ตอนที่ 1566

Alchemy Emperor of the Divine Dao

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือภูเขามหาสมุทรมังกร

หลิงฮันแหงนมอง แม้จะด้วยสายตาของเขาก็ไม่สามารถมองเห็นว่ามีอะไรอยู่ด้านบนภูเขา ปลายเขาที่สูงทะลุชั้นฟ้านั้นฟ้ามองดูดีๆแล้วจะเหมือนกับว่าภูเขานี้คือมังกรที่กำลังเกรี้ยวกราด

ทั้งสี่คนลงจากเรือเหาะมายังตีนเขา จากประสบการณ์ของม่อหลีพวกเขาจะไม่สามารถขึ้นไปยอดเขาด้วยการเหาะเหินกลางอากาศได้เนื่องจากโดยรอบภูเขาถูกปกคลุมไปด้วยผนึกอาคมเขตหวงห้ามที่น่าสะพรึงกลัว หากสัมผัสโดยจะตกตายในทันที

ภูเขาแห่งนี้มีเส้นทางอยู่เก้าสิบเก้าเส้นทางในการขึ้นไปยังยอดเขา หสกเส้นทางไหนมีคนเลือกเดินไปแล้วคนอื่นจะไม่สามารถเลือกเดินไปด้วยได้จนกว่าคนที่เดินไปก่อนจะเสียชีวิต ซึ่งไม่ว่าจะเส้นทางคนทุกคนก็มีสิทธิ์ตายได้เนื่องจากตามทางเดินจะมีผนึกเขตอาคมขวางอยู่

แต่ก็แน่นอน หากไม่สามารถปลดผนึกอาคมได้ก็ไม่จำเป็นต้องฝืน แค่รอให้เวลาผ่านไปสามปีทุกคนก็จะถูกเตะออกจากเขตแดนลี้ลับ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกขังอยู่ที่นี่ตลอดการ

ม่อหลีกล่าวเตือนกับทั้งสามคนว่าอย่าได้บุ่มบ่ามผลีผลาม หากไม่สามารถไปต่อได้ก็ให้ยอมแพ้อย่าให้นำชีวิตไปเสี่ยง

ตามทางนั้นจะมีวาสนาหาให้มากมาย ทุกครั้งที่เข้ามาในเขตแดนลี้ลับทุกคนจะพบเจอสมบัติอย่างทักษะบ่มเพาะ เม็ดยาและอื่นสมบัติล้ำค่าอื่นๆอยู่ตลอด

เพียงแต่ว่าถึงแม้จอมยุทธที่ข้ามผ่านมหาสมุทรมาได้จะมีน้อยนิดแต่หากนับรวมจำนวนตั้งแต่อดีตแล้วก็มีมากพอสมควร ดังนั้นสมบัติในระดับล่างๆของทางเดินจึงถูกเก็บไปหมดแล้ว

หากต้องการเก็บเกี่ยวสมบัติก็ต้องขึ้นไปให้สูงยิ่งขึ้น

ทั้งสี่คนแยกย้ายกันเลือกเส้นทางของตัวเอง

หลิงฮันเลือกเส้นทางหนึ่ง หลังจากที่เดินไปได้ไม่นานเขาก็พบเจอโขดหินหลายก้อนตั้งอยู่ราวกับมีคนจงใจวางเอาไว้เพื่อขวางทางเขา

เขาหยุดเดินและจ้องมอง โขดหินเหล่านี้ไม่ธรรมดา พวกมันแต่ละก้อนถูกสลักรูปแบบอาคมเอาไว้เล็กๆ

น่าสนใจ

รูปแบบแบบอาคมตรงหน้าเป็นรูปแบบอาคมที่หลิงฮันไม่เคยเห็นมาก่อน เขาเลือกที่จะไม่ทำลายและค่อยๆถอดรูปแบบอาคม

“รูปแบบอาคมนี่ถึงแม้จะเป็นรูปแบบอาคมง่ายๆแต่ก็ช่วยให้ข้าเรียนรู้พื้นฐานบางอย่างที่ข้าเมินเฉยในสำนักย่อยที่แปด”

“ก่อนหน้านี้มีเพียงรูปแบบอาคมระดับสูงที่อยู่ในสายตาของข้าทำให้ข้าละเลยที่จะศึกษาพื้นฐานของรูปแบบอาคม”

“หนทางสู้วิถีเซียนนั้นยากลำบาก หากข้าต้องการเชี่ยวชาญรูปแบบอาคมเซียนข้าก็ต้องขัดเกลาทุกอย่างจากพื้นขึ้นไป”

หลิงฮันพยักหน้าในใจก่อนจะเดินหน้าต่อ หลังจากเดินไปได้อีกราวๆห้าร้อยฟุตเขาก็พบรูปแบบอามอีกครั้ง มันยังคงเป็นรูปแบบอาคมพื้นฐานเช่นเดิมซึ่งหลิงฮันก็ไม่ได้ผ่านไปโดยใช้กำลัง เขาศึกษารูปแบบอาคมที่ว่าให้เชี่ยวชาญก่อนที่จะถอดรูปแบบอาคมและเดินหน้าต่อ

เขาทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ

เนื่องจากว่ารูปแบบอาคมเหล่านี้สามารถใช้กำลังทำลายทิ้งได้พวกมันจึงไม่สามารถขวางทางเหล่าจอมยุทธตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ระหว่างทางหลิงฮันไม่พบเจอสมบัติใดๆซึ่งคงเป็นเพราะถูกจอมยุทธที่เคยมาก่อนหน้าเก็บไปแล้ว

หลิงฮันไม่คิดมาก เพราะอย่างไรก็ไม่มีใครเคยขึ้นไปถึงด้านบนสุดได้อยู่แล้ว ตราบใดที่เขาเดินหน้าได้รวดเร็วพอสุดท้ายเขาก็จะสามารถไปถึงยอดเขาที่ไม่มีใครเคยไปถึงได้ และไม่ว่าสมบัติที่อยู่ที่นั่นจะเป็นอะไรก็จะตกเป็นของเขา

หนึ่งวัน สองวัน สามวัน… เวลาผ่านค่อยๆผ่านพ้นไป ในระยะเวลาเพียงสิบวันหลิงฮันถอดรูปแบบอาคมไปมากกว่าสามพันรูปแบบ ซึ่งพวกมันล้วนแต่เป็นรูปแบบอาคมง่ายๆไม่ซับซ้อน สถานการณ์ดำเนินไปเช่นนี้จนถึงสามร้อยวัน รูปแบบอาคมที่หลิงฮันถอดไปแล้วนั้นมีจำนวนเกินกว่าหนึ่งแสนรูปแบบ

เพียงแต่ว่าจู่ๆรูปแบบอาคมที่เขาพบเจอหลังจากนั้นยากขึ้นจนเขาต้องใช้เวลาพอสมควรในการถอด

รูปแบบอาคมระดับนี้ไม่สามารถหยุดเขาได้ เกรงว่าจอมยุทธส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ก็คงเหมือนกันเนื่องจากตั้งแต่เดินผ่านมาหลิงฮันไม่พบเจอสมบัติใดๆเลย

เวลาผ่านไปอีกสองร้อยวัน ระดับความยากของรูปแบบอาคมได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

รูปแบบอาคมตอนนี้ค่อนข้างยากลำบากหากต้องทำลายด้วยกำลัง คงมีเพียงจอมยุทธที่มีกายหยาบไร้เทียมทานเช่นหลิงฮันหรือจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ที่แข็งแกร่งอย่างม่อหลีเท่านั้นถึงจะสามารถทำลายได้

หลิงฮันเข้าไปในหอคอยทมิฬและทำความเข้าใจรูปแบบอาคมใต้ต้นสังสารวัฏเพื่อลดระยะเวลา

ความเร็วในการเดินขึ้นเขาของเขารวดเร็วจนน่าอัศจรรย์ แต่ความยากของรูปแบบอาคมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทำให้เขาต้องใช้เวลาอยู่ในหอคอยทมิฬนานขึ้น

เมื่อเหลือเวลาหนึ่งปีจากสามปี หลิงฮันก็พบแผ่นหยกบางอย่างหลังจากที่ถอดรูปแบบอาคมได้สำเร็จ

หืม?

เขาเก็บมันขึ้นมาและใส่เข้าในหอคอยทมิฬเพื่อตรวจสอบภายหลัง

แผ่นหยกนั่นไม่ใช่กับดักแต่เป็นบันทึกทักษะอะไรบางอย่างที่เรียกว่า ‘ร่างเงามังกรทะยาน’ มันคือทักษะระดับใดนั้นเขายังไม่รู้ แต่เท่าที่ชำเลืองมองดูหลิงฮันมั่นใจว่ามันต้องเป็นทักษะที่ทรงพลังไม่ผิดแน่

เขาพยักหน้าใจใจ ถึงแม้สมบัติสำหรับคนมาทีหลังจะน้อยแต่ยิ่งขึ้นมาสูงความล้ำค่าก็ยิ่งมากขึ้น

เปรียบแล้วก็เหมือนกับต่อให้เก็บเกี่ยวสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์นับพันได้ก็ไม่อาจเทียบกับสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำต้นเดียว

หลิงฮันยิ้มและเดินหน้าต่อ

ความยากของรูปแบบอาคมเพิ่มขึ้นเรื่อนๆ หากให้หลิงฮันถอดรูปแบบอาคมตามเวลาปกติคงใช้เวลาหลายเดือนต่อหนึ่งรูปแบบ แต่ด้วยต้นสังสารวัฏเวลาจึงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

เขาเดินหน้าต่ออย่างรวดเร็วและเก็บเกี่ยวสมบัติมากมาย

ทุกครั้งที่เขาถอดรูปแบบอาคมสำเร็จจะพบบางสิ่งวางอยู่ใต้พื้น ส่วนใหญ่จะเป็นกล่องหยกที่มีเม็ดยาหรือไม่ก็สมุนไพรใส่อยู่ด้านใน แต่ที่ทำให้หลิงฮันรู้สึกหดหู่คือไม่มีสมบัติชิ้นใดเลยทีมีระดับเซียน

เขาคำนวณในใจ ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงเจ็ดเดือนก็จะครบเวลาสามปี

เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถไปถึงยอดเขาบนสุดได้หรือไม่ หากเขาขึ้นไปไม่ถึงยอดบนสุดก็จะไม่ได้ศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายมาครอบครองและไม่ได้รับวาสนาศักดิ์สิทธิ์จากหอคอยทมิฬ

ต้องพยายามให้ถึงสุด

เมื่อเวลาผ่านไปและเหลืออีกสามเดือนในที่สุดหลิงฮันก็สามารถมองเห็นยอดเขา

ที่ยอดบนสุดมีรูปปั้นของมังกรแท้จริงนอนอยู่ แม้มันจะเป็นเพียงรูปปั้นที่สลักจากก้อนหินแต่หลิงฮันก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันรุนแรง รูปปั้นมังกรตนนั้นราวกับว่ามันจะสามารถมีชีวิตขึ้นมาได้ตลอดเวลา อำนาจของมันทรงพลังเหนือเก้าชั้นฟ้าจนทุกสรรพสิ่งต้องยอมศิโรราบ

อีกแค่สามเดือน จะชักช้าไม่ได้…

เขาลงมือถอดรูปแบบอาคมต่อโดยไม่หยุดพัก

ตอนนี้เขารู้สึกได้ถึงประโยชน์ของการถอดรูปแบบอาคมพื้นฐานตอนแรกๆแล้วเนื่องจากรูปแบบอาคมระดับสูงที่เขาพบเจอตอนนี้จำเป็นต้องใช้หลักการจากรูปแบบอาคมพื้นฐานในการการถอด

หากก่อนหน้านี้เขาใช้กำลังผ่านรูปแบบแบบอาคมมาเขาคงร้องไห้ให้กับโชคชะตาอันบัดซบแน่

“อืม!” “โอ้!” “หืม!”

หลิงฮันอุทานตลอดเวลา รูปแบบอาคมระดับสูงทำให้เขาเริ่มเข้าใจว่าการสร้างรูปแบบอาคมระดับสูงนั้นเกิดขึ้นจากการดัดแปลงรูปแบบอาคมพื้นฐานให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น

ทุกสิ่งบนโลกที่ซับซ้อนล้วนแต่สามารถแตกแยกออกมาเป็นหลักการพื้นฐานนับไม่ถ้วน ในทางกลับกัน ตราบใดที่สามารถผสานหลักการพื้นฐานให้รวมกันได้ก็จะเกิดเป็นหลักการที่สูงและซับยิ่งขึ้น

อย่างเช่น… รูปแบบอาคมเซียน!