คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1798
ในขณะที่เขาพูดเช่นนั้นหัวหน้าองครักษ์ก็หันไปสั่งลูกน้องของเขาว่า “รีบไปรายงานฝ่าบาท บอกพวกเขาว่าจักรวาลโลกกำลังโจมตีพวกเรา”
“รับทราบ!” ลูกน้องของเขาขานรับและรีบหันหลังวิ่งไปที่พระราชวังในทันที
ในขณะนั้นเองหัวหน้าองครักษ์ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวและจ้องเขม็งไปที่แฟนนี่ “เธอเป็นผู้นำของกองทัพนี้ใช่ไหม? ข้าขอบอกเจ้าไว้เลยนะ รีบออกไปจากที่นี่พร้อมกับคนของเจ้าเสียเดี๋ยวนี้ ถ้าเจ้าไม่อยากตายเปล่า มิฉะนั้นเจ้ากับข้าจะได้เริ่มสู้แบบตัวต่อตัวแน่ ๆ”
เมื่อพูดเช่นนั้นหัวหน้าองครักษ์ก็ชักดาบยาวออกมา และพลังภายในก็พุ่งออกมาจากทั่วทั้งร่างของเขา เขาดูเหมือนพร้อมที่จะโจมตีได้ทุกเมื่อ
แฟนนี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนและแสร้งทำราวกับว่าเธอไม่ได้ใส่ใจ “ฮ่าฮ่า! เป็นเพียงแค่หัวหน้าต่ำต้อยก็สมควรที่จะได้สู้กับฉันแล้วงั้นเหรอ? คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะได้ทำแบบนั้น ให้จักรพรรดิของคุณส่งตัวเจ้าสำนักของพวกเรามาที่นี่เร็ว ๆ เข้าเถอะ”
แอมโบรสเตือนเธอว่าทวีปโมอาน่าเหนือนั้นทรงพลังมาก เธอไม่ควรตอบตกลงที่จะปะทะสู้กันซึ่ง ๆ หน้ากับพวกเขา เธอทำได้เพียงแค่ถ่วงเวลาเท่านั้น
เพราะเหตุนี้แฟนนี่จะไม่มีวันต่อสู้กับหัวหน้าองครักษ์เด็ดขาด
“เจ้ากำลังวอนหาที่ตายซะแล้ว!” หัวหน้าคำรามในขณะที่เขารู้สึกว่ากำลังโดนถูกดูถูกอยู่ และกำลังจะพุ่งตัวเข้าใส่!
กรุบ กรับ กรุบ กรับ กรุบ กรับ
ในตอนนั้นเองเสียงฝีเท้าของม้าก็ดังมาจากภายในเมือง
แฟนนี่เงยหน้าขึ้นมองและร่างของเธอก็สั่นสะท้านในทันที
เธอมองเห็นว่ามีกองทัพทหารกว่า 100,000 คนกำลังวิ่งเข้ามาหาจากถนนสายหลักในเมืองหลวงอย่างเป็นระเบียบ! ทหารทุกคนสวมเครื่องแบบชุดเกราะสีดำ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ไกลออกไป แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของการฆ่าสังหารที่รุนแรงของพวกเขา
คนที่นำพวกเขาอยู่คือชายที่ดูเหมือนเป็นพระเจ้าที่มาจากบนฟ้า เขาสวมชุดเกราะสีทองและถือกระบี่สองคมสามแฉกไว้ในมือ ข้าง ๆ เขามีสุนัขสีดำสูงห้าสิบฟุต
เขาคือยอดปรมาจารย์เอ้อหลางหรือที่รู้จักในนามหยางเจียน และเป็นจักรพรรดิแห่งทวีปโมอาน่าเหนือองค์ปัจจุบัน!
ในขณะนั้นเอง นักรบหลายคนจากสำนักต่าง ๆ ที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังแฟนนี่ ร่วมกับกองทัพโลกใหม่กว่า 10,000 คน พวกเขาได้หายใจสูดเข้าลึก ๆ
“ช่างแข็งแกร่งเสียจริง”
“ช่างเป็นอาวุธที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือกระบี่สองคมสามแฉกใช่ไหมนะ? เขาคือ… เขาคือยอดปรมาจารย์เอ้อหลาง หยางเจียนใช่ไหม?”
“หึหึ เป็นไปได้เหรอ? อย่าทำให้ฉันกลัวสิ”
ทุกคนกระซิบกระซาบกันด้วยความตกตะลึง พวกเขาต่างรู้สึกหวาดกลัว
ในขณะนั้นเอง หยางเจียนก็กระโดดขึ้นไปกลางอากาศและลอยตัว สายตาจับจ้องไปที่แฟนนี่และพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าคือคนที่ต้องการบุกเข้ามาในพระราชวังใช่หรือไม่?”
แม้ว่าเสียงของเขาจะไม่ดังมากนักแต่ก็กังวานไปทั่วทั้งเมืองและฟังดูน่าเกรงขาม
เมื่อรับรู้ได้ถึงการจ้องมองของหยางเจียนร่างของแฟนนี่ก็สั่นสะท้าน เธอรู้สึกราวกับว่ามีภูเขาตกลงมาทับใส่เธอ เธอไม่อาจพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำได้ “ชะ-ใช่…”
ในขณะนั้นเองแฟนนี่กระวนกระวายใจและรู้สึกไม่มั่นใจเหมือนตอนก่อนหน้านี้ เธอแทบจะหายใจไม่ออก
หยางเจียนถามอย่างเป็นกันเองว่า “ทำไมล่ะ? ตอนนี้ข้าเพิ่งจะได้รับรายงานว่าเจ้าสำนักง้อไบ๊ของเจ้าถูกขังอยู่ในพระราชวัง เป็นอย่างนั้นรึ?”
“ชะ-ใช่” แฟนนี่ตอบเบา ๆ เธอเหงื่อแตกพลั่กและไม่กล้าจ้องมองซึ่ง ๆ หน้าไปที่หยางเจียน ออร่าของเขาแข็งแกร่งเกินไป
หยางเจียนหัวเราะเบา ๆ และถามเธอต่อไปว่า “ข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้าสำนักของเจ้าติดอยู่ที่ไหนของพระราชวังล่ะ?”