบนพร้อมๆกัน กระทั่งยังไปเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟเหมือนกันอีก
ทว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน อยู่ๆกู่ลี่ก็มาลาเขา แล้วออกจากลัทธิบูชาไฟไป
จากสิ่งที่กู่ลี่บอกเขาในอดีต อีกฝ่ายกล่าวเพียงว่ามีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการเท่านั้น
ด้วย ตัวตน ของกู่ลี่ในวันนี้ ต้วนหลิงเทียนย่อมเดาได้ไม่ยาก
สิ่งที่ทำให้กู่ลี่ออกจากลัทธิบูชาไฟวันนั้น ไม่พ้น 9ใน 10 ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องทายาททวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 3 แน่นอน
‘ความแข็งแกร่งของพี่กู่เองก็เพิ่มขึ้นมาไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน…พลังฝึกปรือของพี่กู่ตอนนี้สมควรบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนแล้ว’
ในภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า แม้ชื่อเสียงของกู่ลี่จะเทียบเฟิ่งเทียนหวู่กับหานเฉวี่ยไน่ไม่ได้ แต่ด้วยการลงมืออย่างดุดันบุกไปฆ่าผู้อื่นโต้งๆ ทั้งเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ก็ทำให้มีชื่อเสียงไม่น้อย
ดังนั้นทำให้หลังต้วนหลิงเทียนย้อนกลับมาถึงภูมิภาคเบื้องบนได้ไม่นาน ก็ได้รับทราบเรื่องราวของกู่ลี่ด้วยเช่นกัน
ผู้สืบทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 3 จอมเผด็จการ!
‘ว่าแต่…คนที่ชื่อเยว่อู๋หยิ่งผู้นี้ ไม่ใช่คนข้างกายท่านพ่อรึไง?’
‘แล้วไฉนไปเป็นผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 4ได้?’
ตอนที่ได้รับทราบว่าเยว่อู๋หยิ่งเป็นผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับ 4 ต้วนหลิงเทียนเองก็งุนงงไม่น้อย
สำหรับเยว่อู๋หยิ่งคนนี้แม้ต้วนหลิงเทียนจะไม่ได้สนิทสนมอะไรมากนัก แต่เขารู้จักอีกฝ่ายเพราะเป็นคนข้างกายบิดา และยังนับเป็นยอดฝีมือที่ร้ายกาจคนหนึ่งในภูมิภาคเบื้องล่าง
กระทั่งตอนที่เขาอยู่ในตำหนักเมฆาคราม เขายังได้ยินมาไม่น้อยว่าเยว่อู๋หยิ่งคนนี้เป็นดั่งเงาของ ต้วนหรูเฟิง บิดาเขาก็ไม่ปาน
‘จะใช่เยว่อู๋หยิ่งที่อยู่ข้างกายท่านพ่อแน่หรือไม่?หรือเป็นแค่คนที่มีชื่อเหมือนกัน?’
ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วครุ่นคิด
‘ไม่! ใต้หล้าไหนเลยมีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้…เยว่อู๋หยิ่งที่ติดตามท่านพ่อเองก็ชำนาญในการลอบสังหาร แล้วผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 4 เงาทมิฬ ก็ช่ำชองเรื่องนี้เป็นที่สุด’
ใต้หล้า ไหนเลยมีเรื่องบังเอิญแบบนี้ได้?
“เยว่อู๋หยิ่ง ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 4 เงาทมิฬ…ไม่กี่ปีที่แล้วได้ลอบสังหารปุโรหิตของลัทธิลัทธิชะตาฟ้า ที่พลังฝึกปรือบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนคาถิ่น จนทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาในชั่วข้ามคืน”
ต้วนหลิงเทียนตัดสินได้จากข่าวนี้ทันที
ว่าทายาทของทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 4 เงาทมิฬ ที่มีนามว่าเยว่อู๋หยิ่งผู้นี้ สมควรเป็น เยว่อู๋หยิ่ง ผู้เป็นดั่งเงาที่ติดตามอยู่ข้างกายบิดาเขาไม่ห่าง เพราะเชี่ยวชาญการลอบสังหารเหมือนกัน…
พลังฝีมือแนวทางเดียวกัน ชื่อเหมือนกัน ยากจะเป็นคนอื่นได้!
‘โดยเฉพาะคู่แฝดหนานกง นี่ทั้งสองคนไปทำอะไรมากันแน่? ไม่ใช่ว่าสมควรอยู่กับพวกลุงเฟิ่งที่ตำหนักเมฆาครามหรือไร?’
‘พวกมันไปทำอีท่าไหนกันถึงได้จับพลัดจับผลูไปเป็นผู้สืบทอดนาม คนคู่ ทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 6ได้?’
เรียกว่าพอต้วนหลิงเทียนได้ยินเรื่องคู่แฝดหนานกงก็ทำให้เขาอึ้งไม่น้อยยังอึ้งกว่าใครคนอื่นเขา ถึงขั้นงงไปครึ่งค่อนวันยังไม่อาจเข้าใจได้…