อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1217 หลอกลวง
“ซิ่ว…..”
นกพิราบตัวหนึ่งบินขึ้นมา เท้านกพิราบมีเลือดออกอย่างแปลกประหลาด เลือดกระเซ็นบนกำแพงหิน กำแพงหินไม่มีปฏิกิริยาอะไร
กู้ชูหน่วนพูดขึ้นว่า “เจ้าพกนกพิราบติดตัวมาด้วย”
“ประตูหินนี้นอกจากเลือดของเจ้า เลือดของคนอื่นไม่สามารถเปิดได้”
เวินเส้าหยียกนิ้วเรียวยาวขึ้นมา นกพิราบรู้เรื่องทันที บินกลับไปตรงทางออก
กู้ชูหน่วนยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “บางที….พวกมันยอมรับคนที่มาก่อน จึงยอมรับเพียงเลือดของข้า”
“มู่หน่วน เจ้าควรคิดให้ดีแล้วอธิบายอย่างมีเหตุผล”
“ข้าไม่รู้จะพูดยังไง วังใต้ดินนี้ข้าไม่ใช่คนสร้างขึ้นมา ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเลือดของข้าสามารถเปิดค่ายกลประตูหินได้ เจ้าจะเข้าหรือไม่เข้าก็ตาม ยังไงเดิมข้าก็ไม่อยากเข้า”
“เดินมุ่งหน้าต่อไป”
เวินเส้าหยีสงสัย แต่ก็ไม่ได้ครุ่นคิดอะไรมาก เพียงเร่งรัดให้นางเดินไปข้างหน้าต่อ ในขณะเดียวกันก็คาดเดาว่ากู้ชูหน่วนเกี่ยวข้องอะไรกับวังใต้ดินนี้
เดินวกไปวนมา ทั้งสองคนเดินวนอยู่ข้างในนี้ไม่รู้นานเท่าไหร่ ต่อให้เวินเส้าหยีมีความอดทนแค่ไหนก็หมดความอดทนแล้ว
“ตกลงเจ้ารู้ทางไหม”
“ฟ้าสวรรค์รู้ดี ที่นี่ซับซ้อนอย่างมาก ไม่เหมือนกับที่ข้าเคยมาก่อนหน้านี้ ข้าเองก็มึนงง”
กู้ชูหน่วนชูมือขึ้นสาบาน
นางเดินวนจนมึนงงแล้วจริงๆ
ทันใดนั้น นางเริ่มเข้าใจว่าตอนนั้นตอนที่นางกับผู้เฒ่าหนิงหนีออกมา ราชินีตัวปลอบมีพลังบำเพ็ญถึงระดับเจ็ดกลับไล่ตามพวกนางไม่ทันนั้นเป็นเพราะอะไร
แสดงว่านาง ไล่ตามจนมึน
เดินวกวนไปมา กู้ชูหน่วนอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองเวินเส้าหยี พร้อมพูดขึ้นว่า “ที่นี่มีค่ายกลอะไรหรือเปล่า? ไม่อย่างนั้นทำไมพวกเราเดินวนนานขนาดนี้ก็ยังไปไม่ถึงไหน”
“น่าจะไม่มีค่ายกล แต่ที่นี่กว้างใหญ่เกิน ใหญ่ยิ่งกว่าพระราชวังหลายเท่า หากข้าเดาไม่ผิด ตำแหน่งที่พวกเรายืนอยู่ตรงนี้น่าจะเป็นนอกเมืองแล้ว”
เวินเส้าหยีก้มตัวลง เอาปิ่นหยกขาวของตนเองออกมา วาดขีดเขียนอะไรสักอย่างอยู่บนพื้น
กู้ชูหน่วนขยับไปดูใกล้ๆ จู่ๆ รอยยิ้มก็ผุดขึ้นที่มุมปาก
“เจ้าผีเสื้อ ความจำของเจ้าดีไม่เลวเลยนี่ พวกเราเดินวนอยู่ในนี้ตั้งนานขนาดนั้น เจ้ายังสามารถจำทุกทางแยกที่พวกเราเดินผ่านมา ไม่เลว”
“จำไม่ได้ถูกทางแยก นี่เป็นเพียงคร่าวๆ”
“เพียงพอแล้ว ไป เราไปทางนี้กัน”
กู้ชูหน่วนชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง ดึงตัวเวินเส้าหยีแล้วเดินหน้าต่อไป
เวินเส้าหยีหลบหลีกกู้ชูหน่วน รักษาระยะห่างระหว่างนาง
“เจ้าดูให้ดีก่อนค่อยไปต่อ อย่าผิดทางอีก”
“วางใจได้ ไม่ผิดแน่นอน”
กู้ชูหน่วนหาเจอทิศทางแล้ว เดินทางแยกแล้วทางแยกเล่า
ภายในใจนางนึกแปลกใจ นางกับเวินเส้าหยีเข้ามาได้นานขนาดนี้แล้ว ทำไมราชินีตัวปลอมยังไม่ตามมาเจอพวกนาง
ไม่มีทางที่นางจะไม่รู้ตัวเลย
หรือราชินีตัวปลอมก็เหมือนกับพวกเขา เดินวนจนมึนงงแล้ว?
“ซี๊ด…..”
หน้าผากกู้ชูหน่วนเจ็บปวด รัศมีลำแสงผลิบาน ดวงจิตบนหน้าผากแต่ละดวงเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
ร่างกายเวินเส้าหยีสะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้างดงามดั่งเทพเผยรอยยิ้มเล็กน้อย ดวงจิตกำลังสัมผัสถึงซึ่งกันและกันแล้ว
ดวงจิตดวงที่ห้าอยู่ที่นี่จริงๆด้วย
ผู้หญิงคนนั้น นางไม่ได้หลอกเขา
“ดวงจิตดวงนั้นน่าจะอยู่ทางนั้น”
กู้ชูหน่วนชี้ไปข้างหน้า
“ไป” เวินเส้าหยีไม่พูดอะไร เดินไปยังข้างหน้าสุด อยากจะใช้เวลาอันสั้นที่สุด แย่งเอาดวงจิตดวงนั้นมาก่อน แล้วค่อยไปแย่งขวานผานกู่
กู้ชูหน่วนมองดูทิศทางที่เวินเส้าหยีหายตัวไกลออกไปอย่างเย็นชา แต่ไม่ได้ตามไป แต่หาทางแยกที่แม่นยำแล้วก็รีบมุ่งหน้าไป
นางไปได้ไม่นาน เวินเส้าหยีก็ตามมาทัน
นางพูดขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉยว่า “ทางนั้นเหมือนมีความเคลื่อนไหวบางอย่าง ข้าอยากไปดูก่อน”