ตอนที่ 1568

Alchemy Emperor of the Divine Dao

“ผู้อาวุโสมีความปรารถนาที่ยังทำไม่สำเร็จ?” หลิงฮันถาม

อีกฝ่ายคงตายไปแล้วไม่ผิดแน่ หากไม่ใช่เพราะประทับดวงวิญญาณเอาไว้ที่ศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายอีกฝ่ายคงไม่สามารถอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้

“ความปรารถนาที่ยังทำไม่สำเร็จ… ข้ามีมากมาย!” เสียงชราเอ่ยกล่าว

ถ้ามีก็รีบพูดมา ข้ามีเวลาอยู่ที่นี่ได้อีกสามวันเท่านั้นและต้องตามหาศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายด้วย!

หลิงฮันกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ในใจแต่ก็ไม่คิดจะเร่งรีบ ห้ามทำให้อีกฝ่ายโกรธในขณะที่เขายังใช้หอคอยทมิฬไม่ได้

“ผู้อาวุโสโปรดกล่าวมา หากไม่เหนือบ่ากว่าแรงของรุ่นเยาว์ ข้าจะทำความปรารถนาของผู้อาวุโสให้บรรลุให้ได้” หลิงฮันกล่าว

“ฮ่าๆ!” เสียงชราหัวเราะ “หนุ่มน้อย เจ้ามั่นใจแล้วรึ?”

หลิงฮันพยักหน้า “ตัวข้าพูดแล้วไม่คืนคำ”

เสียงชราแน่นิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “ชายชราผู้นี้มีชื่อว่าเฉิงหู่ ตระกูลเฉิงของข้าคือขุมอำนาจหนึ่งในดินแดนแห่งเซียน จริงสิ… บางทีเจ้าอาจจะไม่รู้ถึงการมีอยู่ของดินแดนแห่งเซียน”

“ข้ารู้” หลิงฮันรีบกล่าวเพื่อไม่ให้เสียเวลา

“หือ?” เฉิงหู่ประหลาดใจเล็กน้อย เด็กน้อยของดินแดนใต้พิภพน่ะรึรู้ถึงการมีอยู่ของดินแดนแห่งเซียน? เขารีบกล่าวต่อ “ในเมื่อเจ้ารู้แล้วเรื่องก็ง่ายขึ้น”

“ตระกูลเฉิงของข้าเป็นขุมอำนาจที่ทรงพลังของดินแดนแห่งเซียน แต่เมื่อมีมหาโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นตระกูลของข้าได้ถูกลบล้างโดยตัวตนที่ทรงอำนาจ หากไม่ใช่เพราะการช่วยเหลือของผู้นำตระกูลข้าคงไม่ได้มาคุยกับเจ้าที่นี่”

เฉิงหู่ถอนหายใจ “ความปรารถนาของชายชราผู้นี้คืออยากให้เจ้าช่วยสังหารตัวตนทรงอำนาจผู้นั้น!”

สีหน้าของหลิงฮันเปลี่ยนเป็นมืดมน ขนาดชายชราที่แข็งแกร่งขนาดนี้ยังเรียกอีกฝ่ายว่าตัวตนทรงอำนาจ เกรงว่าศัตรูที่ว่าคงเป็นปรมาจารย์ระดับสูงของดินแดนแห่งเซียนไม่ผิดแน่ เขาชะงักแน่นิ่งก่อนจะกล่าว “ขอกล่าวถามผู้อาวุโส… ตัวตนทรงอำนาจที่ว่ามีพลังบ่มเพาะอยู่ระดับใด?”

“ราชานิรันดร์อวี้ซวี ” เฉิงหู่กล่าว

พรวด!

หลิงฮันสำลักทันที ราชานิรันดร์!

หอคอยน้อยที่ไม่หวั่นเกรงใครยังไม่กล้ากล่าวเต็มปากว่าจะสามารถเอาชนะราชานิรันดร์ได้ จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าราชานิรันดร์เป็นตัวตนที่ทรงพลังขนาดไหน

หลิงฮันสงสัยว่าหอคอยทมิฬน่าจะเป็นอุปกรณ์นิรันดร์ของราชานิรันดร์ซึ่งราชานิรันดร์ผู้นั้นได้ตกตายในมหาโศกนาฏกรรม ซึ่งไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่หอคอยทมิฬที่ได้รับความเสียหายหนักได้ปรากฏขึ้นที่ทวีปฮงเทียนจนสุดท้ายก็มาอยู่ในมือของเขา

แต่เจ้าของหอคอยทมิฬนั้นสมควรเป็นราชานิรันดร์ที่แข็งแกร่งกว่าราชานิรันดร์ทั่วไปเนื่องจากคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์นั้นเกิดจากการผสมผสานทักษะระดับราชานิรันดร์มากมายให้เป็นหนึ่งเดียว

แต่ไม่ว่าอย่างไรขึ้นชื่อว่าราชานิรันดร์ก็สมควรเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนแห่งเซียน!

จะให้เขาสังหารราชานิรันดร์? ฮะๆ…

หลิงฮันยิ้มเจื่อนและกล่าว “ผู้อาวุโสคิดว่าข้าจะทำได้?”

“ไม่!” เสียงชรากล่าวอย่างหนักแน่นมั่นใจ “เพียงแต่ว่าหากเจ้าหาตำแหน่งผู้นำตระกูลหลบหนีไปฟื้นฟูบาดแผลพบก็อาจจะพอมีหวัง”

หลิงฮันตกตะลึง “ผู้นำตระกูลของผู้อาวุโสเองก็เป็นราชานิรันดร์?”

“ไม่ผิด!” น้ำเสียงของเฉิงหู่เปลี่ยนเป็นภาคภูมิใจ “ท่านผู้นำไม่ได้เป็นเพียงราชานิรันดร์ทั่วไปแต่ยังเป็นหนึ่งในราชานิรันดร์ที่แข็งแกร่งที่สุด เพียงแต่ว่าท่านผู้นำไม่ได้มีเข้าร่วมมหาโศกนาฏกรรมเขาถึงได้ถูกราชานิรันดร์จำนวนมากลอบโจมตี แต่สุดท้ายแม้จะบาดเจ็บสาหัสแต่เขาก็สามารถหลบหนีได้สำเร็จ”

หากต้องรับบาปเคราะห์แห่งสวรรค์ทุกๆหนึ่งร้อยล้านปี หากไม่รักษาอาการบาดเจ็บให้กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ต่อให้เป็นราชานิรันดร์ก็ยากที่จะรอดชีวิต

เพราะงั้นหากจะให้ตามผู้นำตระกูลเฉงเพื่อให้เขากลับมาแก้แค้นล่ะก็… ความหวังคงมีเพียงริบหรี่

“ท่านผู้นำไม่มีทางตาย!” เฉิงหู่กล่าวอย่างมั่นใจ “รุ่นเยาว์ ในอนาคตเมื่อเจ้าเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนจงใช้วิธีการที่ข้าบอกตามหาท่านผู้นำให้เจอและความแค้นของตระกูลเฉิงจะได้ถูกสะสาง ยิ่งกว่านั้นหากเจ้าได้รับคำชี้แนะจากท่านผู้นำ ต่อให้จะบรรลุเป็นราชานิรันดร์ไม่ได้แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้เจ้าบรรลุระดับระดับขอบเขตตำหนักอมตะหรือระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้”

หลิงฮันเมินเฉยต่อผลประโยชน์ที่เฉิงหู่และกล่าวถาม “ผู้อาวุโส ถัดจากระดับโลกียนิพพานคือระดับขอบเขตตำหนักอมตะและระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้?”

“หืม ทั้งๆที่เจ้ารู้จักดินแดนแห่งเซียนแต่เหตุใดถึงไม่รู้ระดับพลังของที่นั่น?” เฉิงหู่ประหลาดใจ “ถัดจากระดับโลกียนิพพานตามลำดับคือระดับแบ่งแยกวิญญาณ ระดับขอบเขตตำหนักอมตะ ระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้และระดับที่ไม่ว่าใครจากก็ใฝ่ฝัน ระดับราชานิรันดร์!”

“ระดับราชานิรันดร์แบ่งออกไปได้อีกเก้าระดับย่อย ความแตกต่างเพียงหนึ่งระดับย่อยนั้นกว้างใหญ่ราวกับไต่เต้าขึ้นสวรรค์ ท่านผู้นำนั้นเป็นถึงราชานิรันดร์ระดับแปดที่ห่างจากราชานิรันดร์สูงสุดเพียงก้าวเดียว”

ในที่สุดหลิงฮันก็รับรู้ถึงลำดับพลังบ่มเพาะของดินแดนแห่งเซียน เป็นอย่างที่คิดว่าราชานิรันดร์นั้นเป็นตัวตนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของดินแดนแห่งเซียน เพียงแต่ระดับของราชานิรันดร์ไม่ได้แบ่งออกดเป็นขั้นต้น กลาง สูง สูงสุดแต่แบ่งออกเป็นเก้าระดับย่อยแทน

เขาครุ่นคิดก่อนจะกล่าว “หากมีโอกาส รุ่นเยาว์ผู้นี้จะออกหาตามผู้นำของท่านให้พบ”

“ผู้อาวุโส ในอดีตเกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์มหาโศกนาฏกรรมกันแน่?” หลิงฮันเอ่ยถาม เขาสงสัยเป็นอย่างมากว่าเหตุการณ์เช่นใดกันที่ทำให้ตัวตนระดับนิรันดร์ตกตายได้

“…เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้” เฉิงหู่ถอนหายใจ “ตัวข้าเป็นเพียงจอมยุทธระดับโลกียนิพพาน ในตอนที่เกิดมหาโศกนาฏกรรมข้าบังเอิญอยู่ใกล้กับศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายถึงได้ทิ้งดวงวิญญาณเอาตัวรอดมาได้”

ในดินแดนแห่งเซียน ระดับโลกียนิพพานคือระดับพลังที่ต่ำที่สุด เป็นธรรมดาที่เฉิงหู่จะไม่รู้ถึงต้นตอของมหาโศกนาฏกรรม

แต่ที่ทำให้หลิงฮันประหลาดใจคือเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่มหาโศกนาฏกรรมจะต้องเกิดขึ้นทั่วทั้งดินแดนแห่งเซียนเป็นแน่ แต่เหตุใดคนที่รับรู้ต้นเหตุของเหตุการณ์นั้นถึงได้มีเพียบน้อยนิดเท่านั้น?

ตำหนักมัจฉาวายุภักษ์คือขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่หญิงชราผู้นั้นจะเป็นตัวตนระดับราชานิรันดร์ นางต้องรู้สาเหตุอย่างแน่นอน

เอาไว้เมื่อพบเจอฮูหนิวในอนาคต เขาค่อยให้นางไปถามให้แล้วกัน

“หนุ่มน้อย ข้าไม่ได้ไหว้วานเจ้าเปล่าๆ ข้าจะมอบศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายให้เจ้าพร้อมกับรูปแบบอาคมจำนวนหนึ่ง หากเจ้าฝึกฝนได้อย่างเชี่ยวชาญพลังของเจ้าจะสามารถเหยียบย่ำจอมยุทธระดับโลกียนิพพานได้ทุกคน” เฉิงหู่กล่าว “เอาล่ะ เจ้าเดินตามเส้นทางที่ข้าบอกให้ดีอย่าให้ก้าวพลาด ตำหนักแห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พำนักของตระกูลเฉิง เขตแดนป้องกันของที่นี่ทรงพลังมาก ต่อให้เป็นราชานิรันดร์ก็ไม่สามารถกลับออกมาได้”

หลิงฮันพยักหน้า ที่นี่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่พำนักของราชานิรันดร์ ไม่รู้ว่าจะมีสมบัติเหลืออยู่บ้างรึเปล่า

ที่น่าเสียดายคือเฉิงหู่ยังคงวาดฝันว่าผู้นำที่เป็นตัวตนระดับราชานิรันดร์ของเขาจะยังไม่ตายและตระกูลเฉิงจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างรุ่งโรจน์อีกครั้ง จึงเป็นไปไม่ได้ที่เฉิงหู่จะมอบสมบัติที่หลงเหลืออยู่ที่นี่ให้แก่เขา