บทที่ 1054 นักธุรกิจผู้มีการศึกษา + ตอนที่ 1055 อยากกลับมาไหม?

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1054 นักธุรกิจผู้มีการศึกษา + ตอนที่ 1055 อยากกลับมาไหม? โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1054 นักธุรกิจผู้มีการศึกษา

อู่เยวี่ยแค่ดูก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือเลขาของอู่เจิ้งซือ เพียงแต่เมื่อครึ่งปีก่อนยังไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ ไม่ได้สวยเท่านี้ เธอแอบเบะปากน้อยๆ ผู้ชายนิสัยเหมือนกันทั้งโลก

อดีตต่อให้อู่เจิ้งซือเป็นคนดีแค่ไหนตอนนี้ก็แอบคบเลขาเชิงสู้สาวอยู่ดี!

แม้ลอบบ่นในใจแต่ใบหน้ากลับยิ้มเคอะเขินแล้วตอบเสียงเบา “พี่สาวคะ ฉันมาหาคุณพ่อ พ่อของฉันคืออู่เจิ้งซือ เขาอยู่ข้างในหรือเปล่า?”

หญิงสาวหน้าตาเย้ายวนชะงักน้อยๆ ผู้จัดการอู่มีลูกสาวที่โตขนาดนี้เชียว ทำไมใส่เสื้อได้น่าสงสารขนาดนี้?

แค่แวบเดียวเธอก็รู้ว่าแล้วเสื้อบนตัวอู่เยวี่ยล้วนมีแต่ของราคาถูก ไม่มีแบรนด์ดี ๆ สักตัว ต่างไปจากรสนิยมของผู้จัดการอู่อย่างสิ้นเชิง

ต้องรู้ไว้ด้วยว่าเสื้อผ้าเครื่องประดับของผู้จัดการอู่ดูแลโดยคุณหร่วนทั้งนั้นโดยไล่ตั้งแต่ชิ้นใหญ่ยันชิ้นเล็ก ตั้งแต่กระดุมเนกไทไม่มีชิ้นไหนไม่ใช่แบรนด์เนม

เลขาสาวเริ่มสงสัยอู่เยวี่ยเพราะเธอไม่ค่อยเชื่อว่าลูกสาวของผู้จัดการอู่จะมีสภาพดูน่าสงสารแบบนี้ อีกทั้งเมื่อก่อนไม่เคยได้ยินผู้จัดการอู่เอ่ยถึงลูกสาวมาก่อน แต่เธอก็รู้สึกว่าอู่เยวี่ยไม่น่าโกหกได้  จะเป็นเรื่องจริงหรือเท็จนั้นแค่ได้เจอผู้จัดการอู่ครั้งเดียวก็ถูกเปิดโปงแล้ว!

“เธอรอก่อนนะ ฉันไปรายงานผู้จัดการอู่ก่อน”

เลขาสาวตอบอย่างเกรงใจพลางให้อู่เยวี่ยรอที่ห้องรับแขก ส่วนตัวเองก็เดินส่ายบั้นท้ายจากไป

อู่เจิ้งซือกำลังนั่งอยู่บน ‘เก้าอี้เจ้านาย’ หนังแท้อย่างสบาย หมุนเก้าอี้เป็นระยะๆ ยิ้มสนทนากับหญิงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ดูท่าทางทั้งคู่จะสนิทชิดเชื้อกันมาก

วันเวลาผ่านไปห้าปีอู่เจิ้งซือเองก็เปลี่ยนไปมากโข คุณครูอู่ในอดีตที่เคยแต่งตัวล้าสมัยหัวโบราณคนนั้นตอนนี้กลายเป็นผู้จัดการอู่ที่มากด้วยประสบการณ์ชีวิตไปแล้ว

ชีวิตสุขสบายนี้ทำให้อู่เจิ้งซืออ้วนขึ้นเล็กน้อยกลับดูอ่อนเยาว์ลงไม่เบา บวกกับการแต่งกายที่ขับให้บุคลิกดูสง่าทำให้อู่เจิ้งซือดูแล้วมีอายุเพียงสามสิบปีต้นๆ หล่อเหลาร่ำรวยและมีกลิ่นอายของคนมีความรู้ คนนอกเรียกเขาว่านักธุรกิจผู้มีการศึกษา

ผู้หญิงที่เอียงตัวพิงโต๊ะทำงานโดยหันหลังให้ประตูกำลังอยู่ในชุดสูทสีเนื้อกับกระโปรงทรงเอสีเดียวกัน ผมถูกเกล้าขึ้นกลางศีรษะ ดูจากแผ่นหลังเหมือนเป็นหญิงสาวที่อายุไม่น้อยคนหนึ่งแต่รูปร่างดีไม่หยอก ไหล่แคบเอวคอด ลำคอระหงส์ขาวเนียน น่าจะเป็นคนสวยคนหนึ่ง

“ผู้จัดการอู่ มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอ้างว่าเป็นลูกสาวของท่านมาหา” เลขาผลักประตูเข้ามารายงานด้วยสายตาฉายแววอิจฉาชั่ววูบ

อู่เจิ้งซือขมวดคิ้ว อู่เยวี่ยมาทำอะไร?

“ให้เธอเข้ามาเถอะ!” อู่เจิ้งซือตอบกลับ

เลขาสาวปิดประตูแล้วมองผู้หญิงที่โต๊ะทำงานอีกแวบหนึ่งก่อนจะเบะปากใส่

เหอะ ถ้าไม่ได้มีพ่อดี ๆ คนหนึ่ง ผู้จัดการอู่จะชอบผู้หญิงแก่แบบนี้ได้ไง!

“เจิ้งซือ ต้องการให้ฉันหลบไหม ?”

เสียงของหญิงสาวไพเราะและอ่อนโยนมากแต่กลับใสกังวานจนทำให้คนฟังได้ยินอย่างชัดเจน เธอหันข้างมาน้อยๆ เป็นใบหน้ารูปไข่ หางตามีริ้วรอยจางๆ บ่งบอกว่าอายุไม่น้อยแล้วจริงๆ แต่กลับดูมีรสนิยมต่างไปอีกแบบ บุคลิกก็ดูดีไม่แพ้กัน

“ไม่ต้องหรอก ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องให้พวกคุณทำความรู้จักกันอยู่แล้ว” อู่เจิ้งซือโบกมือปัด

หญิงสาวอมยิ้มให้เขาทีหนึ่ง ใบหน้าจริงจังกลับเผยความเย้ายวนออกมาน้อยๆ ทำเอาอู่เจิ้งซือมองจนตาค้าง อดยื่นมือไปบีบมือหญิงสาวไม่ได้

แม้อายุจะมากไปหน่อยแต่ความเย้ายวนนี้ไม่ใช่หญิงอายุน้อยจะมีได้เลย!

ประตูถูกผลักเข้ามาตามด้วยตัวอู่เยวี่ยที่เดินมา เมื่อเห็นหญิงสาวข้างอู่เจิ้งซือก็อดชะงักไม่ได้ แอบคิดในใจว่าช่างมาผิดเวลาเสียจริง ทำไมถึงได้ปะทะกับหร่วนเป่าฮุ่ยนี่ได้

มีผู้หญิงคนนี้อยู่อู่เจิ้งซือต้องไม่ตกลงจะรับเธอกลับไปแน่ๆ แต่ในเมื่อมาแล้วเธอย่อมกลับไปมือเปล่าไม่ได้ ต้องลองดูสักครั้งสิ ถ้าไม่เข้าท่าจริงๆ ได้ค่าอยู่ค่ากินมากกว่านี้ก็ยังดี

“ค่าอยู่ค่ากินฉันโอนเข้าบัญชีเธอทุกเดือน เธอมาทำอะไร?” อู่เจิ้งซือมุ่นคิ้วแน่น ไม่ได้ชอบใจนักที่เจออู่เยวี่ย

……………………….

 ตอนที่ 1055 อยากกลับมาไหม?

อู่เยวี่ยในอดีตคะแนนสอบดีเยี่ยม มีความสามารถเหนือกว่าใครและสามารถสร้างหน้าสร้างตาให้อู่เจิ้งซือได้ เขาย่อมต้องชื่นชมอู่เยวี่ยมากกว่านี้ แต่ตอนนี้อู่เยวี่ยคะแนนสอบแย่ บอกไปมีแต่อับอายขายหน้า เขาไม่ชอบใจลูกสาวคนนี้จริงๆ

อู่เจิ้งซือเองก็คิดได้แล้วว่าสุดท้ายลูกสาวก็ไม่สู้ลูกชายไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจจะมีลูกชายคนเก่งอีกสักคนกับหร่วนเป่าฮุ่ย หากถูกเลี้ยงดูปลูกฝังอย่างดีอนาคตต้องสร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลไม่แพ้หลานชายอู่เชาแน่นอน

นึกถึงครอบครัวพี่ชายคนโตของเขาอู่เจิ้งซือก็อดส่ายศีรษะไม่ได้ พี่ชายคนโตคนเก่งคนนั้นของเขาถือว่าล้มเหลวอย่างแท้จริง วันๆ เอาแต่พึ่งเหล้าแก้เครียด ไม่เอาการเอางาน ล้มแล้วก็ไม่ลุกขึ้นสู้อีก ครอบครัวที่ดีก็ต้องแตกแยกกันไป

น่าเสียดาย!

อู่เยวี่ยแอบนึกแค้นในใจ แค้นความใจร้ายเลือดเย็นของอู่เจิ้งซือ ต่อให้เกลียดเหอปี้อวิ๋นขนาดไหนในตัวเธอก็มีสายเลือดของเขาไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ต้องเย็นชาขนาดนี้เชียวหรือ?

“พ่อคะ หนูคิดถึงพ่อเลยมาหา” อู่เยวี่ยตอบเสียงสั่นเทา สายตามีแต่ความชื่นชมและคิดถึงต่อผู้เป็นพ่อ

อู่เจิ้งซือใจอ่อนยวบอย่างห้ามไม่ได้ อย่างไรเสียก็พ่อลูกกันแท้ๆ ที่เมื่อก่อนเคยประคบประหงมเป็นลูกรัก ไม่เจอก็ช่างถือว่าไม่มีลูกสาวคนนี้ แต่ตอนนี้มายืนอยู่ตรงหน้าตัวเป็นๆ จะทำใจแข็งดั่งผาหินได้อย่างไรไหว

หร่วนเป่าฮุ่ยตาวาววับพลางยิ้มกล่าว “เธอคือเยวี่ยเยวี่ยสินะ? ฉันได้ยินเรื่องเธอมานานแล้ว เป็นเด็กหน้าตาสวยจริงๆ ดูท่าทางฉลาดไม่เบา ต้องเรียนดีมากแน่ๆ ใช่ไหม?”

อู่เจิ้งซือหน้าขรึมลงและใจแข็งขึ้นมาทันที

“หน้าตาสวยมีอะไรดี ถ้ามีเวลาว่างก็ไปตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้ดีกว่า อย่าสอบได้คะแนนที่น่าขายหน้าแบบนั้นอีก”

อู่เจิ้งซือตำหนิเสียงดุดันอย่างไม่คิดจะปิดบังความรังเกียจ

ในแววตาของหร่วยเป่าฮุ่ยมีความได้ใจพาดผ่านชั่ววูบ จะให้อู่เยวี่ยกลับมาอย่างราบรื่นมากไม่ได้ เรื่องที่หวงอวี้เหลียนสั่งไว้ยังไม่ได้ลงมือเลย!

แน่นอนว่าต่อให้อู่เยวี่ยกลับมา หล่อนอย่าคิดจะได้ทรัพย์สมบัติของอู่เจิ้งซือไปแม้แต่แดงเดียว ต้องเป็นของเธอกับลูกชายทั้งหมด!

อู่เยวี่ยรู้สึกขมขื่น เธอรู้อยู่แล้วหากมีหร่วนเป่าฮุ่ยอยู่ต้องจ้องจะทำลายอย่างไม่ออมแรงแน่ๆ นางปีศาจจิ้งจอกบ้านี่ เธอจงใจชัด ๆ!

“พ่อคะ ลุงซ่งไม่ให้หนูเรียนหนังสือแล้วยังจะให้หนูแต่งงาน เขาตีหนูด้วย…ฮือ…พ่อรับหนูกลับมาได้ไหม?”

นึกถึงการถูกหยามเหยียดในค่ำคืนนั้นอู่เยวี่ยก็น้ำตาไหลพราก สุดท้ายกลายเป็นเสียงร้องไห้โฮ

ความเจ็บปวดนั่นเธอทำได้แค่กล้ำกลืนคนเดียวไม่กล้าบอกใคร แต่เธอแค้นใจอย่างถึงที่สุด!

อู่เจิ้งซือขมวดคิ้วแน่นเป็นปม พ่อค้าขายปลานั่นใจกล้ามาจากไหน เงินค่าเรียนและค่าอยู่ค่ากินของอู่เยวี่ยล้วนมาจากเขา พ่อค้าขายปลานั่นมีสิทธิ์อะไร

“ร้องไห้เป็นอย่างเดียวหรือไง ร้องไห้มีประโยชน์อะไร!” อู่เจิ้งซือตวาดใส่พลางแสดงสีหน้ารังเกียจ

เสียเงินไปตั้งมากมายแต่กลับได้นักเรียนคะแนนยอดแย่มา ช่างเป็นการค้าขายที่ขาดทุนเสียจริง แต่เขาจำต้องทุ่มเงินต่อไปแล้วจะอารมณ์ดีได้อย่างไร!

หร่วยเป่าฮุ่ยรีบพูดขึ้น “เจิ้งซืออย่าโกรธไป เรื่องนี้โทษเยวี่ยเยวี่ยไม่ได้ พ่อเลี้ยงเธอต่างหากที่ผิด คุณงานยุ่งก็ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอก พรุ่งนี้ฉันจะไปคุยกับพ่อเลี้ยงเยวี่ยเยวี่ยดู ไม่ให้เยวี่ยเยวี่ยลาออกแน่นอน”

อู่เจิ้งซือยิ้มอย่างพอใจ เขาชอบความเข้าอกเข้าใจของหร่วยเป่าฮุ่ย หลายเรื่องไม่ต้องให้เขาเอ่ยปากพูดหร่วนเป่าฮุ่ยก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง สมแล้วที่เป็นหญิงงามที่แสนชาญฉลาดของเขา

ใครจะไปเหมือนเหอปี้อวิ๋นรากไม้แก่ดักดานในอดีตนั่น แถมยังเป็นหญิงสติไม่ดี มิน่าถึงได้คลอดลูกสาวน่าอับอายขายหน้าอย่างอู่เยวี่ยออกมาได้!

พอถูกหร่วยเป่าฮุ่ยก้าวก่ายแบบนี้  เรื่องที่อู่เยวี่ยอยากให้อู่เจิ้งซือรับไปอยู่ด้วยก็ถูกปัดตกไป  อู่เจิ้งซือไม่เอ่ยถึงอีก  แค่ให้อู่เยวี่ยรีบกลับบ้าน

“เจิ้งซือทำงานเถอะ เดี๋ยวฉันส่งเยวี่ยเยวี่ยกลับบ้านเอง ในเมื่อวันหน้า…”

หร่วยเป่าฮุ่ยส่งสายตาเย้ายวนจนทำให้อีกฝ่ายเรียกให้อู่เจิ้งซือต้องกลืนน้ำลายดังเอือก ปฏิเสธได้ลงที่ไหนกัน แค่หลงคิดว่าหร่วนเป่าฮุ่ยรู้หน้าที่ สมแล้วที่มาจากตระกูลใหญ่

อู่เยวี่ยไม่รู้ว่าหร่วนเป่าฮุ่ยมีแผนอะไรเลยก้าวขึ้นรถเธออย่างระแวงและปิดปากเงียบ

“อยากกลับมาไหม?” จู่ๆ หร่วนเป่าฮุ่ยก็ถามขึ้นมา

………………………..